่บ่ายเสียงประกาศตามสายก็ได้ดังขึ้น “นักเรียนเซี่ยเฉินเฟิงชั้นปีที่หนึ่ง มีคนมารอพบที่หน้าโรงเรียน…”
หลังจากเกิดเื่ครั้งที่แล้ว เซี่ยเฉินเฟิงระมัดระวังตัวขึ้นมาก
เด็กชายแกล้งทำเป็ไม่ได้ยิน เพื่อนนักเรียนในห้องเห็นเช่นนั้นจึงอดถามอย่างสงสัยไม่ได้ “เฉินเฟิง มีคนมาหานายที่หน้าประตูโรงเรียน ทำไมนายไม่รีบออกไปหาเขาล่ะ”
“ไม่ไป คนที่มาต้องเป็คนไม่ดีแน่” เขาตอบด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว
นักเรียนคนอื่นต่างหันไปมองหน้ากัน ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
เซี่ยฟู่กุ้ยไม่รู้เื่เช่นกัน ยืนรอแถวหน้าประตูอยู่นาน แต่บุตรชายกลับไม่ออกมาหาเสียที จนออดเข้าเรียนดังขึ้นอีกครั้ง บุตรชายก็ยังไม่ออกมา
คุณปู่ยามที่เฝ้าอยู่หน้าประตูโรงเรียนเอ่ยด้วยสีหน้าเก้อกระดาก “ฉันประกาศให้แล้วจริงๆ นะ แต่ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงไม่ออกมา”
“พี่ชาย เื่นี้ไม่โทษพี่ เฉินเฟิงอาจจะทำอะไรอยู่ก็เลยออกมาไม่ได้” เขาโบกมือเป็การบอกว่าไม่เป็ไร
“น้องชาย นายเป็พ่อแท้ๆ ของเฉินเฟิง เลิกเรียนเดี๋ยวก็ได้เจอกันแล้ว นายจะรีบอยากเจอตอนนี้ไปทำไม” คุณปู่ยามถามด้วยความสงสัย
เจอคำถามเช่นนี้ทำเอาเซี่ยฟู่กุ้ยอธิบายอึกอัก “เอ่อ…ผมกับลูกไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน แกอาศัยอยู่กับพี่สาวที่บ้านคุณตาคุณยาย”
คุณปู่ยามได้ฟังก็ทำหน้างุนงง ต่อมาก็ทำหน้าคล้ายนึกสิ่งใดออก สายตาของคนผ่านโลกมานานมองคนตรงหน้าเรียบนิ่ง ก่อนจะถามให้มั่นใจ “นายใช่คนหมู่บ้านเชาหยางหรือเปล่า ที่ว่าแต่งงานใหม่กับแม่เลี้ยงใจอสรพิษ ให้คนเอาตัวลูกชายกับภรรยาคนแรกไปทิ้ง จนเด็กคนนั้นเกือบต้องเป็อะไรไปใช่ไหม”
เซี่ยฟู่กุ้ยไปต่อไม่ถูก ในหมู่บ้านมีแค่ภรรยาใหม่ของเขาเท่านั้นที่ทำเื่แบบนี้ได้ลง แต่เื่นี้ก็ผ่านไปนานแล้ว นังเด็กเซี่ยโม่เคยรับปากว่าจะไม่พูดเื่นี้อีกไม่ใช่หรืออย่างไร เหตุใดถึงมีคนรู้เื่นี้ได้
“ใช่ผมเอง…”
“ที่แท้ก็นายนี่เอง นายนี่ยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานเสียอีก ไม่คิดเลยว่าบนโลกนี้จะมีพ่อแบบนี้ ภรรยาใหม่บอกว่าลูกชายโง่ก็แปลว่าโง่งั้นเหรอ เด็กเพิ่งจะอายุห้าขวบแต่กลับไม่ได้กินอาหารดีๆ ไม่ได้สวมเสื้อผ้าอบอุ่น แถมไม่กี่วันก่อนยังให้นักเลงมาทำร้ายเด็กมันอีก แล้วจะมาทำตัวเป็พ่อที่รักลูกอะไรตอนนี้”
“พี่พูดอะไรเนี่ย ใครยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน ก็ลูกผมมันโง่จริงๆ ผมเป็พ่อย่อมรู้ดีกว่าใคร” เขาเริ่มมีน้ำโห “ถึงผมจะแต่งงานใหม่ แต่เธอดีกับลูกทั้งสองคนของผมมาก แล้วใครส่งนักเลงมาทำร้ายลูกผม ผมเพิ่งกลับจากค่ายแรงงานมาเมื่อวันก่อนเอง จะส่งนักเลงมาทำร้ายลูกได้ยังไง”
แม้เื่ที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นจะไม่มีหลักฐาน แต่ซ่งมู่ไป๋ได้ให้คนเอาเื่นี้ไปพูดจนรู้กันไปทั่วแล้วว่า เซี่ยฟู่กุ้ยที่อยู่หมู่บ้านเชาหยางนั้นยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน หลงภรรยาใหม่จนละเลยลูกในไส้
ด้วยเหตุนี้คุณปู่ยามหน้าประตูถึงได้ด่าทอออกมาชุดใหญ่
เซี่ยฟู่กุ้ยนึกไม่ถึงเลยว่าเื่ภายในบ้านจะเป็ที่รู้กันไปทั่วถึงขนาดนี้ และวันหนึ่งตัวเองจะต้องมาตามแก้ตัว “พี่ชาย พี่ฟังมาผิดแล้วละ ผมกับภรรยาใหม่ไม่เคยทำร้ายลูกเลยนะ”
“ฉันฟังมาผิดงั้นเหรอ ไม่เชื่อก็ไปถามที่สถานีตำรวจสิ นักเลงพวกนั้นตอนนี้ยังถูกขังคุกอยู่ในสถานีตำรวจอยู่เลย พวกนั้นได้ค่าจ้างเป็ข้าวโพดห้าจิน ตอนนี้เอาแต่นั่งนึกเสียใจทีหลัง ส่วนตำรวจก็กำลังตามหาคนที่ว่าจ้างอยู่เลย”
เซี่ยฟู่กุ้ยถึงกับเหงื่อแตกพลั่กเต็มแผ่นหลัง หรือภรรยาใหม่ของเขาจะเป็คนบงการเื่นี้จริง เช่นนั้นแล้วต้องรีบกลับไปถามให้รู้เื่
คิดได้ดังนั้น เขายิ้มแหยพร้อมกับขอปลีกตัว “พี่ชาย ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าที่บ้านยังมีเื่ต้องจัดการ ผมกลับก่อนนะ”
“รีบไปเลย ถูกภรรยาขายแล้วไม่รู้ตัว ยังจะไปช่วยนับเงินให้เขาอีก”
แม้จะเดินออกมาไกลแล้ว แต่เซี่ยฟู่กุ้ยยังคงได้ยินเสียงด่าทอของคุณปู่ยามหน้าโรงเรียนดังไล่หลังมา
ไม่เพียงแค่นี้ ยังมีอีกหลายประโยคที่ดังก้องอยู่ในหู ไหนจะคำว่า ‘ยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน’ แล้วยังมีประโยค ‘ถูกภรรยาขายแล้ว ยังไปช่วยนับเงินให้เขาอีก’ กับ ‘ภรรยาใหม่บอกว่าลูกชายโง่ ก็แปลว่าโง่งั้นเหรอ…’
เขาคิดจนสมองแทบจะะเิ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็คิดไม่ออก นี่มันเื่อะไรกันแน่?
หรือหวางลี่ลี่ทำผิดต่อเขาจริง เอาข้าวโพดไปจ้างพวกนักเลงให้ไปทำร้ายเซี่ยเฉินเฟิงจริงงั้นหรือ
เซี่ยฟู่กุ้ยขบคิดอย่างหนัก ก่อนจะถูกส่งตัวไปค่ายแรงงาน ในบ้านมีอาหารและธัญพืชจำนวนเท่าไรเขาจำได้ดี ที่ผ่านมายามไม่มีอะไรทำ เขาจะไปดูพวกอาหารและธัญพืชที่เก็บเอาไว้ หวางลี่ลี่บอกว่ามีอาหารและธัญพืชบางส่วนที่เอาเงินไปแลกมาเพิ่ม
เซี่ยอวิ๋นคนเดียวจะกินสักกี่มากน้อย อาหารกับพวกธัญพืชที่อยู่ในบ้านตอนนี้ดูไม่สอดคล้องกับจำนวนตอนก่อนที่เขาจะถูกส่งตัวไปค่ายแรงงาน
ถ้าหวางลี่ลี่ทำเื่ที่ผิดต่อเขาจริง เขาควรจะทำอย่างไรดี?
หลายเดือนก่อนเซี่ยเฉิงเฟิงถูกหวางหมาจื่อพาไปทิ้งบนรถไฟ หวางลี่ลี่สาบานกับเขาว่า หลานชายเธอแค่จะพาไปเที่ยวเท่านั้น
แต่ปรากฏว่าเด็กนั่นวิ่งเล่นไปทั่วจนพลัดหลงกับหวางหมาจื่อ พอเกิดเื่นี้ขึ้นหลานของภรรยาก็เลยไม่กล้าสู้หน้า ซึ่งเขาไม่นึกติดใจสงสัย
ต่อมาหวางหมาจื่อพาพรรคพวกไปพังบ้านอู๋ ทำร้ายเซี่ยเฉินเฟิงจนาเ็สาหัส หวางลี่ลี่บอกกับเขาว่า หลานชายเห็นเธอไม่ได้รับความเป็ธรรมก็เลยไปเอาคืนให้
แม้เื่นี้จะทำให้หวางหมาจื่อถูกตัดสินจำคุก หวางลี่ลี่ถูกส่งตัวไปทำงานที่ค่ายแรงงานเป็เวลาห้าเดือน แต่เขาก็ยังเชื่อภรรยาคนนี้จนหมดใจ
และเป็เพราะแบบนี้เซี่ยฟู่กุ้ยเลยเชื่อภรรยาที่สั่งให้ใช้บุตรชายที่ยังเล็กเป็หมากใส่ร้ายสองพี่น้องนั่น จนบุตรชายของเขาต้องตกอยู่ในอันตราย
โชคดีที่ตำรวจตามไปช่วยเซี่ยเฉินซีกลับมาจากรังหมาป่าได้ แต่เขาก็ต้องถูกส่งตัวไปทำงานที่ค่ายแรงงาน
หรือว่าเื่ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้เป็เพราะหวางลี่ลี่้าแก้แค้นสองพี่น้องนั่นโดยใช้เขาเป็เครื่องมือ?
ไม่ เขาไม่เชื่อ
ความจริงต้องบอกว่าเขาไม่อยากจะเชื่อมากกว่า
เขากลับบ้านด้วยความรู้สึกยุ่งเหยิง เมื่อไปถึงบ้านเห็นหวางลี่ลี่กำลังป้อนข้าวเซี่ยอวิ๋นอยู่ เขาก็โมโหในทันที “ไหนบอกจะแก้แค้นให้เฉินซีไง แล้วทำไมถึงมาทำดีกับคนที่ฆ่าเฉินซีแบบนี้!”
หวางลี่ลี่มองสามีที่มีใบหน้าขึงขังทั้งที่เพิ่งกลับเข้ามา ั้แ่กลับมาจากค่ายแรงงาน สามีก็กลายเป็คนโมโหร้ายกว่าเก่า
ยามนี้เธอมีชนักติดหลัง กลัวสามีจะรู้เหลือเกินว่าตอนอยู่ที่ค่ายแรงงานเธอยั่วยวนนักโทษผู้ชายในค่ายนั้นไปทั่ว
เธอจึงต้องคอยดูสีหน้าสามี ดูแลอย่างระมัดระวัง ไม่กล้าหือไม่กล้าอือเวลาสามีโมโห
แม้แต่ตอนนี้กำลังถูกสามีด่าทอ เธอก็ยังไม่กล้าเถียง “คุณไปไหนมา ทำไมถึงเพิ่งกลับมา ฉันเก็บข้าวเอาไว้ให้คุณด้วยนะ”
เซี่ยฟู่กุ้ยตอบอย่างขอไปที “อยู่ในบ้านมันอึดอัดก็เลยออกไปเดินเล่นมา”
“เฉินซีไม่อยู่แล้ว ฉันเลยอยากจะไปรับเฉินเฟิงกลับมา คุณคิดว่ายังไง” เขาลองพูดหยั่งเชิงหลังจากกินข้าวอิ่ม
หวางลี่ลี่ได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เธออยากฆ่าไอ้เด็กนั่นให้ตายนัก แต่สามีกลับคิดรับมันกลับมาอยู่ด้วย เธอโมโหจะแย่แล้ว!
ถึงจะเห็นสีหน้าของภรรยาเปลี่ยนไป แต่เซี่ยฟู่กุ้ยไม่รู้ว่าผู้เป็ภรรยาคิดอะไรอยู่ “ตกลงว่ายังไง แต่ถ้าคุณมีลูกให้ผมอีกคนได้ ผมจะได้ไม่ไปรับแกกลับมา”
หวางลี่ลี่รู้สึกเจ็บใจ ตอนอยู่ที่ค่ายแรงงานเธอยุ่งกับผู้ชายหลายคน เครื่องป้องกันก็ไม่ได้ใช้ ถ้าจะตั้งท้องคงท้องไปตั้งนานแล้ว
“แต่เื่มีลูกมันไม่ใช่แค่เื่ของคนแค่คนเดียว…”
พูดยังไม่ทันจบประโยคดีเธอก็นึกอะไรขึ้นมาได้ ทำไมเธอถึงได้โง่แบบนี้ หากไปรับไอ้เด็กนั่นกลับมา ทีนี้ไม่ว่าจะจัดการกับไอ้เด็กนั่นอย่างไรก็ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ
คิดได้ดังนั้นเธอจึงเอ่ยออกไปว่า “คุณคิดว่าการมีลูกมันง่ายมากเหรอ ต้องตั้งท้องตั้งเกือบสิบเดือนถึงจะคลอดออกมา ถ้าคุณอยากเลี้ยงลูกไปรับเฉินเฟิงกลับมาก็ได้”
เซี่ยฟู่กุ้ยลอบถอนหายใจ ดูท่ายามหน้าโรงเรียนคนนั้นจะพูดโกหก เห็นชัดๆ ว่าภรรยาของเขาถูกใส่ร้าย
หากคนที่ส่งนักเลงไปทำร้ายเซี่ยเฉินเฟิงคือภรรยาของเขา อีกฝ่ายจะยอมให้เขาไปรับบุตรชายกลับมาได้อย่างไร
