เปรี้ยง!
"กรี๊ด!!!"
เสียงฟ้าผ่าดังขึ้นทั้ง ๆ ที่ไม่มีเค้าลางของฟ้าฝน แสงของสายฟ้าที่ฟาดลงมาหน้าเรือนหลานฮวาสว่างจ้าจนทุกคนต้องหลับตา ทันใดนั้นร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงกระตุกหนึ่งครั้ง ก่อนที่จะมีสาวรับใช้นางหนึ่งตาดีมองเห็นความผิดปกติของร่างฟ่างเซียนเซียน
"ผ...ผี ผีคุณหนูสาม!"
สาวรับใช้นางนั้นกรีดร้องเหมือนคนสติแตกก่อนจะสลบไป
ทั้งห้องเกิดความโกลาหลแตกตื่นตามคำบอกเล่านั้น สายตาหลายสิบคู่มองไปบนเตียงไม้ขนาดใหญ่ ก่อนจะกรูเข้าหากันด้วยอารมณ์หลากหลายแต่ออกไปทางหวาดกลัวมากกว่าเมื่อเห็นสิ่งผิดปกติบนเตียงนั้น
ร่างที่เคยไร้ลมหายใจค่อย ๆ ขยับช้า ๆ เริ่มจากมือที่พาดทับกันอยู่บนหน้าอก
"คุณหนู!"
อาถังรีบปรี่เข้าไปอย่างไม่กลัวว่านั่นจะเป็ผีหรือคน
"ผ...ผี ผีเซียนเซียนแน่ ๆ"
เจินเม่ยเบิกตาโพลงด้วยความใที่เห็นร่างน้องสาวขยับไปมาก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่ง
"เซียนเอ๋อร์!"
เสวียนสวี่ปรี่เข้าไปประคองร่างบุตรสาวที่ยังโอนเอนเพราะเพิ่งฟื้นขึ้นมาด้วยความดีใจ
"เป็ไปไม่ได้"
เจินซู่รีบเข้าไปหาเจินเม่ยเพื่อหยิกแขนลูกสาวว่านี่ฝันหรือเื่จริง ทว่าเสียงร้องเจ็บของเจินเม่ยเป็เครื่องยืนยันว่าสิ่งที่เห็นตรงหน้ามิใช่ความฝัน
"เซียนเซียน?"
ผู้ที่ลืมตาตื่นขึ้นมาทวนชื่อของตนเองพร้อมคิ้วขมวดเข้าหากันราวเ็ปส่วนใด
"ข้า.. ข้ายังไม่ตาย?"
ริมฝีปากสีซีดคช้ำขยับเอ่ยด้วยความประหลาดใจ
ใช่ว่านางใคนเดียวเสียที่ไหน คนทั้งห้องใกับการตายแล้วฟื้นของนางยิ่งกว่า
"ใช่ เซียนเอ๋อร์ลูกพ่อยังไม่ตาย"
ชื่อนี้อีกแล้ว เหตุใดคนผู้นี้ถึงมาโอบกอดนางแล้วร่ำไห้พร้อมรอยยิ้มเช่นนี้กัน
ก่อนจะได้ไถ่ถามอันใดออกไป คนที่เพิ่งลืมตาตื่นกวาดสายตามองรอบห้องสี่เหลี่ยมแห่งนี้ ใช้ความคิดวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว
'ในเมื่อชีวิตนี้ท่านมอบให้ข้า วันนี้ข้าก็จะคืนมันให้ท่านเอง'
ความทรงจำสุดท้ายของนางมิใช่ที่นี่ และนางมิได้ชื่อเซียนเซียนอย่างที่คนผู้นี้และสตรีนางนั้นเรียกขาน ชื่อจริง ๆ ของนางคือ..
"ซูเหยา... ข้าชื่อเฟิงซูเหยา"
ริมฝีปากบางพึมพำออกมาเบา ๆ หากแต่ไม่มีใครได้ยิน มีเพียงสายตาเฉียบคมใคร่รู้ของเจินเม่ยที่เห็นนางขยับปากหากแต่จับใจความไม่ได้
"ตามท่านหมอ รีบตามท่านหมอมาดูอาการคุณหนูสามเร็วเข้า"
เสียงพ่อบ้านกุ้นะโสั่งการอย่างดีใจ
บ่าวสาวในเรือนถึงกับแย่งหน้าที่นี้กันจนวุ่นวายไปหมด
"ขอบคุณ์ ขอบคุณเซียวเอ๋อร์ที่ส่งลูกกลับมาอยู่กับข้า"
เสียงขอบคุณ์ของแม่ทัพใหญ่ดังอย่างโล่งอก ไม่ต่างจากอีกคนที่ขอบคุณสววรค์ในใจเช่นกัน
'ขอบคุณ์ที่เมตตา ท่านคงส่งข้ากลับมาทวงแค้นเอาคืนคนพวกนั้น'
บุรุษที่หักหลังเฟิงซูเหยาผู้นี้อย่างเืเย็น!
ภายในจวนฟ่างที่กว้างขวางโอ่อ่ากำลังคึกคักไปด้วยบ่าวสาวรับใช้หลายสิบคนที่กำลังช่วยกันประดับตกแต่งจวนแห่งนี้ด้วยสีแดงอันเป็มงคล
วันนี้แม่ทัพใหญ่ฟ่างได้จัดงานเลี้ยงรับขวัญบุตรสาวที่เพิ่งผ่านเื่ร้ายฟื้นจากความตายอีกครั้ง งานเลี้ยงในวันนี้ฟ่างเสวียนสวี่เชิญเพียงเหล่าทหารชั้นน้อยใหญ่ที่สนิทสนมกรำศึกด้วยกันมาร่วมยินดี
ทว่าชาวบ้านที่รู้เื่น่าเหลือเชื่อนี้ต่างอยากมาแสดงความยินดีด้วย เ้าของจวนจึงมีน้ำใจสั่งข้ารับใช้นำโต๊ะไม้มาต่อเป็ทางยาวที่หน้าจวนฟ่างเพื่อให้ชาวบ้านมาร่วมดื่มกิน
"เหตุใดต้องจัดอะไรให้วุ่นวายเช่นนี้"
เจินเม่ยแง้มหน้าต่างไม้มองดูเหล่าคนรับใช้ที่วิ่งวุ่นจัดงานในคืนนี้
"พ่อเ้าน่ะสิคงดีใจมากที่ลูกสาวคนโปรดฟื้นกลับมาอย่างปลอดภัย"
เจินซู่ยกถ้วยชารสเลิศขึ้นจิบด้วยอารมณ์หงุดหงิด
"ท่านแม่ไม่คิดว่าเื่นี้ประหลาดหรือเ้าคะ"
เจินเม่ยนอนคิดทั้งคืน คืนนั้นนางทดสอบเองกับตาแล้วว่าโรคหัวใจอ่อนแอของฟ่างเซียนเซียนกำเริบและหมดลมหายใจไปั้แ่ยามโฉ่ว[1]แล้ว เหตุใดคนที่ขาดอากาศหายใจนานขนาดนั้นถึงกลับฟื้นขึ้นมาได้ แถมยังดูปกติเหมือนคนทั่วไปจนไม่อยากเชื่อสายตาตน
"ประหลาดไม่ประหลาดแล้วเยี่ยงไร ตอนนี้ลูกสาวคนโปรดนางฟื้นกลับมาแล้ว เ้าต้องคิดหาวิธีรับมือเอาไว้ให้ดี"
เจินซู่กลัวอยู่อย่างเดียว กลัวว่าฟ่างเซียนเซียนจะเล่าเหตุการณ์วันนั้นให้เสวียนสวี่ฟัง หากเป็เช่นนั้น สองแม่ลูกที่เข้าไปพูดจาเสียดแทงให้โรคร้ายฟ่างเซียนเซียนกำเริบแถมยังไม่คิดยื่นมือเข้าช่วยต้องถูกลงโทษเป็แน่
"ท่านแม่กลัวคนขี้ขลาดเช่นนางหรือ"
ได้ยินแล้วก็อดขบขันความหวาดระแวงไม่เข้าท่าของมารดาไม่ได้
แต่ไหนแต่ไรมา ฟ่างเซียนเซียนถูกพวกนางกลั่นแกล้งสารพัดมิเห็นมีสักครั้งที่เื่เ่าั้ถึงหูฟ่างเสวียนสวี่
"แม่รู้สึกใจคอไม่ดี เ้าจำแววตาที่นางมองมาที่พวกเราไม่ได้หรือไง"
หลังจากที่เฟิงซูเหยาฟื้นขึ้นมาในร่างฟ่างเซียนเซียนได้แค่หนึ่งเค่อ จู่ ๆ นางก็มีความทรงจำประหลาดของเ้าของร่าง่เวลาก่อนที่นางจะสิ้นใจขึ้นมาให้เห็น ทำให้เฟิงซูเหยาจ้องมองสองแม่ลูกด้วยสายตาชิงชังอย่างที่เ้าของร่างมิเคยทำหรือแสดงออกมาก่อน
[1] 1.00 – 2.59 น.
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้