เย่เฟิงประหลาดใจ แต่สีหน้ากลับเรียบเฉย เขาจับมือของอีกฝ่าย “นายแน่ใจได้ยังไงว่าฉันคือเย่เฟิง?”
“แค่เดาน่ะ” หนานฟางหัวเราะก่อนดึงมือกลับ
“งั้นเหรอ?” เย่เฟิงไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ เขาเพียงมองอีกฝ่ายนิ่งๆ
“มีข่าวลือว่าโม่จิ่วเกอและเย่เฟิงเป็เพื่อนกัน” หนานฟางอมยิ้ม “แต่กลับไม่มีใครเคยเห็นพวกเขาปรากฏตัวในเวลาเดียวกันเลย ดังนั้นฉันคิดว่าเป็ไปได้มากที่พวกเขาเป็คนคนเดียวกัน นายคิดว่าไงล่ะ?”
“ก็อาจจะ” เย่เฟิงยิ้มมุมปาก เขาไม่ยอมรับและไม่ปฏิเสธ อย่างไรก็ตามท่าทีของเขาทำให้หนานฟางมั่นใจมากขึ้น
หนานฟางไม่มีวรยุทธ์และไม่สามารถแยกแยะรูปลักษณ์ของคนสองคนได้ เขาไม่ใช่คนในยุทธจักรจึงไม่เหมือนหลงหว่านเอ๋อร์ที่สรุปเอาเองว่าเย่เฟิงเป็คนธรรมดาหลังจากตรวจสอบไม่พบวรยุทธ์ของอีกฝ่าย ยิ่งกว่านั้นหนานฟางยังเชี่ยวชาญการปลอมตัว ทำให้เขาเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าไม่สามารถสรุปอะไรจากรูปลักษณ์ภายนอกได้
ชายหนุ่มถอดหน้ากากของตัวเองออก ใบหน้าหล่อเหลาโดดเด่นของเขาปรากฏตรงหน้าเย่เฟิง อาจเพราะเขาต้องปลอมตัวและใส่หน้ากากตลอดทั้งปี ใบหน้าของเขาจึงขาวซีดไปบ้าง แต่ไม่อาจลดทอนความหล่อเหลาของเขาได้เลย
หนานฟางเป็หนึ่งในผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ฆ่าล้างแก๊งประตูสรรค์ใต้เมื่อหนึ่งปีก่อน หลังจากไช่เฉ่าหงถูกสังหาร ในที่สุดเขาก็เห็นแสงสว่างได้อีกครั้ง!
“ฉันแอบรวบรวมข้อมูลทั้งหมดของไช่เฉ่าหง” น้ำเสียงของหนานฟางสดใสมาก ทว่าหลังจากนั้นกลับทอดถอนใจ “ฉันคิดว่าอาจต้องใช้เวลามากกว่านี้จึงจะสามารถเปิดเผยแผนร้ายของเขาได้ นึกไม่ถึงเลยว่านายจะสังหารเขาได้เร็วขนาดนี้ ขอบคุณนายมากจริงๆ นะ”
ขณะพูด เขาก็เงยหน้าขึ้น หน้ากากผีสีขาวของคนตรงหน้าสะท้อนแสงจันทร์ส่งผลให้มันดูน่ากลัวอย่างประหลาด
“ไม่เป็ไรหรอก มันเป็สิ่งที่ฉันควรทำอยู่แล้ว” เย่เฟิงยิ้มบางขณะตบไหล่อีกฝ่ายแ่เบา “ไปกันเถอะ เราเดินไปคุยไป”
“อาการาเ็ของนาย...” หนานฟางเหลือบมองรอยไหม้บนแผ่นหลังของคนข้างกาย
“ไม่เป็ไร” เย่เฟิงส่ายหน้า รอให้พลังลมปราณของเขาฟื้นคืนมาค่อยใช้เคล็ดแสงศักดิ์สิทธิ์รักษาอาการาเ็ของตัวเอง
ตราบใดที่ไม่ได้าเ็ร้ายแรงถึงชีวิต เคล็ดแสงศักดิ์สิทธิ์ล้วนรักษาได้ เพียงแต่ต้องใช้พลังชี่บางส่วนเท่านั้น แน่นอนว่าหากถูกยิงที่ศีรษะหรือถูกตัดมือตัดขา ต่อให้ใช้เคล็ดแสงศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่อาจรักษาได้
เพียงไม่นานเงาร่างของทั้งคู่ก็หายไปท่ามกลางความมืด เหลือเพียงรถแท็กซี่ซานทาน่าสีเหลืองจอดไว้ที่เดิม วันรุ่งขึ้นกลุ่มทหารคงมาลากออกไปเอง...
ทั้งสองคนเดินเข้าไปในพงหญ้ารกร้าง ทำให้พวกเขายิ่งดูเหมือนภูตผี
“นายมีหลักฐานในมือตั้งเยอะ ทำไมไม่รายงานตระกูลหลินโดยตรงเลยล่ะ” เย่เฟิงเอ่ยปาก
“คนอย่างไช่เฉ่าหง หากยังมีชีวิตอยู่ มันย่อมมีวิธีปฏิเสธเื่นี้อยู่แล้ว” หนานฟางตอบ
ตอนนี้ไช่เฉ่าหงตายไปแล้ว เขาจึงกล้ามอบหลักฐานทั้งหมดให้ตระกูลหลิน โดยไม่ต้องกลัวว่าฝ่ายตรงข้ามจะหาทางแก้ตัวได้อีก!
“ปกติตอนอยู่ที่มหาวิทยาลัย นายน่าจะมีโอกาสมากมายที่จะเอาชีวิตเขาได้ไม่ใช่รึไง?” เย่เฟิงยังสงสัย ด้วยฝีมือของหนานฟาง การสังหารไช่เฉ่าหงในมหาวิทยาลัยย่อมไม่ใช่เื่ยาก แม้อาจจะเสี่ยงต่อการถูกจับก็เถอะ
“เขาเป็ศัตรูคนแรกของฉัน” หนานฟางพูด ประกายเย็นเยียบในแววตา “ถ้ามีเขาเป็ศัตรูเพียงคนเดียว ฉันคงสังหารเขาเพื่อล้างแค้นไปแล้ว ต่อให้ฉันถูกจับก็ไม่เป็ไร น่าเสียดายที่นอกจากเขาแล้วยังมีคนอื่นอีก เขาเป็เพียงคนแรกเท่านั้น เพราะงั้นฉันจะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ ไม่สามารถเอาชีวิตตัวเองไปทิ้งได้...”
เมื่อเย่เฟิงได้ฟังดังนั้นก็เข้าใจทันที ชายหนุ่มไม่ได้ถามว่าอีกฝ่ายยังมีศัตรูที่ไหนอีก แม้พวกเขาเคยร่วมมือกันมาแล้ว ทั้งยังเป็ความร่วมมือที่ทำให้รู้สึกสบายใจทั้งคู่ แต่สำหรับเื่นี้ เขาไม่ควรถามมากเกินไป เหมือนกับเย่เฟิงในตอนนี้ ทั้งคู่ไม่สามารถเปิดไพ่ตายทั้งหมดต่อกันและกัน
“บางทีพวกเราอาจได้ร่วมมือกันอีก” หนานฟางครุ่นคิดสักพักก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่ว่ายังไงการร่วมมือกันครั้งนี้ของเราก็ทำให้ฉันสบายใจ พรุ่งนี้ฉันต้องเดินทางไปทะเลตะวันออก หากมีวาสนาเราคงได้พบกันอีก”
“ไปทะเลตะวันออกงั้นเหรอ?” เมื่อเย่เฟิงได้ฟังก็ขมวดคิ้ว
“อืม ฉันได้ข่าวมาว่าตอนนี้ศัตรูคนต่อไปของฉันอยู่ที่ทะเลตะวันออก... นายอย่าเข้าใจผิดล่ะ” หนานฟางโบกมือ “ศัตรูของฉันไม่ใช่คนตระกูลหลง”
“นายรู้ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับตระกูลหลงได้ยังไง?” เย่เฟิงถาม
“ตอนนี้ทุกคนอาจจะรู้กันทั่วแล้วมั้ง?” หนานฟางหัวเราะอย่างช่วยไม่ได้ “มีข่าวลือว่านายมีความสัมพันธ์กับคุณหนูตระกูลหลง... แค่กๆ”
“คนของวิหารดาบ์ปล่อยข่าวงั้นเหรอ?” เย่เฟิงสงสัย ในที่สุดเื่นี้ก็เกิดขึ้นจนได้
“จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและตามข้อมูลที่ฉันมี ฉันคิดว่าอาจเป็ไปได้ ได้ยินมาว่าเมื่อไม่นานมานี้หนึ่งในคู่รักดาบ์ถูกสังหารไปแล้ว ถ้าฉันเดาไม่ผิด คนที่สังหารเธอคงเป็นายสินะ?” หนานฟางคาดเดาพลางเหลือบมองเย่เฟิงที่ยังใส่หน้ากากสีขาว
“เป็ฉันเอง” เย่เฟิงยิ้ม “อีกอย่าง ฉันก็จะไปทะเลตะวันออกเหมือนกัน”
“หืม? เพราะตระกูลหลงเหรอ? ถ้าอย่างนั้นทำไมพวกเราไม่ไปด้วยกันล่ะ?” หนานฟางถามอย่างไม่แน่ใจนัก
“ตอนนี้ฉันยังออกจากเมืองเยี่ยนจิงไม่ได้” เย่เฟิงพูดขณะที่รู้สึกอึดอัดอยู่ในใจ เขาเองก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เย่เวิ่นเทียนอยู่ที่ไหน เพราะอีกฝ่ายไม่อนุญาตให้เขาออกจากเมืองเยี่ยนจิงเด็ดขาด ชายหนุ่มยังกลัวตาแก่นี่อยู่มาก เพราะความสามารถของตัวเองยังไม่อาจเป็คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย แม้ตนจะมีทักษะล่องหนแต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนสูงวัย เกรงว่าจะไร้ประโยชน์
“งั้นพรุ่งนี้ฉันล่วงหน้าไปก่อนแล้วกัน” หนานฟางเสียดายเล็กน้อย “นี่เบอร์โทรศัพท์ของฉัน นายไปถึงทะเลตะวันออกเมื่อไรก็ติดต่อมาได้ ฉันขอไปสืบข้อมูลที่นั่นก่อน”
สำหรับตัวตนของจ้าวิเจ๋อผู้มีบุคลิกตุ้งติ้ง แน่นอนว่าตอนนี้ไม่จำเป็อีกต่อไปแล้ว!
“ขอบคุณมาก” เย่เฟิงไม่ปฏิเสธ เขาเก็บเบอร์โทรของอีกฝ่าย
ในเมื่อคนตรงหน้าจะเดินทางไปทะเลตะวันออกพรุ่งนี้ แสดงว่าศัตรูของเขาเป็คนในยุทธจักรงั้นหรือ? ลำพังความแข็งแกร่งของเขา เกรงว่ายากจะสังหารคู่ต่อสู้ได้ ชายหนุ่มจึงคิดสืบหาข้อมูลก่อน แล้วรอเย่เฟิงไปถึง จากนั้นทั้งสองคนค่อยร่วมมือกันอีกครั้งเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน!
เย่เฟิงเดินไปทางที่ซูเมิ่งหานซ่อนตัว เมื่อระยะห่างไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตร ทั้งสองคนก็แยกทางกัน
เมื่อครู่เดินด้วยกันเพราะทั้งคู่้าพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูล แต่เย่เฟิงย่อมไม่พาเขาไปเจอซูเมิ่งหาน
“ยินดีที่ได้ร่วมมือกันนะ” ก่อนจากไป หนานฟางยกกำปั้นมาทางเขา
“ยินดีเช่นกัน” เย่เฟิงยิ้มก่อนยกกำปั้นชนกับอีกฝ่าย
หนานฟางเป็คนคิดอ่านรอบคอบ มีหลักการและเหตุผล ทั้งยังปกปิดตัวตนได้ดี หากในอนาคตเย่เฟิงเดินทางไปทะเลตะวันออก ไม่แน่ว่าความสามารถของอีกฝ่ายอาจช่วยเขาได้มากเลยทีเดียว!
เมื่อเย่เฟิงเห็นหนานฟางหายไปในพงหญ้ารกทึบแล้ว เขาก็ใช้ย่างก้าวไร้เงามุ่งไปสถานที่ที่ตนแยกกับซูเมิ่งหาน เพียงสองนาทีก็ใช้จิตหยั่งรู้หาที่ซ่อนที่เขาใช้ทักษะอำพรางตาปกปิดไว้ แต่ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็ต้องเปลี่ยนไป
ซูเมิ่งหานหายไปแล้ว!
เย่เฟิงตื่นตระหนก ซูเมิ่งหานหายไปไหน? ทักษะอำพรางตาที่เขาสร้างไว้ก็ยังอยู่ เธอหายไปทั้งที่เสื้อคลุมยังอยู่ ก่อนหน้านี้เขาถอดมันเพื่อแสร้งเป็ชายสวมหน้ากาก ไม่อย่างนั้นหากปรากฏตัวขึ้นในชุดเดียวกัน ต่อให้เป็คนโง่ก็สามารถเดาได้ว่าพวกเขาคือคนคนเดียวกัน
ชายหนุ่มสำรวจรอบบริเวณที่ใช้ทักษะอำพรางตาก็ไม่พบแม้แต่ร่องรอยของซูเมิ่งหาน ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงการะเิครั้งใหญ่ในโรงงานร้าง จึงยิ่งยากจะสงบใจได้ หรือซูเมิ่งหานเห็นแรงะเิทำให้เป็ห่วงเขาจนวิ่งออกไปเอง?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้