ลู่หยวนซีย้ายเข้ามาอยู่ในปักกิ่งเพื่อหางานทำ เธอทำงานทุกอย่างเท่าที่ความสามารถของเด็กเรียนจบม.ปลายสามารถทำได้ หลังจากทำงานเก็บเงินอยู่หนึ่งปีเต็ม เธอก็ได้สอบเข้ามหาลัยตามที่ตนเอง้า
สี่ปีผ่านไป หลังลู่หยวนซีเรียนจบมหาลัยมาด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เธอได้รับจดหมายแนะนำจากบริษัทใหญ่เพื่อเข้าสัมภาษณ์งานในทันที แต่หลังจากที่เธอเข้าไปที่บริษัทดังกล่าว กลับพบว่าจดหมายแนะนำของเธอได้ถูกยกเลิกไปแล้ว
และคนที่ได้รับโอกาสสัมภาษณ์ในตำแหน่งของเธอคือเพื่อนสนิทที่เรียนมหาวิทยาลัยมาด้วยกันสี่ปี นอกจากนั้นเธอยังมารู้ว่าแฟนที่คบหากันมาใน่ที่เรียนมหาวิทยาลัยรวมหัวกับเพื่อสนิทของเธอนอกใจเธออีก
ลู่หยวนซีรู้สึกเสียใจและผิดหวังเป็อย่างมาก ไม่คิดว่าคนที่เธอรักสองคนจะทำแบบนั้นได้ เธอละทิ้งทุกอย่างที่ปักกิ่งเอาไว้เื้ัแล้วเดินทางกลับไปยังเมืองบ้านเกิดหวังจะรักษาาแทางจิตใจของตน แต่ระหว่างทางได้เกิดแผ่นดินไหวขึ้นอย่างรุนแรง ทำให้ดินที่อยู่บนูเาถล่มลงมาทับรถโดยสารที่เธอนั่ง
“อูย!!!! เจ็บชะมัด”
ลู่หยวนซีพยุงกายลุกขึ้นยืนช้าๆ เพื่อดูว่ามีส่วนไหนของร่างกายได้รับาเ็บ้าง ก่อนมองหาผู้โดยสารร่วมชะตากรรมของตน แต่ที่นั่นกลับพบว่ารอบๆ ตัวเธอมืดมิดไร้แสงสว่าง หรือว่าตอนนี้เธอกำลังถูกฝังอยู่ใต้ซากรถคันนี้กัน เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอก็ไม่รอช้าลู่หยวนซีรีบะโขอความช่วยเหลือทันที
“มีใครได้ยินเสียงของฉันบ้างไหมคะ ช่วยด้วยค่ะ!! ช่วยด้วย!!ตรงนี้ยังมีคนอยู่”
ลู่หยวนซีไม่กล้าขยับตัวมากเพราะเธอกลัวว่าดินที่ถล่มลงมาทับรถประจำทางคันนี้มันจะพังลงมามากกว่าเดิม แต่แล้วความรู้สึกวูบหนึ่งก็พัดผ่าน แรงบางอย่างดูดร่างของเธออย่างแรงทำให้ลู่หยวนซีไม่สามารถควบคุมตนเองได้
“เอ๊ะ!!!”
เมื่อรู้ตัวอีกทีกลับพบว่า รอบๆ ตัวของเธอมีผู้คนเดินขวักไขว่เต็มไปหมด เสียงรถฉุกเฉินและกู้ภัยที่กำลังลำเลียงร่างของผู้ประสบภัยขึ้นรถพยาบาล ลู่หยวนซีที่เห็นดังนั้นเธอก็คิดว่าตนเองรอดแล้ว จนกระทั่งได้เห็นร่างที่คุ้นตาของใครคนหนึ่ง ก่อนจะก้มลงมองชุดที่ตนเองใส่อยู่
“เดี๋ยวสิ!! นี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่”
เธอวิ่งตามเ้าหน้าที่กู้ภัยสองคนที่กำลังหามร่างนั้นออกไปให้ห่างจากที่เกิดเหตุ ก่อนจะถูกนำขึ้นรถฉุกเฉินไปอีกคน ลู่หยวนซีทรุดกายลงนั่งตรงนั้นอย่างหมดแรง เมื่อเธอพบว่าเวลานี้ตัวเธออาจจะไม่ได้มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว
“ขอโทษนะคะผอ. ชีวิตใหม่ในเมืองใหญ่ที่คุณคาดหวังให้ฉันไปใช้ชีวิตที่นั่น ตอนนี้มันได้จบลงแล้ว”
ลู่หยวนซีนั่งมองเ้าหน้าที่ทำหน้าที่กู้ร่างของผู้ประสบภัยอีกหลายคนออกมาจากรถประจำทางคันนั้นด้วยใบหน้าเฉยชาไร้ความรู้สึก แต่แล้วเสียงหนึ่งก็ดังแทรกขึ้นภายในหัวของเธอ
“ยอมแพ้ตอนนี้มันยังเร็วไปนะ คุณยังไม่ตายซะหน่อยแค่สลบไปเท่านั้น แต่ถ้าคุณปล่อยให้เวลาผ่านไปนานๆ ไม่แน่ว่าคุณอาจจะตายไปจริงๆ ก็ได้ มาทำข้อแลกเปลี่ยนกับผมไหมล่ะ”
ลู่หยวนซีหมุนตัวไปรอบๆ เพื่อหาว่าใครกันแน่ที่กำลังคุยกับเธอ แต่ที่นั่นกลับไม่มีใครสนใจเธอเลยสักคน ทุกคนเดินผ่านเธอไปราวกับอากาศธาตุ
“คุณเป็ใครคะ....”
สิ้นเสียงของเธอ แรงดูดมหาศาลแรงหนึ่งได้พาร่างของเธอไปยังสถานที่ที่ไม่คุ้นตา ลู่หยวนซีล้มหัวคะมำลงไปอย่างแรง เธอพยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางตื่นตระหนก
“สวัสดีและยินดีต้อนรับ คุณลู่หยวนซี”
เสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันทำให้เธอสะดุ้งจนตัวโยน ลู่หยวนซีมองไปรอบๆ หาที่มาของเสียง แต่แล้วกลับพบเพียงความเปล่าเท่านั้น
“ที่นี่คือที่ไหน คุณเป็ใคร พาฉันมาที่นี่ทำไม”
ลู่หยวนซีถามออกไปอย่างลนลาน เวลานี้เธอรู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็จำเป็ต้องทำใจดีสู้เสือเข้าไว้
“ใจเย็นๆ ก่อน ผมจะค่อยๆ อธิบายให้คุณได้เข้าใจไปทีละเื่ ถ้าพร้อมแล้วอย่างนั้นเราก็มาเริ่มกันเลย”
เสียงที่ไร้ที่มาดังขึ้นกังวานภายในหัวของเธอ ลู่หยวนซีนิ่งเงียบเพื่อรอฟังว่าเ้าเสียงนั้นจะพูดอะไรต่อ
“ผมคือ ระบบ โปรแกรมอัจฉริยะที่สามารถคิดด้วยตนเองได้ ที่นี่คือภายในโลกของผม และคุณคือคนที่ผมเลือกให้ทำหน้าที่ต่อจากนี้ไป”
ลู่หยวนซีได้ฟังแล้วรู้สึกว่ามันค่อนข้างเชื่อได้ยากมาก หรือว่าเธอกำลังถูกทดลองอะไรบางอย่างจากรัฐบาลอยู่หรือเปล่า
“ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดแน่นอน โลกของคุณนั้นยังล้าหลังเกินไปที่จะมีโปรแกรมระบบอัจฉริยะอย่างผมได้ เอาเถอะ ต่อไปเมื่อคุณได้ััอีกโลกคุณก็จะเข้าใจได้เอง”
ลู่หยวนซีตกตะลึงจนทำสีหน้าไม่ถูก เมื่อเ้าระบบรู้แม้กระทั่งความคิดของเธอ หรือว่าเธอจะกำลังถูกทดลองอยู่จริงๆ
“ก็บอกว่าไม่ใช่ยังไงเล่า!!! ยัยผู้หยิงคนนี้นี่ เชื่อยากเชื่อเย็นซะเหลือเกิน เดี๋ยวผมก็ปล่อยให้ตายไปจริงๆ ซะเลย”
เสียงทุ้มที่เคยสุภาพเวลานี้ไม่ต่างจากหญิงสาวเสียงแปดหลอดที่กำลังหงุดหงิด เมื่อเวลามีคนทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ ลู่หยวนซีหลังจากที่ถูกดุเธอก็สะดุ้งขึ้นมาอย่างแรง แต่แล้วเสียงนั้นก็กลับมาสุภาพเช่นเดิม
“อะแฮ่ม!! ขออภัย เอาเป็ว่าทุกอย่างที่คุณกำลังััอยู่นี้คือเื่จริงทั้งหมด ดังนั้นจงเชื่อเถอะว่าคุณไม่ได้กำลังถูกทดลองอยู่”
ลู่หยวนซีที่นิ่งเงียบมาตลอดพยักหน้าหงึกหงัก เพราะเธอกลัวว่าหากทำอะไรให้เขาไม่พอใจ เ้าเสียงนั่นจะวีนขึ้นมาอีก
“ดี!! ถ้าอย่างนั้นก็เข้าเื่กันเลย คุณลู่ คุณคือผู้ถูกเลือกให้มาทำหน้าที่สำคัญบางอย่าง และหน้าที่นั้นก็คือ ช่วยชีวิตของตัวร้ายในนิยายให้มีชีวิตรอด โดยที่คุณต้องไม่ทำตัวสะดุดตาให้ผู้เขียนจับได้เป็อันขาด ไม่อย่างนั้นเราจะไม่สามารถช่วยเหลือคุณได้ เพราะในโลกของนิยายนักเขียนคือพระเ้าที่ระบบอย่างเราไม่สามารถแทรกแซง ทำได้เพียงมองดูผ่านตัวคุณที่ถูกส่งเข้าไป พูดง่ายๆ คุณก็ไม่ต่างจากบัคที่เราแอบวางเอาไว้ในนิยายเื่นี้”
ลู่หยวนซีไม่ค่อยเข้าใจที่ระบบพูดกับเธอ หากตัวร้ายในนิยายจะต้องตายตามความ้าของนักเขียน แล้วระบบไปยุ่งอะไรด้วย ชื่อของเขาก็บอกอยู่แล้วว่าเป็ตัวร้าย ตายไปก็ดีแล้วไม่ใช่หรือไง
“ไม่ได้!! เขาจะตายไม่ได้เด็ดขาด ถึงยังไงคุณก็จะต้องช่วยตัวร้ายคนนี้ให้ได้ ข้อแลกเปลี่ยนคือผมจะทำให้คุณกลับมามีชีวิตได้อีกครั้งในโลกจริงๆ ของคุณ”
ลู่หยวนซีกลอกตาอย่างไม่พอใจ เ้าระบบบ้านี่แอบอ่านความคิดของเธออีกแล้วอย่างนั้นหรือ น่าหงุดหงิดชะมัด “อะแฮ่ม!!”
เสียงระบบกระแอมเบาๆ ก่อนจะพูดขึ้นมาอีก
“ก่อนที่คุณจะใช้ให้ฉันทำงานให้ คุณบอกได้ไหมว่าทำไมเขาถึงตายไม่ได้”
ลู่หยวนซียกมือเท้าเอวอย่างไม่สบอารมณ์ เพราะเธอเองก็เริ่มมีน้ำโหขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกัน
“กะ...ก็แหม!!แบบว่า เขาหล่อเหลารูปงามเป็หนึ่งในแผ่นดิน แม้แต่พระเอกในเื่ยังต้องชิดซ้าย ถ้าปล่อยให้ตายไปแบบนี้ก็น่าเสียดายมากเลยไม่ใช่หรือ”
หลังจากที่ได้ฟังคำตอบ ลู่หยวนซีก็แทบหงายหลัง นี่มันเหตุผลบ้าอะไรเนี่ย เ้านี่มันเป็ระบบอัจฉริยะบ้าผู้ชายหรือยังไง เสียงก็ออกจะแมนซะขนาดนั้น ลู่หยวนซีพ่นลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด ที่เธอต้องนอนเป็ผักอยู่ในโรงพยาบาล คงจะไม่ใช่ฝีมือเ้านี่ด้วยหรอกกระมัง
“..........”
ไร้สัญญาณตอบกลับ ลู่หยวนซีรู้ว่าระบบได้ยินเสียงความคิดของเธอ แต่แล้วบางอย่างก็วาบเข้ามาในหัว หลังจากที่ความคิดของเธอหยุดลง
“นี่!!! คงจะไม่ใช่เื่จริงใช่ไหม คุณคงไม่ได้เป็ต้นเหตุที่ทำให้ฉันเกิดอุบัติเหตุใช่ไหม”
ลู่หยวนซีตวาดออกไปเสียงดัง หากว่าเป็เื่จริงเธอไม่อยากจะคิดเลยว่าตนเองกำลังพบอยู่กับอะไรกันแน่
“ตะ..ต้องไม่ใช่อยู่แล้ว ภัยพิบัติมีอยู่ทุกที่ เพียงแต่คุณดันซวยไปอยู่ตรงนั้นก็เท่านั้นเอง”
ถ้าหากเ้าระบบมีตัวตน เวลานี้ลู่หยวนซีจะต้องได้เห็นมันหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นปาดเหงื่อเป็แน่ ทั้งเื่การสัมภาษณ์งานที่ถูกยกเลิก ทั้งเื่ที่แฟนของเธอแอบนอกใจ เป็ฝีมือของเขาทั้งนั้น แต่ว่าจะให้เธอรู้เื่นี้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นนิสัยไม่ยอมคนอย่างลู่หยวนซีคงจะยอมตายดีกว่ายอมช่วยเหลือเขาเป็แน่
“ไม่ใช่ก็แล้วไป ถ้าอย่างนั้นก็บอกมาสิว่าฉันต้องทำยังไงบ้าง ถึงจะช่วยเ้าตัวร้ายคนนั้นให้รอดตายจากปลายปากกาของนักเขียนคนนั้นได้”
ลู่หยวนซีนั่งลงขัดสมาธิเพื่อรอฟังว่าระบบจะสั่งให้เธอทำอะไรอีก
“ผมจะส่งคุณเข้าไปในตัวละครที่ไม่ได้ถูกเขียนเอาไว้ในเนื้อเื่ พูดง่ายๆ คือเป็ตัวประกอบที่ใช้แล้วทิ้ง คุณแค่พยายามช่วยชีวิตของตัวร้ายให้ได้เท่านั้น แล้วก็อย่าปล่อยให้เขากลับไปแก้แค้นพระเอกอีกครั้งนะ ไม่อย่างนั้นความได้แตกแน่ คุณต้องรู้เอาไว้ก่อนว่าหลังจากที่คุณเข้าไปในนิยายแล้ว ผมจะไม่สามารถช่วยเหลือคุณได้ คุณต้องหาทางเอาตัวรอดด้วยตัวเองเท่านั้น”
ลู่หยวนซีถอนหายใจออกมาเบาๆ เป็ระบบที่ใช้งานคนเก่งเหลือเกิน ผู้หญิงตัวคนเดียวจะเอาชีวิตรอดไปได้สักกี่วันเชียว
“ไม่ต้องห่วง ผมไม่มีทางปล่อยให้คุณเข้าไปในนั้นมือเปล่าแน่นอน นี่คือเนื้อหาของหนังสือนิยายเล่มนั้น รวมทั้งระบบการรักษาที่ผมส่งให้คุณไปแล้วั้แ่ที่คุณเข้ามาที่นี่ รวมทั้งช่องว่างเก็บของแค่คุณนึกถึงก็สามารถใช้งานได้ เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้วพวกเราก็ไปกันเถอะ”
“ดะ...เดี๋ยว”
ลู่หยวนซียังไม่ทันได้ตั้งตัว ร่างของเธอก็ถูกดูดด้วยแรงมหาศาลอีกครั้ง เมื่อเธอลืมตาขึ้นพบว่าตนเองกำลังยืนอยู่ท่ามกลางผู้หญิงมากมายที่แต่งตัวด้วยชุดจีนโบราณ เ้าระบบไม่เห็นบอกเลยว่าต้องเข้ามาในนิยายย้อนยุคจีนโบราณ งานหยาบแล้วทีนี้ เธอควรจะเริ่มยังไงดี
“เอ้า!!เหตุใดถึงได้เงียบไปเล่า เล่าต่อสิ ตอนนี้คุณชายผู้นั้นเป็อย่างไรบ้าง เ้าต้องออกจากจวนตามคำสั่งเพื่อมารับใช้คนพิการใกล้ตายเช่นนี้คงจะลำบากไม่น้อย”
ลู่หยวนซียืนทำหน้างงเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าไหลตามน้ำไปก่อน เพราะเธอยังไม่ได้อ่านเนื้อหาในนิยายเลย แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าเวลานี้อยู่ใน่ไหนของเนื้อเื่หลัก แต่แล้วอาการปวดหัวของเธอก็เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ภาพก่อนหน้านี้และอิริยาบถต่างๆ ของผู้หญิงคนหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวราวกับกำลังนั่งมองวิดีโอเก่า บางภาพชัดบ้างบางภาพก็กลายเป็เส้นสีดำมองเห็นไม่ชัด
หลังจากอาการปวดหัวได้หายไป ลู่หยวนซีก็มองไปยังเหล่าสตรีชาวบ้านเ่าั้ทีละคน คนพวกนี้คงเป็ตัวประกอบที่ไม่ต่างจากเอ็นพีซีเหมือนเธอกระมัง
“เป็อะไรไปหรือ ไม่เล่าต่อแล้ว หรือว่าเ้าต้องรีบกลับเรือน”
หญิงชาวบ้านนางหนึ่งเอ่ยถามลู่หยวนซี หลังจากที่เห็นเธอยกมือกุมหัวของตน
“ชะ..ใช่ข้าต้องกลับแล้ว ป่านนี้คุณชายคงจะรอแย่ ขอตัวก่อนนะเ้าคะ”
หญิงชาวบ้านเ่าั้มองตามหลังลู่หยวนซีที่รีบเดินกลับไปยังเรือนเล็กหลังหนึ่ง ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาห่างจากตัวหมู่บ้านไปเล็กน้อยด้วยสายตามึนงง
“นางเคยเป็ห่วงคุณชายของนางั้แ่เมื่อใดกัน ข้าเห็นวันทั้งวันเอาแต่เดินเที่ยวเตร่ในหมู่บ้าน ไม่ก็มานั่งเล่นกับพวกเราอยู่ที่นี่”
หญิงชาวบ้านทั้งหมด ต่างพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของสตรีนางนั้น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้