รายละเอียดของคดีเกิดการเปลี่ยนแปลงจนทำให้ผู้คนตื่นตระหนกใ ภายใต้ความเงียบสงัด ศาลพิจารณาคดีทั้งภายในและภายนอกต่างก็เกิดความโกลาหลขึ้น
ไม่ช้าเสียงของจวินจิ่วเฉินก็ทำให้ทุกคนเงียบลงในทันที
เขาเอ่ยว่า “พิสูจน์เดี๋ยวนี้! ”
เขาเป็คนจับตัวอู๋กงกงมา แล้วได้โยนความผิดเื่ของห่อยา วันนี้เขาเพียงแค่้าให้กูเฟยเยี่ยนมาดูความครึกครื้น ไม่ได้จะให้นางมาช่วยเหลือศาสตราจารย์แพทย์จริงๆ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าหญิงสาวผู้นี้จะสร้างความประหลาดใจให้เขาอีกแล้ว! หากสามารถพิสูจน์ได้ว่าลิ่วตันซางลู่อยู่ในเงื้อมมือของอู๋กงกง เช่นนั้นคดีนี้ก็จะจัดการได้อย่างง่ายดายขึ้น
“รับทราบเพคะ! ”
กูเฟยเยี่ยนเอ่ยพลางตั้งใจหันไปมองอู๋กงกง
อู๋กงกงจับจ้องไปที่กูเฟยเยี่ยนมาตั้งนานแล้ว ท่าทีของเขาเกิดความซับซ้อน ทั้งใทั้งสงสัย เขาคาดไม่ถึงว่ากูเฟยเยี่ยนจะมองออกว่าภายในผงยามีลิ่วตันซางลู่อยู่ ไหนจะสามารถพิสูจน์ได้อีก? นางจะพิสูจน์ได้อย่างไร?
อู๋กงกงไม่เชื่อว่าบนโลกใบนี้นอกจากนายท่านของเขาแล้วยังจะมีคนอื่นที่มีฝีมือยิ่งใหญ่จนสามารถวิเคราะห์ผงยาที่ผสมรวมกันเรียบร้อยแล้วได้อีก!
เขาถึงกับรู้สึกสงสัยว่าอันที่จริงแล้วกูเฟยเยี่ยนอาจจะมองไม่ออกว่าภายในผงยามีลิ่วตันซางลู่อยู่ ที่นางเอ่ยออกมาเช่นนี้อาจเป็ไปได้ว่ากำลังเจตนาหยั่งเชิงเขา นางวางกับดักใส่เขาเป็แน่
หลังจากที่อู๋กงกงครุ่นคิดไปมาเขาก็ตัดสินใจปิดปากเงียบต่อไป เขาจะรอดูว่ากูเฟยเยี่ยนจะทำอย่างไร
สายตาของกูเฟยเยี่ยนทอประกายถึงความเ้าเล่ห์ “ใต้เท้าหนานกง นู๋ปี้้าลูกกลิ้งบดยา ครก ตะแกรงร่อน จำนวนหนึ่งชุด อีกทั้ง้าสมุนไพรแต่ละชนิดที่ท่านได้ทำการตรวจสอบไปเมื่อสักครู่นี้อีกอย่างละหนึ่งชุด”
นางจะทำอะไร?
อู๋กงกงแอบคิดว่านังหนูผู้นี้คงจะแกล้งทำเื่ง่ายๆ ให้ลึกลับซับซ้อนเพื่อที่จะตบตาผู้คน! ทุกคนล้วนเกิดความอยากรู้อยากเห็น ใต้เท้าหนานกงไม่กล้าที่จะรอช้าจึงสั่งให้หยาเว่ยไปจัดเตรียมทันที
ผ่านไปไม่นานสิ่งที่กูเฟยเยี่ยน้าก็ถูกจัดเตรียมมาอย่างครบถ้วน หลังจากที่นางตรวจสอบความเรียบร้อยทีละชิ้นแล้ว ก็นำของทั้งหมดไปวางไว้บนโต๊ะ หญิงสาวทำการแนะนำสมุนไพรทั้งสิบชนิดต่อหน้าผู้คนทั้งหมดเพื่อรับรองว่าตนเองไม่ได้เล่นเล่ห์เหลี่ยมอะไร
หลังจากนั้นจึงนำสมุนไพรทั้งหมดมาทำให้เป็ผงโดยการบด ร่อน ตำ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อหน้าผู้คน วิธีการของนางมีความชำนาญราวกับว่ามีประสบการณ์มามากมาย การเคลื่อนไหวประดุจเมฆาที่ล่องลอยและสายน้ำที่ไหลริน เร็วทว่ายังคงความสง่างาม
จวินจิ่วเฉินมองไปที่มือเรียวของนางด้วยความพอใจมากทีเดียว มีเพียงแค่ตัวเขาเท่านั้นที่ทราบดีว่าเขาพอใจวิธีการของนางหรือพอใจที่าแบนมือของนางหายดีกันแน่
ผ่านไปครู่หนึ่ง กูเฟยเยี่ยนก็นำสมุนไพรทั้งหมดที่บดเป็ผงเรียบร้อยแล้วมาแสดงให้ทุกคนดูถึงสี ความแวววาว กลิ่น และความรู้สึกตอนที่ัั จากนั้นจึงนำผงสมุนไพรทั้งหมดมาผสมรวมกันแล้วทำการร่อนสามครั้ง สุดท้ายก็ได้กองผงยาที่มีสีเดียวกันและเนื้อััสม่ำเสมอออกมา เมื่อนำผงยาตัวนี้มาเทียบกับผงยาของอู๋กงกงแล้วแทบจะเหมือนกันทุกประการ
นางนำผงยาทั้งสองชุดยื่นไปที่ด้านหน้าของจวินจิ่วเฉินพลางเอ่ยด้วยความจริงจัง “จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยโปรดตรวจสอบดู”
จวินจิ่วเฉินเหลือบมองครู่หนึ่งโดยไม่พบสิ่งผิดแปลกอะไร เขาเพียงแค่พยักหน้าแสดงเจตนาว่าตนเองเห็นแล้ว
กูเฟยเยี่ยนไม่ได้หลงลืมเฉิงอี้เฟยผู้ที่ได้รับความเสียหายอีกหนึ่งราย นางยกผงยาแล้วเดินเข้าไป “ท่านแม่ทัพเฉิง โปรดตรวจดู”
เฉิงอี้เฟยมีความสุขจนอยากจะส่งยิ้มให้นาง ทว่าทันใดนั้นก็ตระหนักได้ถึงตัวตนของกันและกันจึงทำได้เพียงปล่อยผ่านไป เขาชำเลืองตามองโดยไม่พูดอะไรออกมา
กูเฟยเยี่ยนนำผงยาไปให้ใต้เท้ากงและใต้เท้าที่มาร่วมไต่สวนอีกหลายท่านได้ดู ทุกคนล้วนมองไม่ออกว่าผงยามีความผิดแปลกอะไร ซึ่งในขณะเดียวกันใต้เท้ากงก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยออกมา “แพทย์หญิงกู ผงยาทั้งสองชุดนี้…แตกต่างกันอย่างไร? ”
กูเฟยเยี่ยนอมยิ้มเบาๆ “นู๋ปี้จะพิสูจน์ให้ดูเดี๋ยวนี้ รบกวนใต้เท้ากงตามหากระต่ายมาสามตัวให้หน่อยเ้าค่ะ”
กระต่าย?
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมาทุกคนล้วนเข้าใจแล้วว่านาง้าจะทำอะไร นางจะทดสอบประสิทธิภาพของยา ถ้าพูดให้ถูกก็คือนางจะทดสอบพิษ! เมื่อสักครู่นี้ใต้เท้าหนานกงกล่าวเอาไว้ว่าผงยาตัวนี้มีพิษร้ายแรงมาก
วิธีการนี้ยอดเยี่ยมมาก!
อู๋กงกงรู้สึกประหลาดใจมาก เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่านอกจากการแบ่งแยกผงยาแล้วยังมีวิธีการทางอ้อมที่จะสามารถพิสูจน์ส่วนประกอบของผงยาได้อีก ั์ตาของเขาปรากฏถึงความชื่นชมโดยไม่รู้ตัว แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่กลัวสักนิด
ยาที่เขาผลิตออกมาเองเขาจะไม่รู้จักดีอย่างนั้นหรือ? แม้ว่าจะขาดลิ่วตันซางลู่ไปแต่พิษก็ไม่ได้แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่ใช้ไปแล้วผลลัพธ์จะออกมาเหมือนกัน นังหนูผู้นี้มีฝีมือจริงๆ แถมยังฉลาดอีกด้วย เพียงแต่ยังไม่อาจเรียกได้ว่าเป็ผู้เชี่ยวชาญ พิษและยาล้วนเป็ตระกูลเดียวกัน ผู้ที่เชี่ยวชาญทางด้านยาจริงๆ จักต้องรู้เื่พิษดั่งหลับตาเห็น!
ผ่านไประยะเวลาหนึ่งถ้วยชา หยาเว่ยก็นำกระต่ายสามตัวมาให้
กูเฟยเยี่ยนคว้ากระต่ายมาก่อนหนึ่งตัว กรอกผงยาของอู๋กงกงลงไป ผ่านไปชั่วครู่กระต่ายที่เดิมทีมีชีวิตอยู่จู่ๆ ก็ล้มตัวลง ขาทั้งสี่กระตุกอย่างรุนแรง ไม่นานตาหูจมูกปากก็มีเืออกแล้วตายไป
ทุกคนต่างก็เกิดความสะอึก ยาของอู๋กงกงเป็พิษอย่างรุนแรงจริงๆ !
สีหน้าของกูเฟยเยี่ยนสงบนิ่ง จากนั้นจึงคว้ากระต่ายมาอีกตัวแล้วกรอกยาที่นางจัดเตรียมไว้เมื่อสักครู่นี้ลงไป ในคราวนี้ห้องโถงขนาดใหญ่ของศาลพิจารณาคดีได้เกิดความเงียบ ทุกคนล้วนจ้องมองไปที่กระต่ายด้วยความตื่นเต้น
พวกเขาพบว่ากระต่ายตัวนี้ะโได้ครู่หนึ่ง ไม่ช้าก็ล้มลงไป ขาทั้งสี่กระตุกรุนแรง ตาหูจมูกปากมีเืออกมา ปฏิกิริยาตอบสนองเหมือนกับกระต่ายตัวแรกทุกประการ!
นี่…
ห้องโถงใหญ่ที่เดิมทีก็เงียบอยู่แล้วตอนนี้ได้เงียบเป็เป่าสาก อู๋กงกงมั่นใจอย่างยิ่ง มุมปากของเขาค่อยๆ ปรากฏถึงความยิ้มเยาะ ด้านนอกห้องโถง จวินเย่าเฉิงที่ยังไม่ได้จากไปได้ถอนหายใจออกมาในที่สุด เขาคิดว่าหากโทษฐานน้อยลงสักข้อก็เป็เื่ดี!
ใต้เท้ากงจึงเอ่ยออกมาว่า “แพทย์หญิงกู พิษนี้ออกฤทธิ์เหมือนกันทุกประการ ยาทั้งสองชุดนี้…แตกต่างกันอย่างไร? ”
กูเฟยเยี่ยนไม่ได้ตอบกลับไปแต่พลิกใบหูกระต่ายสองตัวที่ตายไปแล้วขึ้นมา ไม่ต้องให้นางบอกใบ้ไม่ช้าทุกคนก็เห็นได้ถึงความแตกต่างของโคนหูกระต่ายทั้งสองตัว!
กระต่ายตัวที่กินผงยาของกูเฟยเยี่ยนเข้าไป โคนหูไม่มีอะไรผิดปกติ ทว่ากระต่ายที่กินผงยาของอู๋กงกงเข้าไปโคนหูปรากฏถึงตุ่มสีดำเล็กๆ เห็นได้ชัดว่าเป็สัญญาณชนิดหนึ่งของการถูกพิษ
นี่มัน!
อู๋กงกงตกตะลึงจนตาค้างและไม่กล้าเชื่อ
ทำไมถึงมีสัญญาณการถูกพิษเช่นนี้? เขาไม่ทราบมาก่อนเลยจริงๆ ขนาดเขายังไม่ทราบแต่กูเฟยเยี่ยนกลับทราบดี!
ดังนั้นนังหนูผู้นี้มีทักษะทางด้านพิษ? อีกทั้งยังเลิศล้ำอีกด้วย?
อีนังหนูผู้นี้ไม่ได้เป็เพียงแพทย์หญิงหรือ? ตกลงแล้วนางซ่อนฝีมือไว้มิดชิดเพียงใดกัน!
แน่นอนว่ากูเฟยเยี่ยนมีทักษะทางด้านพิษ อีกทั้งยังอาศัยพร์อันมากมีเรียนรู้ด้วยตนเองเสียด้วย บัดนี้ใบหน้าของนางยังคงจริงจังออกไปทางเข้มงวด “จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย นู๋ปี้สามารถยืมลิ่วตันซางลู่ที่เป็ของกลางมาใช้ได้หรือไม่เพคะ? ”
จวินจิ่วเฉิน “อนุญาต”
กูเฟยเยี่ยนนำลิ่วตันซางลู่ออกมาเล็กน้อยเพื่อนำมาทำเป็ผงท่ามกลางสายตาของผู้คน จากนั้นจึงเติมเข้าไปในผงยาที่นางทำไว้เมื่อสักครู่นี้แล้วร่อนรวมกันอีกครั้ง ไม่ช้าก็ได้ผงยาชุดใหม่ออกมา ผงยาชุดใหม่นี้มีลักษณะภายนอกเหมือนกันกับผงยาของอู๋กงกง
กูเฟยเยี่ยนไม่รอช้า นางนำผงยาชุดใหม่ป้อนไปที่กระต่ายตัวสุดท้ายทันที ผลลัพธ์นั้นมีแรงโน้มน้าวจิตใจมาก หลังจากที่ตาหูจมูกปากของกระต่ายตัวนั้นมีเืไหลออกมาไม่นานโคนหูก็เกิดตุ่มเล็กสีดำขึ้นซึ่งมันน่าสะอิดสะเอียนเหลือเกิน
ความจริงไม่อาจชัดเจนไปกว่านี้ได้แล้ว!
ผงยาของอู๋กงกงมีลิ่วตันซางลู่จริงด้วย!
เขาเป็พวกเดียวกันกับอาจารย์แพทย์เจี่ยน พวกเขาทั้ง้าวางแผนประทุษร้ายชีวิตของแม่ทัพเฉิง อีกทั้งยัง้าวางแผนประทุษร้ายจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย ตกลงแล้วใครคือผู้ที่บงการพวกเขากัน?
เป็องค์หญิงหวายหนิงจริงหรือ?
กูเฟยเยี่ยนเช็ดมือทั้งสองข้างโดยที่ไม่พูดอะไรออกมาสักคำจากนั้นจึงเดินไปนั่งที่เดิม อู๋กงกงจับจ้องไปที่ใบหูของกระต่ายด้วยความไม่รู้สึกตัว
ด้านนอก จวินเย่าเฉิงหายตัวไปนานแล้ว
“ปัง! ”
ใต้เท้ากงใช้ค้อนไม้เล็กเคาะลงมาอย่างแรงด้วยความโกรธ “นักโทษอู๋ เ้ากล้าเสียจริง! ”
ใต้เท้ากงกล้าที่จะพูดเพียงประโยคนี้เท่านั้น เขาไม่กล้าไต่สวนลงไปแล้วจริงๆ ต้องรู้ไว้ว่าอาจารย์แพทย์เจี่ยนถูกสังหาร ตระกูลฉีอ้างว่าองค์หญิงหวายหนิงเป็ผู้บงการ เช่นนั้นหากไต่สวนคดีนี้ต่อไปก็จะต้องถามอู๋กงกงว่าถูกติดสินบนโดยองค์หญิงหวายหนิงใช่หรือไม่!
ใต้เท้ากงส่งสายตาไปถามจวินจิ่วเฉินอีกครั้ง ทว่าจวินจิ่วเฉินไม่ได้ถามอะไรอู๋กงกงแต่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเ็าว่า “อีกนานแค่ไหนกว่าองค์หญิงหวายหนิงจะมาถึง? ”
องค์หญิงหวายหนิงถูกคุมขังไว้ภายในพระราชวัง ระยะเวลาที่จะมาถึงศาลต้าหลี่สามารถคำนวณออกมาได้
หยาเว่ยรีบทูลทันที “ครึ่งชั่วยามพ่ะย่ะค่ะ”
จวินจิ่วเฉินพยักหน้าขึ้นลง “รอ! ”