นางหัวเราะมาตลอดทางที่วิ่งหนีออกมาอย่างสุดชีวิต เื่นี้มีเพียงแค่กูเฟยเยี่ยนที่ทำได้
ไป๋หลี่ิชวนไล่ตามมาถึงหน้าประตูลานบ้านก็ยืนหยัดไม่ไหวจนต้องคุกเข่าลง
เขาคุกเข่าลงข้างหนึ่งพลางก้มหน้ากำหมัดทุบลงไปบนพื้นดินอย่างรุนแรง ในวันที่หนาวเหน็บเช่นนี้จอนผมทั้งสองข้างของเขากลับมีเม็ดเหงื่อผุดซึมออกมา บัดนี้์ทราบดีว่าความร้อนผ่าวในร่างกายเขามันทรมานมากเพียงใด อีกทั้งเขามีความพยายามในการอดกลั้นความทรมานนี้มากเพียงใด
หยาดเหงื่อไหลซึมออกมาจากจอนผมไม่ขาดสายจนเผยให้เห็นถึงเค้าโครงใบหน้างดงามด้านข้างของเขา เขาคุกเข่าลง ไม่เคลื่อนไหวร่างกายมาเป็เวลานาน ทั่วทั้งร่างตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเ็า เด็ดเดี่ยวและชั่วร้ายเป็พิเศษ ซึ่งแตกต่างจากท่าทีเหนื่อยหน่ายและยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ในตอนปกติราวกับเป็คนละคน
ทันใดนั้นหญิงรับใช้ก็โน้มตัวเข้ามาโอบกอดเขาจากทางด้านหลัง
หญิงรับใช้สูญเสียการควบคุมไปแล้ว นางโอบกอดเขาราวกับโอบกอดความหวังสุดท้ายในสภาพที่ตกนรกทั้งเป็ มือทั้งสองข้างของหญิงสาวคล้องไปที่ลำคอของเขาแน่นพลางขอร้องอ้อนวอน “นายท่าน ช่วยข้าด้วย…ช่วยข้าด้วย ข้าทรมานเหลือเกิน…”
นางอ้อนวอนไปอ้อนวอนมา ฝ่ามือก็เลื้อยไปที่คอเสื้อของเขา “นายท่าน…นายท่าน…ข้า้า”
ไป๋หลี่ิชวนไร้เรี่ยวแรงที่จะสกัดกั้นและผลักออก เขาจึงรีบลุกขึ้นวิ่งหนีออกไป
ฤทธิ์ของพิษหยินหยางที่ร้ายแรงที่สุดคือพิษหยาง ในเวลานี้ความทรมานที่เขาแบกรับมากกว่าหญิงรับใช้ถึงสามเท่าอย่างแน่นอน เขาแทบจะใช้เรี่ยวแรงที่มีทั้งหมดในการอดกลั้นยืนหยัดเอาไว้ การที่มีหญิงรับใช้แนบชิดมันจะคร่าชีวิตเขาแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย
พิษหยินหยางปราศจากยาถอนพิษ หากไม่ยอมเป็เด็กดีศิโรราบอยู่ภายใต้การควบคุมของฤทธิ์ยาพิษ ก็ต้องอาศัยการอดกลั้นควบคุมอารมณ์เอาไว้! แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะเป็เด็กดียอมศิโรราบหรือพยายามอดกลั้นเพื่อควบคุมอารมณ์เอาไว้ก็มีโอกาสถึงแปดส่วนที่อาจจะเสียชีวิตลง
พิษชนิดนี้พบเจอได้ยากนักและน้อยคนนักที่จะรับรู้
์ทราบดีว่ากูเฟยเยี่ยนที่ดูไม่เป็อันตรายต่อผู้คนและไร้เดียงสาเหมือนเด็กน้อยไปเอาของมั่วโลกีย์ชั่วร้ายนี้มาจากที่ใด! ?
เขาชะล่าใจและดูถูกนางเกินไป!
ไป๋หลี่ิชวนเดินโซซัดโซเซออกไปทางด้านนอก จอนผมปรากฏเส้นสีเขียวราวกับอดกลั้นจนถึงขีดสุดแล้ว ทว่าเขาเพิ่งจะออกจากลานบ้านมา หญิงรับใช้คนนั้นก็ไล่ตามมาอีกครั้งพลันกระโจนมาบนร่างเขาโดยไม่สนใจทุกสิ่งทุกอย่าง
เดิมทีไป๋หลี่ิชวนก็ยืนหยัดอย่างไม่มั่นคงอยู่แล้ว ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ได้คาดคิด ร่างกายของเขาจึงล้มลงไปด้านหน้าโดยมีหญิงรับใช้โถมกายอยู่บนแผ่นหลัง นี่มันไม่ใช่แค่สูญเสียการควบคุมแต่คือการคลั่งไคล้ บัดนี้นางประหนึ่งงูน้ำที่เคลื่อนไหวบิดไปมาด้วยความคลั่งไคล้ ใช้ร่างกายดึงดูดล่อลวงและเรียกร้องความ้า
ดวงตาของไป๋หลี่ิชวนทอประกายถึงความรังเกียจ ชายหนุ่มจึงพลิกตัวเพื่อสลัดหญิงรับใช้ออก ทว่าหญิงรับใช้ปีนขึ้นมาอีกครั้ง หญิงสาวทับไปบนร่างใหญ่พร้อมกับประคองใบหน้าเพื่อ้าจุมพิตชายหนุ่ม
ริมฝีปากยังไม่ทันได้ัักัน ไป๋หลี่ิชวนก็โกรธจนถึงที่สุดแล้ว! เขาไม่รู้ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากที่ไหนในการสลัดหญิงรับใช้ออกไปอย่างรุนแรงด้วยมือหนึ่งข้าง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุร้ายเขย่าขวัญ “ไสหัวออกไปด้านข้างเดี๋ยวนี้! ”
แต่ไหนแต่ไรมามีแต่เขาที่เป็ฝ่ายเกี้ยวพาราสีหญิงสาว เขาเคยถูกหญิงสาวผลักล้มลงเช่นนี้หรือ?
ไม่ว่าเขาจะไปที่ใด หญิงสาวข้างกายก็ไม่เคยขาดสาย ทว่าเขาไม่เคยแตะต้องจริงๆ เลยสักครั้ง ไม่เคยแตะต้องเลยแม้แต่คนเดียว!
ไม่นึกเลยว่ากูเฟยเยี่ยนนังหนูคนนั้นจะคิดร้ายต่อเขาเช่นนี้ เขาจะต้องให้นางได้เจอดีแน่!
ไป๋หลี่ิชวนลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วทะยานไปทางทะเลสาบดอกท้อ แต่เมื่อเขาตามมาถึงก็มองเห็นเพียงแค่เสื้อคลุมขนจิ้งจอกสีม่วงอันหรูหราชั้นสูงของตนเองถูกวางอยู่ริมฝั่ง ผิวน้ำทะเลสาบดอกท้อเกิดความไม่สงบนิ่ง มีคลื่นน้ำกระเพื่อมขึ้นลง
ซึ่งมันหมายความว่ากูเฟยเยี่ยนเพิ่งจะลงน้ำไปได้ไม่นาน!
เมื่อเห็นเช่นนี้ไป๋หลี่ิชวนจึงะโลงไปทันที เขาไม่ได้ว่ายน้ำแต่ดำน้ำ ชั่วพริบตาเดียวร่างกายของเขาก็จมหายเข้าไปภายใน
ดูเหมือนว่าน้ำในทะเลสาบที่มีความเย็นะเืเข้ากระดูกจะไม่สามารถผ่อนคลายความร้อนระอุในร่างกายเขาได้ ด้วยความที่ประสิทธิภาพของฤทธิ์พิษทำให้เขาสูญเสียการควบคุมมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าความสามารถทางด้านการว่ายน้ำของเขาจะดีเลิศมาแต่กำเนิด การดำดิ่งในทะเลสาบน้ำลึกนี้ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ ทว่าในครั้งนี้เขาไม่แม้แต่จะว่ายไปถึงตัวถ้ำ
เขาหยุดอยู่หน้าปากทางเข้าถ้ำด้วยการยืนเหยียดตรงภายในน้ำ ผ่านไปไม่นานใบหน้าหล่อเหลาของก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เผยให้เห็นถึงสีหน้าทุกข์ทรมาน
เขาทำได้เพียงยอมแพ้เพราะไล่ตามไปไม่ได้จริงๆ
ทันใดนั้นชายหนุ่มก็ย่อตัวลง ร่างกายราวกับลูกธนูที่เคลื่อนตัวไปกลางอากาศ ดำดิ่งไปยังสถานที่กลางทะเลสาบที่หนาวเหน็บกว่าและลึกกว่า ร่างของเขาหายไปไม่นาน ส่วนลึกของน้ำก็กระเพื่อมลูกคลื่นขึ้นมาพร้อมกับนำพาน้ำเสียงเ็า “เสี่ยวเยี่ยนเอ๋อร์ เปิ่นหวางจื่อไม่ปล่อยเ้าไปแน่! ”
อันที่จริงแล้วกูเฟยเยี่ยนเพิ่งจะว่ายน้ำผ่านถ้ำมา นางไม่ได้ยินเสียงที่ดังมาจากใต้ผิวน้ำ บัดนี้ร่างบางหนาวจนทั่วทั้งร่างกำลังสั่นเทิ้ม มือและเท้าค่อยๆ ยื่นออกมาไม่ไหว นางแทบจะว่ายน้ำต่อไปไม่ไหวแล้ว
น้ำในทะเลสาบดอกท้อแห่งนี้หนาวเย็นกว่าที่นางคาดการณ์เอาไว้มากทีเดียว!
อีกทั้งแม่น้ำแห่งนี้ยังลึกและกว้างกว่านี่นางคาดการณ์เอาไว้เยอะมาก!
หญิงสาวยืนหยัดกลั้นลมหายใจในน้ำพลันว่ายไปอีกสักพักก่อนจะโผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำ หลังจากที่โผล่ขึ้นมาแล้วภาพที่เห็นตรงหน้าคือความมืดมิดที่มองเห็นเงาของหน้าผาสูงชันรอบกายไม่ชัดเจน
ในตอนที่มานางสลบไสลไม่ได้สติจึงไม่ทราบว่าด้านนอกถ้ำสถานการณ์เป็เช่นไร ไม่ทราบว่าน้ำลึกเพียงใด แม่น้ำกว้างเพียงใด ริมฝั่งอยู่จุดไหน? นางเห็นเพียงแค่เงาของูเาโดยรอบจึงตัดสินใจว่ายน้ำไปทางเงาูเา! นาง้าว่ายไปตามเชิงเขาเพราะมันจะไม่มีทางผิดแน่
นางยืนหยัดต่อแต่อย่างไรก็ตามนางไม่รู้ว่าเป็เพราะว่าแม่น้ำกว้างเกินไปหรือเป็เพราะว่ายน้ำช้าเกินไป นางรู้สึกว่าพยายามอย่างสุดแรงแล้ว แต่เหมือนกับว่ายไปได้ไม่ไกลนัก
ร่างกายหนาวขึ้นเรื่อยๆ แล้ว มือและเท้าเริ่มไม่ฟังคำสั่งการ เรี่ยวแรงน้อยลงเรื่อยๆ ในที่สุดกูเฟยเยี่ยนก็เริ่มเป็กังวลขึ้นมา
ทำอย่างไรดี?
ทั้งๆ ที่ทราบว่าไม่สามารถหยุดลงได้ ทว่านางกลับอยากที่จะหยุดพักสูดลมหายใจสักครู่ อดจินตนาการไม่ได้ว่าหากสามารถคว้าอะไรบางอย่างในน้ำและยืมแรงหยุดพักได้ชั่วขณะมันจะดีเพียงใดกัน!
กูเฟยเยี่ยนจินตนาการไปอย่างนั้น ทว่าในความเป็จริงกลับตรงกันข้าม
ทันใดนั้นก็มีคนโผล่ออกมาจากน้ำลึกด้านข้างแล้วคว้าไปที่เท้าของนาง!
กูเฟยเยี่ยนสะดุ้งใพลันกรีดร้องโดยไม่รู้ตัว ทว่าเมื่ออ้าปากออกก็สำลักน้ำทันที! นางรีบใช้แรงเตะเท้าเพื่อ้าโผล่พ้นขึ้นไปบนผิวน้ำ ทว่าเท้าของนางโดนจับเอาไว้ทำให้ไม่สามารถลอยตัวขึ้นมาได้!
หญิงสาวเกิดความลนลานจึงพยายามถีบพยายามดิ้นรน ลมหายใจเกิดความทรมานมากขึ้นเรื่อยๆ !
และในขณะนี้เองจู่ๆ ความทรงจำส่วนใหญ่ก็ได้หลั่งไหลเข้ามาในสมองของนาง
นั่นคือความทรงจำการจมน้ำของเ้าของร่างเดิมตอนอายุแปดปี มันคือความทรงจำที่เ้าของร่างเดิมลืมเลือนไปนานแล้ว ไม่นึกเลยว่าทั้งหมดจะหลั่งไหลออกมาใน่เวลานี้
เหมือนว่าความรู้สึกใน่เวลาที่ร่างเดิมถูกทำร้ายให้จมน้ำก็จะเป็เช่นนี้ ร่างเดิมทั้งตื่นใ ทำอะไรไม่ถูก และไร้เรี่ยวแรงเช่นนางในตอนนี้ ความทุกข์ทรมานเหมือนกับจิติญญากับร่างกายถูกบังคับให้แยกจากกัน โดยที่ร่างกายขาดอากาศหายใจ จมดิ่งลงไปและจิติญญากำลังจะแตกสลายเป็เสี่ยงๆ จนเสียชีวิตลง
ความรู้สึกของการเสียชีวิตเป็เช่นนี้หรือ?
แต่ในตอนนั้นเ้าของร่างเดิมไม่ได้เสียชีวิตลงนี่นา! เ้าของร่างเดิมมีชีวิตอยู่จนกระทั่งนางกลับชาติมาเกิดนี่!
เหตุใดความรู้สึกของการเสียชีวิตจึงได้เหมือนจริงเช่นนี้? เหมือนจริงจนทำให้นางเกิดภาพลวงตาราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างนี้ไม่ใช่ประสบการณ์ในตอนเด็กของเ้าของร่างเดิมแต่เป็ประสบการณ์วัยเด็กของนางเอง
วัยเด็กนางไม่เคยจมน้ำนี่นา! อีกทั้งนางไม่เคยเสียชีวิตด้วย นางเพียงแค่สูญเสียความทรงจำ นางมีชีวิตดีอยู่แล้ว จวบจนกระทั่งท่านอาจารย์ใจร้ายผลักนางลงจากหน้าผาสูง
นี่…มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เป็เพราะนางเหนื่อยเกินไปหรือ?
เป็เพราะนางใกล้จะจมน้ำตายหรือ?
นางคือใคร?
นางคือใครกันแน่?
…..
ภายใต้ความทุกข์ทรมานและความทรงจำที่ยุ่งเหยิง กูเฟยเยี่ยนค่อยๆ สูญเสียจิตสำนึก ทางด้านของคนที่คว้าข้อเท้านางไว้ได้พรวดพราดดึงตัวนางไปพลางพานางทะยานขึ้นไปบนผิวน้ำ
คนผู้นี้สวมใส่อาภรณ์สีดำและหน้ากากสีเงิน เขาไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็จิ้งหวาง จวินจิ่วเฉิน
หลังจากที่ออกมาจากผิวน้ำบวกกับแสงจันทร์อันน้อยนิดจวินจิ่วเฉินจึงได้รู้ว่านี่คือ…กูเฟยเยี่ยน!