จุนห่าวและหานรุ่ยออกจากวงล้อมแล้ว ทั้งสองคนทิ้งนักพรตที่ไม่พอใจอยู่เื้ั และหาถ้ำอยู่ชั่วคราว พวกเขาไม่รีบเร่งจัดการกับาแบนร่างกาย แต่กินอะไรบางอย่างก่อน เพื่อให้จุนตงและจุนหนานได้เข้านอน
จุนห่าวและหานรุ่ยดื่มยาิญญาฟื้นฟู เห็นได้ว่าาแบนตัวฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะว่าใช้ยาิญญาฟื้นฟูเท่าไหร่ จุนห่าวก็รู้สึกถึงความอัศจรรย์ คิดในใจ หากในชาติก่อนมียาิญญาชนิดนี้ งั้นคงลดจำนวนคนเสียชีวิตได้ ทุกครั้งที่เขาเห็นทหารได้รับาเ็สาหัสจนถึงตาย จุนห่าวรู้สึกเ็ปยิ่งนัก
หานรุ่ยเห็นจุนห่าวมีใบหน้าเศร้าๆ เอ่ยถามอย่างเป็ห่วงว่า “มีอะไรหรือ?”
จุนห่าวหยิบขวดยาที่ไม่ได้ดื่ม พลางพูดอย่างเศร้าใจว่า “ข้าแค่คิดว่า หากก่อนหน้านี้เรามียาชนิดนี้ สหายรบของข้าหลายคนก็ไม่ต้องเสียสละชีวิตั้แ่อายุยังน้อย บัดนี้ข้ามีมัน แต่น่าเสียดายนัก กลับไม่อาจมอบให้พวกเขาได้” พูดจบก็ยิ้มด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น แม้ว่าพวกเขาเตรียมเสียสละอยู่แล้ว ทว่าทุกครั้งที่เห็นการเสียสละของสหายรบ จุนห่าวก็รู้สึกเศร้า
ฟังคำของจุนห่าว หานรุ่ยนิ่งเงียบ เขาไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “บางที หลังจากเราบำเพ็ญเพียรสำเร็จ เราอาจฝ่ากำแพงแห่งห้วงมิติ ถึงเวลานั้นข้าจะไปกับเ้า”
“หลังจากที่บำเพ็ญเพียรสำเร็จ นั้นคือเื่ในอีกพันปีหลังจากนี้ คนรู้จักก็ไม่อยู่แล้ว กลับไปก็ไร้ความหมาย การได้เห็นโลกใหม่ อาจยิ่งทำให้เศร้าโศกได้ สู้ไม่กลับไปเสียดีกว่า” จุนห่าวเขย่าขวดยาที่อยู่ในมือ คิดในใจ ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยพี่น้องของเขาได้อย่างไร จะคิดถึงเขาบ้างไหม หลังจากเขาจากไปมีเสียชีวิตบ้างไหม
หานุร่ยจับมือจุนห่าวและพูดว่า “หลังจากที่บำเพ็ญเพียรสำเร็จ ไม่รู้ว่าเรามีความสามารถอะไรบ้าง บางทีเราอาจย้อนเวลากลับไป ณ เวลาที่เ้าจากมาได้”
จุนห่าวทุกข์ใจ เขาจับมือหานรุ่ยเช่นกัน แล้วดึงหานรุ่ยเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน กล่าวอย่างอบอุ่นว่า “เื่หลังจากนี้ค่อยว่ากัน ตอนนี้เราควรทำเื่สำคัญก่อนมิใช่หรือ?” จากนั้นเขาก็จูบที่ใบหน้าของหานรุ่ย พูดด้วยอารมณ์ลึกซึ้งว่า “เราไม่ได้ทำมานานแล้ว ข้า้าเ้า เ้า้าข้าบ้างไหม?” จุนห่าวพูดจบ ก็เริ่มจูบหานรุ่ย มือก็ไม่อยู่นิ่งแล้ว
หานรุ่ยถูกจุนห่าวจูบ มีอารมณ์ร่วมเช่นกัน ร่างกายของเขาอ่อนป่วนเปียกเมื่อถูกจุนห่าวัั หากบอกว่าหานรุ่ยไม่้า ก็เป็เื่โกหก อันที่จริง เขาก็้าจุนห่าว แต่เมื่อคิดถึงสถานที่ในตอนนี้ หานรุ่ยขมวดคิ้วแล้วหันศีรษะไปมองจุนตงและจุนหนานที่หลับสนิท ยิ่งขมวดคิ้วมากขึ้น
จุนห่าวหันศรีษะของหานรุ่ยกลับมาจูบต่อ และพูดจาคลุมเครือว่า “เสี่ยวรุ่ย ในเวลานี้เ้ายังจะฟุ้งซ่านอีกหรือ ลีลาของข้าไม่ได้เื่หรือ ถ้าอย่างนั้นข้าจะตั้งใจให้มากขึ้น”
หานรุ่ยใช้มือผลักจุนห่าว พูดด้วยเสียงหอบๆ ว่า “ลูก..ลูกอยู่นะ หากพวกเขาตื่นขึ้ยมาเห็นเราเช่นนี้ จะไม่ดีนะ”
จุนห่าวพูดกับหานรุ่ยโดยไม่เงยหน้าว่า “เสี่ยวรุ่ย มีสมาธิ พวกเขาไม่ตื่นหรอก หลายวันมานี้พวกเขาไม่ได้พักเลย ตอนนี้คงหลับสนิทแล้ว”
หานรุ่ยผลักจุนห่าวออก แล้วพูดว่า “ไม่ได้นะจุนห่าว ที่นี่ไม่ได้”
จุนห่าวปล่อยตัวหานรุ่ย ใช้สองมือจับหัวของหานรุ่ย พลางมองหานรุ่ยอย่างน้อยอกน้อยใจ พูดอย่างน่าสงสารว่า “เสี่ยวรุ่ย เ้าไม่้าข้าหรือ? นับั้แ่มีลูก เ้ามักปฏิเสธข้าเสมอ เ้ารักแต่ลูก ไม่รักข้าแล้วใช่ไหม เสี่ยวรุ่ย เ้าทำเช่นนี้ข้าเสียใจนัก”
หายรุ่ยมองท่าทางน้อยใจของหานรุ่ย รู้ว่าจุนห่าวกำลังแสดง ทว่าหานรุ่ยก็ใจอ่อน พูดกับจุนห่าวยิ้มๆ ว่า “เ้าอายุเท่าไหร่แล้ว ยังจะหึงลูกอีก เ้ายังไม่รู้หรือว่าข้ารักใครมากที่สุด? เป็เพราะมีเงื่อนไขถึงทำไม่ได้มิใช่หรือ? ยามนี้เรามีอันตรายรอบด้าน ถูกโจมตีได้ตลอดเวลา หากไม่ระวังก็คงเสียชีวิต เราไม่อาจคลายความระวังได้”
จุนห่าวไม่ยอมแพ้ พูดอย่างน้อยใจต่อไปว่า “เสี่ยวรุ่ย เ้าแค่บอกว่า้าข้าหรือไม่ ทำไมเ้าทำเหมือนไม่้าข้าเลยสักนิด ราวกับเ้าเบื่อข้าแล้ว”
หานรุ่ย : ...... คิดในใจ จุนห่าวกลายเป็คนไม่มีเหตุผลอย่างนี้ั้แ่เมื่อไหร่ จะให้เขาตอบยังไง บอกว่า้า เขาก็รู้สึกอาย บอกว่าไม่้า จุนห่าวต้องเสียใจแน่
หานรุ่ยก็มิใช่คนปากว่าตาขยิบ หัวใจสั่นไหว ปลายหูของเขาแดงก่ำ และพูดว่า “้า ข้า้า” พูดจบก็ผ่อนคลายขึ้น รู้สึกว่าใบหน้าของเขาไม่ร้อนแล้ว หานรุ่ยจ้องมองจุนห่าวครู่หนึ่ง และพูดอย่างไม่พอใจว่า “แบบนี้พอใจหรือยัง?”
เมื่อเห็นความอับอายและทีท่าเดือดดาลของหานรุ่ย จุนห่าวชอบหานรุ่ยที่แสดงออกเช่นนี้นัก เการแสดงออกของหานรุ่ย เหมือนตีนแมวที่มีรอยขีดข่วน รู้สึกตุ้มๆ ต่อมๆ จุนห่าวกล่าวอย่างทนไม่ได้ว่า “ไม่ได้ ในเมื่อเ้า้าข้า ข้ายิ่ง้า งั้นทำไมพวกเราไม่ดื่มด่ำกับความสุขล่ะ? เสี่ยวรุ่ย ความปรารถนาจะได้บรรเทา เราแทบจะทนไม่ไหวแล้ว”
หานรุ่ยจนใจ คิดในใจ พูดมาสองนาน จุนห่าวยังคงไม่ล้มเลิกความคิดนี้ ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่อยากมีอะไรกับจุนห่าว แต่เขารู้สึกว่าสถานที่นี้ไม่เหมาะสมจริงๆ ไม่รู้ว่าลูกๆ ที่หลับอยู่ข้างๆ จะตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่ ข้างนอกยังมีนักพรตจัยจ้องพวกเขาอยู่ และไม่รู้ว่าสัตว์อสูรจะปรากฏตัวขึ้นเมื่อใด เมื่อคิดอย่างนี้ หานรุ่ยจึงพูดกับจุนห่าวด้วยใบหน้ากลั้นยิ้มว่า “เ้าไม่กลัวว่าตอนที่เราถึงจุดสุดยอด ทันใดนั้นก็มีสัตว์อสูรหรือนักพรตที่ไล่ฆ่าพวกเราปรากฏตัวขึ้นหรือ? เ้าก็รู้ว่ายามนี้เราเป็ที่หมายปอง ไม่เพียงคนขององค์ชายสามที่ตามหาพวกเรา แต่ยังมีนักพรตที่แย่งชิงผลไม้ชิงลัวมาไม่ได้ ต้องตามหาพวกเราแน่ ท้ายที่สุดยังมีอีกหลายคนที่ไม่กลัวความตาย ข้าไม่สนใจ หากเ้าคิดเช่นนี้จริง ข้าก็ยอมตายไปกับเ้า” คิดในใจ เขาพูดขนาดนี้แล้ว หากจุนห่าวยัง้าอีก คงเกินเยียวยา
จุนห่าวคิดจนเห็นภาพ เริ่มรู้สึกไม่ดี ความปรารถนาของร่างกายถอยกลับ คิดในใจ เขาไม่้าให้ใครมาเห็นฉากนั้นของเขาและหานรุ่ย ที่ยิ่งกลัวก็คือ หากถูกทำให้ใ......แล้วหานรุ่ยไม่กล้ามีชีวิตอยู่ต่อไปล่ะ เช่นนั้นคงไม่ได้จริงๆ
คิดในเช่นนั้นในใจ ทว่าปากจุนห่าวยังคงไม่ปล่อยหานรุ่ย เขาพูดอย่างไร้ยางอายว่า “เ้าไม่สนใจ ข้าก็ไม่สนใจ ถ้าอย่างนั้น พวกเขาก็ไม่กลัวสายตาเร่าร้อน ก็ดูไป หวังว่าเขาจะมีชีวิตได้เห็นนะ แค่เกรงว่าเขาจะไม่มีโอกาสนั้น”
หานรุ่ยพูดไม่ออก คิดในใจ จุนห่าวหน้าหนาขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเขาจะพูดแบบนี้ เขาก็ยังพูดออกมาได้ เขาทนไม่ได้จริงๆ
หานรุ่ยถอดใจ เขาพูดกับจุนห่าวอย่างโกรธๆ ว่า “ในเมื่อเ้าไม่กลัว งั้นเราก็เริ่มเถอะ”
จุนห่าวฟังเสียงเฉยชาของหานรุ่ย ยิ้มอย่างเงียบๆ เขาโอบหานรุ่ยไว้ในอ้อมแขน แล้วพูดว่า “เห็นข้าเป็คนโง่เขลาอย่างนั้นหรือ? สถานการณ์ตอนนี้คิดว่าข้ายังไม่เข้าใจหรือ? เมื่อครู่ ข้าแค่ล้อเ้าเล่น” จากนั้นก็หยุดและพูดว่า “แต่ทั้งนี้ เมื่อถึงสถานที่ปลอดภัย เ้าต้องชดเชยให้ข้า ข้า้าเ้าจริงๆ”
หานรุ่ยตอบ “อื้อ” เปลี่ยนหัวข้อแล้วพูดว่า “เรากินผลไม้ชิงลัวกันเถอะ แม้ว่ากินตอนนี้จะสิ้นเปลืองอยู่บ้าง ทว่าตอนนี้เรา้าพละกำลัง” คิดกับตัวเอง ต้องมีผู้คนมากมายตามหาพวกเขาในตอนนี้ แม้ว่าเขาและจุนห่าวจะทรงพลังมาก ทว่าพลังปราณยังถือว่าต่ำอยู่ เช่นเดียวกับวันนี้ ที่เผชิญหน้ากับกลุ่มผู้มีลมปราณขั้นสิบสอง พวกเขาทำได้แค่หลบหนี เมื่อคิดอย่างนี้ หานรุ่ยก็ขมวดคิ้ว เขาไม่ชอบหนี การหนีก็เหมือนสุนัขที่หายออกจากบ้าน เขาชอบต่อสู้ตรงๆ มากกว่า
“เ้าพูดถูก สิ่งสำคัญที่สุดคือการเพิ่มพูนความแข็งแกร่ง แย่งชิงมันมา ก็เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง ไม่จำเป็ต้องเก็บมันไว้ หลังจากนี้เราต้องได้พบของดีมากขึ้นแน่” จุนห่าวกล่าว แอบคิดในใจ ขอเพียงได้กินมันลงท้อง ให้ทำเหมือนว่ามันคือพลังปราณของตนเอง ถึงจะถือว่าเป็ของของตัวเอง
จุนห่าวพูดจบ เขาหยิบผลไม้ชิงลัวออกมาจากในเทศะ 6 ผล หากพูดว่าเหตุใดถึงมี 6 ผล มิใช่ 3 ผล นั่นก็เพราะจุนตงและจุนหนานก็คนโลภตัวน้อย ขณะที่จุนห่าวและหานรุ่ยกำลังแย่งชิง จุนตงและจุนหนานก็แอบคว้าผลไม้ชิงลัวที่อยู่ข้างกายพวกเขา จุนหนานคว้ามาได้ 2 ผล จุนตงคว้ามาได้ 1 ผล เช่นนี้ผลไม้ทั้งหมด 9 ผล จุนห่าวทั้งครอบครัวก็แย่งมาได้ 6 ผล
มองผลไม้ชิงลัวที่เพิ่มมาอีก 3 ผล จุนห่าวพูดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าว่า “คิดไม่ถึงว่าจุนตงและจุนหนานจะมากความสามารถเช่นนี้ แย่งชิงมาได้เท่าเรา หากรู้เช่นนี้ ข้าคงจะแย่งอีกสักครั้ง เช่นนี้เราก็จะมีถึง 8 ผล” คำพูดในตอนท้าย จุนห่าวรู้สึกเสียดายเล็กน้อย
หานรุ่ยกล่าว “เ้ารู้จักพอเถอะ ทั้งหมดมี 9 ผล เราแย่งมาได้ 6 ผลแล้ว หากผู้ใดล่วงรู้ ข้าคิดว่าหางด้านหลังของเราคงยาวกว่านี้”
จุนห่าวพูดยิ้มๆ ว่า “ของดีใครจะไม่ชอบล่ะ ถึงเราไม่ใช้มัน ก็ยังนำไปแลกเป็เงินได้ ข้าเชื่อว่าราคาของผลไม้ชิงลัวต้องสูงมากแน่นอน แก้เื่ขัดสนเื่เงินของเราได้พอดี”
หานรุ่ยกล่าวว่า "มันมีค่าอยู่แล้ว” คิดในใจ ก็คือเหตุผลที่จุนห่าวจะขายสมบัติอย่างชิงลัว คนอื่นๆ ที่แย่งชิงมาได้คงเก็บไว้เหมือนสมบัติล้ำค่า
จุนห่าวพูดกับหานรุ่ยว่า “เสี่ยวรุ่ย เ้ากินก่อนเถอะ ข้าจะปกป้องเ้าเอง อันที่จริงที่นี่ก็ไม่ปลอดภัยนัก”
หานรุ่ยไม่ได้ขัดจุนห่าว ฟังคำของจุนห่าวแล้ว หานรุ่ยจึงหยิบผลไม้ชิงลัวมากิน หานรุ่ยรู้สึกว่าผลไม้ชิงลัวนี้คือผลไม้ิญญาที่ดีที่สุดที่เขาเคยกินมา เมื่อเขากินหมดก็ส่งแกนของผลไม้ให้จุนห่าว
จุนห่าวรับแกนของผลไม้ชิงลัวมา เอ่ยถามขึ้น “เป็อย่างไรบ้าง? อร่อยไหม?”
หานรุ่ยตอบว่า “เ้าลองกินดูก็รู้แล้ว ไม่ทำให้เ้าผิดหวังแน่” พูดจบก็เริ่มผสานกำลังเข้ากับผลไม้ชิงลัว ได้เห็นหานรุ่ยผสานกำลังเข้ากับผลไม้ชิงลัวอย่างตั้งใจ จุนห่าวเริ่มตื่นตัวและเริ่มปกป้องหานรุ่ย
ด้วยวิธีนี้ หานรุ่ยก็ผสานเข้ากับผลไม้ชิงลัวได้สำเร็จ และเลื่อนขั้นเข้าสู่ลมปราณขั้นสิบเอ็ด หานรุ่ยผสานกำลังเรียบร้อยแล้ว จุนห่าวก็กินผลไม้ชิวลัวหนึ่งผล จุนห่าวกินไปหนึ่งคำ สายตาเปล่งประกาย คิดในใจ ผลไม้ชิงลัวนี้ไม่ทำให้เขาผิดหวังจริงๆ รสชาติไม่เลวเลย จากนี้ไป คิดซะว่ามันเป็ผลไม้ไว้ทานเล่น แม้ว่าการกินเพิ่มอีกจะไม่ช่วยให้เราเลื่อนขั้นได้ ทว่ารสชาติดียิ่งนัก หากให้บอกเหตุผลว่า เหตุใดผลไม้ชิวลัวถึงกินแค่ครั้งเดียว นักพรตก็เลื่อนขั้นลมปราณได้ ก็เพราะว่าผลไม้ชิงลัวมีสารพิเศษชนิดหนึ่ง สารพิเศษชนิดนี้สามารถทำลายอุปสรรคสำหรับการเลื่อนขั้นได้ พลังิญญาของผลไม้ชิงลัวทั้งหมดจะถูกนักพรตดูดซับ หากกินเข้าไปอีก สารพิเศษนี้จะมีภูมิคุ้มกัน พลังิญญาของผลไม้ชิงลัวก็จะถูกนักพรตดูดซับได้แต่ิัและขน ความจริงข้อนี้ จุนห่าวก็ไม่เข้าใจ
หลังจากจุนห่าวผสานพลังกับผลไม้ชิงลัวแล้ว ก็เลื่อนขั้นเข้าสู่ขั้นสิบเอ็ดเช่นกัน ความแข็งแกร่งของทั้งคู่ก้าวไปอีกขั้น
จุนห่าวกำกำปั้นอันทรงพลัง คิดในใจ ครั้งนี้หากเขาถูกผู้มีลมปราณขั้นสิบสองห้อมล้อม เขาก็ไม่ต้องให้หานรุ่ยต้องหลบหนีอย่างลำบากใจแล้ว
