เมื่อห้องมืดลง ซ่งฉางชิงก็ลืมตาอย่างฉับพลันแสงจันทร์ที่ลอดเข้ามาจากช่องหน้าต่าง ตกกระทบลงมุมหนึ่งของม่านเตียงจนสว่างเป็ครั้งคราว
ซ่งฉางชิงมองดูแสงจันทร์เสี้ยวนั้นอยู่นานโดยไม่อาจนอนหลับได้
วันนี้กิจการรุ่งเรืองมากรุ่งเรืองจนเขารู้สึกตื่นเต้นนัก ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ ในห้วงความคิดมีแต่เื่ผักตี้เอ่อที่ทำให้กิจการของเซียนจวีโหลวรุ่งเรืองขึ้นมา
ผักตี้เอ่อ ผักตี้เอ่อ...
ซ่งฉางชิงไม่รู้เลยว่าทั้งที่ตนเองกำลังคิดเื่กิจการของเซียนจวีโหลว คิดถึงผักตี้เอ่อที่ทำให้เซียนจวีโหลวรุ่งเรืองขึ้นมาแต่สุดท้ายกลับคิดถึงอีกคนหนึ่งขึ้นมา
ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้คนผู้นั้นจะรับซื้อผักตี้เอ่อได้มากน้อยเพียงใด
รู้สึกตั้งตารอคอยเสียจริง!
เขาประเมินนางต่ำเกินไป
เรือนตระกูลซ่งในยามนี้สตรีรูปงามนางหนึ่งสวมใส่เสื้อผืนบางเดินออกมาจากภายในเรือน แหงนหน้ามองดูดวงจันทร์สว่างบนท้องฟ้าใบหน้าฉายประกายอ้างว้าง
ดูจากใบหน้า นั่นคือคุณหนูที่ซื้อเสื้อที่ฮวาหม่านยีในวันนั้น
สาวใช้นางหนึ่งตามหลังนางออกมาอย่างรวดเร็วในมือถือเสื้อคลุมมาคลุมบนตัวกู้ซินเยว่ “คุณหนู ดึกแล้วอากาศหนาวมีหมอกน้ำค้าง ท่านออกมาโดยไม่คลุมเสื้อเช่นนี้หากล้มป่วยจะทำอย่างไรเ้าคะ! ”
วาจาของสาวใช้ที่อยู่ด้านหลังเต็มไปด้วยความเป็ห่วงเป็ใย
กู้ซินเยว่หัวเราะเบา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเศร้าโศกไร้ที่สิ้นสุด“หากสามารถล้มป่วยสักหนจริง ก็ใช่ว่าจะไม่ดี! ”
สาวใช้กล่าวเป็เชิงตำหนิ“คุณหนู นี่ท่านพูดอะไรของท่านเ้าคะ มีคนผู้ใดบ้างแช่งให้ตัวเองป่วย! ”
แววตากู้ซินเยว่ฉายประกายเ็าเล็กน้อย"ข้ามาอยู่บ้านตระกูลซ่งเกือบครึ่งปีแล้ว แต่เ้าดูญาติผู้พี่สิ… จำนวนครั้งที่เขากลับบ้านใน่ครึ่งปีนี้แทบนับนิ้วได้!"
ทุกครั้งที่กลับมา คนที่ญาติผู้พี่อยากเยี่ยมก็มีเพียงแต่ท่านป้าไม่เคยคิดจะมาดูนางเลย!
จื่อเยียน "คุณหนูกิจการใหญ่อย่างเซียนจวีโหลวตกทอดไปถึงคุณชาย คุณชายต้องงานยุ่งมากแน่ บางทีเขาอาจแค่งานยุ่งรอให้กิจการของเซียนจวีโหลวมั่นคงแล้ว เขาก็จะกลับมาเ้าค่ะ! "
"จริงหรือ? แค่เพราะงานยุ่งจริงหรือ? " กู้ซินเยว่หัวเราะอย่างเย็นเยียบ "มีสาเหตุอื่นด้วยหรือไม่? ทุกครั้งที่เขากลับมา เพียงเยี่ยมท่านป้าเสร็จก็ไปอย่างรีบร้อน ข้าอยากคุยกับเขาแบบส่วนตัวเขาก็อ้างว่างานยุ่ง ทุกครั้งก็ทิ้งไว้เพียงเงาแผ่นหลังให้ข้า จะยุ่งจนไม่มีแม้กระทั่งเวลาที่จะคุยกับข้าสักประโยคเชียวหรือ!"
กล่าวถึงตอนท้าย วาจาของกู้ซินเยว่เต็มไปด้วยอารมณ์โมโหและถ้อยคำตำหนิ
"เขายุ่งถึงเพียงนั้นเชียวหรือ! " กู้ซินเยว่ปิดหน้าร่ำไห้ "เขากำลังหลบข้าอยู่ต่างหาก!"
เมื่อจื่อเยียนเห็นว่าคุณหนูของตนเองร่ำไห้ก็รู้สึกตื่นใ
“คุณหนู ่หลายวันนี้ภัตตาคารได้อาหารชนิดใหม่มามิใช่หรือเ้าคะ? หากไม่เห็นว่าท่านสำคัญ อาหารที่เขาส่งมาให้ฮูหยินเฒ่า เหตุใดถึงมีปริมาณมากถึงเพียงนั้นข้าได้ยินซ่งฝูบอกมาว่า หากท่านไม่อยู่ คุณชายคงไม่ส่งมามากถึงเพียงนั้นหรอกเ้าค่ะ!ที่ส่งมา่เที่ยงฮูหยินเฒ่าก็ไม่ได้กินมากเท่าไรนี่นา! ซ่งฝูก็เห็น หากส่งมาให้เพียงฮูหยินเฒ่าคนเดียว่เย็นย่อมไม่ส่งมาอีก! ”
กู้ซินเยว่ฟังวาจาของจื่อเยียนเสียงร่ำไห้ค่อยๆ หยุดไป
จื่อเยียนกล่าวต่อ “แต่ท่านชอบกินผักตี้เอ่อ่เที่ยงท่านกินไปมากขนาดนั้น ซ่งฝูก็เห็นแล้ว บางทีคงกลับไปบอกให้คุณชาย ดังนั้น่เย็นซ่งฝูจึงส่งมาอีกหนึ่งจานใหญ่นี่ก็เป็บทพิสูจน์ว่า คุณชายรู้ว่าท่านชอบกิน ดังนั้นจึงส่งมาให้ท่านโดยเฉพาะไม่ใช่หรือเ้าคะ!คุณชายคิดถึงท่านอยู่ตลอด ดังนั้นจึงเอาใจใส่ถึงเพียงนี้ จดจำความชอบของท่านไม่ใช่หรือเ้าคะ? ”
เสียงร่ำไห้ของกู้ซินเยว่หยุดลงมองจื่อเยียนด้วยความสับสนระคนยินดีเล็กน้อย “ที่เ้าพูดมานั้นจริงหรือ? ”
จื่นเยียนพยักหน้าอย่างหนักแน่น“ต้องจริงอยู่แล้วเ้าค่ะ! คุณหนู ท่านอย่าคิดมากเลย รอให้คุณชายเสร็จงานยุ่งใน่นี้รอให้เขากลับมา ท่านก็จะได้พบคุณชายบ่อยๆ แล้ว! เวลานี้เื่สำคัญที่สุดคือ คุณหนูต้องปรนนิบัติฮูหยินเฒ่าให้ดีให้ฮูหยินเฒ่าขาดท่านไม่ได้ ท่านก็เป็หลานสาวแท้ๆ ของฮูหยินเฒ่า ฮูหยินเฒ่าต้องปฏิบัติต่อท่านเหมือนบุตรสาวแท้ๆแน่นอนเ้าค่ะ! รอให้คุณชายกลับมาแล้ว รู้ว่าท่านดูแลปรนนิบัติฮูหยินเฒ่าอย่างสุดความสามารถถึงเพียงนี้ภายในใจคุณชายต้องรู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณท่านแน่ ถึงเวลาฮูหยินเฒ่าจับคู่ให้ คุณหนูเองก็มีใจให้คุณชายต้องรู้แน่นอนเ้าค่ะ! ”
กู้ซินเยว่เช็ดคราบน้ำตาจนแห้งยังคงมีความกังวลใจเล็กน้อย "แล้วหากเขาถูกตาต้องใจคนอื่นเล่าจะทำอย่างไร? "
จื่อเยียนหัวเราะ"คุณชายงานยุ่งขนาดนั้นทุกวัน จะมีเวลาไปชอบพอสตรีอื่นได้อย่างไรเ้าคะ หากจะชอบคุณชายคงชอบนานแล้วไม่อย่างนั้นคงไม่ครองตัวเป็โสดจนถึงเวลานี้ คุณชายที่มีคุณสมบัติดีเช่นนี้ ถือว่าโดดเด่นที่สุดในเมืองโยวหลันทั้งวงศ์ตระกูล รูปลักษณ์หน้าตา ความรู้ความสามารถ สามสิ่งนี้รวมกัน ใครจะเทียบคุณชายได้เ้าคะ? นั่นหมายความว่า คุณชายไม่ถูกตาต้องใจผู้ใดเลย ท่านว่าจริงหรือไม่เ้าคะ? "
กู้ซินเยว่ได้ยินดังนั้นจึงหยุดร้องไห้พร้อมหัวเราะออกมา"เ้าพูดถูกแล้ว! "
นางไม่มีความวิตกกังวลเหมือนเมื่อครู่อีกรู้สึกร่าเริงขึ้น
วันรุ่งขึ้น ฟ้ายังไม่สว่างเซี่ยยวี่หลัวก็ลุกแล้วครั้งนี้รับซื้อผักตี้เอ่อได้มากถึงสี่ร้อยกว่าจิน เซี่ยยวี่หลัวได้กำไรประมาณหนึ่งตำลึงซ่งฝูมาถึงหมู่บ้านสกุลเซียวก่อนถึงยามเฉิน ยังคงไปที่บ้านท่านปู่เซียว
เมื่อวานงานยุ่งแทบตายแต่ก็ถือว่าคุ้ม กิจการของเซียนจวีโหลวดีกว่าปกติถึงสามส่วน นี่เป็เพราะฮูหยินที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้!
ซ่งฝูไม่กล้าดูแคลนเซี่ยยวี่หลัวเคารพนอบน้อมเซี่ยยวี่หลัวยิ่งกว่าเมื่อวานเสียอีก รถม้าไปที่บ้านท่านปู่เซียวโดยตรงพอเห็นเซี่ยยวี่หลัวก็โค้งตัวคำนับ พร้อมเอ่ยเรียกเซียวฮูหยินอย่างเคารพ
เมื่อเห็นผักตี้เอ่อที่มีปริมาณมากกว่าเมื่อวานก็ตื่นเต้นจนตาลุกวาว
เซี่ยยวี่หลัวเห็นท่าทางของเขาก็คาดเดาได้ว่ากิจการของเซียนจวีโหลวต้องดีมากแน่นอน มีคนสูงวัยจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้ไปไหนไกลเห็นรถม้ามาที่บ้านท่านปู่เซียว นึกว่าเป็รถม้าที่เซียวเหลียงจ้างมา จึงไม่ได้คิดอะไรมาก
เพราะเซี่ยยวี่หลัวรับซื้อจากหมู่บ้านสกุลเซียวอย่างเดียวเมื่อหมู่บ้านอื่นรู้เื่ผักตี้เอ่อ จึงนำไปขายให้เซียนจวีโหลวโดยตรง ใครจะรู้ว่าเซียนจวีโหลวรับซื้อแค่สองอิแปะขายสิบจินก็หายไปสิบอิแปะ มีคนจำนวนไม่น้อยยอมเดินไกลขึ้น เพื่อนำมาขายให้เซี่ยยวี่หลัว
กว่าภัตตาคารอื่นจะรู้เื่ราวและคิดจะรับซื้อผักตี้เอ่อในภายหลังท้องฟ้าก็ปลอดโปร่งมาสองสามวันแล้ว เมื่อแดดแรงขึ้น ผักตี้เอ่อก็แห้ง กินไม่ได้แล้ว
เซี่ยยวี่หลัวรับซื้อผักตี้เอ่อของวันนี้เสร็จก็ฝากซ่งฝูไปบอกซ่งฉางชิง ท่านปู่เซียวก็บอกกับคนภายในหมู่บ้าน ถือว่ารับซื้อผักตี้เอ่อเสร็จสิ้น
ถึงแม้่สองสามวันนี้จะงานยุ่งแต่ก็คุ้มค่า!
เซี่ยยวี่หลัวหาเงินได้สี่ตำลึงท่านปู่เซียวก็สุขใจยิ่งนัก เซี่ยยวี่หลัวคอยทำอาหารอร่อยให้วันละสามมื้อ แม้แต่ตัวเขาเองยังรู้สึกว่าตัวเองอ้วนขึ้นสามถึงสี่จิน
เมื่อแดดออก ส่องแสงหนึ่งวันผักตี้เอ่อก็แห้งแล้วเก็บได้ยากมาก หากจะเก็บต้องรอคราวหน้า
คนในหมู่บ้านสกุลเซียวไม่เคยตั้งตารอคอยให้ฝนตกเช่นครั้งนี้มาก่อน
เพราะมีฝนก็มีเงิน!
ยามนี้จู่ๆ ก็ได้พัก ย่อมรวมตัวพูดคุยกันอีกครั้งคุยกันว่าเมื่อไรฝนตกหนักอีกสักหนก็คงดี!
แต่ละคนยิ้มจนแก้มปริ ่สองสามวันนี้ครอบครัวไหนบ้างที่ไม่ได้เงินหลายสิบอิแปะ ครอบครัวที่มีคนมาก หาเงินได้มากกว่าร้อยอิแปะเสียอีก!