หลินหวั่นชิวรับมา นางกำลัง้าสิ่งนี้พอดี หมึกพู่กันและกระดาษเด็กสองคนที่บ้านจำเป็ต้องใช้ ล้วนต้องใช้เงินซื้อทั้งนั้น
“ขอบคุณท่านมาก ข้ายังมีธุระต่อ เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน”
“จริงสิ หนังสือของจอมยุทธ์พเนจรมาแล้ว…” เถ้าแก่หลิวนึกเื่นี้ได้ก็รีบบอกหลินหวั่นชิว
หลินหวั่นชิวพูดด้วยรอยยิ้ม “เช่นนั้นคงต้องรบกวนให้ท่านเอามาให้หน่อยเถิด ข้า้าหนึ่งชุดเ้าค่ะ” นางเองก็อยากเหมาทั้งหมด แต่ถ้าซื้อนิยายเยอะก็ไม่รู้จะอธิบายกับผู้อื่นว่าอย่างไร
ซื้อไปทำกระไรเยอะแยะ?
อ่านหนึ่งเล่มแล้วโยนทิ้งหรือ?
เถ้าแก่หลิวรีบให้คนนำนิยายที่ผูกเป็ชุดเรียบร้อยแล้วมาให้นาง “เรียบร้อย ข้าเก็บไว้ให้ท่านนานแล้ว”
หลินหวั่นชิวจ่ายเงินเสร็จก็บอกลา
นางเพิ่งออกไปได้ไม่นาน ตู้ซิวจู๋ก็มา เดิมทีเขาสั่งให้คนเฝ้าอยู่ใกล้ๆ ร้านหนังสือ และไปรายงานเขาทันทีหากเห็นหลินหวั่นชิวมา
แต่หารู้ไม่ว่าถึงเขาจะรีบมาเพียงใดกลับยังไม่เจอนาง
ตู้ซิวจู๋อดผิดหวังเล็กน้อยไม่ได้
ออกมายกเท้าถีบหยวนเป่าที่ทำหน้าที่รายงานข่าว
หยวนเป่ากุมก้นอย่างน่าสงสาร เขาก็รีบวิ่งแล้วนะ ผู้ใดจะไปรู้ว่าแม่นางน้อยผู้นั้นจะเร็วยิ่งกว่า
หลินหวั่นชิวไม่รู้เลยว่ามีคนตั้งตารอที่จะเจอตัวเอง รถล่อโคลงเคลงไปมาจนนางรู้สึกง่วง เจียงหงหย่วนที่กำลังคุยกับนางอยู่แต่ไม่มีเสียงตอบกลับ หันมามองถึงได้รู้ว่านางผล็อยหลับไปเสียแล้ว!
เขาจอดรถไว้ข้างทาง จากนั้นถอดชุดคลุมท่อนบนของเขาให้หลินหวั่นชิวห่ม อดใจลูบนิ้วไปบนแก้มขาวละเอียดดุจกระเบื้องของนางไม่ได้ ััเนียนนี้จั๊กจี้ใจเขาอย่างแ่เบาราวกับโดนขนนก
หากไม่ต้องรีบทำเวลา เขาอยาก…
หลินหวั่นชิวหลับไปแล้ว เจียงหงหย่วนขับรถระวังขึ้น กลัวจะโคลงเคลงจนนางตื่น
มาถึงอำเภอ เจียงหงหย่วนจอดรถล่อไว้ที่โรงเตี๊ยมที่ดูมีราศี แผ่นป้ายด้านหน้าแกว่งไปมา ‘โรงเตี๊ยมหงฝู’
เสี่ยวเอ้อร์ของที่นี่เป็งานมาก เห็นมีคนจอดรถล่อหน้าประตูก็รีบออกมาต้อนรับ “ท่านลูกค้าจะพักรับประทานอาหารหรือเข้าพักดีขอรับ?”
เสียงทักทายแขกของเขาทั้งดังทั้งแหลม หลินหวั่นชิวย่อมถูกเสียงของเขารบกวนให้ตื่น
“เข้าพัก” เจียงหงหย่วนพูดเสียงกระด้าง “ห้องพักระดับสูงหนึ่งห้อง!” เมื่อคืนเขาถามข้อมูลเกี่ยวกับโรงเตี๊ยมในอำเภอจากคนในบ่อนมาแล้ว อย่างไรเขาก็ทำงานในเมือง เป็ไปไม่ได้ที่ภรรยาตัวน้อยจะไม่มาเลย ต้องเตรียมพร้อมไว้เสียก่อน
บุรุษหยาบคายเช่นเขาก็ใส่ใจเป็นะ
เสี่ยวเอ้อร์โค้งตัวถามอย่างกระตือรือร้น “เข้าพักกี่วันขอรับ?”
เจียงหงหย่วนโยนเชือกบังเหียนรถให้พนักงานอีกคน “สองวัน”
หลินหวั่นชิวจัดรูปลักษณ์ตัวเองให้เรียบร้อยจากในตู้รถ เจียงหงหย่วนเห็นนางออกมาก็รีบเข้าไปช่วยประคอง
“เชิญทั้งสองท่านด้านในขอรับ ห้องพักระดับสูงวันละสองร้อยอีแปะ มีน้ำร้อนให้บริการ…ขอให้ทั้งสองท่านจ่ายค่าห้องวันแรกมาเสียก่อน บ่ายวันพรุ่งค่อยจ่ายของวันที่สองขอรับ”
“เหตุใดจึงบอกว่าสองวัน? วันพรุ่งท่านไม่กลับบ้านหรือ?” พวกเขาเดินตามเสี่ยวเอ้อร์เข้าโรงเตี๊ยม หลินหวั่นชิวถามเจียงหงหย่วนเบาๆ
ก็ข้าอยากอยู่ตามลำพังกับเ้าสองวัน!
“ทั้งต้องหาบ้าน ทั้งต้องดูเครื่องเรือน สองวันอาจไม่พอ”
“ปล่อยให้หงป๋ออยู่บ้านคนเดียวได้หรือ?” หลินหวั่นชิวกังวลเล็กน้อย ร่างกายหงป๋อยังอ่อนแออยู่
“มีบ้านตระกูลหวางช่วยดู ไม่อดตายหรอก” เจียงหงหย่วนรู้ว่าเป็เื่ดีที่ภรรยาตัวน้อยเป็ห่วงน้องชาย กระนั้นในใจก็ยังอดหึงไม่ได้อยู่ดี
น้ำเสียงเขากระโชกโฮกฮากมาก บนใบหน้ามีแผลเป็ รูปร่างสูงใหญ่บึกบึน หลินหวั่นชิวไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใด ผิดกลับเสี่ยวเอ้อร์ที่รู้สึกใกลัวเขา
เจียงหงหย่วนวางเงินหนึ่งตำลึงลงบนตู้ “ค่อยคิดเงินตอนคืนห้อง” ยังต้องกินข้าวในโรงเตี๊ยมอีก ภรรยาตัวน้อยจะได้ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม
โอ้ จ่ายเงินหนึ่งตำลึงได้อย่างง่ายดาย ดูท่าจะไม่ใช่คนขาดแคลนเงินกระมัง เขาถึงได้บอกกันว่าคนทำธุรกิจห้ามตัดสินผู้ใดจากเสื้อผ้าที่ใส่
หลังจากพาหลินหวั่นชิวเข้าพักเสร็จ เจียงหงหย่วนก็ออกไปทำงานที่บ่อน
หลินหวั่นชิวนอนพักชั่วครู่แล้วออกไปเดินเล่นที่ตลาดเช่นกัน
จุดประสงค์ของนางชัดเจนมาก เริ่มจากเข้าไปดูที่ร้านขายเครื่องเงิน ดูว่ามีดอกไม้ประดับผมขายหรือไม่
เครื่องประดับในร้านขายเครื่องเงินคุณภาพสูงมีทั้งแบบที่ทำจากลูกปัด ไข่มุก เงินแท้ ทองแท้และอัญมณีต่างๆ
แต่ที่ร้านขายเครื่องประดับคุณภาพต่ำมีดอกไม้ประดับผมขายเช่นกัน แต่รูปแบบของดอกไม้พวกนี้ล้วนล้าสมัย ดอกใหญ่เกินจริงและไม่มีความสวยงาม
ทว่าสิ่งที่ทำให้นางแปลกใจคือ ร้านเครื่องเงินแห่งหนึ่งมีนาฬิกาพกขาย!
แต่นาฬิกาเพียงเรือนเดียว ราคาถูกสุดยังเรือนละสามร้อยกว่าตำลึง!
ไม่ได้มีเพียงนาฬิกาพก แต่ยังมีกระจกแบบตะวันตกและกล่องดนตรี ทุกชิ้นล้วนมีราคาแพง
หลินหวั่นชิวถามพนักงานที่กลอกตาใส่นาง ถึงได้รู้ว่าของพวกนี้เป็สินค้านำเข้า เป็สินค้าจากตะวันตก
การเดินทางทางทะเลในยุคนี้เป็สิ่งที่อันตรายมาก ออกเรือไปสิบลำ กลับมาได้สักห้าลำก็ถือว่าไม่แย่แล้ว
ดังนั้น แม้สินค้านำเข้าจะขายได้ราคาดีแต่ก็เสี่ยงมากเช่นกัน คนที่ทำธุรกิจเช่นนี้จึงมีน้อย
กระนั้นยังเป็การช่วยเพิ่มความล้ำค่าให้สิ่งของเหล่านี้เช่นกัน พ่อค้าที่ไม่มีเส้นสายและอำนาจไม่มีทางได้ของมาเป็แน่
หลินหวั่นชิวคิดในใจว่ากลับไปแล้วจะเปิดดูบนเสียนอวี๋ หากมีนาฬิกาพกเลียนแบบของโบราณขายนางก็จะซื้อมาสักสองสามเรือน ให้คนที่บ้านพกกันคนละเรือน มีนาฬิกาแล้วจะได้ไม่ต้องดูเวลาจากการกะเอาอีก!
มิหนำซ้ำยังสามารถซื้อมาขายสักเรือนสองเรือน!
ไม่ใช่แค่นาฬิกาพก บนเสียนอวี๋มีกระจกและกล่องดนตรีขายเช่นกัน แม้หลินหวั่นชิวจะไม่กล้าซื้อในปริมาณมาก แต่หากซื้อมาเพียงเล็กน้อยก็พอช่วยนางสะสมทองถังแรกได้อยู่
หลินหวั่นชิวมีความสุขมากที่เจอช่องทางหาเงินวิธีใหม่
ขณะเดียวกันก็กำหนดราคาให้ดอกไม้ประดับผมของตัวเอง งานนี้แม้จะได้เงินน้อยแต่ยืนยาว ถือว่าได้มอบงานสำหรับหาเงินให้กุ้ยเซียงด้วยเช่นกัน
เดินร้านขายเครื่องเงินจนครบ นางไปดูที่ร้านหนังสือต่อ ดูว่ามีหนังสือใดขายบ้าง หนังสือเล่มใดวางอยู่ในตำแหน่งที่เด่นที่สุด พลางคิดในใจไปด้วยว่าจะคัดหนังสือใดมากขายอีก
นางพบว่านอกจากหนังสือสำหรับสอบเคอจวี่แล้วก็มีนิยายที่ขายดี ลองหยิบมาพลิกอ่านดู มีเนื้อเื่ซ้ำซากจำเจและล้าสมัย
แต่การได้มาดูเช่นนี้ทำให้นางคิดกระไรได้หลายอย่าง ไว้นางมีเวลาจะลองเขียนหนังสือออกมาบ้าง อื้ม เขียนนิยายแนวเทพเซียนหรือไม่ก็แฟนตาซี หากขายเป็เงินได้ก็จะทำซ้ำไปขายบนเสียนอวี๋สักสองสามเล่ม ขายไม่ได้ก็ไม่เป็ไร คิดเสียว่าเขียนเล่นๆ
ท้ายที่สุด หลินหวั่นชิวเลือกซื้อพู่กันและกระดาษจำนวนหนึ่งกลับมา จากนั้นไปซื้อขาหมูจากแผงขายอาหารปรุงสุก นางเห็นว่าใกล้ได้เวลาแล้วก็ไปหาเจียงหงหนิงที่สถานศึกษา
