เทียบกับห้างสรรพสินค้าใหญ่โตในเมืองหลวง ห้างสรรพสินค้ามิตรภาพคงเป็แค่แหล่งซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคเล็กๆ ไม่มีความสำคัญอะไร แต่สำหรับอำเภอหลี่ว์ ห้างสรรพสินค้ามิตรภาพคือศูนย์กลางการค้าอันโดดเด่น คังอิง หรือจะพูดว่า ‘พวกเขา’ จะสามารถรับมือได้จริงๆ งั้นหรือ?
“ใช่แล้ว คุยไปคุยมา ก็กลายเป็แบบนี้แหละค่ะ ฉันลองคำนวณดูแล้วพบว่าโครงการนี้มีกำไรมาก ดังนั้นก็เลยหารือกัน” คังอิงกล่าวอย่างใจเย็น
“แต่ผมมีเงินสดแค่สองแสนกว่าหยวนเองนะ” สือเจียงหย่วนกล่าวอย่างลำบากใจ
คังอิงมองสีหน้าของสือเจียงหย่วน ก็รู้ว่าครั้งนี้เธอไม่ได้ทำให้สือเจียงหย่วนดีใจ แต่กลับทำให้เขาใมากกว่า
แต่ก็ไม่แปลกอะไร เพราะเดิมเขาไม่ได้คิดจะทำธุรกิจใหญ่โตขนาดนี้ แต่เธอไปรับปากอีกฝ่ายมาเอง
คังอิงกล่าวขอโทษ “ตอนแรกฉันคุยกับผู้อำนวยการหลี่ บอกเขาว่าพวกเราจะให้ค่าเช่าปีละห้าแสนหยวนเพื่อเช่าพื้นที่ห้างขายเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ผู้อำนวยการหลี่เข้าใจผิด เขาคิดว่าฉัน้าจะเช่าห้างสรรพสินค้ามิตรภาพทั้งหมด เขาจึงบอกกับฉันว่าปีละห้าแสนแปดหมื่นหยวน ฉันคิดว่าได้กำไรมากเลยก็เลยอดใจไม่ไหว ตกลงรับปากเขาไป”
“ห้างสรรพสินค้ามิตรภาพทั้งหมดห้าแสนแปดหมื่นหยวนงั้นหรือ?!” สือเจียงหย่วนตั้งสติได้ จากนั้นก็เริ่มคำนวณผลกำไร
“ใช่ค่ะ เดิมทีฉันตั้งใจว่าจะให้ค่าเช่าห้าแสนหยวน เพื่อเช่าห้างสรรพสินค้าหนึ่งชั้น ไม่คิดว่าผู้อำนวยการหลี่กลับเข้าใจผิด”
คังอิงยิ้มเจื่อนๆ ผู้อำนวยการหลี่คนนี้เป็คนที่เก่งในการเขียนบทความ แต่ดูแล้วเขาจะไม่เก่งด้านการค้าขาย
แต่ในอำเภอเล็กๆ แบบนี้ หากเขาปล่อยเช่าห้างสรรพสินค้าได้ ก็จะมีเงินมาจ่ายค่าชดเชยให้กับพนักงาน และปรับปรุงระบบองค์กรได้ หากการดำเนินการประสบความสำเร็จล่ะก็ นั่นคงเป็ผลงานสำคัญในประวัติการทำงานของผู้อำนวยการหลี่
สำหรับคนในระบบราชการ การมีผลงานเป็ตัวบ่งชี้สำคัญในการเลื่อนขั้น บางทีผู้อำนวยการหลี่อาจจะได้เลื่อนตำแหน่งเพราะเื่นี้ก็เป็ได้ ไม่แปลกที่เขาจะกระตือรือร้นเช่นนี้
จู่ๆ สือเจียงหย่วนก็รู้สึกกระจ่างแจ้งขึ้นมา เขาเริ่มคิดว่า บางทีผู้อำนวยการหลี่อาจไม่ได้เข้าใจผิดเื่ที่คังอิง้าเช่าห้างสรรพสินค้าหนึ่งชั้น แต่เขาอาจจะถือโอกาสโยน ‘เผือกร้อน’ หรือห้างสรรพสินค้ามิตรภาพให้คังอิง ดูว่าเธอจะรับมันไหวหรือเปล่า
หากคังอิงโลภมากจนยอมรับข้อเสนอนี้ ก็ถือว่าเป็การกระทำที่เอื้อประโยชน์อย่างยิ่งให้ผู้อำนวยการหลี่ เขาจะได้เงินทุนหมุนเวียนในการปรับปรุงระบบองค์กร อีกทั้งยังได้จารึกผลงานชิ้นโบแดงไว้ในประวัติการทำงานของเขา ประการหลังนี้อาจมีความสำคัญกับเขามากยิ่งกว่า
สือเจียงหย่วนยิ้มบางๆ แล้วเล่าเื่ที่เขาคาดเดาให้คังอิงฟัง
เมื่อคังอิงได้ฟังดังนั้น เธอก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ “ดูเหมือนไม่มีใครโง่งมเลยสินะ ที่เขาบอกว่า ‘เจียงไท่กงตกปลา ใครอยากติดเบ็ดก็ติดไป [1]’ ใครกันแน่ที่เป็เจียงไท่กง ใครกันแน่ที่เป็ปลา? พูดจริงๆ แล้ว ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน! แต่ว่ามันก็ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็คนมองมุมไหน ผู้อำนวยการหลี่มองว่าฉันเป็ปลา ส่วนฉันก็มองว่าเขาเป็ปลาเหมือนกัน”
สือเจียงหย่วนมองดูรอยยิ้มอันสดใสของคังอิง ราวกับว่าท้องฟ้าอันมืดมิดพลันมีสายฟ้าแลบแปลบปลาบ ผ่าแสงให้เงามืดทั้งหมดมลายหาย แล้วโลกทั้งใบก็ดูสว่างสดใสขึ้นมาทันใด
จากนั้นสือเจียงหย่วนก็เห็นสีหน้ากังวลใจของคังอิง ในใจพลันรู้สึกสงสารเธอขึ้นมา เหมือนกับว่าคำพูดของเขาทำให้เธอทุกข์ใจ
หัวใจของสือเจียงหย่วนพลันเต้นแรง เขากล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “แต่นี่ก็เป็เื่ดี ถ้าจะทำก็ต้องทำให้ยิ่งใหญ่ ในเมื่อมีโอกาสแบบนี้ เราก็ควรคว้ามันไว้”
คังอิงยังคงครุ่นคิดอยู่ว่าจะโน้มน้าวสือเจียงหย่วนอย่างไรดี แต่ไม่ได้คิดไว้ว่าสือเจียงหย่วนจะคิดได้เอง
เธอไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้ว สือเจียงหย่วนเปลี่ยนไปตามอารมณ์ที่แปรเปลี่ยนของเธอ คังอิงจึงเกลี้ยกล่อมเขา “ตอนนี้โครงการที่เรากำลังพูดถึง เกินงบประมาณที่คุณตั้งใจไว้ถึงสามเท่าตัว คุณต้องคิดให้ดีๆ นะคะ ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็ไม่ต้องฝืนหรอก”
“ไม่ต้องคิดแล้ว เอาแบบนี้ดีไหม? พวกเราลองไปกู้เงินดู ตอนนี้รัฐบาลมีเงินทุนสนับสนุนผู้ประกอบการอิสระ ทั้งดอกเบี้ยต่ำและปลอดดอกเบี้ย พวกเราสามารถยื่นขอในนามของคุณ แต่แบบนี้คุณจะต้องเป็หนี้
เหตุผลที่ต้องกู้เงินในนามของคุณก็เพราะว่าผมไม่ใช่คนในพื้นที่ ไม่มีสิทธิ์ได้รับประโยชน์ในการเริ่มต้นธุรกิจในท้องถิ่น ส่วนคุณเป็คนในพื้นที่ ดังนั้นจึงต้องยื่นขอในนามของคุณ
แน่นอนว่าผมไม่มีทางทำให้คุณเสียเปรียบ หากคุณกู้เงินมาสองแสนหยวน พวกเราก็มาทำธุรกิจร่วมกัน คุณเป็หุ้นส่วนแล้วกัน”
สือเจียงหย่วนบอกอย่างใจกว้าง การเปลี่ยนจากผู้จัดการมืออาชีพกลายเป็หุ้นส่วนนั้น ย่อมมีสถานะและตำแหน่งที่ต่างกัน คังอิงยินดีอย่างมาก
เงินกู้! การขอเงินกู้จากธนาคารเป็สิ่งที่ผู้ประกอบการชอบทำมากที่สุด ใช้เงินคนอื่นเพื่อทำให้ตัวเองร่ำรวย ช่างเป็อะไรที่ยอดเยี่ยมเสียจริง!
คนรวยจริงๆ นั้นมักจะหมุนเวียนเงินทุนของตนอยู่เสมอ ไม่เคยได้ยินว่าคนรวยจะนำเงินก้อนโตไปฝากธนาคารเพื่อกินดอกเบี้ย
เดิมทีสือเจียงหย่วนคิดว่าคังอิงจะต้องกดดันแน่ๆ แต่กลับไม่คิดว่าคังอิงจะดีใจที่ได้เป็หนี้ เธอกล่าวอย่างยินดีว่า “ถ้ากู้เงินได้ ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้วล่ะ คุณคิดว่าจะกู้เงินได้เท่าไหร่คะ?”
“ก่อนหน้านีผมได้ยินว่ามีกองทุนสนับสนุนผู้ประกอบการรุ่นหนุ่มสาว สามารถกู้เงินได้ถึงสองแสนหยวนโดยไม่คิดดอกเบี้ย” สือเจียงหย่วนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าว “ถ้ายังไม่พอ เดี๋ยวผมไปหายืมจากที่อื่นมาอีกสักแสนหยวนน่าจะได้”
พอสือเจียงหย่วนพูดแบบนี้ คังอิงก็รู้สึกสบายใจขึ้น
เธอมองออกว่าสือเจียงหย่วนคงใช้เส้นสายจากครอบครัวของป้ารองในอำเภอหลี่ว์แห่งนี้ ป้ารองของเขามีบ้านที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในเขตชานเมือง แล้วยังสร้างบ้านไว้ในตัวเมือง คิดว่าหล่อนคงไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน
แต่อย่างไรเสียสือเจียงหย่วนไม่ชอบพูดถึงภูมิหลังของครอบครัวตัวเอง คังอิงจึงไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม ขอเพียงแค่พวกเขามีความคิดเห็นที่ตรงกัน และสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ไปด้วยกันได้ก็พอแล้ว
หลังจากที่ทั้งสองคนพูดคุยกันจนเข้าใจ พวกเขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาทันที พวกเขาชนกระป๋องเบียร์กันอีกครั้ง คังอิงจิบเบียร์ไปเล็กน้อยตามความเคยชิน ส่วนสือเจียงหย่วนดื่มเบียร์ที่เหลือรวดเดียวจนหมดกระป๋อง
จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหยิบเบียร์จากตู้เย็นในห้องครัวอีกสองกระป๋องมาวางไว้ตรงหน้าคังอิงพลางกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “อย่ามองว่าคุณดื่มช้า แต่ปริมาณโดยรวมควรจะเท่ากัน”
คังอิงส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ฉันขอแค่กระป๋องเดียวก็พอ ส่วนคุณจะดื่มเท่าไหร่ก็ตามใจคุณเลย ฉันไม่รู้ด้วยว่าคุณดื่มเก่งขนาดไหน”
สือเจียงหย่วนงุนงง เขาแค่อยากชวนคังอิงดื่มให้มากขึ้นอีกหน่อย ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี เพียงแต่รู้สึกว่าถ้าดื่มด้วยกันก็ควรดื่มให้มากหน่อย ถึงจะคุยกันได้อย่างสนุกสนาน
สือเจียงหย่วนรู้สึกว่าเขาไม่ได้มองคังอิงเป็ผู้หญิงสวย อืม ใช่ เขาไม่ได้มองว่าคังอิงเป็ผู้หญิงสวย… แต่ไม่คิดว่าคังอิงจะปฏิเสธเขาอย่างไม่ใยดี
สือเจียงหย่วนรู้สึกน้อยใจเล็กน้อย เมื่อครู่ตอนที่พวกเขากำลังคุยเื่การเช่าห้างสรรพสินค้า บรรยากาศก็ยังดีอยู่เลย ทำไมพอเธอได้สิ่งที่้าแล้วถึงได้ทำเหมือนข้ามแม่น้ำแล้วรื้อสะพานแบบนี้ [2]?
แต่พอเห็นคังอิงปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้ เขาก็โกรธเธอไม่ลง
คังอิงรู้สึกว่าการดื่มเหล้าก็เหมือนกับการดูนิสัยคน คืนนี้เธอสามารถสังเกตนิสัยของสือเจียงหย่วนผ่านการดื่มได้
หากสือเจียงหย่วนเป็คนที่ติดเหล้า หรือพอเมาแล้วชอบพูดจาเหลวไหล ทำตัวไม่เหมาะสม คังอิงคงไม่ร่วมงานกับเขาในระยะยาว หลังจากที่เธอหาเงินได้แล้ว เธอก็จะถอนตัว
มิฉะนั้นแล้วตามความคิดของสือเจียงหย่วนเมื่อครู่ หากการลงทุนของพวกเขาต้องกู้เงินในชื่อของเธอ แบบนี้เธอก็จะเปลี่ยนสถานะจากผู้จัดการมืออาชีพกลายเป็หุ้นส่วนคนหนึ่ง แบบนั้นย่อมต้องร่วมงานกันระยะยาวอย่างแน่นอน อย่างน้อยๆ ก่อนที่เธอจะใช้หนี้หมด เธอก็ไม่อาจถอนตัวจากห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ได้
เชิงอรรถ
[1] เจียงไท่กงตกปลา ใครอยากติดเบ็ดก็ติดไป เป็สุภาษิตจีนโบราณ หมายถึง การทำบางสิ่งโดยมีเจตนาแอบแฝง คนที่จะตกเป็เหยื่อก็คือคนที่ยินยอมพร้อมใจเอง
[2] ข้ามแม่น้ำแล้วรื้อสะพาน เป็สำนวนจีน หมายถึง ไม่ให้ความสำคัญกับคนหรือสิ่งนั้นๆ อีกหลังจากได้ผลประโยชน์ที่้าแล้ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้