เซี่ยเจิงไม่ได้เอ่ยคำใดออกมา แล้วรีบประกบจูบไปบนริมฝีปากของชวีเสี่ยวปอหนึ่งที แต่ก็ยังคงพูดขึ้นมาอย่างรู้สึกเศร้าอยู่เล็กน้อย : “พอขาหายดีแล้วทำคืนฉันด้วยนะ”
ชวีเสี่ยวปอเลียริมฝีปาก “ไม่ใช่แค่ทำคืน ฉันยังมีความคิดที่หน้าไม่อายอยู่ด้วยนะ นายอยากจะฟังสักหน่อยไหมล่ะ”
ทั้งสองคนผลัดกันพูดเื่อย่างว่าสลับกันไปมาอยู่พักใหญ่ และสุดท้ายก็จบลงด้วยการที่เซี่ยเจิงพาชวีเสี่ยวปอมาส่งที่หน้าประตูหมู่บ้าน ชวีเสี่ยวปอโบกมือทั้งยังส่งจูบให้เซี่ยเจิงด้วยหนึ่งที ส่วนเซี่ยเจิงเองก็ทำกลับไปเช่นเดียวกัน แล้วจึงะโออกมาว่า : “เจอกันพรุ่งนี้นะ”
แต่ผลสุดท้ายทั้งสองคนก็ไม่มีใครยอมเดินจากไปก่อนเลยสักคน
เมื่อก่อนชวีเสี่ยวปอเคยคิดว่าคนมีความรักที่มักจะพูดวนไปวนมาอยู่พักหนึ่งว่า “คุณไปเถอะ” “ไม่เอา คุณไปก่อน” “ไม่ คุณไม่ไปฉันก็ไม่ไปเหมือนกัน” อะไรเหล่านี้มันดูปัญญาอ่อนมาก แต่พอเมื่อเขาเป็เช่นนั้นเอง ชวีเสี่ยวปอก็รู้สึกสองมาตรฐานขึ้นมาทันที ที่แท้แล้วนี่เป็สภาพปกติทั่วไปของสิ่งที่เรียกกันว่า “ความชอบ” และเขากับเซี่ยเจิงก็ยังคงโบกมือไปมาพร้อมทั้งะโอยู่ตรงนั้นประมาณห้านาทีได้
ท้ายที่สุดเซี่ยเจิงจึงพูดขึ้นว่า “กลับเข้าไปเถอะ ฉันเห็นนายไปแล้วฉันถึงค่อยไป” ในตอนนั้นเองชวีเสี่ยวปอถึงได้เดินกะเผลกกลับบ้านไป
ก่อนหน้านี้ที่เวินลี่บอกว่าจะหาคุณครูสอนพิเศษให้ชวีเสี่ยวปอ ตอนนี้ได้เริ่มคืบหน้าเป็ที่เรียบร้อยแล้ว
ในเช้าวันเสาร์ ชวีเสี่ยวปอถูกเวินลี่ลากออกมาจากในผ้าห่ม และให้เวลาเขาห้านาทีในการล้างหน้าแปรงฟัน
เมื่อวานนี้ชวีเสี่ยวปอวิดีโอคอลกับเซี่ยเจิงจนถึงดึก ทั้งยังไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปั้แ่เมื่อไหร่ ในตอนที่เพิ่งจะตื่นขึ้นมาถึงได้พบว่าโทรศัพท์มือถือได้แบตหมดและปิดเครื่องไปเป็ที่เรียบร้อยแล้ว คิดว่าน่าจะเปิดมาตลอดทั้งคืน... แต่ทว่าในตอนนี้ชวีเสี่ยวปอไม่มีเวลาที่จะไปคิดถึงเื่พวกนี้แล้ว นอกจากสมองเขาจะยังไม่ตื่นตัวดีเท่าไหร่นัก ยิ่งไปกว่านั้นเวินลี่ก็เอาแต่บ่นพึมพำไม่หยุดั้แ่เขาตื่นขึ้นมา
“อีกเดี๋ยวคุณครูก็จะมาแล้วลูกรู้ไหมเนี่ย? ไม่ต้องนอนแล้ว รีบลุกขึ้นมาทำตัวให้สดชื่น จะไปเจอคุณครูก็ต้องมีมารยาทหน่อยสิ” เวินลี่ดึงชวีเสี่ยวปอที่เพิ่งจะลุกขึ้นมาจากเตียงและหัวทิ่มลงไปขึ้นมาอีกครั้ง แล้วจึงตัดสินใจจับศีรษะของลูกชายให้ตั้งตรงเพื่อบังคับให้ชวีเสี่ยวปอฟังสิ่งที่เธอพูด “แม่จะบอกอะไรให้ ครูคนนี้เก่งสุดๆ แม่ยืนยันรับประกันจากที่ถามมาหลายคนหลายบ้าน! ล้วนพูดเป็เสียงเดียวเลยว่าเขาสอนดีมาก”
ชวีเสี่ยวปอหลับตาลง ยังคงนึกย้อนกลับไปอยู่ว่าตัวเองนอนหลับไปั้แ่ตอนไหนกันแน่ จากนั้นด้านหลังของเขาก็ถูกฝ่ามือของเวินลี่ตีลงมาหนึ่งทีดังป้าบ
“ไอ้ลูกคนนี้นี่ แม่พูดกับลูกอยู่เนี่ยได้ยินไหม? ”
“ได้ยินแล้ว ได้ยินแล้วครับ” ชวีเสี่ยวปอเกาไปตรงบริเวณที่ถูกตี พึมพำขึ้นมาประโยคหนึ่งแล้วก็หลับตาลงอีกครั้ง “คุณครูมากี่โมงครับ? ให้ผมนอนต่ออีกหน่อยนะ”
เก้าโมง คุณครูมาตรงเวลาพอดีเปะ
ทดลองเรียนคาบแรก
เวลาหนึ่งชั่วโมง ความจริงแล้วผ่านไปไวเพียงแค่ชั่วพริบตา แต่สำหรับเวินลี่แล้วกลับไม่ได้เป็เช่นนั้น เธอเดินวนกลับไปกลับมาอยู่ที่หน้าห้องนอนของชวีเสี่ยวปออยู่หลายครั้ง ทั้งยังอยากที่จะเปิดประตูเข้าไปดูสักหน่อย แต่ก็เกรงว่าจะบุ่มบ่ามเข้าไปรบกวนการสอน จนกระทั่งท้ายที่สุดคุณป้าแม่บ้านทนดูต่อไปไม่ไหว จึงชงชาให้เธอแก้วหนึ่งให้เธอได้ผ่อนคลายลงเล็กน้อย ในตอนนั้นเองเวินลี่ถึงได้เดินลงมาชั้นล่างทั้งที่ยังคงเป็กังวล
ในที่สุด เวลาสิบโมงกว่านิดๆ ชวีเสี่ยวปอและคุณครูก็เดินออกมาพร้อมกัน ทันทีที่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวเวินลี่ก็รีบลุกขึ้นมาราวกับว่าเป็การตอบสนองแบบมีเงื่อนไข เธอพูดคุยกับคุณครูอยู่นานสองนาน จากนั้นจึงเดินออกไปส่งเขา ในตอนที่หันหลังกลับมา ชวีเสี่ยวปอกำลังนั่งยกขาไขว่ห้างพลางกัดแอปเปิลอยู่บนโซฟา
“เป็ยังไงบ้าง? ” เวินลี่ถาม
“ไม่ได้ครับ” ชวีเสี่ยวปอไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามอง ยังคงกัดแอปเปิลเสียงดังกรอบ
“ไม่ได้? ” เวินลี่ประหลาดใจ “แม่ก็เห็นว่าครูเขาดูโอเคอยู่นะ? ลูกคิดว่าเขาสอนไม่ดีหรือว่า...”
“สอนดีครับ แต่ผมรู้สึกว่าไม่ได้” ชวีเสี่ยวปอพูดขึ้น “ยังไงก็รู้สึกว่าไม่เหมาะกับผมนั่นแหละ”
“ลูกคิดว่าแม่ให้ลูกไปดูตัวหรือไง ยังมีเหมาะไม่เหมาะด้วย? ” หลังจากพูดจบเวินลี่ก็รู้สึกว่าไม่ค่อยจะเหมาะสมเท่าไหร่นัก จึงรีบเปลี่ยนคำพูดใหม่ขึ้นมาทันที : “นี่มันครูสอนพิเศษ เขาสอนดี ลูกเรียนเข้าใจก็พอแล้วไหม !”
“ไม่ว่ายังไงก็ไม่เหมาะครับ” ชวีเสี่ยวปอี้เีจะอธิบายให้เวินลี่ฟัง ที่จริงเขาก็ไม่ได้ไม่พอใจอะไรคุณครูท่านนี้ แต่ส่วนตัวเขาแค่รู้สึกว่าออร่าของครูสอนพิเศษท่านนี้ไม่ถูกต้องสักเท่าไหร่ เพราะเพิ่งจะเรียนได้แค่หนึ่งชั่วโมงก็ทำให้เขารู้สึกอึดอัดไปทั้งตัว เช่นนี้สู้เรียนในคาบกับคุณครูที่โรงเรียนยังจะดีกว่า
“ลูกนี่นะ !” เวินลี่จนปัญญา อยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็รู้สึกว่าคงจะไม่มีประโยชน์ ใครใช้ให้ก่อนหน้านี้เธอไปพูดรับปากชวีเสี่ยวปอว่าเื่การเลือกครูสอนพิเศษต้องทำตามความ้าของเขากันล่ะ? ถึงแม้ในตอนนี้เวินลี่จะกำลังสงสัยลูกชายของเธอว่าอีกเดี๋ยวก็คงจะเอาแต่ใช้คำว่า “ผมไม่ชอบ” เหตุผลนี้เพื่อมาปฏิเสธเธออย่างขอไปที แต่ปากก็ยังคงพูดออกไปว่า : “ถ้างั้นเดี๋ยวแม่หาครูคนใหม่ให้ !”
ชวีเสี่ยวปอพยักหน้าเห็นด้วย แล้วจึงทำท่าชู้ตบาสโยนแกนแอปเปิลลงไปในถังขยะอย่างแม่นยำ ก่อนที่จะลุกเดินขึ้นห้องไป
ขั้นแรกคือ ชาร์จแบตโทรศัพท์
ขั้นที่สองคือ เปิดแอปพลิเคชันสนทนาขึ้นมา
ขั้นที่สาม...อืม แล้วก็เป็อย่างที่คิดเซี่ยเจิงส่งข้อความมา
ก่อนที่ชวีเสี่ยวปอจะกดเปิด เขาเองก็คิดไม่ถึงว่าจะเป็เช่นนี้
เซี่ยเจิงส่งรูปภาพมาสองรูป
ทั้งสองรูปเป็ภาพแคปหน้าจอในตอนที่ชวีเสี่ยวปอหลับไปแล้ว
เวลาตอนตีสาม
เซี่ยเจิง : “หมูน้อยตัวนี้มาจากไหนเนี่ย”
ชวีเสี่ยวปอซูมภาพดูครั้งหนึ่ง เพื่อตรวจให้แน่ชัดว่าท่านอนของตัวเองยังพอดูได้อยู่ ไม่ได้น้ำลายไหลยืดออกมา
แต่หลังจากตรวจดูเสร็จก็รู้สึกว่าไม่มีประโยชน์อะไร เขากับเซี่ยเจิงเคยนอนด้วยกันแล้ว ทั้งยังกลิ้งพลิกตัวพาดแขนพาดขาไปมาบนเตียงเล็กนั้นของเซี่ยเจิงมาก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้วเขาจะยังต้องสนใจเื่ไร้สาระเพียงเล็กน้อยนี้อีกทำไมกัน
ชวีเสี่ยวปอพิมพ์ลงไปสามคำอย่างไม่ลังเลว่า “แฟนนายไง” แล้วจึงส่งออกไป
หลังจากที่ส่งไปเขาก็รู้สึกเหมือนว่าจะตกหลุมพรางของเซี่ยเจิงเข้าให้แล้ว
“ตื่นแล้วเหรอ? ” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เซี่ยเจิงตอบกลับมาเร็วมากราวกับว่ากำลังรอข้อความจากชวีเสี่ยวปออยู่อย่างไรอย่างนั้น
ชวีเสี่ยวปอไม่ได้รีบร้อนตอบกลับ แต่ลุกขึ้นไปปิดประตูห้องนอน ในตอนนั้นถึงได้ส่งข้อความเสียงไป
“ไม่ใช่แค่ตื่นนะ ยังเรียนเสริมไปด้วยวิชาหนึ่ง”
เซี่ยเจิงตอบกลับมาเพียงสามคำ “สะดวกไหม? ”
ชวีเสี่ยวปอจึงวิดีโอคอลหาเขาให้เห็นเขาในทันที
เซี่ยเจิงปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอด้วยผมเผ้าที่ดูยุ่งเหยิงไปทั้งศีรษะ เมื่อเห็นเซี่ยเจิงยังคงนอนอยู่บนเตียง อีกทั้งท่าทางงัวเงียเนื่องจากเพิ่งตื่น ชวีเสี่ยวปอจึงขยับโทรศัพท์มือถือมาส่องไปทั้งตัวของตัวเองรอบหนึ่งอย่างโอ้อวด แล้วจึงหัวเราะพลางพูดขึ้นว่า :
“ตื่นเช้ากว่านายอีก”
“หมูน้อยที่ตื่นเช้าก็จะมีหนอนให้กิน” เซี่ยเจิงยกแขนขึ้นมาไว้ใต้ศีรษะ
“มันพูดแบบนั้นเหรอ? ” ชวีเสี่ยวปอะเิเสียงหัวเราะดังออกมา จ้องมองไปยังเส้นกล้ามเนื้อที่เชื่อมต่อกันอย่างไหลลื่นบนต้นแขนของเซี่ยเจิง ปกติแล้วตอนนอนเซี่ยเจิงจะใส่เสื้อผ้าอยู่บ้างเล็กน้อย ส่วนชวีเสี่ยวปอจะชินกับการใส่กางเกงในเพียงแค่ตัวเดียว แต่ตอนที่อยู่บ้านเซี่ยเจิงเขาไม่เคยทำเช่นนั้นมาก่อนเลย ทว่าในตอนนี้เห็นได้ชัดว่าท่อนบนของเซี่ยเจิงไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าอยู่ นอกจากจะเผยให้เห็นต้นแขนของเขาแล้ว ยังมีหัวไหล่เพียงเล็กน้อยที่โผล่พ้นผ้าห่มออกมา และกระดูกไหปลาร้าที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน
ชวีเสี่ยวปอเลียริมฝีปากอย่างไม่เป็ตัวของตัวเอง แล้วจึงถามไปว่า : “นายยังไม่ตื่นอีกเหรอ? ”
“ตื่นมาก็ไม่มีอะไรให้ทำ” เซี่ยเจิงตอบ “พูดเื่ที่นายเรียนเสริมดีกว่า? ”
“ก็ไม่มีอะไรมาก” ชวีเสี่ยวปอเกาศีรษะ ทั้งยังรู้สึกไม่เป็ธรรมชาติขึ้นมา : “แค่แม่ฉันให้ครูมาสอนพิเศษที่บ้านน่ะ”
“ครูสอนพิเศษ? ” เซี่ยเจิงคาดไม่ถึงเลยจริงๆ “ถ้างั้นเมื่อกี้ก็เรียนพิเศษไปแล้ว? ”
“ก็เรียนไปแล้วนี่แหละ” ชวีเสี่ยวปอเกาศีรษะต่อ “ทดลองเรียนคาบหนึ่งน่ะ แต่รู้สึกว่าไม่ค่อยเหมาะสักเท่าไหร่”