หลังจากถูกผู้นำหมู่บ้านดุ ทุกคนก้มศีรษะลง สีหน้าดูละอายใจเล็กน้อย ครั้งนี้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะทำเกินไปจริงๆ
หลี่ชิงหลิงบอกพวกเขาว่ามีอาหารในูเาซงก็นับว่าใจดีแล้ว ทำให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้น แถมนางยังย้ำหลายครั้งอีกว่าอย่าเข้าไปลึก เป็พวกเขาที่โลภเอง
“แล้วพ่อของลูกข้าก็ตายเปล่าๆ แบบนี้น่ะหรือ” นางอู๋ไม่ยอมปล่อย “ครอบครัวข้ายังมีลูกเล็กเด็กแดง จะให้ใช้ชีวิตต่อไปยังไง” นางทรุดตัวลงกับพื้นและเริ่มร้องไห้
หลี่ชิงหลิงมองอย่างเ็า นางเอ่ยเสียงเรียบ "ข้าก็ไม่มีพ่อหรือแม่ มีน้องชายกับน้องสาว ก็รอดชีวิตมาได้ตามปกติ พี่เป็ผู้ใหญ่ทั้งคนแล้วจะเลี้ยงเด็กที่บ้านไม่ไหวหรือ?” ใครจะไปน่าสงสารกว่าบ้านนางได้อีก
เสียงร้องไห้พลันชะงัก นางอู๋สูดจมูก "เ้ามีฝีมือล่าสัตว์ ต้องดูแลน้องๆ ได้อยู่แล้ว ข้าล่ะ? ข้าไม่รู้อะไรเลย ข้าจะดูแลเด็กๆ ทั้งสี่คนได้อย่างไร" ถ้านางมีความสามารถของหลี่ชิงหลิง นางยังต้องกังวลอีกหรือ?
กัดนางไม่ปล่อยแล้วหรือไงนะ?
เด็กสาวย่อตัวลง เผชิญหน้ากับพี่สะใภ้อู๋ด้วยรอยยิ้มบางๆ ถามนางอู๋ว่า้าอะไรกันแน่
ตั้งแผงขายของอยู่ตั้งนาน แถมยังเดินกลับมาอีก นางเหนื่อยจนอยากรีบจัดการให้เสร็จและพักผ่อนเสีย
นางอู๋สบตากับหลี่ชิงหลิงก่อนจะผละสายตาไป นางรู้สึกว่าดวงตาของหลี่ชิงหลิงเหมือนหมาป่า น่ากลัวมาก
“ข้า… ข้าแค่้าทวงความยุติธรรมให้พ่อของลูก ข้าจะปล่อยให้เขาตายโดยเปล่าประโยชน์ โดยไม่เห็นแม้แต่กระดูกไม่ได้”
หลังจากพูดจบ นางก็รู้สึกเศร้าอีกครั้ง ยกสองมือขึ้นปิดตาและร้องไห้อย่างเงียบๆ
นางเสียใจจริงๆ ที่ปล่อยให้สามีไปทีู่เาซง มิฉะนั้นต่อให้ครอบครัวยากจนหน่อย ขอแค่ยังมีชีวิตอยู่ ได้กินอิ่มนอนหลับก็เกินพอแล้ว
หลี่ชิงหลิงมองนางอู๋เงียบๆ พักใหญ่จึงยืนขึ้น และพูดกับผู้นำหมู่บ้านอย่างใจเย็น
"ท่านปู่ผู้นำหมู่บ้านได้ยินที่พี่สะใภ้อู๋พูดแล้วใช่ไหม พี่เขา้าทวงความยุติธรรมให้กับพี่หลี่” นางยักไหล่ "ข้าเองก็อายุแค่นี้ ยังเป็เด็กผู้หญิงอยู่ ยังไม่ถึงคราวที่ข้าจะไปเอาชนะหมี ใช่ไหมล่ะ? ในเมื่อไม่ถึงคราวข้า ข้าก็ขอเข้าไปป้อนนมน้องก่อน น้องร้องนานขนาดนี้ ข้าเ็ปใจจะแย่แล้ว”
“เอาชนะหมี? อยากตายหรือไง?” เมื่อหญิงสาวในหมู่บ้านได้ยินคำพูดของหลี่ชิงหลิงก็พากันเอื้อมมือไปจับมือสามีด้วยความโกรธ “อู๋ชุนเฉียว ถ้าอยากไปตีกับหมีก็ไปเองเลย อย่าคิดจะลากเราไปตายด้วย” คุยเื่อื่นยังไหว แต่เื่ไปสู้กับหมี พวกนางไม่มีวันยอมเด็ดขาด
"ข้า... ข้าบอกตอนไหนว่าจะเอาชนะหมี" นางอู๋เงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ เอื้อมมือไปคว้ากางเกงของหลี่ชิงหลิง "หลี่ชิงหลิง มาพูดให้รู้เื่ ข้าบอกตอนไหน อย่ามาใส่ร้ายข้า" นางไม่ใช่คนโง่เสียหน่อย จะไปขอให้ชาวบ้านช่วยนางจัดการหมีได้อย่างไร
หากนางพูดเช่นนี้จะจมอยู่ในน้ำลายของชาวบ้านแน่
หลี่ชิงหลิงหยุดเดิน หลุบตาต่ำ มองนางอู๋แล้วพูดด้วยใบหน้าประหลาดใจ "ก็เมื่อกี้พี่ไม่ได้เพิ่งบอกว่าจะปล่อยให้พี่หลี่ตายเปล่าๆ ไม่ได้ไม่ใช่หรือ ต้องทวงความยุติธรรมไม่ใช่หรือ? ในเมื่อหมีฆ่าพี่หลี่ อยากทวงความยุติธรรมคุณก็ต้องไปหามันไหม?”
"เ้า… เ้ากำลังบิดเบือนความหมายของคำพูดของข้า" นางอู๋ชี้หลี่ชิงหลิง และสาปแช่ง "ข้าไม่เคยพูดแบบนั้นเลย เ้าใส่ร้ายข้า"
หลี่ชิงหลิงที่ถูกนางอู๋ด่า สีหน้ายังคงไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงสงบเหมือนเดิม นางจะไม่แสดงความเมตตาต่อคนที่้าให้นางเสียเืเด็ดขาด
โดยเฉพาะต่อหน้าคนจำนวนมากขนาดนี้ด้วย หากนางแสดงความอ่อนแอ คนอื่นจะคิดว่านางอ่อนแอและรังแกได้ จากนั้นจะบุกมารังแกไม่ขาดสาย
นี่ไม่ใช่สิ่งที่นางอยากเห็น...
นาง้าให้ทุกคนในหมู่บ้านรู้ว่า แม้ครอบครัวของนางจะเหลือเด็กเพียงไม่กี่คนก็ไม่สามารถกลั่นแกล้งได้ง่ายๆ
อยากจะมารังแกก็ต้องประเมินกำลังตัวเองก่อน
“หือ? แต่ฟังจากที่พี่พูด ข้าเข้าใจแบบนี้นะ ถ้าไม่ใช่แบบนี้แล้ว้าอะไร” หลี่ชิงหลิงทำท่าเหมือนต่อรองได้สบายๆ “ท่านปู่ผู้นำหมู่บ้านก็อยู่ มีอะไรก็พูดตรงๆ เลยดีกว่า อย่าให้ทุกคนเดาไปมา"
นางอู๋รู้สึกว่าทุกคนกำลังมองมาจึงกลืนน้ำลายด้วยความกังวล บิดมุมเสื้อผ้าแล้วกล่าว "เอาเป็ว่ามันเป็ความผิดของเ้า หลี่ชิงหลิง ถ้าเ้าไม่พูดเืู่เาซงมีของกิน สามีของข้าคงไม่ไปตายทีู่เาซง”
นางได้ยินข่าวลือว่าหลี่ชิงหลิงตั้งแผงในเมืองและธุรกิจไปได้ดี นางจึง้าให้นางชดใช้ด้วยเงิน ให้ชีวิตครอบครัวนางสบายขึ้น
คนแบบนี้เหมือนปลิง พอเกาะติดแล้วจะสลัดไม่ออก
นางจะไม่ให้โอกาสคนแบบนี้...
เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมองผู้นำหมู่บ้าน "ท่านปู่ผู้นำหมู่บ้าน ข้าแค่บอกเืู่เาซงมีของกิน ปู่จะบอกทุกคนไหมก็เป็การตัดสินใจของปู่ แล้วจะไปหรือไม่ก็เป็การตัดสินใจของทุกคน ข้าพูดถูกไหม?” ตาแก่จิ้งจอกผู้นำหมู่บ้านยืนอยู่ข้างๆ และไม่ยอมพูดอะไร นางจึง้าลากเขาลงน้ำด้วย “ตอนนี้เกิดเื่แบบนี้ขึ้น ท่านปู่ว่าควรทำอย่างไรดีเ้าคะ”
นางไม่เชื่อว่าผู้นำหมู่บ้านจะกล้ายัดเยียดเื่นี้ให้นาง ถ้าเขาโยนเื่นี้ให้นางจริงๆ เขาที่เป็ผู้นำหมู่บ้านก็คงถึงวาระแล้ว
เมื่อได้ยินสิ่งที่หลี่ชิงหลิงพูด ทุกคนก็มองไปที่ผู้นำหมู่บ้านอีกครั้งเพื่อดูว่าเขาจะพูดอะไร
ผู้นำหมู่บ้านยิ้มขมขื่น เ้าหลี่ชิงหลิงเป็เด็กผีจริงๆ ถ้านางเป็เด็กผู้ชายคงประสบความสำเร็จมาก
"เมื่อกี้ข้าบอกไปแล้วว่าการไปูเาซงเป็ไปตามความสมัครใจ หากมีอะไรเกิดขึ้นก็เป็เพราะความโลภของพวกเ้า โทษคนอื่นไม่ได้” เสียงของผู้นำหมู่บ้านเคร่งขรึมเสียงดังฟังชัด หันมองนางอู๋ด้วยดวงตาเป็ประกาย "นางอู๋ ได้ยินชัดหรือยัง ถ้าไม่ได้ยิน ข้าจะพูดซ้ำอีกสองสามครั้งจนกว่าเ้าจะได้ยินชัดเจน" ยายนี่น่ะ แค่ดูหน้าก็รู้แล้วว่าคิดวางแผนอะไรอยู่? หึ… คิดว่าเขาไร้อำนาจจริงๆ หรือไง?
นางอู๋ไม่กล้าสบตากับผู้นำหมู่บ้าน นางก้มหัวลงและพูดอย่างไม่เต็มใจว่าได้ยินชัดเจนแล้ว
เมื่อนางคิดว่าตนไม่ได้อะไรเลยก็เงยหน้าขึ้นจ้องหลี่ชิงหลิงด้วยสายตาดุร้าย
ผู้นำหมู่บ้านมองไปรอบๆ ฝูงชน และตะคอกเสียงเย็น “เื่นี้จบแค่นี้ ถ้าข้ารู้เข้าว่ามีคนก่อเื่วุ่นวายเกี่ยวกับเื่นี้อีกก็อย่าหาว่าข้าใช้กฎระเบียบมาจัดการ” เขามองจนฝูงชนก้มหน้า จากนั้นจึงสะบัดมืออย่างรุนแรง หันหลังและจากไป
หลี่ชิงหลิงรอให้ผู้นำหมู่บ้านจากไปจึงเดินเข้าไปพร้อมกับหลิวจือโม่โดยไม่มองผู้คนที่เหลืออยู่ ปิดประตูลานบ้านเสียงดังโครม
"พี่ ไม่เป็ไรใช่ไหม" หลี่ชิงเฟิงที่อุ้มหลี่ชิงหนิงเดินออกมาอย่างรวดเร็ว มองหลี่ชิงหลิงอย่างเป็ห่วง ฝูงชนมาสร้างปัญหาถึงบ้าน แต่พี่ไม่อยู่บ้าน พวกเขาเลยไม่กล้าเปิดประตูพวก ได้แต่ซ่อนอย่างเปล่าประโยชน์ ช่วยอะไรพี่สาวไม่ได้เลย
หลี่ชิงหลิงเอื้อมมือไปอุ้มหลี่ชิงหนิง จูบแก้มน้อยๆ ของนาง และส่ายหัว "พี่สบายดี ไม่ต้องห่วง” ใช้อีกมือลูบหัวหลี่ชิงเฟิง "จือเยี่ยน จือโหรวล่ะ?”
"โหรวโหรวใร้องไห้ จือเยี่ยนเลยอุ้มไปกล่อมนอนในห้อง!" หลี่ชิงเฟิงมองหลี่ชิงหลิงอีกครั้ง จากนั้นก้มศีรษะลง บิดนิ้วและพูดเสียงเบา "พี่ ข้าไร้ประโยชน์มากใช่ไหม?” ถ้าเขาโตได้ไวกว่านี้ก็คงดี โตแล้วคนอื่นจะได้ไม่กล้ารังแกพี่ของเขา
เมื่อรู้ว่าน้องชายโทษตัวเองอีกแล้ว หลี่ชิงหลิงก็หัวเราะเบาๆ ลูบหัวเล็กๆ ของเขาแรงๆ "ไม่ เสี่ยวเฟิงเก่งมากเลย ไม่เพียงช่วยพี่ดูแลน้อง แถมยังช่วยสานตะกร้าด้วย ถ้าไม่มีเสี่ยวเฟิงช่วย พี่อาจจะยุ่งจนทำอะไรไม่ได้เลย” เ้าตัวเล็กอ่อนไหวเกินไป ต้องสอนดีๆ "พี่ขอบคุณนะ ที่ช่วยพี่เยอะขนาดนี้”
"จริงหรือ?" เมื่อได้ฟังคำพูดของหลี่ชิงหลิง ดวงตาของหลี่ชิงเฟิงก็เป็ประกาย เขาเก่งขนาดนั้นจริงหรือ? พี่ปลอบเขาเฉยๆ หรือเปล่า?
"แน่นอน..." หลี่ชิงหลิงพยักหน้า หันไปมองหลิวจือโม่ และกะพริบตา “ไม่เชื่อก็ลองถามพี่จือโม่ได้”
หลิวจือโม่ยิ้ม พยักหน้ายืนยันโดยไม่รอให้หลี่ชิงเฟิงพูด "เสี่ยวเฟิงเก่งจริงๆ ช่วยพวกพี่เยอะมาก ขอบคุณนะ” เ้าตัวเล็กแค่มีความคิดนี้ก็ชวนซึ้งใจแล้ว
หลังจากได้รับคำชมจากพี่ๆ หลี่ชิงเฟิงก็ยิ้มกว้าง "ข้า... ข้าจะช่วยให้มากกว่านี้" ช่วยแบ่งปันพี่ๆ พวกพี่ๆ จะได้ไม่เหนื่อยมาก
"เชื่อฟังจริงๆ!" หลี่ชิงหลิงส่งหลี่ชิงหนิงกลับเข้าไปในอ้อมแขนของเขาแล้วบีบหน้า "อุ้มน้องเข้าไปเถอะ ตรงนี้ลมแรง เดี๋ยวเป็หวัด"
หลี่ชิงเฟิงตอบรับสองครั้ง และอุ้มหลี่ชิงหนิงเข้าไปในห้องด้วยรอยยิ้ม
ทันทีที่หลี่ชิงเฟิงจากไป แผ่นหลังที่ตั้งตรงของหลี่ชิงหลิงก็ทรุดลงทันที
แม้ว่านางจะไม่ปล่อยให้นางอู๋เอาเปรียบ แต่นางก็ยังรู้สึกไม่สบายใจเมื่อนึกถึงพี่หลี่ที่จากไป
ในยุคนี้ ไม่มีผู้นำครอบครัวแล้วรู้สึกเหมือนฟ้าดินถล่มจริงๆ
หลิวจือโม่จูงเด็กสาวเข้าไปในครัว เมื่อหลี่ชิงหลิงสับสน เขาก็กอดนางด้วยหน้าแดงก่ำ "พิงข้า” เขารู้ว่านางคิดอะไร "อย่าโทษตัวเอง มันไม่เกี่ยวกับเ้า”
ไม่จำเป็ต้องเอาความผิดพลาดของคนเ่าั้มากล่าวโทษตนเองเลย
