พรมวิเศษของาามารตะวันตกเป็ของล้ำค่าขั้นปฐี และยังเป็ของล้ำค่าบินได้ที่มีอยู่น้อยมากในหุบเขาสุขาวดี ทั้งสามารถโจมตี ป้องกัน และหนีได้
าามารตะวันตกจะใช้ของล้ำค่าบินได้เช่นนี้ท่องไปในหุบเขาสุขาวดีเป็ปกติอยู่แล้ว
พรมวิเศษพุ่งทะยานออกไปจากเขาน้ำเต้า มุ่งหน้าไปยังทิศเหนือของหุบเขาสุขาวดี และหายไปในพริบตา
“เหตุใดท่านถึงไม่พาแม่นางผู้นั้นไปด้วย”
เริ่นเสี้ยวเทียนที่นั่งอยู่ข้างๆ บนพรมวิเศษกล่าวถามาามารตะวันตก
“ครั้งนี้ไปหาเ้าเหนืออาจเกิดอันตรายขึ้นได้ พานางไปด้วยจะไม่ปลอดภัย อาจทำอะไรได้ยากขึ้น”
“ดูไม่ออกเลยว่าผู้าุโาามารจะรักพวกพ้องเช่นนี้”
เสิ่นเสวียนกล่าวยิ้มๆ
“พวกเ้ายังเด็ก อีกไม่กี่ปีพวกเ้าจะเข้าใจเอง”
าามารตะวันตกนั่งอยู่บนพรมวิเศษ เขาหยิบเนื้อวัวขึ้นมาสองชิ้น จากนั้นก็ดื่มสุราจนหมดจอก
พรมวิเศษนี้มีมิติเก็บของ หากเขาต้องออกเดินทางจะเก็บเสบียงเนื้อและสุราเอาไว้ภายใน และเขาไม่เคยเกียจคร้านต่อการเดินทาง ดังนั้นคนอื่นๆ บนพรมวิเศษจึงได้ดื่มกินไปกับาามารตะวันตกด้วย
หุบเขาสุขาวดีกว้างใหญ่มาก ผู้มีพลังยุทธ์ต่ำต้อยหาก้าเดินจากเขาน้ำเต้าไปยังจวนาามารทิศเหนือต้องใช้เวลาหลายเดือนเป็อย่างต่ำ แต่พรมวิเศษที่มีาามารตะวันตกควบคุมอยู่สามารถไปถึงได้ในเวลาเพียงหนึ่งวันหนึ่งคืนเท่านั้น
่กลางวันทุกคนต่างพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน นั่งอยู่บนพรมวิเศษเดินทางไปหลายพันลี้ ทว่าเมื่อถึง่กลางคืน พรมวิเศษที่าามารตะวันตกควบคุมอยู่กลับเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ทั้งยังมีกระโจมมากมายปรากฏขึ้นราวกับเป็ค่ายพักแรมกลางแจ้ง และกระโจมเหล่านี้มีความทนทานเป็พิเศษ สามารถขจัดความหนาวเย็นจากภายนอกไปได้อย่างสิ้นเชิง
ตอนกลางคืน เสิ่นเลี่ยนและเสิ่นเสี่ยวเม่ยเข้าไปพักผ่อนภายในกระโจม เริ่นเสี้ยวเทียน เสิ่นเสวียน และาามารตะวันตกยังคงอยู่ด้านนอก
“ยังมีเวลาอีกสิบวันกว่าสุสานจะเปิด ในเมื่ออีกฝ่ายกล้าเล่นลูกไม้เช่นนี้ ข้าก็จะเล่นไปกับพวกเขาด้วย”
าามารตะวันตกกล่าวเสียงเย็น เป็กระต่ายริอ่านมากระตุกหนวดเสือ ไม่มีทางจบง่ายๆ อย่างนั้นเด็ดขาด
“ผู้าุโาามารคิดจะทำอย่างไร” เสิ่นเสวียนถาม
“พวกเ้าสองคนอายุเกินยี่สิบปีหรือยัง”
าามารตะวันตกหันมองเสิ่นเสวียน แล้วก็มองเริ่นเสี้ยวเทียน
เสิ่นเสวียนส่ายหัวบอกว่ายังไม่ถึง ส่วนเริ่นเสี้ยวเทียนอายุเกินหรือยัง ยังมิอาจบอกได้
ดูจากหน้าตาของเขาแล้ว เห็นได้ชัดว่าอายุมากกว่าเสิ่นเสวียนไม่น้อย
“มองอะไรล่ะ ข้ายังหนุ่มอยู่นะ ยังไม่ถึงยี่สิบปีเลย” เริ่นเสี้ยวเทียนเห็นเสิ่นเสวียนมองตนเองด้วยสายตาแปลกๆ จึงกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์
“เ้าอายุยังไม่ถึงยี่สิบปีหรือ” เสิ่นเสวียนไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไร
“มีปัญหาหรือไง ข้าดูโตเป็ผู้ใหญ่ไม่ได้หรือ!”
เมื่อโดนเสิ่นเสวียนสงสัยเช่นนี้ เริ่นเสี้ยวเทียนจึงถามกลับไป
“หากว่าอายุเกินยี่สิบปีอาจโดนพลังของสุสานกลืนกินได้ อย่างน้อยคือาเ็ อย่างหนักคือเอาชีวิตไปทิ้ง”
าามารตะวันตกไม่เชื่อเริ่นเสี้ยวเทียนเช่นกัน ใบหน้าของเขาดูอย่างไรก็เกินยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดปีไปแล้ว จะยังมีอายุเพียงสิบกว่าปีได้อย่างไร
“นี่ๆ มองคนอื่นอย่างดูถูกแบบนี้ก็ไม่ถูกต้องนะ ข้าบอกว่าอายุไม่ถึงยี่สิบปีก็คือไม่ถึง”
“เอาล่ะ ในเมื่อเป็เช่นนี้ พวกเ้าจะยินยอมเข้าไปไหม” าามารตะวันตกมองเสิ่นเสวียนและเริ่นเสี้ยวเทียนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ไม่มีปัญหา”
ทั้งสองคนตอบรับพร้อมกัน ไม่ต้องให้าามารตะวันตกบอกพวกเขาก็อยากเข้าไปอยู่แล้ว เพราะนั่นเป็ถึงสุสานของขั้นศักดิ์สิทธิ์เลยนะ แม้เสิ่นเสวียนไม่ได้ใส่ใจขั้นศักดิ์สิทธิ์มากนัก แต่ในสถานการณ์ตอนนี้ สุสานของขั้นศักดิ์สิทธิ์ยังมีแรงดึงดูดอยู่ในระดับหนึ่ง
“ครั้งนี้ต้องไม่ธรรมดา ผู้ที่สามารถเรียกคนที่มีพลังขนาดนั้นมาล้อมสังหารข้าได้ พลังจะต้องแข็งแกร่งมากอย่างแน่นอน”
“ผู้าุโาามารไม่ได้เป็คนแบบนี้สักหน่อย” เสิ่นเสวียนยิ้มพลางกล่าว นี่ไม่ใช่นิสัยของาามารตะวันตกเลย
“เฮ้อ อาจเพราะข้าอยู่ในเหตุการณ์จึงมองไม่ออก ข้าหมกมุ่นมากเกินไปหน่อย หากพวกเ้าเข้าไปในนั้น คนที่ควรเป็กังวลก็คือพวกเขา”
าามารตะวันตกเข้าใจสิ่งที่เสิ่นเสวียน้าสื่อ จึงหัวเราะออกมาเสียงดัง
“พรุ่งนี้เช้าพรมวิเศษจะไปถึงหน้าจวนาามารทิศเหนือ พวกเ้าคิดจะทำอย่างไร”
“เจรจาก่อน หากไร้ผลจึงใช้กำลัง”
เสิ่นเสวียนกล่าว
“ข้าเห็นด้วย เจรจาก่อนแล้วค่อยใช้กำลัง”
เริ่นเสี้ยวเทียนกล่าวเสริม
“ดี ในเมื่อเป็เช่นนี้ พรุ่งนี้ข้าจะเข้าไปก่อน แล้วพวกเ้าค่อยตามเข้าไป”
หลังจากหารือกันแล้ว ทุกคนก็นั่งพรมวิเศษมุ่งหน้าไปยังจวนาามารทิศเหนือด้วยความเร็วสูง
าามารที่ยิ่งใหญ่จากสี่ทิศจะปกครองอาณาเขตสี่แห่ง แบ่งเป็ทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตกตามชื่อเรียก ปกติแล้วจะใช้ชีวิตอยู่ในอาณาเขตของตนเอง เนื่องจากพลังที่ไม่ได้ต่างกันมาก และอยู่กันแบบต่างคนต่างอยู่ จึงถูกเรียกขานว่าสี่าามารผู้ยิ่งใหญ่
าามารทิศเหนือมีพลังแข็งแกร่งที่สุดในสี่าามารผู้ยิ่งใหญ่ จึงเป็ผู้ที่มีอำนาจมากที่สุด
เขาเป็คนรักสันโดษและมีจิตใจโเี้ ในขณะเดียวกันก็ปกป้องพวกพ้องอย่างถึงที่สุด ได้ยินมาว่าเมื่อสิบปีก่อนมีศิษย์คนหนึ่งโดนสำนักหนึ่งสังหารตาย เขาจึงเข้าไปทำลายล้างทั้งสำนักนั้น
สำหรับเขาแล้ว คนที่ทำร้ายเขาเท่ากับท้าทายอำนาจของเขา ซึ่งมิอาจปล่อยให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ จำเป็ต้องกำจัดทิ้งให้สิ้นซาก
รุ่งเช้าวันต่อมา ประตูจวนาามารทิศเหนือยังคงปิดสนิท
หากเป็่เวลาปกติคงเปิดกว้างไปแล้ว ทว่าหลังจากโดนล้อมสังหารเมื่อเจ็ดวันก่อน าามารทิศเหนือจึงเริ่มระมัดระวังตัว
วันนี้พรมวิเศษผืนหนึ่งค่อยๆ เหาะเข้ามาถึงหน้าประตูจวนาามารทิศเหนือ
าามารตะวันตกนั่งอยู่บนพรมวิเศษ เขากำลังกินเนื้อวัวดื่มสุราอย่างเปรมปรีดิ์ เขามองประตูที่ปิดสนิทด้วยรอยยิ้มบางๆ
“เปิดประตู”
าามารตะวันตกะโออกไป เสียงของเขาดังผ่านช่องว่างประตูเข้าไปถึงด้านใน
ลานกว้างที่เคยเงียบสงบกลับมาวุ่นวายในไม่กี่ลมหายใจ รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามีคนกำลังวิ่งวุ่นอยู่ในนั้น
แอ๊ด
ประตูจวนาามารที่ปิดสนิทถูกแง้มออกเพียงเล็กน้อย บุรุษวัยกลางคนอายุประมาณสามสิบปีคนหนึ่งโผล่หัวออกมา เขาไว้หนวดยาว กล่าวกับาามารตะวันตกด้วยสีหน้าสอพลอ
“ท่านผู้ยิ่งใหญ่ นายท่านของข้า่นี้กำลังเก็บตัวฝึกฝน ไม่ต้อนรับผู้ใด ขอเชิญท่านกลับไปก่อน!”
“เหลวไหลอะไร ไปเรียกเ้าเหนือออกมา”
าามารตะวันตกได้ยินดังนั้นก็ไม่พอใจ เ้าเหนือไม่ไว้หน้าเขาเลยจริงๆ
“คือ...”
“เ้าเหนือ โผล่หัวออกมาได้แล้ว” าามารตะวันตกะโเข้าไปด้านใน เสียงของเขาพุ่งเข้าไปยังเรือนลึกลับ ทำให้าามารทิศเหนือได้ยินอย่างแม่นยำ
าามารทิศเหนือกำลังนั่งฝึกฝนอยู่ ก่อนหน้านี้เขาโดนลอบสังหารมา แม้ไม่ได้รับาเ็หนักแต่ก็เสียพลังไปมาก เขากำลังพยายามฟื้นฟูร่างกายให้ได้โดยเร็วที่สุด เมื่อได้ยินเสียงของาามารตะวันตก ทำให้าามารทิศเหนือที่กำลังฝึกฝนพลันลืมตาขึ้น
เขาโดนล้อมสังหารเช่นกัน ทำให้ในใจเกิดคำถามขึ้นมากมาย จึงส่งคนสนิทออกไปสืบหาข่าวคราวของาามารคนอื่นๆ จึงได้รู้ว่าาามารทิศใต้ตายแล้ว าามารตะวันออกหายตัวไป ส่วนาามารตะวันตกและเขาโดนล้อมสังหารเหมือนกัน ทำให้เขารู้ว่านี่ไม่ใช่การสังหารทั่วๆ ไป
นี่คือการสังหารที่วางแผนไว้แล้วอย่างแยบยล
าามารทิศเหนือลุกขึ้นยืน เขาปรับสมดุลพลังภายในร่าง ผลักประตูเปิดแล้วเดินออกไป
อาณาเขตของาามารทิศเหนือคือเมืองใหญ่ที่รุ่งเรืองมากในหุบเขาสุขาวดี มีประชากรอยู่หลายแสนคนและเป็ผู้ฝึกตนทั้งสิ้น เรียกได้ว่าเป็อำนาจที่น่ากลัวมาก และอำนาจเช่นนี้ยังอยู่ภายใต้การปกครองของาามารทิศเหนืออีกด้วย จวนาามารทิศเหนือตั้งอยู่ในจุดศูนย์กลางของเขตที่รุ่งเรืองที่สุดของเมืองนี้ าามารตะวันตกนั่งอยู่บนพรมวิเศษหน้าประตูจึงดึงดูดสายตาคนเป็จำนวนมาก
แน่นอนว่าไม่มีใครสักคนกล้าเข้ามาขัดขวางเขา แค่พลังที่แผ่ซ่านออกมาจากพรมวิเศษก็แสดงให้เห็นแล้วว่าาามารตะวันตกไม่ใช่คนที่จะหาเื่ได้ คนเหล่านี้ล้วนแล้วแต่กระหายเื จึงเข้าใจในสัจธรรมข้อนี้เป็อย่างดี
“ลมอะไรหอบาามารตะวันตกมาถึงที่นี่ได้”
ขณะนั้นเสียงของาามารทิศเหนือดังออกมาจากด้านใน
แอ๊ด!
ประตูจวนาามารค่อยๆ เปิดออก บุรุษวัยกลางคนอายุประมาณห้าสิบปีคนหนึ่งออกมายืนอยู่ตรงหน้าประตู ร่างนั้นสวมชุดคลุมสีดำ เก็บซ่อนไอพลังของตนเองเอาไว้ แต่กลับดูโเี้อย่างน่าประหลาด
เขาคือาามารทิศเหนือ เป็ผู้นำสี่าามารผู้ยิ่งใหญ่แห่งหุบเขาสุขาวดี ผู้มีพลังแข็งแกร่งที่สุด
เมื่อประตูเปิดออก าามารตะวันตกยกสุราขึ้นดื่ม แล้วควบคุมพรมวิเศษเหาะเข้าไปในจวนอย่างเชื่องช้า
“เข้ามาอย่างเปิดเผยเช่นนี้ เ้าไม่กลัวข้าสังหารเ้าหรือ”
าามารทิศเหนือมองาามารตะวันตกพลางกล่าวเสียงเรียบ
“คิดสังหารข้า เกรงว่าเ้ายังไม่มีความสามารถนั้น”
าามารตะวันตกสีหน้าไร้ความกลัว เหาะไปอยู่เบื้องหน้าาามารทิศเหนืออย่างสบายๆ
“เื่ของพวกเขา เ้าได้ยินมาแล้วใช่ไหม”