บทที่ 147 ซุนหงอคงมาแล้ว
เมื่อััได้ถึงความเด็ดเดี่ยวของผู้หญิงสองคนที่ยืนขวางอยู่หน้าประตู และพยายามขัดขวางตนเองไม่ให้เข้าไปในบ้านทุกวิถีทาง สีหน้าของเย่จื่อเฉินก็ยิ่งถมึงทึงจนน่ากลัว
ส่วนผู้หญิงอีกสองคนที่โดนเขาทำร้ายจนทรงตัวแทบไม่อยู่ก็พยายามที่จะลุกขึ้นยืนสุดกำลัง
ดูท่าว่าต่อให้ต้องตาย พวกเธอก็ต้องขัดขวางเขาไว้ให้ได้ และไม่ยอมให้เขาเข้าไป
"ในสายตาของพวกเธอ ชีวิตมันไม่สำคัญเลยใช่ไหม?"
เย่จื่อเฉินหรี่ตาลง เวลาเดินผ่านไปอย่างต่อเนื่อง ภายในใจของเขาก็ยิ่งร้อนรนมากขึ้น
ถ้ายังเป็แบบนี้ต่อไป...
"ฉันให้โอกาสพวกเธอแล้ว แต่พวกเธอไม่คว้าไว้เอง งั้นก็อย่ามาโทษฉันที่ทำรุนแรงก็แล้วกัน"
กำหมัดแน่นทันที เย่จื่อเฉินตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ออมมือ
"คุณมาบ่นพึมพำอะไรอยู่ตรงนี้?"
ต้าเฮยยืนอยู่ข้างหน้าต่างชั้นสองของร้าน ขงเบ้งหลับตาสนิท บนตัวเขามีแสงสว่างวูบวาบอยู่จางๆ
"อย่ากวนฉัน"
ขงเบ้งขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้ลืมตาทั้งสองข้างขึ้นมา
นิ้วหัวแม่มือข้างขวาก็กดลงบนลายนิ้วมือบนนิ้วอื่นๆ ไม่หยุด ราวกับนักบวชลัทธิเต๋าสมัยโบราณ ปากก็พึมพำคำพูดที่คนทั่วไปไม่มีทางเข้าใจอยู่ไม่หยุด
ชวิ้ง!
แสงเจิดจ้าสว่างออกมาจากดวงตาของขงเบ้ง แต่คิ้วกลับขมวดมุ่นเข้าด้วยกัน
"มีเื่น่าใ แต่ไม่มีอันตราย ชัดเจนแต่กลับรุนแรง"
"อะไรนะ?"
ต้าเฮยที่ได้ยินก็ยิ่งไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่ ขงเบ้งะโลงจากเตียง แล้วพูดขึ้น
"บอกพิกัดของพี่จื่อเฉินมา"
"ผมจะไปรู้ได้ยังไง"
"ก็นายเป็..." ขงเบ้งพูดได้แค่ครึ่งเดียวก็นึกขึ้นได้ว่าวันนั้นเขาได้ดึงยันต์คุมผีออกแล้ว
ตบขาตัวเองฉาดใหญ่ แล้วขบกัดฟัน
"ตาทิพย์ จงเปิด!"
ดวงตาเรียวรีสีเงิน ราวกับดวงตาที่สามของเทพเ้ายี่หยึงจินกุนปรากฏขึ้นบนหน้าผาก
ต้าเฮยที่ได้เห็นถึงกับตะลึงงัน ลูกกระเดือกขยับขึ้นลง ไม่นานก็เห็นขงเบ้งลืมตาทั้งสองข้างขึ้นอีกครั้ง แล้วพูดเสียงห้วน
"ตี้เทียน เ้าคนสารเลว...ต้าเฮย ไปกับฉัน ไปช่วยพี่จื่อเฉินกัน"
ติ๊ง!
เสียงนาฬิกาดังขึ้น
ตี้เทียนที่นั่งอยู่บนโซฟากระตุกยิ้มมุมปาก วางแก้วไวน์ลงพร้อมกับดีดนิ้ว
"ได้เวลาแล้ว ลงมือ"
รอยยิ้มสวยนั้นทำให้คนที่ได้เห็นถึงกับตัวสั่น เซี่ยเขอเข่อกับซูเหยียนเริ่มกระวนกระวายขึ้นมา ไม่ว่าพวกเธอจะเข้มแข็งแค่ไหน แต่เมื่อคมมีดประทับลงบนใบหน้าของพวกเธอ พวกเธอจะไม่กลัวได้ยังไง
ตึก
ตึก
ตึก
เสียงฝีเท้าที่เชื่องช้าแต่คมชัดดังขึ้นภายในห้องนั่งเล่น เย่จื่อเฉินใช้มือขวาจับคอเสื้อของฮ่าวเหวินไว้ด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึก พร้อมกับเดินเข้าไปหาตี้เทียนอย่างเชื่องช้า
บริเวณหน้าอกของเขามีาแหลายจุดที่ทำให้คนใจสั่นไหว เืไหลออกจากหน้าอกช้าๆ
แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ สีหน้าไร้ความรู้สึก
และยังคงเดินไปข้างหน้า
ตุบ!
โยนฮ่าวเหวินไปตรงหน้าตี้เทียน เย่จื่อเฉินไม่เคยเจอเขามาก่อน แต่เขามั่นใจว่าคนตรงหน้านี้คือตี้เทียน
"นี่คนที่นาย้า ปล่อยคนของฉันมาได้แล้ว"
"เย่จื่อเฉิน"
"อาเสี่ย"
เมื่อซูเหยียนกับเซี่ยเขอเข่อเห็นาแที่สามารถทำให้หัวใจของพวกเธอแตกสลายได้ของเย่จื่อเฉิน พวกเธอก็กรีดร้องออกมาเสียงหลง
เย่จื่อเฉินหันไปกระตุกยิ้มให้พวกเธอ หลังจากที่ส่งสายตาเป็เชิงบอกให้พวกเธอสบายใจแล้ว เขาก็หันกลับไปมองตี้เทียนอีกครั้ง
"ดีมาก เข้มแข็งมาก"
ตี้เทียนปรบมือ แล้วลุกออกจากโซฟา
ส่วนสูงของเขาไม่ได้สูงมาก พอลุกขึ้นมาก็สูงประมาณไหล่ของเย่จื่อเฉิน
หลุบตาลงมองฮ่าวเหวินที่อยู่แทบเท้า จากนั้นเขาจึงช้อนตาขึ้นมองผู้หญิงสองคนที่คุมตัวซูเหยียนกับเซี่ยเขอเข่อ
"ลงมือ"
"ไสหัวไป"
เย่จื่อเฉินยกเท้าขึ้นเกี่ยวตัวฮ่าวเหวินขึ้น ก่อนจะเหวี่ยงไปใส่ตัวผู้หญิงสองคนนั้น
จากนั้น เขาจึงคว้าคอเสื้อของตี้เทียน แล้วยกขึ้น
"แก แกจะเอายังไง?"
"ปล่อยนายน้อย"
พรึบ! พรึบ!
จู่ๆ ก็มีผู้ชายสองคนและผู้หญิงสองคนโผล่ขึ้นมาข้างกายเย่จื่อเฉิน ในมือของคนทั้งสี่ถือมีดพกแหลมคมเอาไว้ พร้อมกับล้อมเขาไว้ทั้งสี่ทิศทาง
เย่จื่อเฉินราวกับว่าไม่ได้ยินอะไร เขายังคงกระชากคอเสื้อตี้เทียนอยู่อย่างนั้น แล้วพูดด้วยเสียงเยือกเย็น
"ฉันเอาคนมาให้นายแล้ว ตอนที่คุยโทรศัพท์นายก็พูดแล้วว่าให้เอาฮ่าวเหวินมาแลกกับพวกเธอสองคน นายคิดจะกลับคำงั้นเหรอ?"
"แต่ที่ฉัน้าคือคนเป็"
ดวงตาของตี้เทียนกวาดมองทั้งตัวของเย่จื่อเฉินราวกับอสรพิษ ก่อนจะผลักเขาออกไป ปรายตามองฮ่าวเหวินที่นอนนิ่งไม่ขยับอยู่บนพื้น แล้วพูดเสียงเย็น
"ฉันช่วยเขาให้กลับมามีชีวิตได้"
"ไม่้าแล้ว" ตี้เทียนไหวไหล่ แล้วพูด "ที่ให้นายเอาตัวเขามา ฉันก็เตรียมที่จะเอาชีวิตเขาอยู่แล้วล่ะ ตอนนี้ก็ประหยัดแรงฉันไปได้เยอะ"
"งั้น...ปล่อยพวกเธอมาสิ"
เย่จื่อเฉินเลิกคิ้ว แต่ตี้เทียนกลับไหวไหล่หัวเราะ จับเปียใหญ่ด้านหลังมาไว้ข้างซอกคอ เขาปรายตามองเย่จื่อเฉิน
"ขอโทษที ฉันถนัดการทำการค้า นายไม่มีข้อต่อรองทางการค้า ก็ดูเหมือนว่าการค้านี้จะไม่บรรลุผลนะ ผู้หญิงสองคนนี้ ฉันเอา"
"ไอ้เวรเอ๊ย!"
ผลั่ก!
เหวี่ยงมือปัดสี่คนที่ล้อมอยู่ออกไป เย่จื่อเฉินยื่นมือขวาออกมาหมายจะต่อยตี้เทียน
"แค่มีกายทิพย์ นายก็คิดว่านายเจ๋งแล้วจริงๆ เหรอ?"
ตี้เทียนทำเพียงแค่ยื่นสองนิ้วออกมา ก็สามารถสกัดกั้นแรงโจมตีทั้งหมดของเย่จื่อเฉินเอาไว้ได้
จากนั้นจึงยกเท้าขึ้นถีบเข้าที่หน้าอก
หน้าอกที่เดิมที่มีาแสาหัสอยู่แล้ว หลังจากที่โดนถีบเืก็ไหลทะลักออกมา
เย่จื่อเฉินหน้าซีดขาว ทรุดลงกลางห้องนั่งเล่นในบ้าน
ผู้ชายตรงหน้าคนนี้แข็งแกร่งมาก แข็งแกร่งมากกว่าอันธพาลพวกนั้นที่เขาเคยเจอมาก่อนหน้านี้
ที่สำคัญไปว่านั้นคือคำว่ากายทิพย์
คำพูดของเขามันหมายความว่ายังไงกันแน่!
พรึบ!
ไม่มีเวลามาคิดอะไรมากมาย เย่จื่อเฉินที่อยู่แทบเท้าพุ่งเข้าไปหาตี้เทียนเต็มแรง เขาจะต้องล้มผู้ชายคนนี้ แล้วช่วยซูเหยียนกับเซี่ยเขอเข่อหนีออกไปให้ได้
ตุบ!
ไม่ว่าจะลองดูกี่ครั้ง แต่ผลที่ได้คือเขาลอยกระแทกกำแพงทุกครั้ง
"เย่จื่อเฉิน ช่างมันเถอะ..."
ซูเหยียนส่ายหน้าอย่างอ่อนแรง ทุกครั้งที่เย่จื่อเฉินพุ่งออกไปแล้วเจ็บตัวกลับมา หัวใจของเธอมันเ็ปมากจริงๆ
ส่วนเซี่ยเขอเข่อที่อยู่ข้างๆ นั้นเงียบไม่พูดอะไรไปนานแล้ว แต่ในดวงตาของเธอกลับมีแสงสีทองจางๆ วูบวาบออกมา
"ตี้เทียน!"
เสียงร้องคำรามดังขึ้นในห้องนั่งเล่น
เย่จื่อเฉินพุ่งเข้าไปหาตี้เทียนเหมือนคนบ้า โดยไม่ได้สนใจาแตามตัวของตนแม้แต่น้อย
แต่ครั้งนี้ตี้เทียนไม่ได้ถีบกลับไป...
กึก
แขนขวาโดนตี้เทียนจับตวัดไพล่หลัง ขาซ้ายกดไว้บนแผ่นหลังแล้วกดหัวเขาลงกับพื้นเต็มแรง
"ฉันว่าฉันบอกนายหลายครั้งแล้วนะ ว่าฉันไม่ชอบคนที่แข็งกระด้างเกินไป ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ ฉันเป็คนพูดคำไหนคำนั้น ฉันจะเอาผู้หญิงสองคนนี้ ก็แปลว่านายเอาไปไม่ได้ เข้าใจหรือยัง?"
"ตี้เทียน ฉันจะฆ่านาย..."
กึก
เท้าขวากดลงที่ขาของเย่จื่อเฉินเต็มแรง ตี้เทียนหรี่ตาลงก่อนจะโน้มหน้าเข้าไปพูดเสียงเยือกเย็นข้างหูของเขา
"ฉันว่านายกำลังรนหาที่ตายอยู่นะ"
"ฮะฮะ...ตี้เทียน ฉันจะฆ่านาย..."
"นายไม่มีโอกาสแล้ว"
ยังไม่ทันสิ้นเสียง มือขวาของตี้เทียนก็มีแสงสว่างจางๆ ปรากฏขึ้นเหนือหัวของเย่จื่อเฉิน และพร้อมที่จะฟาดลงไป
"อย่า!"
เซี่ยเขอเข่อะโลั่น แสงสีทองที่รูม่านตาของเธอก็ยิ่งชัดเจนขึ้น
แต่ทันใดนั้น ร่างอันเลือนรางร่างหนึ่งก็ได้ปรากฏขึ้นมาในคฤหาสน์
"ฮ่าฮ่า ซุนหงอคงมาแล้ว!"