เหลียงเซียวได้ตกตาย นี่หมายความว่าหนึ่งในสุดยอดอัจฉริยะได้หายไปหนึ่ง เขาได้พาตนเองมาตายยังสถานที่ไร้ชื่อ ก่อนที่จะมายังที่แห่งนี้ เหลียงเซียวไม่เคยคาดคิดเลยว่านี่จะเป็จุดจบของเขา เขาไม่เคยคาดคิดว่าจะถูกเจียงเฉินสังหาร
่ชีวิตคนเราสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา การต่อสู้ระหว่างเจียงเฉินและเหลียงเซียวได้ทำให้อี้จื่อฮันเข้าใจถึงความจริงบางอย่าง และนั่นหมายความว่าอย่าได้ดูถูกคู่ต่อสู้คนใดก็ตาม หากไม่เช่นนั้นผลที่ตามมานั้นจะร้ายแรงนัก
เจียงเฉินปลดปล่อยััเทวะของเขาเข้าไปยังแหวนมิติของเหลียงเซียว หลังจากที่ผู้คนได้ตกตายลง ััเทวะของคนผู้นั้นย่อมเลือนหายไป ััเทวะของเหลียงเซียวได้เลือนหายไปจากแหวนมิติของเขา ไม่ว่าผู้ใดที่สามารถเก็บแหวนไปได้ก็สามารถเปิดมันได้โดยตรง
เจียงเฉินใช้ััเทวะส่องเข้าไปด้านในแหวนมิติ เขาพบว่าภายในแหวนมิติมีเม็ดยามนุษย์หยวนกองเป็ูเาขนาดย่อม นี่ทำให้เจียงเฉินประหลาดใจนัก
ยิ่งไปกว่านั้น พื้นที่ในแหวนมิติของเหลียงเซียว มีขนาดกว้างกว่าแหวนมิติของเจียงเฉินถึงห้าเท่า เจียงเฉินคาดว่ามีเม็ดยามนุษย์หยวนกว่าสองแสนเม็ดกับเม็ดยาปฐีหยวนอีกสิบเม็ด ถูกเก็บรักษาอยู่ภายในแหวนมิติของเหลียงเซียว
เม็ดยาปฐีหยวนสิบเม็ดเทียบเท่าเม็ดยามนุษย์หยวนหนึ่งแสนเม็ด นั่นก็หมายความว่าข้างในแหวนมิตินั่น มีมูลค่าเม็ดยามนุษย์หยวนถึงสามแสนเม็ด สำหรับผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์แล้ว นี่มันเป็เื่ที่ค่อนข้างเหลือเชื่อ
"ฮ่าฮ่า....สมแล้วที่เหลียงเซียวเป็ยอดอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งนิกายเทียนเจี้ยน ทรัพย์สมบัติมีมากมายมหาศาลนัก แต่ตอนนี้ของทั้งหมดได้ตกเป็ของข้าแล้ว!"
เจียงเฉินหัวเราะอย่างชอบใจในทรัพย์มากมายมหาศาล สังหารแล้วต้องปล้นทรัพย์ ทรัพย์มากมายขนาดนี้ หากไม่รับมันไว้มันคงจะเสียดายแย่
เจียงเฉินได้ถอดแหวนเก็บของบนนิ้วมือของเขา และเก็บมันเข้าไปในแหวนที่ได้จากเหลียงเซียว ด้วยสิ่งนี้ เขาจึงมีพื้นที่ในการเก็บของที่มากยิ่งขึ้น
นอกจากเม็ดยาหยวนจำนวนมากแล้ว ภายในแหวนยังมีสมุนไพรล้ำค่าอีกจำนวนมาก แต่ละต้นอายุไม่ต่ำกว่าร้อยปี ไม่เพียงแค่นี้ เจียงเฉินยังพบตำราสีทองเล่มเล็กๆ เจียงเฉินเอามันออกมาและเห็นสิ่งที่เขียนอยู่บนหน้าปกว่า ทักษะภูผา์
เมื่อฝึกทักษะยุทธนี้จะสามารถใช้ทักษะต่างๆเกี่ยวกับทักษะภูผา์ได้ แม้ว่าจะเป็เพียงทักษะขั้นปฐีระดับต่ำ ถึงอย่างไรก็เป็ทักษะที่ดี มันไม่ใช่เื่ง่ายทีผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์จะได้ทักษะขั้นปฐีระดับต่ำ
อี้จื่อฮันเดินมาหาเจียงเฉิน เขาสงบใจเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า
"น้องเจียงทรงพลังยิ่งนัก แม้แต่เหลียงเซียวยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเ้า! ในตอนนี้รุ่นเยาว์ทั่วทั้งแคว้นฉี ข้าเกรงว่ามีเพียงหนานเป่ยเฉาที่สามารถสู้กับน้องเจียงได้"
"เพียงแค่เหลียงเซียว ข้าไม่เคยเห็นอยู่ในสายตา แต่หนานเป่ยเฉาคนนั้นไม่อาจดูถูกได้ เขาเกิดมาพร้อมโชคชะตาที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่คนอย่างเหลียงเซียวสามารถเทียบได้ ด้วยระดับการบ่มเพาะและความแข็งแกร่งของข้าในตอนนี้ หากต้องเผชิญกับหนานเป่ยเฉา แน่นอนว่าข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา"
ในฐานะที่เป็ยอดนักบุญอันดับหนึ่งในใต้หล้า เจียงเฉินเป็คนหยิ่งยโสถึงที่สุด ตัวตนที่ทำให้เขาจับตามองได้ นั่นสามารถอธิบายได้ว่าหนานเป่ยเฉาร้ายกาจจริงๆ
"ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น! ความเร็วในการเติบโตของเจียงน่าอัศจรรย์นัก! มันอยู่ในจุดที่ใครก็ไม่สามารถคาดคิดได้! ภายในหนึ่งปี เ้ากับหนานเป่ยเฉา ใครสามารถยืนหยัดได้เป็คนสุดท้าย นั้นยากที่จะบอกได้ในตอนนี้!"
ในตอนนี้อี้จื่อฮันยอมรับในตัวเจียงเฉินโดยสมบูรณ์ เขาเป็อัจฉริยะที่แข็งแกร่งและอำมหิตที่สุดที่อี้จื่อฮันเคยพบเจอ
"หนานเป่ยเฉาเป็ผู้ที่มีพร์และศักยภาพที่ไม่ธรรมดา เขาไม่ใช่คนที่จะจมปลักอยู่ในสถานที่เล็กๆไปได้นาน เขามีกลิ่นอายและศักยภาพของผู้ที่จะเป็ราชันย์ คนอย่างเขาไม่ยอมตกเป็เบี้ยล่างภายใต้คนอื่นได้นาน"
เจียงเฉินพูดออกมา เขาสามารถวิเคราะห์คนได้อย่างทะลุปรุโปร่ง หนานเป่ยเฉาเป็อัจฉริยะที่แท้จริง แคว้นฉีเล็กๆแห่งนี้ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขา คนเช่นหนานเป่ยเฉามีความสามารถเพียงพอที่จะจารึกชื่อลงในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน เขาก็จะโดดเด่นเสมอ เจียงเฉินคาดว่าไม่ช้าก็เร็วแคว้นฉีก็จะตกสู่ความโกลาหล
เมื่อคิดเช่นนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะเืเดือดพล่าน ไม่เพียงแต่เขาไม่เกรงกลัวที่จะมีศัตรูที่แข็งแกร่ง เขาก็จะยิ่งตื่นเต้น มีเพียงศัตรูที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่สามารถทำให้เจียงเฉินไม่รู้สึกโดดเดี่ยวบนเส้นทางของเขาได้
"จื่อฮัน ทักษะ'ภูผา์'เ้า้าหรือไม่?"
เจียงเฉินมอบตำราทักษะยุทธให้แก่อี้จื่อฮัน
"นี่เป็ของน้องเจียง จื่อฮันไม่กล้ารับไว้!"
อี้จื่อฮันรีบปฏิเสธ
"รับไว้เถอะ ทักษะภูผา์มันไร้ประโยชน์สำหรับข้า แต่เหลียงเซียวสามารถไปถึงระดับนั้นได้ด้วยทักษะนี้ นั่นก็หมายความว่าทักษะนี่มันค่อนข้างยอดเยี่ยม รับไปสิ ดาบนี่ก็เป็ของเ้าเช่นกัน"
เจียงเฉินยึดดาบจากมือของเหลียงเซียว ยื่นพร้อมกับตำราภูผา์ให้แก่อี้จื่อฮัน
ท่าทีของอี้จื่อฮันเปลี่ยนไปในทันที ของเหล่านี้มันล้ำค่าเกินไป นอกจากทักษะภูผา์แล้ว ยุทธภัณฑ์ระดับสูงเพียงอย่างเดียวถือเป็สมบัติระดับสุดยอดแล้ว แม้แต่ผู้าุโระดับแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ในนิกายเซวียนอี้ยังหาได้ยากที่จะยุทธภัณฑ์ระดับสูงเช่นนี้
"น้องชายเจียง นี่......"
อี้จื่อฮันพยายามที่จะปฏิเสธอีกครั้ง แต่เขาถูกเจียงเฉินหยุดไว้ก่อน
"จื่อฮัน ข้ามอบของพวกนี้แก่เ้า ข้าเห็นเ้าเช่นเดียวกับคนของข้า ตราบที่เ้ายังคงทำงานให้ข้า ในภายหน้าจะมีสิ่งที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่านี้ หากเ้ายังคงยืนกรานปฏิเสธข้า นั่นหมายความว่าเ้าเห็นข้าเป็คนนอกเช่นนั้นรึ?"
"ดี หากเป็เช่นนั้น ข้าจะรับพวกมันไว้ นับแต่นี้ น้องเจียงเพียงแค่บอกข้าว่า้าทำสิ่งใด ต่อให้ข้าต้องบุกน้ำลุยไฟ ข้าก็จะไม่ขมวดคิ้วแม้แต่น้อย"
อี้จื่อฮันรับทักษะภูผา์และยุทธภัณฑ์ระดับสูงไป เขารู้ถึงนิสัยของเจียงเฉินดี เจียงเฉินเป็คนที่มีความคิดเป็ของตัวเอง หากอี้จื่อฮันยังคงยืนกรานปฏิเสธเขา นั่นแสดงว่าเจียงเฉินเป็คนนอก
นอกจากนี้สิ่งที่เจียงเฉินพูดนั้นถูกต้อง ทักษะยุทธและยุทธภัณฑ์นั้นล้วนไร้ค่าสำหรับเขา ความสามารถของเจียงเฉินนั้นทรงพลังยิ่งกว่าทั้งสองสิ่งมากนัก
"ไปกันเถอะ ถึงเวลากลับไปยังนิกายแล้ว"
เจียงเฉินพูดออกมา หลังจากนั้นทั้งสองคนได้ทะยานขึ้นฟ้าอีกครั้ง และมุ่งหน้าไปยังนิกายเซวียนอี้
"น้องเจียง เ้าสังหารเหลียงเซียว ข้ามั่นใจว่านิกายเทียนเจี้ยนไม่ปล่อยเ้าไปง่ายๆเป็แน่"
อี้จื่อฮันพูดอย่างเป็กังวล
"แล้วอย่างไร? หากว่านิกายเทียนเจี้ยนมันล่วงเกินข้า ก็เป็โชคร้ายของพวกมันเอง ด้วยธงโลหิตในมือข้า แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ก็ยากที่จะสังหารข้าได้"
เจียงเฉินแค่นเสียงออกมา เป้าหมายของเขาอยู่ในทวีปศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่ที่เล็กๆอย่างแคว้นฉี แม้แต่ทั่วทั้งทวีปตะวันออกเขายังไม่เห็นอยู่ในสายตา ในความคิดของเขา ทวีปตะวันออกเป็เพียงหินที่เขาต้องเหยียบขึ้นไปเท่านั้น ส่วนผู้ที่ขวางทางเขาต้องพบกับจุดจบที่น่าอนาถ
อี้จื่อฮันกลั้นหายใจหนาวเหน็บ เขารู้สึกได้ถึงความทะนงตัวของเจียงเฉิน นี่เหมือนกับหนานเป่ยเฉา ตัวตนของทั้งคู่จะทำให้แคว้นฉีต้องตกอยู่ในความวุ่นวาย ใครจะคาดคิดว่าม้ามืดที่ปรากฏตัวระหว่างการแข่งขันประจำปีแคว้นฉีจะสามารถเติบโตได้ขนาดนี้ภายในหนึ่งเดือน?
เมื่อถึงเวลาการประลองในอีกหนึ่งปีข้างหน้า ระดับการบ่มเพาะของเขาจะถึงระดับไหน อี้จื่อฮันก็ไม่อาจคาดเดาได้
ภายในนิกายเซวียนอี้ มันเหมือนกับลูกะเิได้ะเิออกมา ข่าวที่เจียงเฉินสังหารราชันย์จันทราโลหิตและปีศาจโลหิตทั้งหมดได้มาถึงนี่แล้ว บรรดาศิษย์รู้สึกตกตะลึงอย่างมาก เจียงเฉินได้ทำภารกิจที่เป็ไปไม่ได้ให้สำเร็จลงได้ เป็อีกครั้งที่เขาได้สร้างปาฏิหารย์ให้เกิดขึ้น
มันเป็ข่าวที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ทุกคน แต่ไม่มีผู้ใดสามารถรู้สึกตื่นเต้นไปกับมันได้ เพราะว่าทุกคนรู้ดีว่านิกายเซวียนอี้ต้องตกอยู่ในความวุ่นวายอีกครั้ง ด้วยบุคลิกของเจียงเฉินเมื่อเขากลับมายังนิกายเซวียนอี้และได้ทราบเื่ที่เกิดขึ้นกับเยี่ยนเฉินหยวี่และฮันหยาน ไม่มีใครสามารถคาดคิดได้ว่าเจียงเฉินจะทำอย่างไรต่อไป
"เพียงไม่กี่วัน เขาได้สังหารปีศาจโลหิตทั้งหมด! แม้แต่ราชันย์จันทราโลหิตยังถูกเขาสังหาร! เจียงเฉินผู้นี้ท้าทาย์นัก! ในตอนนี้เขาได้ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้์อีกด้วย ข้าสงสัยว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน เขาเป็อัจฉริยะไร้ที่เปรียบที่ไม่อาจพบเจอในรอบหมื่นปี"
"การกวาดล้างปีศาจโลหิต นี่เป็ภารกิจระดับสูงสุดของนิกายเซวียนอี้ เมื่อท่านผู้นำนิกายออกจากการปิดด่านบ่มเพาะพลัง ข้ามั่นใจว่าเขาจะต้องมอบรางวัลให้แก่เจียงเฉินอย่างงาม! ภารกิจนี้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของแคว้นฉี ซึ่งเจียงเฉินประสบความสำเร็จอย่างงดงาม!"
"ไม่ต้องพูดถึงรางวัลหรอก เยี่ยนเฉินหยวี่กับฮันหยานได้รับาเ็สาหัส สถานการณ์เป็ตายเท่ากัน! ด้วยบุคลิกของเจียงเฉิน เมื่อเขากลับมายังนิกายเซวียนอี้ ข้ามั่นใจว่าเขาไม่ยอมให้เื่นี้จบลงง่ายๆเป็แน่"
"ถูกแล้ว เมื่อเจียงเฉินกลับมาและรู้ข่าว ข้ามั่นใจว่าเขาต้องะเิโทสะออกมา และนิกายเซวียนอี้จะตกสู่ความโกลาหลอีกครั้ง!"
"เจียงเฉินมีผลงานจากการกวาดล้างปีศาจโลหิตทั้งหมด ดังนั้นผู้นำนิกายจึงต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้เขาสงบลง แต่ เฝินคุน มีปู่ที่แข็งแกร่งของมันหนุนหลังอยู่ เื่นี้ยากที่จะแก้ไขได้"
ทุกคนต่างพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะมาถึง เจียงเฉินได้สังหารปีศาจโลหิตทั้งหมดลงและกลับมาอย่างวีรบุรุษ ภายในนิกายเซวียนอี้ นี่เป็สิ่งที่ทุกคนควรจะเฉลิมฉลอง แต่ในตอนนี้ความยินดีเ่าั้ได้แปรเปลี่ยนเป็เื่ยากจะพูดถึง
บนยอดของูเากั๋วฉาน
กั๋วฉานมองไปยังคนทั้งคู่ที่นอนอยู่บนเตียง เขาอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวแล้วถอนหายใจออกมา และพูดว่า
"ข้าพยายามเต็มที่แล้ว...ใช้สมุนไพรที่มีทั้งหมด ข้าได้ปรุงยาออกมาถึงสามชนิดแต่ทำได้เพียงยืดชีวิตออกไปเท่านั้น แต่ไม่อาจที่จะช่วยชีวิตของพวกเขาไว้ได้...."
กั๋วฉานดูแก่ขึ้นหลายร้อยปี ทั้งๆที่ผ่านไปเพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้น เขาได้ใช้เวลาทั้งหมดของเขาในการปรุงยาขณะที่ส่วนลึกข้างในกำลังร่ำไห้ เมื่อเจียงเฉินกลับมา เขาไม่รู้จะสู้หน้าเจียงเฉินได้อย่างไร
อาการาเ็ของเยี่ยนเฉินหยวี่กับฮันหยานสาหัสมาก ในวันนั้น เพื่อที่จะรักษาความบริสุทธิ์ไว้ นางจึงตัดสินใจตัดขั้วหัวใจของนาง แม้แต่ความสามารถของกั๋วฉาน เขาทำได้เพียงแค่ยื้อชีวิตนางไว้เท่านั้น แต่ไม่อาจทำให้นางฟื้นขึ้นมาได้
"เฝินคุน เฝินจงถัง พวกเ้าทั้งคู่เตรียมตัวรับความพิโรธของเจียงเฉินให้ดีเถอะ!"
เปลวไฟลุกโชนออกมาจากดวงตาของกั๋วฉาน เขากำหมัดแน่น ไม่มีใครรู้ถึงความน่ากลัวของเจียงเฉินดีเท่าเขา การเป็ศัตรูกับเจียงเฉินเป็สิ่งที่เลวร้ายที่สุด เขาเป็ชายหนุ่มแห่งปาฏิหารย์ กั๋วฉานเชื่อมันในสิ่งนี้
สามารถที่จะสังหารราชันย์จันทราโลหิตได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถที่ยอดเยี่ยมของเจียงเฉิน
ในเวลาเดียวกัน
ภายในเขตในนิกายเซวียนอี้ เรือนที่พักของเฝินจงถัง
"ทำไมมันถึงตายยากตายเย็นอย่างนี้? แม้แต่ราชันย์จันทราโลหิตยังไม่อาจฆ่ามันได้ แถมยังถูกเจียงเฉินฆ่าตายเสียอีก"
เฝินจงถังมีท่าทีไม่พอใจ
"ไม่ต้องกังวลท่านปู่ เจียงเฉินสังหารราชันย์จันทราโลหิตลงได้เป็แค่ความบังเอิญเท่านั้น อย่างมาก มันก็เป็แค่เพียงผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์ขั้นต้นเท่านั้น เหลียงเซียวแห่งนิกายเทียนเจี้ยนดักรอเจียงเฉินอยู่ที่ทางกลับ ด้วยความสามารถของเขาถึงแม้มีเจียงเฉินสิบคน เขาก็สามารถสังหารมันได้อย่างง่ายดาย ข้ามั่นใจว่าเจียงเฉินไม่มีวันกลับมาถึงนิกายเซวียนอี้ได้แน่"
เฝินคุนพูดอย่างมั่นใจ พร้อมทั้งรอยยิ้มชั่วร้ายประดับบนใบหน้าของมัน มันไม่รู้เกี่ยวกับราชันย์จันทราโลหิตมากนัก แต่มันรู้จักเหลียงเซียวดี อัจฉริยะอันดับหนึ่งจากนิกายเทียนเจี้ยน หนึ่งในสี่สุดยอดอัจฉริยะแห่งแคว้นฉี สำหรับเขา การสังหารเจียงเฉินนับว่าง่ายดายยิ่งนัก
เฝินคุนเชื่อมั่นอย่างมากว่าเจียงเฉินต้องตายอย่างแน่นอน ทันใดนั่นเอง ได้ปรากฏร่างสองร่างขึ้นภายนอกนิกายเซวียนอี้
