“และอีกหกเดือนข้างหน้าทางสำนักถึงจะปล่อยให้บุตรหลานของพวกท่านกลับไปเยี่ยมบ้านได้”
“ เ้าทั้งหมดที่จะไปสอบคัดเลือกตามข้าขึ้นเขามา ”
เด็กที่จะมาสอบคัดเลือกทั้งหมดตามอาจารย์หญิงสองคนขึ้นเขาไปยังสำนัก หอมหมื่นลี้
“ พวกเ้าเห็นูเาที่อยู่ข้างหน้านี้ไหมมันไม่ได้สูงและชันมาก ขอแค่พวกเ้าเป็ขึ้นไปได้ภายในเวลาที่กำหนดก็จะถือว่า พวกเ้าสอบผ่านข้อเื่ความแข็งแรงของร่างกาย เริ่มได้!”
ชิ่วอิง“ เด็กอายุไม่เท่ากันส่วนสูงก็ต่างกันแต่จับเวลาเท่ากัน แค่นี้ก็แพ้ั้แ่ยังไม่เริ่ม ทำไมไม่รับเด็กอายุสิบสี่ สิบห้าไปเลยเล่า”
เป็อย่างที่ชิ่วอิงคิดไว้ ไหนจะเดินจากตีนเขาขึ้นมาแล้วให้ปีนเขาขึ้นมาอีกเด็กอายุต่ำกว่าสิบปีถูกคัดออกยกเว้นชิ่ว อิงที่แพ้ไม่ได้ เด็กพวกนั้นแค่มาหาประสบการณ์ อีกห้าปีจะได้มาสมัครใหม่
คนที่สอบคัดเลือกไม่ผ่านต่างทยอยเดินลงเขากลับไปหาครอบครัว ที่รออยู่ตีนเขาของสำนัก
รอบที่สองเป็การนั่งสมาธิให้ทุกคนหายใจเข้าออกและนั่งให้นิ่งภายในเวลาหนึ่งชั่วยาม
ชิ่วอิง“ ทำไมเรารู้สึกว่าเคยนั่งแบบนี้มานานแล้วแต่ไม่รู้ว่าเป็ที่ไหน”
เด็กที่นั่งสัปหงกหรือเปลี่ยนท่านั่งเพราะเมื่อยจะถูกคัดออก และเหมือนบางคนจะรู้และฝึกมาอย่างดี
รอบนี้มีผู้ผ่านเข้าไปแค่ห้าร้อยกว่าคนเท่านั้น มีเด็กทยอยลงจากเขาเป็รอบๆ
รอบที่สาม เป็ตัวหนังสือโบราณ ที่ให้ทุกคนเขียนหรือวาดตามให้เหมือนที่สุดเพราะต่างคนก็ไม่เคยเห็นมาก่อนแต่คนวาดรูปเป็ได้เปรียบกว่าเพื่อนแค่มองก็วาดออกมาได้แล้ว
ชิ่วอิง เคยวาดตามแต่ลายเส้นที่ทแยงไปมาเท่านั้นพอมาตัวหนังสือ ก็ยากเหมือนกันแต่คิดว่าเหมือนที่สุดแล้ว
รอบนี้ชิ่วอิงผ่านมาได้แบบเฉียดฉิว ที่เหลืออยู่ตอนนี้ สามร้อยกว่าคน
รอบสุดท้ายคือให้ทุกคนแสดงความสามารถ ที่มีเช่นการต่อสู้กระบี่ธนูร้องรำเล่นดนตรีวาดภาพ
“รอบนี้คงไม่รอด เหมาะกับแม่นางน้อยในห้องหอ ที่ร้องรำวาดภาพเล่นดนตรี แล้วข้าจะเอาอะไร ไปแข่งขันกันละ รอบสุดท้ายแล้วด้วยเฮ้ย!” ชิ่วอิง ถอนหายใจไม่รู้ครั้งที่เท่าไหร่แล้ว
แต่มีเพลงหนึ่งที่ผุดขึ้นมาในหัวที่โดยนางก็ไม่รู้ตัว จึงใช้เพลงนั้นที่ร้อง แสดงความสามารถในครั้งนี้คือเพลงลาวดวงเดือน ด้วยเนื้อและทำนองที่ไม่เหมือนใครในนี้อาจารย์หกเจ็ดคนหันมามองหน้ากัน
ในห้องทดสอบการแสดงความสามารถ เงียบกับเสียงร้องของชิ่วอิงและนาง แสดงเป็คนสุดท้ายหลังจากร้องจบ คู่แข่งขันด้วยกันยังตบมือให้ ชิ่วอิงยังแอบดีใจ ว่าตนต้องผ่านการแสดงครั้งนี้เป็แน่
“แต่?!” นางสอบไม่ผ่านสำนักรับสองร้อยคนนางเป็คนที่ สองร้อยหนึ่ง อย่าว่าแต่ชิ่วอิงสับสนกับการตัดสินครั้งนี้แม้แต่ ผู้เข้าร่วมทดสอบทุกคนก็สับสนเหมือนกัน การแสดงของชิ่วอิงถือว่าดีคนหนึ่งทีเดียว
ชิ่วอิง กำลังจะเดินลงเขาไปยังเบื้องล่างนางทำสุดความสามารถแล้ว ค่อยหาทางออกให้กับครอบครัวว่าจะไปทางไหนกันดี
“ เด็กน้อยด้วยคะแนนของเ้าห่างจาก ผู้สอบคัดเลือกคนที่สองร้อย ไปแค่คะแนนเดียวเองข้ารู้มาว่า ครอบครัวของเ้ามาจากถิ่นอื่นถ้าเ้าไม่เรียนที่นี่พวกเขาจะลำบาก”
“ ยังไงเ้ายอมไปเป็เด็กรับใช้ของท่านอาจารย์ใหญ่ดีหรือไม่ อย่างน้อยห้าปีหลังจากนี้ก็สามารถเรียนได้เลยโดยที่ไม่ต้องสอบคัดเลือกอีก ทางครอบครัวของเ้าก็อยู่ในเมืองนี้ได้ต่อไป”
“ ข้าต้องทำยังไงบ้างหรือเ้าคะ ที่ให้ไปเป็เด็กรับใช้อาจารย์ใหญ่”
“ ก็คอยรับใช้ท่านอาจารย์ว่าจะสั่งให้ทำอะไรไม่ใช่งานหนักหรอกเหมาะสำหรับเด็กอย่างเ้า่ว่างที่อาจารย์ไม่มีงานให้อาจจะให้ไปช่วยดูแลสวนสมุนไพร หรือว่าวิ่งยืมหนังสือและส่งหนังสือที่ห้องสมุดก็มีประมาณนี้แหละ”
“ ถ้ามีแค่นี้ข้าตกลงเ้าค่ะ แต่ถ้าข้าอยู่ไม่ครบห้าปีก็ได้ใช่ไหมเ้าคะ”
“ ย่อมได้แต่ถ้าเ้าอยู่ไม่ครบห้าปีรอบหน้าเ้าก็แค่สอบคัดเลือกเข้ามาใหม่เท่านั้นเอง”
“ ได้เ้าค่ะงั้นถ้าตกลงจะอยู่เป็เด็กรับใช้ท่านอาจารย์ใหญ่ที่นี่ ”
“ ดีอย่างนั้นเ้าตามข้ามาจะพาไปห้องพักของเ้า ”
สำนักหอมหมื่นลี้ เป็แบบตึกสองชั้นที่สร้างด้วยไม้มีอยู่สี่หลังเป็ห้องพักของลูกศิษย์สามหลัง และเป็ที่ให้ศึกษาเล่าเรียนรวมถึงห้องสมุดหนึ่งหลัง
สิ่งที่ทำให้ชิ่วอิง แปลกใจก็คือนางเป็เด็กรับใช้ท่านอาจารย์แต่ให้พักอยู่ใกล้กับป่า ที่ดูเงียบและวังเวงสำหรับเด็กน้อย เป็กระท่อมหลังน้อยอยู่ใกล้สวนสมุนไพร
“ นี่พวกอาจารย์ไม่ได้ให้ข้ามาเป็คนเฝ้าสวนสมุนไพรหรอกนะ ไหนบอกว่ารับใช้ท่านอาจารย์ใหญ่ทำไมถึงไม่ให้อยู่ใกล้ๆกันล่ะ”
ต่อมาชิ่วอิงถึงรู้ว่า ต้องมาอยู่ในตำแหน่งคนรับใช้ไม่มีอะไรให้เลย ข้าวก็ต้องไปหากินในครัวเอาห้องน้ำก็ต้องไปใช้รวมกันกับแม่บ้าน ซึ่งมันไกลจากที่พักมาก หนังสือไม่มีสิทธิ์เรียนแค่ยืนมองยังไม่ได้
ผิดกับลูกศิษย์ ทั้งสองร้อยคนที่มีความเป็อยู่ดีทุกอย่างมีห้องนอนส่วนตัว แค่ตั้งใจเล่าเรียนเท่านั้น มีอาหารไปส่งถึงโต๊ะ เสื้อผ้าชุดแต่งกายของสำนักนักศึกษาที่มีสีชมพูแชมขาวสวยงาม
“ จะกลับลงเขาไปตอนนี้ก็กลัว ทุกคนจะเสียใจตอนนี้ท่านพ่อน่าจะหาที่ให้ พี่ใหญ่และพี่รองสมัครเข้าเรียนแล้ว นี่เราตัดสินใจอะไรผิดไปหรือไม่ ทำไมมันไม่เป็เหมือนอย่างที่คิดเอาไว้เลย”
“ ต้องอดทนไว้ก่อน แต่พวกเขาช่างใจดำยิ่งนักให้เด็กหกขวบอย่างเรา อยู่ในกระท่อมข้างดงสมุนไพรแบบนี้”
“ยังดีที่มีแม่บ้านเอาที่นอนหมอนมุ้งมาให้ ไม่งั้นข้าคงได้นอนกับพื้นไม้เป็แน่ แต่เอ้! นิสัยแบบนี้สมควรพวกท่านจะเป็อาจารย์จริงหรือ”
แต่เพราะความเหนื่อยอ่อนจากการสอบคัดเลือกชิ่วอิงก็หลับไปโดยที่น้ำไม่อาบข้าวไม่กิน
รุ่งเช้า“ เมื่อคืนนอนโดยที่ไม่ได้อาบน้ำ เช้านี้ต้องรีบไปอาบก่อนที่คนอื่นจะใช้ห้องน้ำกัน”
ชิ่วอิงที่ตื่นแต่เช้าแต่ไม่รู้จะทำอะไร ก็เดินสำรวจสำนักหอมหมื่นลี้แห่งนี้ ทางเข้าห้องสมุดจะมีร้านขายอุปกรณ์การเรียนที่ราคาค่อนข้างแพง
“ อยากได้สมุดวาดภาพ พู่กันกับหมึก ตำลึงที่ท่านย่ากับท่านแม่ให้มาจะซื้อพอหรือไม่หรือว่าเราจะไปหาเพิ่มดี ลองเดินรอบสำนักดูเผื่อ จะมีคนทำสิ่งของตกหล่นหายและฝังเข้าไปในดิน” นั่นจึงกลายเป็อาชีพต่อมาของชิ่งอิง
“ ไม่เลวเลยทีเดียวที่นี่เปิดมาห้าพันกว่าปี ของมีค่าที่ทำตกหล่นไว้ เก็บไว้ก่อนเอาไว้ไปขายตอนที่ลงจากสำนัก แค่ตำลึงทองกับตำลึง นี้ก็น่าจะพอใช้ไปหลายเดือน”
ชิ่วอิงมารับใช้อาจารย์ใหญ่ ที่เป็หญิงอายุประมาณ ห้าสิบแต่ดูดีเหมือนกับสามสิบกว่าเท่านั้น เพราะว่าพวกเขานั่งบำเพ็ญเพียร กันเป็ประจำทำให้มีใบหน้าที่อ่อนเยาว์
มารอั้แ่เช้าแต่ไม่มีงานอะไรให้ทำเลย นอกจากยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้ เป็ชื่อหนังสือไปให้ยืมที่ห้องสมุด“ ตอนอาจารย์เลิกสอนแล้วเ้าค่อยเอามาให้”
ชิ่วอิง เดินมายังห้องสมุด และยื่นกระดาษให้กับอาจารย์ที่เฝ้าห้องสมุด “ อาจารย์เ้าค่ะข้าสามารถเข้ามาอ่านในห้องสมุดนี้ได้ไหมเ้าคะ”
“ ไม่ได้หรอกเด็กน้อยห้องหนังสือให้เฉพาะ ลูกศิษย์ของสำนักของที่นี่เท่านั้นเ้าไม่ใช่”ชิ่วอิง ข้าจะอยู่ได้นานไหมนี่
ชิ่วอิงรับหนังสือมา แล้วแวะซื้ออุปกรณ์เครื่องเขียนก่อนกลับไปที่กระท่อม
“ ไม่ให้เข้าห้องสมุดก็อ่านของอาจารย์นี่แหละ หนังสือที่อาจารย์สนใจต้องเป็ของดีอยู่แล้ว”
“ เอ๊ะ! ดูเหมือนจะเป็หนังสือ ลายเส้นเหมือน ที่เราเห็นอยู่ใต้ต้นไม้เลยนี่นาไม่ได้ต้องเอากระดาษมาเทียบดู”
“ ยัง เหมือนลายเส้นบนกระดาษใต้หีบที่เก็บไว้มันเป็วิชาอะไรกันแน่ น่าจะมีชื่อสิ”ชิ่วอิงพลิกหนังสือไปมา
“ อักขระค่ายกล มันคือสิ่งใดกันไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน แต่สิ่งนี้ทำให้กักกลิ่นจากต้นไม้ได้ จากนี่ถึงอาจารย์เลิกสอนลูกศิษย์อีกทั้งหลายชั่วยามคัดลอกลายเส้นพวกนี้ไว้ก่อนดีกว่า”
“ เส้นพวกนี้ไม่ง่ายเลย ถ้าเราวางก้อนหินหรือสิ่งของตามแนวของเส้นนี้และตรงกลางที่เป็เครื่องหมายลูกตา ต้องวางในที่รับและไม่ให้มีใครเห็น งั้นคัดลอกทั้งเล่มเลยดีกว่าถ้าเอาแต่ลายเส้นก็จะไม่รู้รายละเอียด”
ชิ่งอิงคัดลอก ได้ครึ่งเล่มก็เอาหนังสือไปให้กับอาจารย์ใหญ่เพราะได้เวลาเลิกสอนลูกศิษย์แล้ว
“ เด็กน้อยพรุ่งนี้ เวลาเ้าเอาหนังสือของอาจารย์ใหญ่ไปส่ง ข้าฝากเ้ายืมหนังสือเล่มนี้มาให้ด้วย”รอง อาจารย์ใหญ่พักอยู่ห้องติดกัน ยื่นรายชื่อหนังสือให้ชิ่วอิง
“ เื่อะไรจะรอพรุ่งนี้ไปยืมั้แ่ตอนนี้เลยดีกว่าห้องหนังสือยังไม่ปิดคืนนี้จะได้เอาไว้อ่านแก้เหงา สงสัยต้องหาซื้อเทียนมาด้วยถ้าใช้อ่านหนังสือ คงไม่พอเป็แน่”
“ท่านอาจารย์ ข้ามาขอยืมหนังสือให้อาจาย์รองเ้าค่ะ”ชิ่วอิงยื่นกระดาษให้กับท่านอาจารย์
“ อาจารย์เ้าค่ะถ้าข้าจะขอซื้อเทียนหาซื้อได้ที่ไหนเ้าคะ”
“ เด็กน้อยเทียนก็แจกให้ใช้วันละเล่มเ้าไม่พอใช้รึ”
“ อาจารย์ก็รู้ข้าพักอยู่ในสวน กลางคืนมันมืดข้ากลัวเลยไม่กล้าดับเทียนนอน อาจารย์พอจะมีขายให้ข้าหรือไม่เ้าค่ะ”
“ จะว่ามีก็มีแต่ราคาค่อนข้างจะแพงนะแถมข้ายังต้องขโมยขายให้เพราะความสงสาร เ้าที่นอนอยู่ผู้เดียวในกระท่อมในสวนสมุนไพร”
ชิ่วอิง ได้เทียนจากอาจารย์ที่เฝ้าห้องสมุดมาหนึ่งห่อใหญ่ในราคาที่แพงกว่าท้องตลาดถึงหนึ่งเท่าตัว
“ แวะไปดูที่ครัวเลยดีกว่าจะได้ไม่ต้องกลับไปกลับมา ถ้ามีอาหารจะได้รับไปเลย”
“ท่าน ป้าเ้าค่ะวันนี้มีอาหารอะไรบ้างข้าจะมารับกลับไปเลย พอดีมายืมหนังสือให้กับท่านอาจารย์ใหญ่จะได้ไม่ต้องเดินกลับมาอีก”
“เ้าตักไปเลยก็ได้เด็กน้อย อาหารก็อย่างที่เ้าเห็นนั่นแหละ ข้ากับเ้าก็กินไม่ต่างกัน”ชิ่วอิง ถ้ากินแบบนี้ร่างกายข้าจะไม่ กลายเป็คนแคระรึ
“ ท่านป้าเ้าค่ะถ้าเรา ซื้อผักและเนื้อมาทำเองละเ้าค่ะต้องทำยังไง ท่านก็เห็นข้าเป็เด็กตัวเล็กนิดเดียวถ้ากินแต่เศษผักเศษอาหารแบบนี้เมื่อไหร่ข้าจะโตกัน”
“ ไม่อยากหลอกเด็กน้อยขอแค่ให้เรามีตำลึงเท่านั้น เพราะแม่บ้านใหญ่เวลาไปจ่ายตลาดเขาจดทุกตำลึง ทุกอีแปะแต่ถ้าเราแอบซื้อมาทำกินเองก็ไม่ได้เกี่ยวกับของส่วนกลางของสำนัก”
“ ท่าป้าเ้าค่ะวันพรุ่งนี้ถ้าท่านไป ซื้อของที่ตลาด ซื้อเนื้อและผักอย่างดีมาทำกับข้าวด้วยนะเ้าค่ะ เราจะได้มีอาหารกินกันสองคน”ชิ่วอิงยืนตำลึงเงินให้กับแม่ครัว
“ เด็กน้อยเ้าชอบกินขนมไหมถ้าเ้าชอบพรุ่งนี้ข้าจะได้ซื้อมาให้เ้าด้วย”
“ ซื้อมาด้วยก็ได้จ้ะ แล้วสำนักเขาปล่อยให้ลูกศิษย์ลงเขาไปซื้อของหรือขายของที่ตีนเขาได้วันไหนเ้าคะข้ายังไม่ได้ถามอาจารย์ใหญ่เลย”
“ วันที่หนึ่งเด็กน้อย หากเ้าอยากไปซื้อเสื้อผ้าขนมของกินของใช้สามารถลงไปซื้อได้ หรือไม่อย่างนั้นข้าจะไปกับเ้าด้วยก็ได้ ก่อนถึงวันที่หนึ่งเ้าก็บอกเขามาอีกที”ชิ่วอิงยิ้มแล้วรีบหิ้วอาหารไปที่ กระท่อม