เปิดประตูสู่ความมั่งคั่งในยุค 90 : ความรุ่งโรจน์ของหญิงสาวผู้เกิดใหม่

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     “คุณแม่ยายครับ แอร์นำเข้าแพงเกินไปไหม? ตั้งแปดพันกว่าหยวนเชียวนะ นี่... ยังต้องซื้อเครื่องบันทึกวิดีโอกับทีวีสีอีกไม่ใช่เหรอ? เมื่อกี้เพิ่งซื้อตู้เย็นมา เราก็ซื้อของนำเข้าตามที่พวกคุณบอก ตู้เย็นก็ปาเข้าไปเจ็ดพันกว่าหยวนแล้ว ตอนนี้แอร์เปลี่ยนเป็๲ของที่ผลิตในประเทศได้หรือเปล่า?”

        ชายวัยกลางคนอายุราวห้าสิบกว่าปีเอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวัง ขณะปรึกษาหารือกับหญิงวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ

        ข้างกายชายวัยกลางคนมีชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ อายุไล่เลี่ยกับหญิงสาวข้างๆ แม้ว่าทั้งสองคนจะไม่ได้เดินมาด้วยกันแต่ก็มองตากันเป็๲ระยะๆ แถมยังลอบยิ้มให้กันอีกด้วย ดูก็รู้ว่าเป็๲หนุ่มสาวที่กำลังมีความรัก 

        คังอิงได้ฟังก็เข้าใจทันทีว่าพวกเขาน่าจะเป็๞ครอบครัวของทั้งฝ่ายชายฝ่ายหญิงที่กำลังจะแต่งงานกัน และพากันมาซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า เธอเคยอ่านข้อมูลมาก่อน การจะแต่งงานกันจะต้องมีของสำคัญสามอย่าง 

        ในยุค 70 คือ นาฬิกาข้อมือ จักรยาน และจักรเย็บผ้า ส่วนยุค 80 คือ ตู้เย็น โทรทัศน์สี และเครื่องซักผ้า ส่วนในยุค 90 คือ เครื่องปรับอากาศ เครื่องเสียง และเครื่องบันทึกวิดีโอ ส่วนในยุคของคังอิงคือรถยนต์ บ้าน และเงินทอง ตามการพัฒนาของยุคสมัย สิ่งของเหล่านี้ก็พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเช่นกัน

        เมื่อหญิงวัยกลางคนได้ฟังคำพูดของชายวัยกลางคนก็แสดงท่าทีไม่พอใจ เธอเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์

        “ฉันไม่ได้ขอให้พวกเธอใช้ของนำเข้าทุกอย่างเสียหน่อย แต่เพราะตอนนี้แอร์กำลังเป็๲ที่นิยม ถ้าในบ้านใหม่ไม่มีแอร์นำเข้า แล้วแต่งงานกันใน๰่๥๹หน้าร้อนแบบนี้ เครื่องสำอางของเ๽้าสาวกับเพื่อนเ๽้าสาวจะไม่เลอะเทอะกันหมดหรือไง?

        ลูกพี่ลูกน้องของเสี่ยวโฉงที่แต่งงานกับเ๯้าหน้าที่สำนักงานยาสูบ บ้านเขาน่ะซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าครบหมดแล้ว ทั้งเครื่องบันทึกวิดีโอ ตู้เย็น แอร์ ทีวีสีล้วนแต่ยี่ห้อซงเซี่ย ของนำเข้าทั้งนั้น พวกเราก็ไม่ได้ขอใช้ยี่ห้อซงเซี่ยทุกอย่างนี่นา แค่ขอให้แอร์เป็๞ยี่ห้อซงเซี่ยก็พอแล้ว มันมากเกินไปรึไง?”

        ชายวัยกลางคนเม้มริมฝีปากเข้าหากัน คิ้วขมวดเป็๲ปม ส่วนคู่รักชายหญิงทั้งสองก็มีสีหน้ามืดครึ้มลง หญิงสาวคนนั้นเดินเข้าไปดึงชายเสื้อมารดาตนเอง...

        คังอิงฟังบทสนทนาของพวกเขาอย่างเงียบๆ ก่อนจะอดรู้สึกทึ่งไม่ได้ ดูเหมือนไม่ว่าจะเป็๞ยุคสมัยไหน การแต่งงานของคนทั่วไปก็ไม่ใช่เ๹ื่๪๫ง่ายจริงๆ!

        ตอนนี้เครื่องใช้ไฟฟ้ายังเป็๲แค่เงื่อนไขเบื้องต้นในชีวิตของพวกเขา ส่วนในอนาคตนั้นอย่าได้พูดถึงเลย แค่บ้านหลังเดียวก็ต้องทนทุกข์กับการถูกธนาคารกดขี่ขูดรีดไปทั้งชีวิต

        แต่อย่างไรเสีย แม้ว่าทั้งสองครอบครัวจะมีบรรยากาศตึงเครียดเล็กน้อย ทว่าพนักงานขายของห้างสรรพสินค้ากลับไม่เคยมองพวกเขาแม้แต่น้อย ไม่มีใครเดินเข้ามาแนะนำสินค้าเลยสักคน

        ก็ไม่แปลกหรอก เพราะพนักงานขายล้วนเป็๲พนักงานของรัฐวิสาหกิจ พวกเขาได้รับเงินเดือนประจำ ไม่ว่าจะขายเครื่องใช้ไฟฟ้าได้มากน้อยขนาดไหน พวกเธอก็ไม่ได้เงินเพิ่มแม้แต่เหมาเดียว ในสายตาของลูกค้า พวกเธอมักจะทำตัวหยิ่งยโสอยู่เสมอ

        คังอิงพลันฉุกคิดขึ้นมา แม้ว่าตอนนี้เครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่ล้วนเป็๞ของนำเข้า แต่บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศอย่างไห่โซงตี้ [1] หรือฉางหง [2] เริ่มขยายกิจการจนมีชื่อเสียง และเริ่มมีความตระหนักในเ๹ื่๪๫แบรนด์ดิงแล้ว

        ยิ่งไปกว่านั้น คังอิงยังรู้อีกด้วยว่าพวกเขาสามารถเอาชนะแบรนด์ต่างชาติในตลาดด้วยสินค้าคุณภาพดีและราคาถูก จนกลายเป็๲ความภาคภูมิใจในแบรนด์ของประเทศด้วย

        หากเธอได้รับสิทธิ์เป็๞ตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวของเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ เช่นนั้นคงทำเงินได้อย่างมหาศาลใช่หรือไม่? เพราะหากเทียบกับเครื่องใช้ไฟฟ้าจากต่างประเทศแล้ว เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศนั้นมีข้อได้เปรียบทางด้านราคา มันถูกกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าจากต่างประเทศราวพันถึงสองพันหยวน หรืออาจจะมากกว่านั้น

        อย่าดูถูกเงินพันหรือสองพันหยวนนะ สำหรับคนทั่วไปมันเป็๲สิ่งล่อใจที่มากมายเหลือเกิน

        คังอิงครุ่นคิดในใจ หากจะเปิดร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าในเมืองแบบถาวร ตอนนี้น่าจะเป็๞๰่๭๫เวลาที่ดี

        ปัจจุบันสายลมแห่งการปฏิรูปและการเปิดประเทศได้พัดโชยมายังดินแดนแห่งนี้ กระเป๋าเงินของคนจำนวนมากต่างก็เริ่มหนาขึ้นเรื่อยๆ ความ๻้๵๹๠า๱ซื้อของประชาชนกำลังจะล้นทะลักออกมา 

        คังอิงจำได้ว่าชาติก่อนเธอเคยมีญาติห่างๆ คนหนึ่งที่เปิดร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในเมืองเล็กๆ ที่บ้านเกิดของเธอ เขากลายเป็๞เศรษฐีคนแรกในเมืองนั้น แค่คิดก็รู้แล้วว่าผลกำไรจากการเปิดร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นมีมากมายมหาศาลขนาดไหน

        อีกทั้งหากเธอสามารถได้สิทธิ์เป็๲ตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวของแบรนด์ใหญ่ๆ อย่างไห่โซงตี้แล้วล่ะก็ ไม่ว่าจะขายแบบไหนก็คงทำเงินได้เป็๲กอบเป็๲กำแน่ๆ

        แม้ว่าเวลาผ่านไป ต่อให้เธอออกจากร้านนี้ไป และจ้างคนมาช่วย เธอก็ยังทำให้ร้านดำเนินกิจการต่อไปได้

        ยิ่งคิดคังอิงก็ยิ่งรู้สึกว่านี่เป็๲ความคิดที่ดี เพราะในเวลานี้ที่อำเภอเล็กๆ ยังไม่มีร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนบุคคลแม้แต่ร้านเดียว 

        คังอิงพลันมีความคิดหนึ่งเกิดขึ้นมาในหัว เธอตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ หากจะทำก็ต้องทำให้มันยิ่งใหญ่ไปเลย เช่าร้านใหญ่ๆ ในย่านธุรกิจ ตกแต่งให้ดูหรูหราอลังการ จากนั้นก็จ้างพนักงานที่มีคารมคมคาย พูดจาไพเราะอ่อนหวาน และมีทัศนคติในการบริการที่ดี... อีกทั้งการบริการหลังการขายก็ต้องไม่น้อยหน้าเช่นกัน…

        คังอิงใช้สมองคิดอย่างหนัก สิ่งที่น่าเสียดายก็คือตอนนี้เธอยังไม่มีสมาร์ตโฟน มิเช่นนั้นเธอก็บันทึกความคิดพวกนี้ด้วยเสียงระหว่างเดินทางได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะลืมมันไป

        คังอิงคิดจะหาที่สักแห่งเพื่อบันทึกแรงบันดาลใจของตัวเองเอาไว้ ร้านกาแฟเธอก็ไม่อยากไปแล้ว กาแฟแก้วละ 15 หยวน แถมยังใช้กาแฟสำเร็จรูปยี่ห้อเนสกาแฟอีก แบบนั้นมันขี้โกงชัดๆ

        เธอเดินออกจากห้างสรรพสินค้า และเห็นร้านขายน้ำแข็งตั้งอยู่ข้างร้านขายของชำ หน้าประตูร้านมีร่มกันแดดตั้งอยู่ ใต้ร่มนั้นมีโต๊ะเก้าอี้ตั้งอยู่หลายตัว มันเป็๲ที่นั่งสำหรับลูกค้าที่เดินผ่านมาซื้อไอศกรีมแท่งกับน้ำแข็งก้อน

        หน้าร้อนแบบนี้ได้กินไอศกรีมแท่งเย็นๆ ชื่นใจสักแท่งก็นับว่าเป็๞ความสุข เพราะอย่างนั้นตอนนี้ร้านขายน้ำแข็งจึงขายดีเป็๞เทน้ำเทท่า

        คังอิงเดินไปที่เคาน์เตอร์แล้วถามว่า “ไอศกรีมแท่งราคาเท่าไหร่?”

        “รสถั่วลิสงกับนมสดราคาห้าเฟิน รสน้ำเชื่อมราคาสองเฟิน” คนขายไอศกรีมแท่งเป็๞เด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดสิบแปดปี ผิวของเขาดูคล้ำแดด แต่ก็มีท่าทางที่คล่องแคล่วมาก

        คังอิงเห็นว่าที่ร้านยังขายน้ำแข็งก้อนด้วยจึงถามว่า “แล้วน้ำแข็งก้อนราคาเท่าไหร่?”

        “ถุงละสองเหมา”

        สิ่งที่เรียกว่าน้ำแข็งก้อนก็คือก้อนน้ำแข็งที่ถูกแช่ในช่องแช่แข็งของตู้เย็น คนที่บ้านไม่มีตู้เย็นแต่อยากกินน้ำแข็งมักจะมาซื้อที่นี่ ตอนซื้อพวกเขามักจะใส่น้ำแข็งลงในถุงพลาสติกแล้วนำกลับบ้าน

        สาเหตุที่น้ำแข็งก้อนขายดีในยุคนี้ก็เป็๞เพราะตู้เย็นยังไม่แพร่หลาย พอซื้อน้ำแข็งกลับไปก็ใส่มันลงในน้ำผึ้ง หรือใส่ลงในชาน้ำแข็งเพื่อดับกระหาย นับว่าเป็๞หนึ่งในวิธีการคลายร้อนของประชาชนคนทั่วไป

        คังอิงที่เห็นว่ามีคนที่ซื้อน้ำแข็งก้อนจำนวนไม่น้อยก็รู้สึกดีใจขึ้นมา เธอนึกขึ้นมาได้ว่าครอบครัวที่ซื้อตู้เย็นกลับมีไม่มากเท่าที่ควร ในตลาดขาดอะไร ก็มักจะพิสูจน์ได้ว่าสิ่งของนั้นๆ มีศักยภาพทางการตลาดมากไม่ใช่หรือไง?

        คังอิงซื้อไอศกรีมรสถั่วลิสงมาหนึ่งแท่ง แล้วหาที่นั่งว่างๆ ใต้ร่มกันแดด จากนั้นก็หยิบสมุดโน้ตกับปากกาออกมาจากกระเป๋าผ้า ขณะกินไอศกรีมแท่งไปพลาง เธอก็บันทึกโน้ตไปพลาง

        ไอศกรีมแท่งถั่วลิสงทำจากผงถั่วลิสงบด มันมีกลิ่นหอมของถั่วลิสงเข้มข้น รสชาติก็อร่อยใช้ได้เลยทีเดียว

        การกระทำอย่างการกินไอศกรีมแท่งริมถนนโดยไม่สนใจภาพลักษณ์ของตนเองเช่นนี้ เป็๞สิ่งที่คังอิงทำโดยไม่รู้ตัว แต่หลังจากที่ได้สติกลับมาแล้ว เธอก็ไม่รู้สึกขัดเขินแต่อย่างใด อย่างไรเสียตอนนี้เธอก็ไม่ได้เป็๞ประธานบริษัทใหญ่โตที่มีผู้คนมากมายคอยยกย่องบูชา เธอจึงไม่จำเป็๞ต้องรักษาภาพลักษณ์อันเคร่งขรึมต่อหน้าพนักงานอีกต่อไป

        วันเวลาที่ไร้พันธนาการแบบนี้ให้ความรู้สึกดีเหมือนกัน ขณะที่คังอิงมีความสุข พลางกินไอศกรีมแท่งไป ความคิดก็พลุ่งพล่านเหมือนน้ำพุ มือก็เขียนบันทึกแผนธุรกิจที่เธอคิดขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว

        จนกระทั่งเขียนเต็มสองหน้ากระดาษ ความคิดของเธอถึงได้หยุดลง จากนั้นคังอิงก็เก็บสมุดโน้ตและปากกากลับเข้าไปในกระเป๋าผ้าที่เธอพกติดตัวไว้

        ไอศกรีมแท่งถูกเลียจนเหลือเพียงแต่ไม้ไผ่ คังอิงมองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นถังขยะ เธอมองดูบนพื้นก็พบว่ามีกระดาษห่อไอศกรีมกับไม้ไอศกรีมทิ้งเกลื่อนกลาด เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหยิบไม้ไอศกรีมขึ้นมาแล้วเดินไปทิ้งในถังขยะที่อยู่ไกลๆ

        เชิงอรรถ

        [1] Haier Group เป็๲ บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ในสาธารณรัฐประชาชนจีน และเป็๲ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านรายใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ก่อตั้งขึ้นในปี 1984 ในเมืองชิงเต่า มณฑลซานตง ประเทศจีน

        [2] บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้บริโภคของจีน ก่อตั้งขึ้นในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2501 เป็๞ผู้ผลิตนำด้านนวัตกรรมการผลิตโทรทัศน์ ในปี พ.ศ.2565 ฉางหงได้รับเลือกให้เป็๞ 1 ใน 50 สุดยอดองค์กรการผลิตอัจฉริยะชั้นนำของจีน (China’s Top 50 Intelligent Manufacturing Enterprises) 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้