“ตกลง!”
ไป๋เซี่ยเหอตอบรับเต็มปากเต็มคำ ทว่าจิ่วหานที่ยืนอยู่ด้านหลังแทบจะร้องไห้แล้ว
ต้องตอบรับเร็วขนาดนี้เชียวหรือ?
ไม่แม้กระทั่งจะถามความเห็นของเขาด้วยซ้ำ
เพียงแต่ในเมื่อเ้านายกล้าตอบรับ คงชนะได้กระมัง...
โต๊ะพนันที่ชั้นสองเป็รูปแบบห้องส่วนตัว
ทั้งสามารถเล่นหนึ่งต่อหนึ่ง ทั้งสามารถสร้างกลุ่มเล่นเองได้
แน่นอนว่าค่าเปิดโต๊ะก็แพงเสียจนพูดไม่ออก
“เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะถูกผู้คนกล่าวหาว่าข้ารังแกเด็กน้อย จึงไม่ใช้เ้ามือพนันที่เป็มืออาชีพ ข้าจะเดิมพันกับเ้าด้วยตนเอง!”
“เดิมพันอย่างไร?”
ไป๋เซี่ยเหอไม่สนใจเลยแม้แต่น้อยว่าอีกฝ่ายเป็ใคร
“เดิมพันแต้มสูงต่ำ ทั้งเ้าและข้าต่างคนต่างทอยลูกเต๋า”
“ได้ เพียงแต่ข้า้ากำหนดให้ชนะสองในสามตา!”
“ตามใจเ้า”
แววตาของเถ้าแก่สวีเต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะเอาตัวแนบชิดกับร่างของจิ่วหาน เขาคิดเพียงอยากจะชนะโดยเร็วเท่านั้น
ถูกต้อง ผู้ที่คุ้นเคยกับเถ้าแก่สวีล้วนรู้ว่าเขาเป็ชายรักชาย ซึ่งไม่ใช่ความลับแต่อย่างใด
วันนี้เขาชมชอบจิ่วหานเข้าแล้ว
ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องอีกฝ่ายให้จงได้
ไป๋เซี่ยเหอเป็เพียงเด็กน้อยคนหนึ่งในสายตาของเขาเท่านั้น เขาไม่สนใจนางเลยด้วยซ้ำ
แม้ว่าเถ้าแก่สวีจะไม่ได้เกิดในครอบครัวนักพนัน ทว่าก็คลุกคลีอยู่ในบ่อนพนันมาหลายปี จึงเรียนรู้จากการได้เห็นหรือได้ยินมาเจ็ดถึงแปดส่วน
ท่าทางเขย่าลูกเต๋าของเขาไม่ได้รับผลกระทบจากความปรารถนาที่จะเอาชนะเลยแม้แต่น้อย เขาเขย่าลูกเต๋าอย่างเป็ธรรมชาติ ก่อนจะคว่ำถ้วยลงบนโต๊ะอย่างมืออาชีพ
“ตาเ้าแล้ว”
ไป๋เซี่ยเหอหยิบถ้วยขึ้นมา นิ้วเรียวขาวคีบลูกเต๋าทั้งสามลูกจากบนโต๊ะ จากนั้นใส่เข้าไปในถ้วยทีละลูกแล้วเริ่มเขย่า
เถ้าแก่สวีหัวเราะออกมาอย่างอดรนทนไม่ไหว
ถึงแม้บุรุษรูปงามผู้นี้จะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ แต่ก็ไม่คิดว่าจะถึงขั้นไร้ฝีมือปานนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาชนะแล้ว
‘ปั้ก’
เถ้าแก่สวีหยิบเบี้ยออกมาวาง ดูแล้วมีอย่างน้อยหนึ่งแสนตำลึงเงิน
เขามองว่าเงินจำนวนเท่านี้เพียงพอสำหรับการซื้อบุรุษรูปงามมาอุ่นเตียง อันที่จริงอาจเรียกได้ว่ามากเกินไปด้วยซ้ำ ทว่าไม่เป็ไร เพราะเขามีเงิน!
ไป๋เซี่ยเหอครุ่นคิด ก่อนจะหยิบเงินจำนวนหนึ่งเหรียญทองแดงขึ้นมาแล้วโยนลงบนโต๊ะ “ข้าลงเท่านี้”
หนึ่งเหรียญทองแดงอีกแล้ว!
เห็นอยู่ชัดๆ ว่าชนะได้เงินไปเกือบเจ็ดหมื่นหรือแปดหมื่นตำลึงเงินแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะหยิบหนึ่งเหรียญทองแดงออกมา ทำเช่นนี้ถือว่าดูถูกกันหรือไม่?
“ข้าจะลองดูก่อนว่าเมื่อครู่ใช้โชคหมดแล้วหรือไม่”
สีหน้าของไป๋เซี่ยเหอดูกระวนกระวายราวกับถูกจับได้ว่าขโมยลูกกวาดก็ไม่ปาน
จิ่วหานใจนแข้งขาสั่น
ล้อเขาเล่นหรือไร?
เขายังคิดว่าเ้านายมั่นใจถึงได้ใช้เขาเป็เดิมพัน แต่กลับกลายเป็ว่านี่คือการเสี่ยงดวง
เมื่อเปิดฝาถ้วย เถ้าแก่สวีก็ชนะไปสองแต้ม
ตาต่อมา เถ้าแก่สวีก็ชนะอีกครา
จิ่วหานแทบจะคุกเข่าขอร้องไป๋เซี่ยเหอแล้ว เขาเขยิบเข้าใกล้นางพลางกระซิบเสียงเบา “นายท่าน เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันหรือไม่?”
เขาไม่้าตกอยู่ในกำมือของบุรุษที่น่าขยะแขยงเช่นนี้
แม้ว่าเสียงของเขาจะเบา ทว่าความสนใจของเถ้าแก่สวีติดตรึงอยู่บนร่างของเขาตลอดเวลา จึงได้ยินถ้อยคำนี้อย่างชัดเจน
“แน่นอนว่าไม่ได้ บ่อนพนันว่านก้วนของพวกเราล้วนต้องลงนามทำสัญญากันทั้งนั้น!”
เขาหยิบกระดาษสีขาวแผ่นหนึ่งออกมาทันที ก่อนจะเริ่มเขียนสัญญา
“รอเดี๋ยว!” ไป๋เซี่ยเหอเอ่ยปาก
“ข้าบอกไปแล้วว่ากลับคำไม่ได้!” เถ้าแก่สวีโมโหจนดวงตาแดงก่ำ เป็ดมาถึงปากก็บินหนีไป ใครจะไม่โมโหบ้างเล่า?
“ไม่ได้กลับคำ เพียงแต่ข้าจะเพิ่มเบี้ย!”
เถ้าแก่สวีถอนหายใจด้วยความโล่งอก ถ้าเป็เื่เงิน เขามีอยู่มากมาย
“ได้”
ไป๋เซี่ยเหอดึงกระดาษสีขาวแผ่นนั้นมา ก่อนจะขีดเขียนอะไรบางอย่างแล้วโยนกลับไป
“เ้า้าให้ข้าใช้บ่อนพนันว่านก้วนเป็เบี้ยหรือ?”
“เหตุใดถึงไม่ได้เล่า? เปิดบ่อนพนันยังกลัวเสียอีกหรือ? ในเมื่อท่าน้าคนข้างกายข้า ข้าจะเพิ่มเบี้ยอีกไม่ได้หรือ?”
เถ้าแก่สวีสูดลมหายใจลึก จ้องมองใบหน้าอันหล่อเหลาของจิ่วหานอย่างหลงใหล ก่อนจะนึกถึงทักษะการเล่นพนันของไป๋เซี่ยเหอเมื่อครู่อีกครา ไม่สิ นั่นไม่นับว่าเป็ทักษะด้วยซ้ำ
เขาขบกรามแน่น
“ตกลง ข้าจะลงนามในสัญญา”
ไป๋เซี่ยเหอยื่นสองนิ้วไปรับใบสัญญามาด้วยรอยยิ้มเฉยเมย
ตัวอักษรสีดำบนกระดาษสีขาวนั้นดูเด่นชัด
แววตาของนางฉายแววพึงพอใจออกมา
นางตวัดพู่กันสองสามทีเพื่อลงนาม ก่อนจะประทับรอยมือสีแดง
สัญญามีผลบังคับใช้ทันที!
“ตานี้เดิมพันต่ำ!”
เขาไม่อาจแพ้ได้ และย่อมแพ้ไม่ได้เป็อันขาด สิ่งเดียวที่เขาเชี่ยวชาญคือวิธีการเล่น อันเป็สิ่งที่เขาตรากตรำฝึกฝนมาหลายเดือน
“แล้วแต่ท่านเถอะ”
ไป๋เซี่ยเหอยกมือขึ้นอย่างสบายอารมณ์ ก่อนจะส่งสัญญาณให้เถ้าแก่สวีเริ่มได้
เถ้าแก่สวีถ่มน้ำลายลงบนฝ่ามือสองครั้ง ก่อนจะถูมือเข้าด้วยกันอย่างแรง ดวงตาของเขาเป็สีแดงฉาน
“ชนะ บิดาต้องชนะแน่!”
เขาเขย่าถ้วยอย่างบ้าคลั่ง ลูกเต๋าในถ้วยกระทบกันเป็เสียงไพเราะเสนาะหู
สีหน้าของเถ้าแก่สวีซีดเผือด เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลรินลงมาที่ขมับ
ในทางกลับกัน ไป๋เซี่ยเหอยังคงมีท่าทีสบายอารมณ์ นางค่อยๆ ใส่ลูกเต๋าเข้าไปในถ้วยทีละลูก
ก่อนจะเขย่าอย่างตามอำเภอใจ!
หากตอนนี้ไม่ได้อยู่ในบ่อนพนัน จิ่วหานคงจะคุกเข่าลงอธิษฐานต่อพระพุทธเ้าและพระโพธิสัตว์แล้ว
ความเครียดของเขาไม่ได้น้อยไปกว่าเถ้าแก่สวีเลย
‘ปั้ก’
เสียงวางถ้วยดังกึกก้อง ถ้วยของทั้งสองคนถูกวางลงบนโต๊ะอย่างพร้อมเพรียง
ตานี้ได้ยุติลงแล้ว
เถ้าแก่สวีเผยรอยยิ้มลามกบนใบหน้า ก่อนจะค่อยๆ เปิดถ้วยออก
ปรากฏว่าลูกเต๋าทั้งสามลูกวางทับกันในแนวตั้ง เมื่อดูดีๆ จะเห็นว่ามีเพียงสีแดงหนึ่งแต้มอยู่บนลูกเต๋าลูกบนสุดเท่านั้น
“หนึ่ง! ต่ำที่สุด! บิดาชนะแล้ว!”
เถ้าแก่สวีส่งเสียงคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะเปิดประตูแล้วะโออกไปด้านนอก
“บิดาชนะแล้ว ผู้ที่แพ้เดิมพันในวันนี้ ข้าจะชำระให้ทั้งหมด!”
เสียงโห่ร้องดังขึ้น ทุกคนต่างเข้ามาห้อมล้อมเถ้าแก่สวี และวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างคร่าวๆ
เมื่อครู่นี้เถ้าแก่สวีแข่งกับเด็กน้อยที่ดวงดีมาก
แม้จะใช้ความาุโรังแกอีกฝ่าย ทั้งยังใช้วิธีที่ดูน่าสงสัย ทว่าเถ้าแก่สวีจะชำระเดิมพันให้เชียวนะ!
เมื่อผลประโยชน์อยู่ตรงหน้า สิ่งอื่นๆ ล้วนแล้วแต่เป็เพียงการผายลม
“น้องชายท่านนี้เหตุใดถึงยังไม่เปิดฝาถ้วยอีก? กลัวจะแพ้หรือไร?”
“น้องชายรีบเปิดเสียเถิด แพ้ก็คือแพ้ เ้าอายุยังน้อย พวกเราไม่หัวเราะเยาะเ้าหรอก”
จากนั้นผู้คนก็ส่งเสียงหัวเราะกันครืน
จิ่วหานโมโหจนสีหน้าดำคล้ำ ปรารถนาจะไปฉีกกระชากปากและใบหน้าที่เสแสร้งของคนเ่าั้
ทว่าเมื่อเห็นไป๋เซี่ยเหอนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างไม่ทุกข์ร้อน ราวกับไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากคำพูดเ่าั้ เขาจึงค่อยๆ สงบสติอารมณ์ เพราะเขา้าเลียนแบบท่าทางของเ้านาย
“สุดท้ายแล้วใครชนะใครแพ้ พวกเ้าด่วนสรุปเกินไปหรือไม่?”
ไป๋เซี่ยเหอยกมุมปากขึ้นอย่างเฉยเมย
จิ่วหานเดินมาเปิดฝาถ้วยแทนไป๋เซี่ยเหออย่างอดรนทนไม่ไหว
ลูกเต๋าทั้งสามลูกเหลือเพียงผงสีขาวกองหนึ่งเท่านั้น
หมายถึงศูนย์แต้ม!
“เป็ไปได้อย่างไร!” ความตื่นเต้นบนใบหน้าของเถ้าแก่สวีหายวับไปทันที!
ลูกเต๋ากลายเป็ผุยผงไปแล้ว
ไม่มีลูกเต๋า ย่อมไม่มีแต้ม นี่หมายความว่าต่ำกว่าหนึ่งแต้มเพียงเล็กน้อยเท่านั้น!
แพ้แล้ว! เขาแพ้เสียแล้ว!
“เป็ไปไม่ได้กระมัง? ข้าดูผิดไปหรือไม่?”
“ไม่ ไม่ได้ดูผิด เด็กน้อยคนนี้ชนะเถ้าแก่สวีเสียแล้ว!”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนทำให้เถ้าแก่สวีถึงกับกระอักเืสดๆ ออกมาอย่างอดรนทนไม่ไหว
เขาไม่เชื่อ ความอุตสาหะหลายสิบปีของเขาจะพังทลายลงในการเดิมพันเพียงครั้งเดียวได้อย่างไร?
เถ้าแก่สวีเช็ดคราบโลหิตสีแดงฉานที่มุมปาก ก่อนจะยิ้มอย่างร้ายกาจ “ในเมื่อเป็เช่นนี้ น้องชายก็อย่าได้โทษที่ข้าไม่เกรงใจเล่า!”
เขาเผยความชั่วร้ายในแววตา ก่อนจะยกมือขึ้นกวักมือ
ผู้คนที่ห้อมล้อมอยู่บริเวณนอกประตูถูกผลักไปด้านข้าง จากนั้นชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งก็เดินเข้ามาล้อมพวกไป๋เซี่ยเหอเอาไว้
“เถ้าแก่สวีเดิมพันไม่ไหวหรือ?” ไป๋เซี่ยเหอยกยิ้มเย็นเยียบ นิ้วหยกขาวผ่องวนอยู่ในผงสีขาว
คิดจะเดิมพันกับนางอย่างนั้นหรือ?
ในอดีตชาติ นางตรากตรำฝึกฝนทักษะการเดิมพันทั้งวันทั้งคืนเป็เวลาถึงครึ่งปี เพียงเพื่อที่จะล้วงข้อมูลสำคัญจากปากของนักพนันคนหนึ่ง เมื่อออกจากบ่อนพนันก็ทำให้นางถึงกับมองเห็นใบหน้าของผู้คนที่สัญจรไปมาเป็ลูกเต๋าไปเสียหมด
“ไม่ใช่ว่าข้าเดิมพันไม่ไหว แต่เ้าโกงต่างหาก!”
ยามเขย่าลูกเต๋าต้องไม่ใช้กำลังภายใน เพราะหากเดิมพันแต้มต่ำ คนที่มีวรยุทธ์จะไม่ชนะทุกตาเลยหรือ?
การใช้กำลังภายในบดขยี้ลูกเต๋านั้นย่อมไม่ใช่เื่ยากเย็นแต่อย่างใด
“ท่านเห็นข้าดูเหมือนมีกำลังภายในอย่างนั้นหรือ?”
กำลังภายในคือสิ่งที่คนในยุคสมัยนี้มี ทว่านางย่อมไม่มี สิ่งที่นางพึ่งพาล้วนแล้วแต่ไม่ใช่ของที่มีในยุคสมัยนี้
“ข้าไม่สน ข้าบอกว่าเ้าโกงก็คือโกง”
------------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้