เฉินหลินเจี้ยนและพวกมาถึงบริเวณโรงฝึกทหาร ที่นี่เป็ลานฝึกโล่งกว้างซึ่งปกติแล้วไม่เป็ที่น่าสนใจแม้แต่น้อย
“ขุดลงไปสามฉื่อ!” (๑ ฉื่อประมาณ ๑ ฟุต)
คนของเฉินหลินเจี้ยนนำเครื่องมือต่างๆ ออกมาและเริ่มลงมือขุดดิน
เวลานี้ ในวังใต้ดิน
“เนี่ยหลี ทางออกอยู่ตรงไหน?” เยี่ยจื่ออวิ๋นเอ่ยถาม พวกเขาค้นหามาสองวันแล้ว แต่ก็ยังไม่พบทางออก
“ที่นี่ไม่มีทางออก” เนี่ยหลีส่ายหัว “หากมีทางออก คนพวกนั้นก็คงไม่ติดอยู่ในห้องโถงหลักแห่งนี้จนตาย”
“ไม่มีทางออกรึ?” เยี่ยจื่ออวิ๋นใอยู่ครู่หนึ่งและเอ่ยถามเสียงเศร้า “เช่นนี้พวกเราก็ไม่สามารถออกไปได้แล้วใช่หรือไม่?”
“นั่นกลับไม่จำเป็ พวกคนในห้องโถงถูกส่งเข้ามาจากด้านนอก ซึ่งก็หมายความว่าคนที่อยู่ด้านนอกสามารถขุดทางออกได้ พวกเราได้แต่หวังว่าเฉินหลินเจี้ยนจะสามารถช่วยพวกเราขุดทางออกให้พวกเราได้ ข้าเดาว่าทางออกน่าจะอยู่ตรงนั้น บริเวณสนามฝึกทหาร!” เนี่ยหลียิ้มบางๆ “พวกเขาจะต้องหามันพบอย่างแน่นอน!”
“เ้าแน่ใจเช่นนี้ได้อย่างไรว่าเขาจะหามันพบรึ?” เยี่ยจื่ออวิ๋นเอ่ยถาม เนี่ยหลีมักมีความมั่นใจเสมอ ราวกับทุกอย่างล้วนอยู่ในกำมือของเขาแล้ว กระทั่งยังดื้อรั้นคิดว่าเยี่ยจื่ออวิ๋นจะชอบเขาได้ หากทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนสามารถเป็ไปตามที่เขาคิดได้ เช่นนั้นเขาก็เป็เทพเ้าผู้มีอำนาจไม่สิ้นสุดแล้วกระมัง?
เสียงของเยี่ยจื่ออวิ๋นเพิ่งหยุดลง ผนังหินก็พลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อย
“มันเริ่มต้นขึ้นแล้ว!” เนี่ยหลียิ้มบางๆ จากจุดที่เกิดแรงสั่นะเื เขาจึงสามารถกำหนดได้ว่าทางออกอยู่ตรงไหน เขาหันไปทางเยี่ยจื่ออวิ๋นและพูดว่า “ไปกันเถอะ!”
ครั้นกล่าวจบแล้ว เนี่ยหลีก็เริ่มออกเดินไป
เยี่ยจื่ออวิ๋นคิดจะเอ่ยปากแต่ไม่รู้ว่าจะประเมินสถาณการณ์อย่างไรแล้ว เนี่ยหลีเป็สัตว์ประหลาดโดยแท้ เหตุใดจึงรู้ไปหมดทุกเื่เช่นนี้? หรือจะมีสักวันหนึ่งที่นางจะกลายเป็เพื่อนหญิงของเนี่ยหลีจริงๆ รึ? เยี่ยจื่ออวิ๋นบอกไม่ถูกว่านางรู้สึกอย่างไร สองแก้มก็ร้อนผ่าวขึ้นมาเล็กน้อย ก้มศีรษะนิ่งเงียบไป
ตง ตง ตง!
เฉินหลินเจี้ยนและพวกกำลังขุดหลุมเป็บริเวณกว้าง!
“ที่แท้ทางออกอยู่ตรงนี้นี่เอง!” เนี่ยหลีพาเยี่ยจื่ออวิ๋นเดินตามต้นเสียงมา ในที่สุดก็มาหยุดลงตรงหน้ากำแพงหินแห่งหนึ่ง เขามองดู กำแพงหินแห่งนี้คงเป็กลไกอย่างหนึ่ง ก่อนหน้าที่เดินผ่านมาทางนี้กลับไม่พบเห็นสิ่งใด
เนี่ยหลีวางมือลงบนกำแพงหินและค่อยๆ ผลักมือออกไป
ครืนๆ!
กำแพงหินค่อยๆ หมุนขยับ และห้องศิลาขนาดใหญ่แห่งหนึ่งก็ปรากฏสู่สายตาของเนี่ยหลีและเยี่ยจื่ออวิ๋น
ภายในห้องศิลาแห่งนี้มีบันไดท่อนหนึ่งนำขึ้นไป ทว่าทางออกกลับถูกปิดกั้นไว้ด้วยอะไรบางอย่างคล้ายพวกหินขนาดใหญ่ ด้านหลังยังมีเสียงตึงๆ ตังๆ คงมีคนกำลังขุดเปิดทางออกอยู่
ทุกสิ่งที่อยู่ในห้องศิลานี้ทำให้เนี่ยหลีและเยี่ยจื่ออวิ๋นอดที่จะตะลึงลานมิได้
สถานที่นี้เต็มไปด้วยชุดเกราะระดับทองแดงและระดับเงินสารพัดอย่าง มีแม้กระทั่งยันต์จำนวนมากมาย ผลึกอสูร ขนสัตว์ เขาสัตว์ ยังมีโลหะพิเศษหายากและเหรียญทองกองเป็ูเา นั่นคงเป็เงินเหรียญในยุคอาณาจักรเสินเซิ่ง
ยังมีสิ่งประดิษฐ์อันทรงคุณค่าที่ไม่รู้จักอีกมากมายซึ่งคงจะเป็สมบัติล้ำค่าในยุคอาณาจักรเสินเซิ่ง
หากมีคนได้ทรัพย์สมบัติเหล่านี้ไปและนำออกประมูลในเมืองกวงฮุย เกรงว่าคงต้องร่ำรวยมหาศาลแล้ว!
“จื่ออวิ๋น เ้าไปเลือกสักหลายๆ ชิ้นเถอะ!” เนี่ยหลีพูดกับเยี่ยจื่ออวิ๋น ในนี้มีสมบัติล้ำค่ามากมาย แหวนมิติของพวกเขาไม่อาจเก็บของได้มากนัก และหากพวกเขาเก็บสมบัติไปทั้งหมด เฉินหลินเจี้ยนและคนอื่นๆ ก็คงต้องพูดอะไรบ้างแล้ว
เนี่ยหลีมิใช่คนโลภ เขาเพียง้าเลือกเก็บสิ่งที่ตน้าก็พอแล้ว
สายตาของเนี่ยหลีตกอยู่บนแท่นหินแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างออกไป บนแท่นหินนั้น แสงตะเกียงเล็กๆ กำลังส่องแสงวูบวาบอยู่ ในลำแสงตะเกียงนี้มีแสงสีที่เต็มไปด้วยความลึกลับ
เมื่อเห็นตะเกียงนี้ ใบหน้าของเนี่ยหลีเต็มไปด้วยความลิงโลดยินดี นี่ต้องเป็ตะเกียงิญญาปีศาจเงาอย่างแน่นอน!
ปีศาจเงาเป็สัตว์อสูรที่ลึกลับและหาได้ยากยิ่ง ตำนานกล่าวไว้ว่าเมื่อครั้งที่อาณาจักรเฟิงเสวี่ยสูญสิ้น มีจิตอสูรปีศาจเงาเหลือทิ้งไว้เพียงเจ็ดดวง พวกมันถูกสร้างเป็ตะเกียงิญญาเจ็ดดวงและถูกเก็บไว้ในวัดแห่งหนึ่งบนแผ่นดินใหญ่เซิ่งหลิง ต่อมาตะเกียงเหล่านี้ถูกพวกโจรขโมยออกไปสู่โลกภายนอก
เหตุผลที่เนี่ยหลีสนใจตะเกียงิญญาปีศาจเงานี้เป็อันมากก็เพราะเขา้าจิตอสูรปีศาจเงาที่ถูกเก็บอยู่ข้างใน!
หลังจากที่ก้าวถึงระดับเงิน เนี่ยหลีก็จะสามารถหลอมรวมกับจิตอสูรได้ดวงหนึ่ง
เคล็ดวิชาเทียนเต้าช่วยให้เนี่ยหลีสามารถหลอมรวมกับจิตอสูรที่แตกต่างกันได้เจ็ดชนิด ดังนั้นสำหรับจิตอสูรชนิดแรก เนี่ยหลีจึงไม่้าใช้พวกจิตอสูรขยะทั่วไป! แต่ทว่าหากจิตอสูรแข็งแกร่งเกินไป เนี่ยหลีก็ไม่อาจหลอมรวมกับมันได้ ดังนั้นจิตอสูรปีศาจเงาจึงเป็จิตอสูรที่เหมาะสมที่สุด
แม้ปีศาจเงาไม่มีพลังการต่อสู้ที่กล้าแข็ง ทว่ามันเป็จิตอสูรที่ลึกลับที่สุด มีความสามารถพิเศษมากมาย ดังนั้นหลังจากที่หลอมรวมกับมันได้แล้ว ต่อให้เนี่ยหลีมีความก้าวหน้า ก้าวไปจนถึงระดับสูงสุดของการฝึกยุทธ์ จิตอสูรปีศาจเงาก็จะยังคงมีบทบาทสำคัญต่อเขาอยู่
เมื่อมีจิตอสูรปีศาจเงา เนี่ยหลีจะสามารถเรียนรู้เคล็ดวิชาพิเศษบางอย่างได้!
ในชีวิตหนก่อน ตะเกียงิญญานี้สุดท้ายก็ตกอยู่ในมือของเสิ่นเยวี่ยและถูกนำออกประมูล ในชีวิตนี้มันกลับถูกเนี่ยหลีแล้ว
เนี่ยหลีเก็บตะเกียงิญญานั้น วางมันไว้ในแหวนมิติ เขาหันไปเห็นเยี่ยจื่ออวิ๋นกำลังหยิบเลือกของหลายอย่าง เมื่อมีสร้อยไพลินอยู่แล้วนางจึงไม่สนใจอัญมณีจำพวกเดียวกันอีก เพียงเลือกผลึกอสูรกับสร้อยข้อเท้าเขี้ยวอสูรเส้นหนึ่ง
เยี่ยจื่ออวิ๋นมีสายตาที่ดี ผลึกอสูรหลายชิ้นที่นางเลือกล้วนเป็ผลึกอสูรของสัตว์อสูรระดับทองดำ สัตว์อสูรระดับทองดำนั้นหายากอย่างยิ่ง หากใช้ผลึกอสูรเหล่านี้ทำอาวุธหรือชุดเกราะเป็ส่วนประกอบก็มีโอกาสที่พวกมันจะกลายเป็อาวุธและชุดเกราะระดับทองดำได้
ส่วนสร้อยข้อเท้าเขี้ยวอสูรนั้น มันเป็กระดูกของสัตว์อสูรวายุเหมันต์ระดับตำนาน แม้จะเป็เพียงกระดูกชิ้นเดียว แต่ก็ยังนับว่าหายากยิ่งและสามารถช่วยส่งเสริมพลังจิตอสูรได้
เมื่อเลือกหยิบของล้ำค่าต่างๆ เสร็จแล้วก็ได้ยินเสียงดังตูมครั้งหนึ่ง กำแพงหินขนาดใหญ่ด้านข้างถูกเปิดออกเป็ช่องกว้าง แสงสว่างพุ่งลอดเข้ามาในห้องศิลา เฉินหลินเจี้ยนและพวกเดินเรียงแถวเข้ามา
“เป็พวกเ้าเองรึ?” เฉินหลินเจี้ยนเห็นเยี่ยจื่ออวิ๋นและเนี่ยหลี เขางุนงงใคราหนึ่ง คิดไม่ถึงมาก่อนว่าสิ่งแรกที่จะได้เห็นกลับเป็เยี่ยจื่ออวิ๋นและเนี่ยหลี
ได้เห็นเยี่ยจื่ออวิ๋น เฉินหลินเจี้ยนพลันผ่อนลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอก หากเยี่ยจื่ออวิ๋นเป็อะไรไปจริงๆ ต่อให้เขาเก็บเกี่ยวได้กำไรกลับไปบ้าง เกรงว่าก็ยังต้องเผชิญกับเพลิงพิโรธฟ้าคำรามของท่านเ้าเมืองและท่านเยี่ยโมอย่างแน่นอน ในเมื่อเยี่ยจื่ออวิ๋นปลอดภัย เช่นนั้นก็ดีที่สุดแล้ว
“นายท่าน พวกเรารวยแล้วขอรับ มีสมบัติมากมายก่ายกองเลยทีเดียว!”
พวกลูกน้องของเฉินหลินเจี้ยนอุทานออกมา ข้าวของเงินทองที่กองท่วมห้องศิลาทำให้พวกเขาตะลึงลานไปชั่วขณะ
ฉู่หยวนและพวกก็เดินเข้ามา พวกเขาทุกคนพากันตื่นตะลึงกับภาพที่อยู่เบื้องหน้านี้ ของทุกอย่างในนี้สูงอย่างกับูเาขนาดย่อมลูกหนึ่ง หลายอย่างมีมูลค่ามหาศาล น่าจะขายได้นับสิบล้านหรือแม้กระทั่งร้อยล้านเหรียญจิตอสูร
“เนี่ยหลี ตามข้อตกลงของพวกเรา ให้เ้าเลือกของชิ้นแรกก่อน!” เฉินหลินเจี้ยนหันมองเนี่ยหลีและพูด เขาเป็คนรักษาคำพูดทั้งยังให้ความสำคัญกับมิตรภาพระหว่างตนกับเนี่ยหลี
“ข้าเลือกไว้แล้ว ที่เหลือทั้งหมดนี้เป็ของพวกเ้า!” เนี่ยหลีพูดพร้อมยิ้มบางๆ ทรัพย์สมบัติที่กองท่วมเท่าูเาเหล่านี้ดูเหมือนไม่เป็ที่สนใจสำหรับเขาเลยแม้แต่น้อย
“ข้าก็เลือกได้หลายชิ้นแล้วเช่นกัน” เยี่ยจื่ออวิ๋นพูด “ข้าก็ไม่้าของที่เหลือเหล่านี้แล้ว!”
เฉินหลินเจี้ยนพยักหน้าเล็กน้อย ให้พวกลูกน้องใช้แหวนมิติเก็บทรัพย์สมบัติเหล่านี้เข้าไป
ฉู่หยวนเดินตรงเข้ามาข้างกายเฉินหลินเจี้ยนและกระซิบเบาๆ ว่า “คุณชายเฉิน ท่านยินยอมหรือขอรับ? สองคนนั้นอยู่ในนี้ตั้งนานแล้ว คงต้องเก็บของดีไปแล้วไม่น้อย ของมีค่าที่สุดคงถูกพวกเขาเก็บไปหมดแล้ว ดังนั้นจึงไม่สนใจข้าวของที่เหลือเหล่านี้!”
“เ้าหมายความว่าอย่างไร?” เฉินหลินเจี้ยนขมวดคิ้วจ้องมองฉู่หยวน
ฉู่หยวนพูดเสียงเย็น “ท่านควรบอกให้พวกเขานำสิ่งของทั้งหมดออกมาเสียก่อนจึงจากไปได้ ของที่ดีที่สุดคงต้องถูกพวกเขาเก็บไปแล้วอย่างแน่นอน!”
เมื่อได้ยินคำพูดของฉู่หยวนเช่นนั้น เฉินหลินเจี้ยนทำเสียงขึ้นจมูกพูดว่า “พวกเขามาถึงที่นี่ก่อนพวกเรา พบของพวกนี้ก่อนพวกเรา ต่อให้เก็บของทั้งหมดในนี้ไปจนเกลี้ยง พวกเราก็ไม่อาจพูดอะไรได้ เขาทิ้งของไว้ให้พวกเรามากมายก่ายกองปานนี้ นี่ก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว!”
“คุณชายเฉิน ข้ารับประกันว่าของที่พวกเขาเอาไป ทุกชิ้นจะต้องประเมินค่ามิได้ ท่านอย่าเสียใจทีหลังแล้วกัน!” ฉู่หยวนพูดอย่างกระสับกระส่าย
“ไปให้พ้น อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเ้ากำลังคิดอะไรอยู่ เ้าบาดหมางกับเนี่ยหลีจึงคิดยืมมือข้า ไม่มีทาง” เฉินหลินเจี้ยนยกเท้าข้างหนึ่งขึ้นเตะใส่ปลายคางของฉู่หยวน ส่งเขาปลิวละลิ่วออกไป
ตูม ฉู่หยวนลอยละลิ่วไปตกหน้าคว่ำ ฟันซี่หนึ่งหลุดออกมา ในปากมีเืไหลซึมเป็ทาง
ฉู่หยวนเงยหน้าขึ้นมองเฉินหลินเจี้ยนอย่างแค้นเคือง ทว่าไม่นานก็ต้องอดกลั้นความโกรธเกรี้ยวเอาไว้ เฉินหลินเจี้ยนเป็คุณชายของตระกูลเตียนเฟิง ผู้สืบสายตรงของตระกูลเซิ่งิ เขาหรือจะกล้าอาละวาดกับเฉินหลินเจี้ยน?
“เนี่ยหลี ทั้งหมดล้วนเป็ความผิดของเ้า ข้าไม่ยอมจบกับเ้าแน่!”
เฉินหลินเจี้ยนเก็บรวบรวมของล้ำค่าต่างๆ แม้เนี่ยหลีจะเก็บตะเกียงิญญาไปแล้ว เยี่ยจื่ออวิ๋นก็เลือกของมีค่าไปหลายชิ้น ทว่ายังคงเหลือของมีค่าต่างๆ อีกมากมายในที่นี้ สามารถนำออกไปขายได้เป็เงินมหาศาล เฉินหลินเจี้ยนนับว่าเก็บเกี่ยวกำไรได้ไม่น้อย
เฉินหลินเจี้ยนตบบ่าเนี่ยหลีและพูดว่า “น้องชาย หากมิใช่เ้าแนะนำข้าถึงโรงเรียนฝึกทหารแห่งนี้ ข้าก็คงไม่ได้ของมากมายถึงเพียงนี้ ครั้งนี้ข้า เฉินหลินเจี้ยน ติดค้างเ้าครั้งหนึ่ง หากมีสิ่งใดอยากให้ข้าช่วยเหลือในอนาคตข้างหน้า เ้ามาหาข้าได้ทันที!”
เฉินหลินเจี้ยนไม่ถามไถ่ถึงสิ่งที่เนี่ยหลีเก็บไป ทว่าเพียงกล่าวขอบคุณเขา สิ่งนี้ทำให้เนี่ยหลีมีความประทับใจต่อเขาไม่น้อย ไม่แปลกใจที่เฉินหลินเจี้ยนสามารถกลายเป็บุคคลที่โดดเด่นที่สุดในหมู่คนรุ่นใหม่ทั้งสามตระกูลได้!
“ดี!” เนี่ยหลีก็ตอบรับตรงไปตรงมา “พวกเ้าต้องเร่งมือเก็บสมบัติเหล่านี้ พวกเราต้องรีบไปจากที่นี่กันแล้ว!”
“ทำไมรึ?” เฉินหลินเจี้ยนเอ่ยถามอย่างสงสัย
“ข้าไปเจอเข้ากับพวกสมาคมมืด พวกมันกำลังตามหาพวกเรา!” เนี่ยหลีพูดต่ออีกว่า “โชคดีที่วานรั์แขนเทาระดับจิตอสูรช่วยสกัดกั้นมันไว้ ไม่เช่นนั้นข้าคงไม่อาจหนีพ้นมาได้!”
ได้ยินคำพูดของเนี่ยหลีเช่นนั้น เฉินหลินเจี้ยนแปลกใจเล็กน้อย เขารู้ดีว่าพวกสมาคมมืดเป็คนเช่นไร หากพวกเขาถูกจับได้คงต้องเป็ปัญหาใหญ่แล้ว
“มิน่าพวกเราพบว่าวานรั์แขนเทาระดับจิตอสูรตนนั้นได้รับาเ็ ที่แท้ก็เป็เช่นนี้เอง!” ลูกน้องคนหนึ่งของเฉินหลินเจี้ยนพูดขึ้นมา
โชคดี พื้นที่ซากเมืองโบราณกู่หลันกินอาณาบริเวณกว้างขวางนัก พวกสมาคมมืดจึงไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน พวกมันอาจกำลังค้นหาพวกเขา ซึ่งหมายความว่าพวกเขาควรต้องรีบไปจากที่นี่โดยเร็ว
เฉินหลินเจี้ยนชำเลืองมองลึกเข้าไปในวังใต้ดิน
“ข้าสำรวจทั่วแล้ว ข้างในไม่มีอะไร” เนี่ยหลีพูด
เฉินหลินเจี้ยนพยักหน้าไม่อาลัยอาวรณ์ หันไปทางลูกน้องทุกคนและะโไปว่า “พวกเราไปกันเถอะ!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้