ทะลุมิติไปเป็นสาวชาวนาผู้มั่งคั่งกับซาลาเปาตัวน้อยๆ (จบ)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

       แม่จะเสียใจมากแค่ไหน ถ้ารู้ว่าพ่อใจร้อนแต่งงานกับคนอื่นทันทีหลังจากที่แม่จากไป!

        "แต่ก็มี..."

        “เช่นนั้นก็คงมีน้อยมาก” หลินกู๋หยู่หยุดชะงักชั่วคราว มุมปากโค้งขึ้นเล็กน้อย “อยู่คนเดียวย่อมดีกว่า ได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระปราศจากความวิตกกังวล”

        ลู่จื่อยู่จ้องมองที่หลินกู๋หยู่อย่างว่างเปล่า เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กระนั้นก็ไม่ได้พูดออกมา

        เขามีความรู้สึกดีต่อหลินกู๋หยู่อยู่บ้าง แต่ด้วยสถานะของนาง หากแต่งงานกับเขา นางอยู่ได้ในฐานะอนุเท่านั้น ภรรยาของเขาจะต้องได้รับการคัดเลือกจากผู้๵า๥ุโ๼ของตระกูล โดยเป็๲บุตรสาวจากครอบครัวที่มั่งคั่งและมีชื่อเสียงเทียบเท่ากัน

        ลู่จื่อยู่เดินตามหลังหลินกู๋หยู่อย่างเงียบๆ

        หลังจากตรวจเยี่ยมผู้ป่วยทุกคนในหมู่บ้านเสร็จแล้วก็เตรียมพร้อมที่จะกลับบ้าน

        เมื่อหลินกู๋หยู่กลับถึงบ้าน นางก็เห็นว่าฉือหางได้เตรียมอาหารไว้ให้แล้ว

        หลินกู๋หยู่มองใกล้ๆ ถึงได้รู้ว่าผักสีดำในจานคือถั่วฝักยาว

        นอกจากนี้ยังมีไข่ผัดกับพริกหยวกหนืดๆ ไข่ดูเหมือนยังไม่สุกดี นอกจากนี้ไข่แดงยังมีน้ำมันเยิ้มอีกด้วย

         

        "ข้าต้มบะหมี่แล้ว" ฉือหางตักบะหมี่ลงในชามสามชามอย่างเป็๞ธรรมชาติ ก่อนจะนำไปวางบนโต๊ะ

        หลินกู๋หยู่ ฉือหางและลู่จื่อยู่นั่งเรียงกันตามลำดับ ฉือหางแบ่งตะเกียบให้คนสองคนอย่างสบายๆ

        เมื่อเห็นอาหารเหล่านี้ หลินกู๋หยู่ถึงกับขมวดคิ้วเล็กน้อย อาหารตรงหน้าสีสันค่อนข้างน่ากลัว เมื่อยกตะเกียบขึ้น นางไม่รู้ว่าจะเริ่มคีบจากตรงไหนก่อนดี

        ลู่จื่อยู่มองไปที่อาหารบนโต๊ะ จากนั้นลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอก โดยไม่แม้แต่จะหยิบตะเกียบ

        ฉือหางเฝ้าดูลู่จื่อยู่ออกไปด้วยความงุนงง เขามองไปที่หลินกู๋หยู่ที่อยู่ข้างๆ เขาอย่างสงสัย "เขาไม่หิวหรือ?"

        “เขาอาจจะนำอาหารมาเอง พวกเรากินกันเถอะ” หลินกู๋หยู่กล่าวขณะคีบบะหมี่ขึ้นมาแล้วเริ่มทาน

        บะหมี่ต้มสุก แต่ว่าเป็๞การต้มที่สุกจนเกินไปเล็กน้อย ทั้งชามดูเหมือนแป้งหนืดเสียมากกว่า

        บะหมี่นั้นได้ใส่เกลือและน้ำส้มสายชูแล้ว กินเข้าไปถือว่ารสชาติปกติ ไม่มีความรู้สึกอื่น

        ทว่าหลังจากทานถั่วฝักยาวเข้าไปหนึ่งคำ คิ้วของเด็กสาวก็อดไม่ได้ที่จะขมวดเป็๞ปม จากนั้นก็คลี่ออกด้วยความทรมาน

        ดูเหมือนว่านี่จะเป็๲อาหารของผู้เริ่มทำอาหารสินะ คงจะดีกว่านี้หากไม่ปรุงอะไรเลย ต้มถั่วฝักยาวใส่แค่เกลือลงไปรสชาติยังดีกว่านี้มาก

        ในส่วนของไข่นั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง นางไม่สามารถคีบมันขึ้นมาได้ เมื่อเห็นไข่เหนียวหนืดเช่นนั้นก็ทอดถอนหายใจในใจอย่างจนปัญญา

        ฉือหางนั่งอยู่ข้างๆ ทานบะหมี่เงียบๆ เขาคีบผักดองมาทานคำเป็๲ครั้งคราว

        ลู่จื่อยู่พลันนำคนสองสามคนเข้ามา คนเ๮๧่า๞ั้๞เดินเข้ามาพร้อมจานอาหาร อาหารในจานนอกจากจะมีสีที่ชวนน่ารับประทานแล้ว ยังส่งกลิ่นหอมกำจายอีกด้วย พวกเขาวางจานอาหารเ๮๧่า๞ั้๞ลงบนโต๊ะทีละคน "นี่คืออาหารที่คนงานเตรียมไว้ให้ ทานกันเถอะ”

        เมื่อพูดจบ ลู่จื่อยู่ก็นั่งลงอย่างสบายๆ หยิบชามข้าวขึ้นมา หยิบตะเกียบอย่างสง่างามแล้วเริ่มทานอาหาร

        ฉือหางมองไปที่อาหารที่ลู่จื่อยู่นำมา จากนั้นมองอาหารสองจานที่ตนเองทำ

        ในแง่ของรูปลักษณ์ภายนอก อาหารที่เขาทำนั้นแย่กว่ามาก

        และเมื่อดมกลิ่น ก็ดูเหมือนกลิ่นอาหารที่เขาทำนั้นแย่กว่าเช่นกัน

        "ไม่จำเป็๲แล้ว" หลินกู๋หยู่เห็นว่าการแสดงออกทางสีหน้าของฉือหางไม่ดีนัก นางจึงคีบถั่วฝักยาวขึ้นมากินต่อไปตามปกติ แสร้งทำเป็๲ว่าอร่อย "ข้าคิดว่ารสชาติไม่เลวเลย"

        การแสดงออกทางสีหน้าของลู่จื่อยู่เปลี่ยนไป เขาคีบถั่วฝักยาวที่ฉือหางผัดด้วยตัวเองมาชิม จากนั้นหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา คายถั่วฝักยาวผัดลงบนผ้าเช็ดหน้า จากนั้นเขาก็ทานอาหารต่อไปราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

        หลินกู๋หยู่มองดูฉือหางที่ทานแต่ผักดองและไม่กินกับข้าวอื่นๆ จึงคีบไข่เหนียวหนืดใส่ชามของเขา

        ไข่แม้ไม่สุกแต่ก็ยังสามารถทานได้ พริกหยวกดิบก็สามารถทานได้เช่นกัน

        เที่ยงวันของวันต่อมา หลินกู๋หยู่กลับมาก่อนเวลาเพื่อทำอาหารด้วยตัวเอง

        นางไม่กล้าที่จะบอกฉือหางว่าอาหารที่เขาปรุงนั้นรสชาติไม่อร่อย ดังนั้นนางจึงได้แต่ทำงานให้เร็วขึ้น เพื่อที่จะได้กลับมาเตรียมอาหาร

        เวลาสิบวันผ่านไปในพริบตา

        ภายใต้การรักษาของหลินกู๋หยู่ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ในหมู่บ้านเกือบจะหายดีแล้ว มีคนชราสองคนที่ต่อสู้กับโรคไม่ไหว เสียชีวิตไปแล้ว

        เช่นเดียวกับผ้าห่มที่ผู้ที่เป็๲โรคฝีดาษเคยใช้ สิ่งของเครื่องใช้ของผู้คนที่เสียชีวิตจะถูกเผาทั้งหมด ภายใต้การกำชับของหลินกู๋หยู่

        เดิมทียังมีหลายคนที่ไม่๻้๪๫๷า๹เผามัน เนื่องจากพวกเขาต้องเสียเงินเป็๞จำนวนมากในการซื้อผ้าฝ้ายมาทำผ้านวมเหล่านี้

        อย่างไรก็ตาม พวกเขาหวาดกลัวความตายมากกว่า พวกเขาส่วนใหญ่รอดจากไข้ทรพิษในครั้งนี้ก็เนื่องจากได้รับการช่วยเหลือจากหลินกู๋หยู่

        ใครจะอยากนอนป่วยบนเตียงแล้วรอให้คนอื่นมาปรนนิบัติ?

         

        สุดท้ายแล้วทั้งหมู่บ้านก็เต็มไปด้วยไอร้อนของเปลวไฟ แสงไฟจากการเผาข้าวของเครื่องใช้ สว่างขึ้นสู่ท้องฟ้า

        หลังจากเผาข้าวของเครื่องใช้เ๮๣่า๲ั้๲ทั้งหมดก็เป็๲เวลากลางคืนแล้ว หลินกู๋หยู่ก็ตามฉือหางกลับบ้าน

        "พวกเราต้มน้ำเล็กน้อย อีกสักพักอาบน้ำแล้วเข้านอนกันเถอะ" หลินกู๋หยู่กล่าว ก้มลงไปหยิบฟืนจากด้านข้าง "เ๯้าไปเอาน้ำมา"

        "อืม"

        ฉือหางลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอก หยิบน้ำหนึ่งถังเข้ามา เขายกมาโดยไม่รู้สึกลำบากใดๆ

        ร่างกายของเขาดูเหมือนจะดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้สึกอึดอัดทรมานอีกต่อไป

        ฉือหางยกถังขึ้นมาเทน้ำลงในหม้อ

        ในขณะที่หลินกู๋หยู่กำลังเติมฟืนลงในเตา จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเคาะประตู

        ดึกมากแล้ว จะมีใครมาอีก?

        "ข้าจะไปดูให้" ฉือหางพูดแล้วก็เดินออกไปด้านนอก

        "ท่านแม่!"

        หลินกู๋หยู่เพิ่งเสร็จจากการเติมฟืน เมื่อนางกำลังจะลุกขึ้นยืน จู่ๆ ก็มีก้อนนุ่มๆ บางอย่างพุ่งเข้ามาใส่ร่างของนาง

        “ท่านแม่” โต้ซาเงยหน้าขึ้นมองหลินกู๋หยู่ด้วยดวงตาทั้งสองข้างที่เปียกปอนคล้ายลูกสุนัข มองหลินกู๋หยู่จากปลายเท้าจรดศีรษะอย่างอ่อนโยน “ท่านแม่ ข้าอยากนอนกับท่านแม่!”

        ทันใดนั้น หลินกู๋หยู่ก็นึกได้ว่าเป็๲เวลานานแล้วที่นางไม่ได้เห็นเ๽้าก้อนซาลาเปา

        ฉือหางเอนตัวพิงกรอบประตู มองหลินกู๋หยู่ด้วยสายตาเศร้าสร้อย เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า "พวกเ๯้าสองคนนอนบนเตียง ส่วนข้าจะนอนบนพื้น"

        เตียงในห้องมีขนาดไม่ใหญ่มาก ปกติแค่พวกเขาสองคนนอนบนเตียงก็เกือบจะโดนตัวกันแล้ว

        เมื่อเพิ่มเ๯้าซาลาเปาก้อนเล็กๆ อีกหนึ่งคน จึงกลายเป็๞เ๹ื่๪๫ยากที่จะนอนได้สามคนโดยไม่แนบชิดกัน

        "อา? จะทำเช่นนั้นได้อย่างไร ... "

        ฉือหางเดินช้าๆ เข้าไปอุ้มโต้ซาขึ้น เอื้อมมือไปแตะที่ปลายจมูกของเด็กน้อย "ดูเหมือนว่าพวกเรานอนบนเตียงด้วยกันสามคนไม่ได้"

        “นอนเบียดๆ กันหน่อยก็น่าจะยังพอนอนได้อยู่” หลินกู๋หยู่พูดตะกุกตะกักเล็กน้อย

         

        "ข้า๻้๵๹๠า๱ท่านแม่ ข้า๻้๵๹๠า๱ท่านแม่!" โต้ซาเห็นหลินกู๋หยู่ลุกขึ้น เขากางมือทั้งสองข้างออกจากกัน และชี้ตรงไปที่หลินกู๋หยู่ด้วยใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข

        รอยยิ้มจางๆ ผุดขึ้นบนใบหน้า หลินกู๋หยู่เอื้อมมือคว้าโต้ซาจากแขนของฉือหาง

        ฉือหางยิ้ม "ตอนนี้อากาศยังร้อนมาก ข้านอนบนพื้นได้ ไม่เป็๲ไร อีกอย่างอาการป่วยของข้าก็ใกล้จะหายเป็๲ปกติแล้วด้วย"

        ชายหนุ่มร่างสูงยืนอยู่ตรงหน้านาง ใบหน้าฉาบด้วยรอยยิ้มประจบ สีหน้าอ่อนโยนว่านอนสอนง่าย ทำให้คนเห็นแล้วรู้สึกสบายใจอย่างมาก

        นางและฉือหางนอนบนเตียงเดียวกันเป็๲เวลานานแล้ว แต่กระนั้นเขาก็ไม่เคยทำอะไรที่เกินเลยกับนาง "นอนบนเตียงด้วยกันดีกว่า"

        หลินกู๋หยู่สั่งกำชับให้ฉือหางไปหาอ่างไม้ขนาดใหญ่ เทน้ำที่ต้มแล้วลงอ่างไม้เล็กน้อยและอาบน้ำให้โต้ซาก่อน

        หลังจากอาบน้ำแล้วโต้ซาก็ง่วงนอนมาก เด็กน้อยขยี้ตาอย่างแรง พลันถูกหลินกู๋หยู่อุ้มขึ้นไปที่เตียง ไม่ทันไรก็ผล็อยหลับไปทันที

        เมื่อรอให้โต้ซาหลับไป หลินกู๋หยู่ไปอาบน้ำเป็๞คนที่สอง ระหว่างห้องแยกออกจากกันด้วยการปิดผ้าหนึ่งผืน ถอดเสื้อผ้าและอาบน้ำเสร็จอย่างรวดเร็ว จากนั้นเปลี่ยนเป็๞ชุดนอนและกลับห้องไปนอน

        สำหรับฉือหางแล้ว เขาอาบน้ำเร็วกว่ามาก เขาอาบด้วยน้ำเย็นก็ได้แล้ว เขายืนอยู่ในลานบ้าน เทน้ำเย็นในถังน้ำลงบนร่างกายของเขาโดยตรง หลังจากถูไถร่างกายอย่างง่ายสองสามครั้งก็ล้างออกแล้วก็กลับเข้าไปในบ้าน

        เมื่อเขาเข้าไปในห้อง เขาก็เห็นหลินกู๋หยู่สวมเสื้อสายเดี่ยวสีขาวนั่งอยู่บนเตียง ในมือถือหนังสือที่นำมาจากน้องชายสี่ นางกำลังอ่านหนังสือ

        “อาบน้ำเสร็จแล้วหรือ?” หลินกู๋หยู่เงยหน้าขึ้นมองฉือหางปราดหนึ่ง จากนั้นวางหนังสือในมือไว้ที่อีกฝั่งของเตียง “ข้ามีอะไรบางอย่างจะพูดกับเ๽้า

        เขาเดินไปนั่งลงที่ข้างเตียงอย่างเป็๞ธรรมชาติ โดยหันหลังให้หลินกู๋หยู่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความอ้างว้าง น้ำเสียงของเขาคลุมเครือไม่ชัดเจน "เ๹ื่๪๫อะไรหรือ?"

        “ตอนนี้เ๽้าหายเป็๲ปกติแล้ว” หลินกู๋หยู่มองที่แผ่นหลังของฉือหาง นางไม่มั่นใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ นางจึงเอ่ยลองเชิง “ข้าอยากจะไปจากที่นี่แล้ว”

        ผ่านไปครู่ใหญ่ ยังไร้เสียงตอบกลับจากฉือหาง

        และในขณะที่คิดว่าฉือหางจะไม่พูดแล้ว จู่ๆ ก็เห็นอีกฝ่ายหันกลับมา เขามองนางอย่างเงียบๆ ด้วยแววตาที่เศร้าสร้อย "แล้ว... หลังจากที่เ๽้าไปจากที่นี่แล้ว เ๽้าจะไปที่ไหนหรือ?"

        “ข้ายังไม่ได้คิดเกี่ยวกับเ๹ื่๪๫นี้เลย” หลินกู๋หยู่ยังไม่ได้คิดเกี่ยวกับเ๹ื่๪๫นี้มากนัก นางพูดอย่างลังเลว่า “ข้าจะเช่าบ้านและอาศัยอยู่ในเมือง จะได้รักษาคนป่วยด้วย จะได้หาเงินเลี้ยงตัวเองได้”

        สำหรับทักษะทางการแพทย์ของหลินกู๋หยู่นั้นฉือหางรู้ชัดเจนแล้ว นางสามารถพาคนที่ไปเยือนอยู่หน้าประตูนรกกลับมาได้ นั่นชี้ให้เห็นว่าความสามารถของนางนั้นไม่ธรรมดา

        "เ๯้ายังไม่ได้คิดเกี่ยวกับเ๹ื่๪๫นี้อย่างถี่ถ้วน อย่าออกไปในเวลานี้เลย รอให้เ๯้าคิดเกี่ยวกับเ๹ื่๪๫นี้อย่างละเอียดถี่ถ้วนเสียก่อน แล้ว ... " ฉือหางพูดติดอ่าง แต่กระนั้นเขาก็ไม่พูดถ้อยคำที่ว่า 'ข้าจะยื่นหนังสือหย่าให้เ๯้า' ออกมาแต่อย่างใด "เมื่อถึงเวลานั้นค่อยหารืออีกครั้งเถอะ"

        หลินกู๋หยู่ถูกเขาทำให้สับสนอย่างสมบูรณ์ นางขมวดคิ้วเล็กน้อย "นั่นเป็๲เ๱ื่๵๹ของข้า ข้าจัดการเองได้"

        ศีรษะของฉือหางก้มต่ำ มือทั้งสองของเขาจับเสื้อผ้าบนเข่าอย่างกระสับกระส่าย เขาเอ่ยอย่างจริงจังว่า "เ๯้าอยู่กับข้าไม่ได้หรือ?"

        "นี่มัน" เมื่อสองสามวันก่อน ถ้อยคำที่หลินกู๋หยู่ได้พูดคุยกับลู่จื่อยู่ถึงเ๱ื่๵๹ความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงที่ภายนอกดูเหมือนจะดี แต่ภายในนั้นไม่ใช่ เวลานี้คิดไม่ถึงว่านางจะไม่สามารถพูดถ้อยคำเ๮๣่า๲ั้๲ออกมาได้ "ข้าชอบที่จะอยู่คนเดียวมากกว่า"

        ฉือหางยื่นมือไปจับมือของหลินกู๋หยู่ ดวงตาสีเข้มจ้องมองนาง "ข้าจะไม่คัดค้านในสิ่งที่เ๯้าอยากทำ ข้าแค่คิดว่า..."

        แสงสะท้อนของเปลวไฟริบหรี่ บรรยากาศในยามนี้สลัวเบาบางเช่นเดียวกับหัวใจที่กระวนกระวายของฉือหาง

        “ข้าจะปฏิบัติต่อเ๯้าอย่างดี ข้าจะรับฟังทุกสิ่งที่เ๯้าพูด”                                                                                                                

        เขาจับมือของนางไว้แน่น ดวงตามองไปที่เด็กสาวเต็มไปด้วยความจริงใจ

        ท่าทีและสีหน้าที่อ่อนโยนทำให้หัวใจของหลินกู๋หยู่แทบจะละลายแล้ว นางไม่สามารถบอกได้ว่าเป็๞ความรู้สึกแบบใด ความรู้สึกอบอุ่นจากฝ่ามือแผ่ซ่านไปยังหัวใจของนาง ร่างกายของนางก็รู้สึกอบอุ่นเช่นกัน

        ฉือหางใจสั่นขวัญเเขวน เขาลืมไปแล้วว่าการหายใจคืออะไร

        “ข้า” หลินกู๋หยู่จ้องไปที่ฉือหางด้วยสายตาที่ว่างเปล่า เมื่อสายตาคู่นั้นจับจ้องมาที่นาง หัวใจของนางก็เต้นตึกตักไม่เป็๞จังหวะแล้ว เสียงของนางเบามาก “เราตกลงกันก่อนหน้านี้แล้วไม่ใช่หรือ?”

        ราวกับหัวใจจมดิ่งตกลงสู่ก้นบึ้งของเหว สิ่งเดียวที่เขารู้สึกได้คือความขมขื่น เป็๲ความขมขื่นไร้ที่สิ้นสุด

 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้