"ได้ความว่าอะไรบ้าง" เทรเลอร์ถามพลางทำสีหน้าเหมือนกับกำลังจะสนุกกับอะไรบางอย่างอยู่ ั้แ่งานเลี้ยงในครั้งนั้นก็ยังไม่ได้เจอกันอีกเลย
เนื่องจากกลิ่นเืที่หอมหวานเลยถูกกักบริเวณให้อยู่แต่วังส่วนตัวของรัชทายาทแต่เพียงผู้เดียว ไม่ได้ไปอยู่วังต่างหากและมีเสียงลือว่าได้รับความโปรดปรานมากถึงขั้นให้อยู่วังเดียวกัน ซึ่งก็ไม่น่าจะผิดกับความจริงสักเท่าไหร่ หากเป็เขาเองก็อยากจะให้อยู่คฤหาสน์เดียวกัน การมีมนุษย์แบบนั้นอยู่ในบ้านช่างเป็เื่ที่น่าสนใจยิ่งนัก
"ได้ข่าวมาว่าลอร์ดโฟลช์ เมล์ กับบารอนคีเซิน ถูกสั่งปลดยศชั่วคราวจากคุณชายริค ไวท์ แถมยังถูกสั่งให้ทำงานบ้านทุกอย่างทั้งหมดภายในวังเป็ระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ รวมถึงให้ใส่ชุดข้ารับใช้ชายตลอดระยะเวลาการลงโทษอีกด้วย ช่างสยดสยองอะไรเช่นนี้ หากเป็หม่อมฉันขอตายเสียยังดีกว่ามีชีวิตอยู่อย่างอัปยศเช่นนี้"
"อืม...น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ยิ่งรู้จักยิ่งน่าสนใจ"
"หมายความว่ายังไงขอรับ คุณชายใหญ่"
"ชาร์ที เด็กคนนี้มีความสามารถพิเศษที่ดึงดูดแวมไพร์รุ่นใหม่ให้เข้าหาได้ง่ายด้วยพลังงานบางอย่าง ในอนาคตอาจจะทำให้ตระกูลของเรามีชื่อเสียงมากกว่านี้ก็ได้ ข้าอยากได้เด็กคนนี้มาไว้ในมือไม่ว่าจะด้วยฐานะอะไรก็ตามแต่"
"ถ้างั้นทำยังไงดีครับ รัชทายาทให้คุณชายไวท์อยู่แต่ในวังไม่ให้ออกไปไกลเกินวังส่วนตัวเลยสักครั้ง" ชาร์ทีบอกด้วยสีหน้ากังวลเพราะคนในวังบอกว่าคุณชายไวท์ได้รับอนุญาตให้อยู่ในวังส่วนตัวของรัชทายาทเท่านั้น หลังจากนั้นจะมีการพิจารณาอีกทีแต่ก็ไม่รู้ความหมายว่าหมายถึงอะไรอยู่ดี
"ในเมื่อไม่ได้รับอนุญาตให้ออกมาด้านนอก ก็เข้าไปหาด้านในสิ! ส่งคนไปแจ้งกำหนดการว่าข้าขอเข้าพบคุณชายริค ไวท์ บุตรชายบุญธรรมของตระกูลริค"
"ขอรับ คุณชายเทรเลอร์"
หนังสือการขอเข้าพบคุณชายริค ไวท์ถูกส่งเข้ามายังพระราชวังหลวงได้ไม่ขาดสายนับั้แ่วันที่มีการประกาศตัวออกไป ทำให้หน่วยใหม่ที่มาคอยดูแลงานทั้งหมดของคุณชายริค ไวท์ ยุ่งมาตลอดระยะเวลาเกือบสองสัปดาห์ บัตรเชิญทยอยส่งเข้าพระราชวังส่วนตัวของรัชทายาทจนหมดแต่ว่าจะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางจนกว่าสร้อยเวทย์มนตร์กลบกลิ่นเืชนิดพิเศษจะสร้างเสร็จ และหลังจากนั้นไม่นานสร้อยที่ถูกสั่งทำพิเศษก็ถูกส่งเข้ามา ความหวังของทุกคนจึงเริ่มดีขึ้นแล้วส่งจดหมายที่ทำการคัดกรองทั้งหมดมายังคนดูแลส่วนตัวของคุณชายทันที
"ข้ามารับจดหมายทั้งหมดของสัปดาห์ที่ถูกเปิดตัวเท่านั้น นอกนั้นยังไม่ต้องนำมาให้ข้านะ" คัสซัสบอกพลางยื่นกล่องขนาดใหญ่สามใบให้สำหรับใส่จดหมาย เื่จดหมายปริมาณที่ มากกว่าปกตินั้นเขารับรู้มาโดยตลอดแต่มันยังไม่ใช่่เวลาที่ปลอดภัยเท่าไหร่นัก แต่ตอนนี้ถือว่าปลอดภัยแล้วสามารถตอบรับคำเชิญได้
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
"เข้ามาเลย คัสซัส" เสียงทุ้มนุ่มบอกพลางเขียนหนังสือจักรวรรดิต่อด้วยความตั้งใจ ช่างเป็เ้านายที่มีระเบียบแบบแผนมาก ถึงจะบอกว่ามาจากต่างโลกแต่วัฒนธรรมอะไรหลายๆ อย่างก็ช่วยให้ที่นี่ดูดีขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว
"ข้านำจดหมายทั้งหมดมาให้คุณชายแล้วขอรับ จะให้วางตรงไหน"
"มาวางไว้ที่โต๊ะกับข้างโต๊ะเลย เดี๋ยวมาช่วยกันอ่านจดหมายเพื่อดูกำหนดการ่ท้ายว่าของใครเลยกำหนดการไปแล้วก็วางฝั่งซ้ายของโต๊ะ ส่วนที่ยังไม่ถึงกำหนดวางฝั่งขวาของโต๊ะ แล้วอย่าลืมลำดับวันเดือนปีให้ถูกต้องเพื่อง่ายต่อการอ่านด้วยนะ ข้าจะเขียนการบ้านตรงนี้ต่อแล้ว"
"เดี๋ยวนะขอรับ! คุณชายต้องเป็คนอ่านจดหมายทุกฉบับ ไม่ใช่ข้า" คัสซัสรีบปฏิเสธทันทีเพราะเห็นสายตาจากรัชทายาทที่มองมาจากอีกฝั่งแล้วน่ากลัวเหลือเกิน หลังจากที่อนุญาตให้อยู่ที่นี่ก็สร้างทุกอย่างอยู่ในห้องเป็สองส่วนทั้งหมดราวกับจะคอยเฝ้ามองพฤติกรรมตลอดเวลาเลย อะไรที่ทำให้เป็กังวลได้มากขนาดนั้นกัน
"เ้าเป็พ่อบ้านของข้า ใช่หรือไม่"
"ใช่ขอรับ"
"รู้หรือไม่ว่าหน้าที่ของพ่อบ้านในเชื้อพระวงศ์มีหน้าที่เก็บความลับเพราะเป็คนดูแลที่ใกล้ชิดกับเ้านายมากที่สุด เพราะฉะนั้นคัดแยกจดหมายออกให้หมด ข้าจะทำการบ้านให้เสร็จจะได้เรียกให้เฟลิกซ์มาตรวจ" คราวนี้ไม่ใช่การขอร้องแต่เป็คำสั่งออกมาจากปากของไวท์ ท่าทาง สีหน้า แววตา ทุกอย่างบ่งบอกถึงอารมณ์ที่ไม่คงที่และพร้อมจะะเิหากไม่ทำตามคำสั่ง ลูกหลานักับเทพถือว่าไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ออร่าของพลังปรากฎออกมารอบตัวอย่างเห็นได้ชัด
"ขอรับ ข้าจะคัดแยกจดหมาย"
คีย์ถึงกับส่งเสียงหึในลำคออย่างพอใจ เขาเองก็ไม่รู้ว่าอีกคนนิสัยเป็ยังไง เปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน แต่สิ่งที่ทำให้รู้คือเด็กคนนี้กำลังเติบโตขึ้นมาเป็ลูกหลานักับเทพโดยสมบูรณ์ ทั้งที่อยู่ในดงของแวมไพร์แต่กลับไม่เกรงกลัวแถมยังทำหน้าตาเอาเื่ได้ขนาดนั้น รวมถึงความรู้บางอย่างที่ไม่น่ามีก็แสดงออกมาได้อย่างเหลือเชื่อ หลักฐานพวกนี้น่าจะเพียงพอที่ทำให้คนดูแลลูกครึ่งแวมไพร์กับมนุษย์เลิกเอาไปนินทาลับหลังเสียที วัฒนธรรมพวกนี้ไม่มีในจักรวรรดิหรอก ไปตามอ่านในหนังสือเล่มไหนก็ไม่มีทางเจอ สามารถพบเจอได้แค่เด็กคนนี้เท่านั้น
เพล้ง!
เศษกระจกแตกละเอียดเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังจะเข้ามาจู่โจม ด้วยความเร็วของแวมไพร์อย่างรัชทายาทรีบวิ่งไปคว้าร่างสูงโปร่งมาไว้กับตนเองแล้วบินมาอีกฝั่งตรงข้าม คนที่จะมีปฏิกิริยาหยาบคายและแอบเข้ามาได้โดยที่คนคอยดูแลทั้งหมดไม่รู้ตัวนั้นไม่มีทางเป็ไปได้ งั้นก็ต้องเป็บุคคลที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ ถึงได้ให้เข้ามาถึงเขตส่วนในได้ขนาดนี้ ควันที่ลอยคละคลุ้งไปทั่วทำให้ยังดูไม่ออกว่าใครมาเยือนอย่างเสียมารยาทแบบนี้ แต่พอเปล่งเสียงออกมาก็รับรู้ได้เลยว่าเป็ใครกัน
"ความจริงข้าขอให้คนส่งจดหมายมาเชิญไปที่คฤหาสน์เมื่อวานก่อน แต่พอมาเช็คกับทางพระราชวังบอกว่าเพิ่งนำจดหมายของสัปดาห์ก่อนเข้าพระราชวังส่วนตัวของรัชทายาท
ไม่อยากรออีกต่อไปแล้วเลยเดินทางมาหาเองเลยดีกว่า ดีใจที่ได้พบกันอีกนะ มนุษย์ต่างโลก" หลังจากควันเริ่มจางลงปรากฎใบหน้าของบุคคลที่ไม่น่าจะมาถึงที่นี่ได้เลยสักนิดเดียว
"สวิต เทรเลอร์ เ้าไร้มารยาทได้ขนาดนี้เลยงั้นรึ" เสียงทุ้มต่ำถามพลางระงับความโกรธเอาไว้ หากใช้พลังก็จะมีผลต่อสถานที่และอาจจะทำให้กระรอกน้อยหวาดกลัวได้ เหตุการณ์สงบสุขได้ไม่กี่สัปดาห์ก็มีเื่ให้ปวดหัวอีกแล้วหรือ
"ข้าคิดว่าคุณชายสวิตไม่อยากเจอหน้าข้านักหรอก เชิญกลับไปเถอะ! ส่วนเื่กระจกไปจ่ายเงินไว้หน้าพระราชวังหลวงแล้วค่อยกลับไป"
"เป็ลูกครึ่งักับเทพแล้วอวดดีจังนะ คิดว่าตัวเองเก่งมาจากไหนงั้นเหรอ รัชทายาทประคบประหงมขนาดนั้น เ้าไม่มีทางสู้ข้าได้" ตอนแรกตั้งใจจะมาคุยด้วยดีๆ เห็นทีจะไม่ได้ทำแบบนั้นเสียแล้ว
"ถ้าจะมารบกวนเวลาทำการบ้านของข้า กรุณากลับไปซะ! อีกไม่นานเฟลิกซ์จะมาตรวจแล้ว"
