“สวัสดีครับท่านยาย นี่คือดวงตาหมาป่าที่ท่าน้า” ใต้ต้นไม้ที่เอนโค้งต้นนั้นเย่เทียนเซี่ยส่งมอบดวงตาหมาป่าทั้ง 10 ดวงให้ถึงมือหญิงชรา ทันใดนั้นข้างหูของเขาก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนภารกิจสำเร็จ...แต่ว่ารางวัลของภารกิจที่ถูกเขียนไว้ว่า “ไม่ทราบ” กลับทำให้เย่เทียนเซี่ยเกือบจะสบถด่าออกมา!
“ติ๊ง! ท่านทำภารกิจ ‘คำขอร้องของหญิงชราที่ถูกผนึก’ สำเร็จแล้ว รางวัลที่ได้รับ: ค่าประสบการณ์ 10 หน่วย, เหรียญเงิน 1 เหรียญ”
ดวงตาหมาป่าตั้ง 10 ดวงแต่รางวัลภารกิจกลับได้แค่ค่าประสบการณ์ 10 หน่วยกับเหรียญเงินเหรียญเดียว ดวงตาหมาป่า 10 ดวงเอาไปขายที่ร้านค้ายังได้เงินตั้ง 2 เหรียญเงินด้วยซ้ำ! เย่เทียนเซี่ยอยากจะถามหญิงชราสักคำถามจริงๆ ว่า ‘ท่านยาย นี่ท่านยังจะกล้างกอีกเหรอ?’
“ขอบใจมากนะเ้าหนุ่ม ดวงตาหมาป่าพวกนี้จะต้องมีประโยชน์ต่อข้ามากแน่ๆ เ้าหนุ่ม ข้ารู้ว่าเ้ามีความกระตือรือร้นและมีความกล้าหาญ เ้าจะช่วยข้ารวบรวมดวงตาหมาป่าอีก 100 ดวงได้หรือไม่?” หญิงชราเงยหน้าเหี่ยวแห้งเหมือนเปลือกต้นไม้ขึ้นมา แม้จะออกปากชื่นชมแต่ภายในดวงตาคู่นั้นกลับไม่มีประกายชื่นชมใดๆ มีเพียงความว่างเปล่าเฉยเมยไม่แยแสต่อสิ่งใด
“ติ๊ง! หญิงชราผู้ถูกผนึกได้ขอร้องให้ท่านช่วยรวบรวมดวงตาหมาป่า 100 ดวง
ระดับภารกิจ: ธรรมดา,
จำกัดเวลา: ไม่มี,
รางวัลภารกิจ: ไม่ทราบ”
“ยอมรับ”
คำขอร้องครั้งที่ 2 ของหญิงชรากลับทำให้เย่เทียนเซี่ยรู้สึกโล่งอก ชัดเจนแล้วว่านี่คือภารกิจต่อเนื่อง รางวัลของภารกิจต่อเนื่องใน่แรกก็มักจะน้อยนิดจนสามารถเรียกได้ว่ากระจอกเลยละ แต่ยิ่งดำเนินภารกิจต่อไปเรื่อยๆ ก็จะยิ่งได้รับรางวัลที่สูงขึ้น ถ้าหากเป็ภารกิจต่อเนื่องหลายภารกิจ ต่อไปอาจจะ้าดวงตาหมาป่าถึง 200 ดวงหรือเปล่า? แล้วครั้งต่อไปล่ะ? 300 ดวงงั้นเหรอ?
เย่เทียนเซี่ยี้เีพูดให้มากความ เขากลับไปยังหุบเขาหมาป่าอีกครั้งเพื่อล่าหมาป่าดุร้ายต่อไป แต่เมื่อก้าวเข้าสู่ดินแดนหมาป่า พวกหมาป่าที่ได้กลิ่นมนุษย์ก็รวมกลุ่มพุ่งเข้ามา แต่หลังจากวาดห้วงเวลาแห่งโชคชะตาออกไปสองครั้งพวกมันก็กลายเป็ศพนอนเกลื่อนพื้น
การโจมตีรุนแรงแค่สองครั้งแต่เป็การโจมตีแบบกลุ่มขยายออกไปเป็บริเวณกว้างกว่าสองเมตร แม้แต่อัตราการโจมตีของกลุ่มผู้เล่นที่กำลังเก็บเลเวล 6 คนและมีเลเวลเฉลี่ยอยู่ที่เลเวล 5 ก็ยังเทียบไม่ติดกับเย่เทียนเซี่ยในเวลานี้ ทีละเล็กทีละน้อยเมื่อเวลาผ่านไปสิบกว่านาที จากหมาป่าดุร้ายที่โจมตีเข้ามาเป็กลุ่มๆ ก็เหลือเพียงหมาป่าที่ะโเข้ามาทีละตัวๆ และเมื่อผ่านไปอีกสิบกว่านาทีก็กลายเป็เย่เทียนเซี่ยที่พุ่งเข้าหาหมาป่าดุร้ายที่อยู่ห่างออกไป และเมื่อผ่านไปอีกสิบกว่านาที...บริเวณนั้นก็กลายเป็พื้นที่ว่างเปล่ามองไม่เห็นหมาป่าดุร้ายอีกแม้แต่ตัวเดียว จริงๆ แล้วการจัดการหมาป่าสักตัวไม่ใช่เื่ง่าย แต่หมาป่าพวกนั้นไม่ทันจะตั้งตัวก็ถูกเย่เทียนเซี่ยสังหารไปจนหมด หุบเขาเล็กๆ ที่ไม่ถือว่าเล็กแห่งนี้กลับถูกเย่เทียนเซี่ยกวาดล้างด้วยตัวเพียงคนเดียว
“ติ๊ง! ระดับของท่านเพิ่มขึ้นเป็เลเวล 3, พลังชีวิต +10, พลังเวท +10, ได้รับคะแนนคุณสมบัติอิสระ 5 หน่วย”
ตอนนี้จำนวนดวงตาหมาป่าในกระเป๋าของเย่เทียนเซี่ยมีทั้งหมด 300 กว่าดวง ในที่สุดเย่เทียนเซี่ยก็ออกมาจากหุบเขาหมาป่าอีกครั้ง แต่ช่างโชคร้าย...ควรจะพูดว่าคนของกลุ่มพันธมิตรใบไม้สีชาดนั้นช่างโชคร้ายจริงๆ ที่ต้องมาพบกับเขาอีกครั้งหนึ่ง
ตรงหน้าเขายังคงเป็คนกลุ่มเดิมกับก่อนหน้านี้ เขตหัวเซี่ยมีเมืองเริ่มต้นทั้งหมดกว่าหนึ่งแสนเมือง แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะทำให้คนห้าคนมาอยู่ในเมืองเริ่มต้นเดียวกันท่ามกลางจำนวนผู้เล่นนับแสนในกลุ่มพันธมิตรใบไม่สีชาด ใบไม้สีชาดปราการเหล็กปรับสีหน้าก่อนจะเงยหน้าขึ้นพูดกับเย่เที่ยนเซี่ยที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยใบหน้าเรียบเฉย “เซี่ยเทียน พวกเรารวบรวมเงิน 100 เหรียญทองมาได้แล้ว ข้อตกลงการซื้อขายถือว่าสำเร็จแล้ว พวกเรายังจะแถมอาวุธมือคู่ระดับ 3 ให้นายอีกหนึ่งชิ้น และหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรใบไม้สีชาดของเรายังจะนับว่านายเป็เพื่อนของเขาอีกด้วย”
100 เหรียญทอง เงินจำนวนนี้สำหรับพวกเขาแล้วเหมือนประกาศิต์ เพื่อความรวดเร็วพวกเขาต้องจ่ายค่าตอบแทนไปเป็จำนวนมากเพื่อที่จะรวบรวมเงิน 100 เหรียญทองให้ได้ภายในระยะเวลาที่สั้นที่สุด หลังจากนั้นพวกเขาก็รีบมุ่งหน้ามาที่นี่ และก็เหมือนโชคเข้าข้างทำให้พวกเขาหาเย่เทียนเซี่ยพบภายในเวลาอันรวดเร็ว
“พันธมิตรใบไม้สีชาด พวกนายเก่งมากนักเหรอ?” เย่เทียนเซี่ยยกยิ้ม น้ำเสียงและสีหน้าของเขาไม่ปกปิดเจตนาดูถูกแม้แต่น้อย
สีหน้าของใบไม้สีชาดปราการเหล็กมืดมนลง แต่เขาก็พยายามสงบจิตสงบใจและปล่อยมันไป แล้วพูดออกมาเรียบๆ “พันธมิตรใบไม้สีชาดของพวกเราแม้ว่าจะเทียบไม่ได้กับพันธมิตรแดนเทพและกิลด์ปีกแห่งท้องฟ้า แต่ก็ไม่ใช่กองกำลังที่คนธรรมดาจะมาดูถูกได้ พวกเรามีพี่น้องกว่าแสนคนที่ภักดีและร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วยกัน แม้แต่พันธมิตรแดนเทพและกิลด์ปีกแห่งท้องฟ้าพวกเราก็ไม่เคยเกรงกลัว อีกไม่นานพวกเราก็จะทำให้พวกมันจมอยู่ใต้เท้าพวกเรา!”
ไม่ใช่ว่าเย่เทียนเซี่ยไม่เคยได้ยินชื่อของพันธมิตรแดนเทพและกิลด์ปีกแห่งท้องฟ้ามาก่อน เขาเดินไปข้างหน้าอีกสองก้าวไปหยุดอยู่ตรงหน้าของใบไม้สีชาดปราการเหล็กแล้วยกมือขึ้น “เอา 100 เหรียญทองนั่นออกมาสิ”
ใบไม้สีชาดปราการเหล็กไม่ขยับเขยื้อน เขาพูดออกไปด้วยใบหน้าเ็า “ของมาเงินไป พวกเราพันธมิตรใบไม้สีชาดจะไม่มีทางให้เงินนายไปก่อนแน่”
“ฉันก็ไม่มีทางให้ของพวกนายเหมือนกัน” เย่เทียนเซี่ยเก็บมือกลับมา หรี่ตาลงครึ่งหนึ่งมองไปยังพวกเขา “ความน่าเชื่อถือกับท่าทางของพันธมิตรใบไม้สีชาดอย่างพวกนายทำให้ตอนนี้ฉันหมดความอยากจะทำการซื้อขายกับพวกนายแล้ว เพราะงั้นส่งเงินมาแล้วไสหัวไปซะ”
การดูถูกและเยาะเย้ยอย่างร้ายกาจนั้นทำให้สีหน้าสมาชิกทั้งห้าคนของพันธมิตรใบไม้สีชาดมืดครึ้มลง ในเกมก่อนๆ ที่ผ่านมาหากพูดชื่อ “พันธมิตรใบไม้สีชาด” ออกมา ใครๆ ก็ไม่กล้าเสียมารยาททำให้พวกเขาไม่พอใจ บางครั้งยังวิ่งหางจุกตูดหนีไปซะด้วยซ้ำ อีกทั้งยังไม่เคยมีใครพูดดูถูกเหยียดหยามได้ถึงขนาดนี้...ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเมื่อฝ่ายตรงข้ามเป็แค่ผู้เล่นคนเดียว แต่พวกเขามีกันถึงห้าคน
นักรบฝึกหัดยกดาบคู่ในมือขึ้นมาแต่ก็ถูกใบไม้สีชาดปราการเหล็กหยุดเอาไว้เสียก่อน สิ่งที่พวกเขาต้องทำเป็อันดับแรกตอนนี้ก็คือนำอาวุธประหลาดที่เล่ยเฟิงหัวหน้าพันธมิตรใบไม้สีชาดสนใจชิ้นนั้นมาให้ได้ ไม่ใช่เวลาจะมาใช้อารมณ์...ถ้าเป็ไปได้พวกเขาก็อยากจะสังหารเย่เทียนเซี่ยแล้วให้เขาดรอปไอเทมออกมาให้หมด แต่การปะทะกันก่อนหน้านั้นภายในเวลาเพียงไม่ถึงสิบวินาทีพวกเขาสี่คนก็ถูกเย่เทียนเซี่ยเพียงคนเดียวจัดการไปจนหมด เพื่อทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากท่านหัวหน้าให้สำเร็จพวกเขาจึงได้แต่เพียงอดทนเข้าไว้
“ได้...” ใบไม้สีชาดปราการเหล็กสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วพูดออกมาช้าๆ “เื่ก่อนหน้านี้ถือเป็ความผิดของพวกเรา พวกเราจะให้เหรียญทองกับนายไปก่อน เซี่ยเทียน คิดว่านายคงไม่ทำอะไรโง่ๆ ด้วยการตั้งตัวเป็ศัตรูกับพวกเรากลุ่มพันธมิตรใบไม้สีชาดหรอกนะ เพราะถึงแม้ว่านายจะแข็งแกร่งถึงขนาดที่นายคนเดียวสามารถโค่นเราทั้งห้าคนได้ แต่เื้ัของพวกเรายังมีพี่น้องพันธมิตรใบไม้สีชาดกว่าแสนคน จะเป็มิตรหรือศัตรู พวกเราเชื่อว่านายคงฉลาดที่จะเลือก”
หลังจากการประนีประนอมคือคำขู่ชุดใหญ่ การนำผู้เล่นในกองกำลังใบไม้สีชาดกว่าแสนคนมาข่มขู่แบบนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้เล่นส่วนใหญ่ชะงัก...แต่เห็นได้ชัดว่าครั้งนี้เขาขู่ผิดคนเสียแล้ว คนบางคนไม่เคยกลัวคำขู่และคำขู่นั้นยังถูกเขาใช้เป็ข้ออ้างที่เหมาะสมที่สุดในการฆ่าคนด้วย
ใบไม้สีชาดปราการเหล็กเดินตรงไปข้างหน้าส่งเงิน 100 เหรียญทองให้เย่เทียนเซี่ย และเมื่อเสียงแจ้งเตือนการซื้อขายสำเร็จดังขึ้นมาข้างหู กระเป๋าของเย่เทียนเซี่ยก็เต็มไปด้วยเหรียญทองสีเหลืองอร่ามในทันที บนใบหน้าของเย่เทียนเซี่ยมีรอยยิ้มสว่างไสวปรากฏชัดเจน เขาหมุนตัวกลับไปแล้วพูดอย่างสบายๆ “โอเค เงินฉันก็รับมาแล้ว ทีนี้พวกนายก็ไสหัวไปได้แล้ว”