“แล้วก็ผู้ชมที่นั่งอยู่ทุกท่าน พวกคุณก็เป็กรรมการในการแข่งขันวิชาการครั้งนี้ด้วยนะครับหากมีข้อสงสัยในคำตัดสินของกรรมการ ทุกท่านสามารถถามได้เลยนะครับ และอันดับถัดไปเรามาเริ่มการแข่งวิชาการกันเลยดีกว่าครับ!” เหอเถี่ยจุ่ยพูดเสียงดังด้านล่างเวทีก็ปรบมือเสียงดังสนั่น
ถังซียิ้มแล้วลุกขึ้นมาคนแรกที่สมาพันธ์เจ็ดโรงเรียนส่งมาก็เป็นักเรียนหญิง หน้าตาต่างจากถังซีลิบลับแต่ศักยภาพไม่เลวเลย อาจเพราะเป็ผู้หญิงเหมือนกันขอบเขตความรู้ของทั้งสองจึงใกล้เคียงกันเมื่อทั้งสองตอบคำถามไปประมาณสามสิบกว่าข้อ ถังซีก็ถามขึ้นมาอีกครั้ง สุดท้ายนักเรียนหญิงฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ตอบภายในสามสิบวินาทีถังซีจึงพาฟู่จงเอาชนะสมาพันธ์เจ็ดโรงเรียนได้สำเร็จ
“สวยขนาดนี้ ฉลาดขนาดนี้ จะไม่ให้คนอื่นได้รอดเลยเหรอ” หลังจากที่ถังซีได้ชัยชนะไป ด้านล่างเวทีก็มีเสียงปรบมือดังสนั่น
“หอโบราณในเจียงหนานมีหออะไรบ้าง”
“หอเยวี่ยหยางมณฑลหูหนาน หอนกกระเรียนเหลืองเมืองอู่ช่างตำหนักเถิงหวางเมืองหนานช่าง”
“บทกวีพรรณนายาวบทแรกในประวัติศาสตร์คืออะไร”
“นกยูงล่องอาคเนย์”
“นกยูงล่องอาคเนย์มีกี่ตัวอักษร”
“คุณพิธีกรคะ ข้อนี้หนูตอบไม่ได้ แต่ถ้าจะเป็แบบนี้งั้นหนูก็ถามถังซีได้ใช่ไหมคะว่าในบทละครสามก๊กปรากฏชื่อขงเบ้งอยู่ทั้งหมดกี่ครั้ง” นักเรียนคนที่สองจากสมาพันธ์เจ็ดโรงเรียนถามขึ้น
“ใช่แล้ว ยายหนูโรงเรียนฟู่จงเอาเปรียบกันนี่” ผู้ชมด้านล่างเวทีวิจารณ์กันเป็แถบ
“นกยูงล่องอาคเนย์ เป็บทกวีพรรณนายาวบทแรกในประวัติวรรณคดีจีนและยังเป็สุดยอดวรรณกรรมลำนำต่อมาผู้คนได้เรียกกลอนบทนี้รวมกับลำนำมู่หลานว่าเป็ ‘หยกคู่เพลงลำนำ’ ข้อนี้ถังซีถามยากไปหน่อย แต่ก็อยู่ในขอบเขตที่อนุญาตให้ถามได้น่าจะมีคนตอบได้นะ งั้นก็ยอมให้หน่อยแล้วกันขอแค่ในสมาพันธ์เจ็ดโรงเรียนมีคนบอกได้ว่ามีประมาณกี่วรรค มีกี่ตัวอักษรก็จะถือว่าตอบถูกไป” คุณเจี่ยงเหวยหมินผู้อำนวยการศูนย์อักษรศาสตร์หัวซย่าพูดยิ้มๆ
“ได้ แต่ผมก็หวังว่าถังซีจะเขียนคำตอบลงไปด้วยนะครับคงจะไม่ให้ให้ถามเองแล้วตอบเองไม่ได้หรอกมั้ง” ผู้เข้าแข่งขันคนที่สองจากสมาพันธ์เจ็ดโรงเรียนคิดจะพูดอะไรอีกทว่าถูกซย่าโหวเทียนะโห้ามเอาไว้ จากนั้นเขาก็พูดขึ้นยิ้มๆ
“นั่นก็แน่นอนอยู่แล้ว ถ้าถังซีเขียนตอบผิด ถังซีจะถูกออกจากตานี้ไป” เจี่ยงเหวยหมินพูดยิ้มๆ
“357 วรรค 1785 อักษร”
“357 วรรค 1785 อักษร”
กระดานคำตอบซย่าโหวเทียนกับถังซีสว่างขึ้นพร้อมกัน ล่างเวทีก็มีเสียงปรบมือดังสนั่นขึ้นมาอีกครั้ง
“ตอบถูกทั้งสองคนเลยค่ะ การแข่งขันเริ่มต่อไปเลยค่ะ” หานเฟยเฟยพูดยิ้มๆ
“ถังซี ช่วยบอกหน่อยว่าพระไตรปิฎกในพุทธศาสนาหมายถึงอะไร” ผู้เข้าแข่งขันรายที่สองจากสมาพันธ์เจ็ดโรงเรียนถามขึ้นด้วยเสียงดัง
“อันนี้ฉันตอบไม่ได้” ถังซีพูดยิ้มๆ “รบกวนหวังิบอกฉันหน่อยได้ไหม”
“หลักคำสอนพื้นฐานเป็พระสูตร พระบัญญัติเป็กฎ หลักคำสอนบรรยายเป็ทฤษฎีถ้าแจ่มแจ้งในพระไตรปิฎกก็เรียกได้ว่าเป็พระอาจารย์ไตรปิฎก” หวังิพูดยิ้มๆ
“ถูกต้องนะครับ” บอร์ดจัดการแข่งขันวิชาการครั้งที่เจ็ดที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งกรรมการคนหนึ่งลุกขึ้นมาแล้วพูดขึ้นยิ้มๆ
“ขอบคุณถังซีกับหวังินะคะที่ทำให้การแข่งขันสนุกได้แบบนี้ถังซีต้องออกจากตานี้ไป ขอเชิญผู้เข้าแข่งขันรายที่สองจากฟู่จงมาแข่งด้วยค่ะ” หานเฟยเฟยพูดยิ้มๆ
“โยวโยวสู้ๆ นะ” โหยวโยวโยวยิ้มแล้วลุกขึ้นมาด้านล่างเวทีก็มีเสียงให้กำลังใจดังสนั่น
“ไม่นึกเลยว่าที่ฟู่จงจะมีคนสวยเยอะขนาดนี้ รู้แบบนี้ไปฟู่จงแต่แรกแล้วโหยวโยวโยวนี้ดูออร่ากว่าหลินเซี่ยวเซี่ยวอีก” ซย่าโหวเทียนลอบคิดในใจ “แถมยังมีมู่หรงเวยเวยนั่นอีกคนสวยแบบนี้ถ้าอยู่ที่โรงเรียนเยี่ยนต้าก็จัดอยู่ในอันดับท็อปสาม”
เป็เวลาประมาณเจ็ดนาที โหยวโยวโยวก็เอาชนะหวังิไปได้สมาพันธ์เจ็ดโรงเรียนจึงส่งผู้เข้าแข่งขันรายที่สามมา เขาคือเ้าอ้วนจากโรงเรียนอี้จงอาคิว
“คนสวย ได้ผูกวาสนาด้วยกันในการแข่งขันซะด้วย ไม่งั้นเรามาพนันกันนอกรอบไหมถ้าฉันบังเอิญทำเธอออกจากการแข่งขัน ชนะโยวโยวคนสวยได้หลังจบการแข่งขันไปกินข้าวด้วยกันมื้อนึงเป็ไง” อาคิวหรี่ตามองโหยวโยวโยวพร้อมกับพูดขึ้น
“ถ้านายแพ้ ก็วิ่งแก้ผ้าออกไปจากที่นี่ ถ้านายตกลงฉันก็ตกลง” โหยวโยวโยวมองอาคิวแล้วพูดยิ้มๆ
“ช่างเถอะ ฉันไม่อยากเป็คนดังแบบฉินอวี้หลงโรงเรียนฟู่จง” อาคิวพูดเบาๆ เมื่อพูดเสร็จฉินอวี้หลงที่อยู่ในมุมมืดก็ก็ดึงหมวกลงมาด้วยท่าทางดุดัน
อาคิวมีศักยภาพไม่เลว ทั้งสองถามตอบกันไปเจ็ดสิบข้อสุดท้ายโยวโยวก็แพ้กลับมา
“เ้าเซวียน เอาเ้าอ้วนนั่นลงมาให้ได้นะ โมโหจริงๆ” โหยวโยวโยวนั่งลงด้วยความโมโหหนึ่งจรรยาสิบสามคัมภีร์นั่นมันสิบสามคัมภีร์ไหนกันโหยวโยวโยวตอบไปแค่สิบสองคัมภีร์ ที่น่าเกลียดก็คือตอนที่โหยวโยวโยวแพ้เ้าอ้วนอาคิวก็พูดขึ้นว่า เขาเองก็ตอบได้แค่สิบกว่าคัมภีร์เท่านั้นและที่โหยวโยวโยวตอบไม่ได้ก็เป็คัมภีร์ที่เขารู้พอดิบพอดี
เ้าเซวียนโรงเรียนฟู่จงเป็บ้าขึ้นมาอีกครั้งเขาเอาชนะอาคิวได้อย่างสบายๆ จากนั้นก็เอาชนะเฉียวมู่ผู้เข้าแข่งขันโรงเรียนหยางกวงจากสมาพันธ์เจ็ดโรงเรียนได้ภายในสี่ข้อต่อมาก็แข่งกับหลี่เอ้าจากโรงเรียนชีจงไปเกือบร้อยข้อแล้ว
“เ้าเซวียนนี่เก่งจริงๆ เมื่อก่อนตอนอยู่โรงเรียนฟู่จงไม่เห็นจะโชว์เก่งไม่คิดว่าจะเก่งขนาดนี้” นักเรียนฟู่จงที่อยู่ล่างเวทีถึงกับลุกขึ้นมาตื่นเต้นเกินไปแล้ว
“ตัวตัว เตรียมตัวหน่อยเถอะ เ้าเซวียนจะแพ้แล้ว” เฉียนตัวตัวที่ไร้ชีวิตชีวามาตลอดจู่ๆ ก็ชะงักขึ้นเพราะเสียงของกัวไฮว่ดังขึ้นอยู่ข้างหู “นายแค่เอาชนะหลี่เอ้าให้ได้ก็พอไม่ต้องแสดงฝีมืออะไรมากมาย”
เฉียนตัวตัวหันไปมองกัวไฮว่จากนั้นมุมปากกัวไฮว่ก็ปรากฏรอยยิ้มที่ไม่อาจคาดเดาได้
“ผมยอมแพ้” เมื่อตอบคำถามที่หนึ่งร้อยเสร็จเ้าเซวียนก็พูดยิ้มๆ แล้วก็ไปนั่งบนเก้าอี้เตี้ย
“เขามีความสามารถจะแข่งต่อชัดๆ ทำไมต้องยอมแพ้ด้วยล่ะ” หลี่เอ้ามองเ้าเซวียนที่นั่งประจำที่แต่ก็ไม่รู้สึกว่าได้รับชัยชนะเลยแม้แต่น้อย
“หลี่เอ้า ฉายาคอมพิวเตอร์ น่าสนใจนี่” เฉียนตัวตัวลุกขึ้นมาพูดยิ้มๆ “คู่ต่อสู้นายคือฉัน มาสิ”
ศักยภาพของเฉียนตัวตัวทำเอาคนทั้งหอประชุมตะลึงงันใครก็ไม่คาดคิดว่าเด็กหนุ่มหน้าตาธรรมดาๆแต่ดูแล้วท่าทางสับปลับคนหนึ่งจะมีความรู้ได้กว้างขวางขนาดนี้
“ฉันรู้แล้วว่าเขาเป็ใคร การแข่งวิชาการปีก่อนเขาก็เข้าร่วมไอ้คนที่หยาบคายเมื่อปีก่อนนั่นก็คือเขานี่แหละ” จู่ๆในฝูงคนก็มีคนจำเฉียนตัวตัวได้ อันที่จริงชื่อนี้ก็จำได้ไม่ยากทว่าทั้งสองหน้าตาเปลี่ยนไปไม่น้อยไม่แปลกที่ตอนแรกหลายคนจะรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตานักเรียนผู้ไร้ชีวิตชีวาผู้นี้นัก
“บอกเกี่ยวกับบันทึกโบราณสามหลุมห้ากฎมาหน่อยสิ” เฉียนตัวตัวมองหลี่เอ้าแล้วพูดยิ้มๆทั้งสองแข่งเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ยุคใกล้มาติดกันยี่สิบกว่าข้อแล้ว จู่ๆเฉียนตัวตัวก็พูดขึ้นยิ้มๆ
“สามหลุมหมายถึง พระเ้าฝูซี พระเ้าเสินหนงซื่อ พระเ้าหวงตี้ส่วนห้ากฎนั่นฉันไม่รู้ เฉียนตัวตัวช่วยบอกคำตอบหน่อยสิ” หลี่เอ้าพูดเบาๆ เขาแพ้แล้วเด็กหนุ่มผู้หยาบคายที่อยู่ตรงหน้าเขาผู้นี้ทำเขาตกหลุม แข่งกันเื่ยุคใกล้ก่อนแต่จู่ๆ ก็ดันเปลี่ยนหัวข้อมาถามคำถามแบบนี้ได้