เมื่อนับดูแล้วรุ่นของถวนถวนในจวนตอนนี้นับเป็รุ่นที่สี่ รุ่นที่สี่เกิดเด็กหญิงมาหลายคนแต่ยังไม่มีผู้ใดเหมือนเขาที่สามารถสืบทอดต่อได้ เพราะเหตุนี้ แม้เด็กชายเพิ่งมาถึงกลับสามารถเอาชนะใจฮูหยินผู้เฒ่าได้แล้ว
แม้แต่บ่าวรับใช้ของฮูหยินผู้เฒ่าล้วนถูกความน่ารักของเด็กชายซื้อใจจนหมด
ดื่มน้ำนมแต่โดยดีมาสองวันทว่าวันนี้ถวนถวนเริ่มร้องไห้โยเยอีก
เดิมทีเขาชอบดื่มน้ำนมมาตลอดในตอนนี้เด็กน้อยดูดไปคำเดียวกลับพ่นออกมา เมื่อเป็เช่นนี้ ฮูหยินผู้เฒ่าย่อมไม่พอใจแล้วแม่นมคนนั้นยิ่งใเข้าไปใหญ่
“นี่ฮูหยินผู้เฒ่าเ้าคะ น้ำ น้ำนมของข้าไม่มีปัญหาแน่นอนเ้าค่ะ เื่นี้ไม่รู้ว่าคุณชายน้อยเป็อะไรไป?”
ฮูหยินผู้เฒ่าอารมณ์ไม่ดีมากแม่นมเองก็ใมาก นางเพิ่งมาทำงานได้วันสองวัน ค่าจ้างก็ได้รับจำนวนมากแต่คิดไม่ถึงว่าเด็กน้อยที่เพิ่งจะคุ้นชิน ในตอนนี้กลับไม่ยอมดูดนมของนางเมื่อเป็เช่นนี้ แม่นมจึงเริ่มกลัวแล้ว
“เหอะเมื่อวานเด็กคนนี้ยังดีๆ อยู่ เหตุใดวันนี้กินไปก็ บ้วนไป ใครก็ได้มาที่นี่ทีไปเรียกท่านหมอมาตรวจสอบให้ละเอียด ตรวจดูว่าคนใดเกิดปัญหา และตรวจสอบผิวของพวกเ้าให้ดีด้วย”
ฮูหยินผู้เฒ่าตะคอกออกมาด้วยความโมโหทำคนทั้งจวนสกุลโจวล้วนตกอกใตามกันหมด ทุกคนใจนตัวสั่น ฮูหยินใหญ่จูงมือเสี่ยวสีเข้ามาทำความเคารพครั้นเห็นคนทั้งเรือนเต็มไปด้วยความโกรธ จึงใจนหดตัวอยู่ด้านข้าง
เสี่ยวสีมองเด็กน้อยที่ถูกฮูหยินผู้เฒ่าอุ้มอยู่ในอ้อมกอดอย่างอิจฉาตอนที่น้องชายยังไม่มา บางครั้งนางมักจะถูกฮูหยินผู้เฒ่าอุ้มเอาไว้ในอ้อมแขนทุกครั้งหลังจากที่ถูกฮูหยินผู้เฒ่าอุ้ม ท่านแม่ของนางจะทำอาหารอร่อยให้ทาน
น่าเสียดายหลังจากน้องชายมา นางกลับไม่เคยได้รับการดูแลเช่นนี้อีกเลยนางในตอนนี้มีความสิ้นหวังเล็กน้อย ทว่ายังไม่ได้เรียนรู้ที่จะเกลียด
“ท่านหมอมาแล้วท่านหมอมาแล้ว” ในตอนนั้นหงเอ๋อร์ที่ไปเรียกท่านหมอเดินเข้ามา
ท่านหมอมองเส้นเือยู่นาน“เด็กเพิ่งจะเปลี่ยนนมแม่?”
“ใช่เ้าค่ะ” ฮูหยินผู้เฒ่ารีบตอบ
“เช่นนั้นก็ใช่แล้วจู่ๆ เปลี่ยนนมแม่ให้เด็กกะทันหันทำให้เด็กไม่คุ้นเคย ทั้งจู่ๆ ก็ได้ดื่มนมที่เหนียวจนเกินไปนมแม่หากดื่มมากไปก็เหมือนมีสารอาหารบำรุงเกินควร เด็กย่อมไม่เคยชินจึงย่อยไม่ได้ไม่เป็ไร อีกเดี๋ยวข้าจะจ่ายยาช่วยย่อยให้ ครู่เดียวก็เห็นผล”
ท่านหมอคือคนที่คอยดูแลร่างกายของฮูหยินผู้เฒ่าโดยเฉพาะการที่สามารถเรียกท่านหมอคนนี้มาตรวจเด็กชายได้ จากจุดนี้จึงเห็นได้เลยว่าเด็กคนนี้ได้รับความชอบจากฮูหยินผู้เฒ่าไปอย่างเต็มที่
ฮูหยินใหญ่มองเื่ราวทั้งหมดและมองสีหน้าที่ผ่อนคลายลงของฮูหยินผู้เฒ่า นางจึงจับมือของเสี่ยวสีแน่น มารดาเป็เช่นนี้เสี่ยวสีแม้จะเ็ปกลับไม่กล้าเปล่งเสียงออกไป นางรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า ท่านแม่เกลียดน้องชายคนนี้
เพราะท่านแม่เกลียดเขาดังนั้นท่านแม่จึงจะเกลียดนางไปด้วย เมื่อเป็เช่นนี้ ยามที่เสี่ยวสีมองถวนถวนอีกครั้งก็ได้มองข้ามความน่ารักของเขาไป มีเพียงความเกลียดชัง…
เฝ้าถวนถวนั้แ่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ฮูหยินผู้เฒ่ารู้สึกเหนื่อยล้ามาก
ตอนนี้เองที่ฮูหยินใหญ่รีบรุดเข้ามาออกความเห็น“ฮูหยินผู้เฒ่าเ้าคะ ให้ข้าดูแลเสี่ยวถวนถวนเถิด ท่านจะต้องรักษาสุขภาพนะเ้าคะรีบไปพักผ่อนเถิด”
ฮูหยินผู้เฒ่าทนไม่ไหวแล้วจริงๆแต่อย่างไรนางก็วางใจจากถวนถวนไม่ได้ เพราะอย่างไร เด็กคนนี้คือเหลนรุ่นที่สี่ของนาง
นางเงยหน้ามองฮูหยินใหญ่นิ่งเม้มปากไม่พูดสิ่งใด
ฮูหยินใหญ่กลับเป็คนที่เข้าใจเื่ราวจึงรีบรับประกันออกมา “ฮูหยินผู้เฒ่า แม้ปกติข้ากับครอบครัวเหล่าอู่จะไม่ได้ใกล้ชิดกันนักแต่ในใจของข้า คิดว่าเหล่าอู่และฮูหยินของเขาเป็ครอบครัวเดียวกัน แม้ตอนนี้น้องสะใภ้ห้าจะเสียไปแล้วแต่ลูกของนางเป็เหมือนลูกของข้า ท่านเองก็รู้ ตอนนี้ข้ามีเพียงเสี่ยวสีที่เป็ลูกสาวคนเดียวหากถวนถวนสามารถใกล้ชิดกับข้าได้ ต่อไปข้ายังสามารถพึ่งพาเขาได้ไม่ใช่หรือ?”
คำพูดนี้กลับพูดออกมาจากใจจริงฮูหยินผู้เฒ่าหรี่ตามองแล้วพยักหน้า “อืม ถือว่าเ้ายังพอเข้าใจเื่ราวอยู่บ้าง ว่าจะเข้ามาช่วยคลายความกังวลเด็กคนนี้หากเ้าดูแลเขาดีๆ แล้ว ต่อไปเ้าจะได้ประโยชน์ไม่น้อยแม้แต่ทางด้านลูกคนโต ข้าจะช่วยเ้าจัดการเขา ไม่ให้เขาก่อเื่มากเกินไปนัก”
สิ่งที่ฮูหยินใหญ่้าคือคำพูดนี้นางไม่ชอบถวนถวน แต่้าอยู่กับเขา ถึงอย่างไรหากนางสามารถเลี้ยงไว้ในอ้อมกอดได้ที่ดีที่สุดก็ให้เขาจดจำนางได้ ต่อไปถือเป็มารดาของเด็กคนนี้ นางคงได้ประโยชน์ไม่น้อยที่สำคัญคือหากดูแลถวนถวนให้ดีได้ ก็จะได้ความชอบจากฮูหยินผู้เฒ่า เมื่อฮูหยินผู้เฒ่าชอบแล้วเช่นนั้นจะสามารถช่วยหนุนหลังนาง อย่างไรในจวนนี้ ฮูหยินผู้เฒ่าถือเป็คนที่ใหญ่ที่สุดในเรือนแม้แต่บุรุษของนาง อย่างไรเขาก็ต้องไว้หน้าฮูหยินผู้เฒ่า อยากจะจัดการบุรุษหลายใจนางทำได้เพียงแต่ต้องพึ่งใบบุญของฮูหยินผู้เฒ่าเท่านั้น!
“ฝูเอ๋อร์โฉวเอ๋อร์ พวกเ้าช่วยฮูหยินใหญ่ดูเด็กคนนี้ อีกเดี๋ยวยามาแล้วก็คิดหาวิธีป้อนยาไปแล้วกัน”
ยาของเด็กเป็สิ่งที่ป้อนยากมากที่สุดโดยเฉพาะยาขม เด็กเล็กเช่นถวนถวน ยาขมเป็สิ่งที่ป้อนยากยิ่ง
“เ้าค่ะฮูหยินผู้เฒ่า”
ฝูเอ๋อร์โฉวเอ๋อร์รับคำ ฮูหยินใหญ่คำนับแล้วยืนยิ้มอยู่ด้านข้าง ในใจกลับแอบต่อว่าไม่หยุด ฮูหยินผู้เฒ่ายังไม่เชื่อใจนางทั้งหมดและคนในจวนนี้มีที่ใดบ้างจะมีคนเชื่อใจได้สิบส่วนกัน! มีคนที่เชื่อใจได้ห้าหกส่วนก็ถือว่าเป็ความเชื่อใจที่ดีที่สุดแล้ว เมื่อคิดถึงตรงนี้มือที่จับมือของเสี่ยวสีก็กำแน่นขึ้นอีกครั้ง
เสี่ยวสีควบคุมเสียงไม่ไหวสุดท้ายจึงร้องครางออกมา
ฝีเท้าของฮูหยินผู้เฒ่าที่ก้าวเดินออกไปชะลอลงก่อนจะเห็นเสี่ยวสีขดตัวอยู่ข้างฮูหยินใหญ่ “โอ้ เด็กคนนี้มาด้วยหรืออีกเดี๋ยวอย่าส่งเสียงดังรบกวนน้องชายเ้าเล่า ยากนัก กว่าเขาจะหลับลงไปได้”
“เ้าค่ะฮูหยินผู้เฒ่า” เสี่ยวสีรู้สึกน้อยใจมาก แต่ก่อนตอนที่ฮูหยินผู้เฒ่าเห็นนาง อย่างไรก็ต้องแย้มยิ้มให้แต่วันนี้ไม่เพียงจะไม่กอดไม่หอมนางแล้วกลับกันยังให้นางอย่าส่งเสียงดังปลุกเด็กชายที่นอนหลับอยู่
ยามมองถวนถวนอีกครั้งเสี่ยวสีรู้สึกไม่ชอบมาก
นางจ้องเด็กน้อยที่หลับตาอยู่ด้วยความเกลียดชังเป็ครั้งแรกที่มีคำว่าเกลียดผุดขึ้นมาในความคิดของนาง
หากไม่มีเด็กที่น่ารังเกียจและขวางหูขวางตานี่อยู่นางจะมีชีวิตที่ดีหรือไม่?
เมื่อความคิดนี้ได้ถือกำเนิดขึ้นก็เหมือนมันได้หยั่งรากลึกลงไป จะปัดทิ้งอย่างไรก็ไม่หาย ส่วนสาวใช้ที่ยุ่งอยู่กับการทำชุดเด็กปักดอกไม้ ต่างไม่มีผู้ใดเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชังของเสี่ยวสีแม้แต่ฮูหยินใหญ่เองก็กำลังหัวเราะเบาๆ อยู่กับสาวใช้ไม่กี่คนนั้น…
ในตอนที่เหลือลวี้เอ๋อร์เฝ้าถวนถวนเพียงคนเดียวเสี่ยวสีก็เดินเข้ามา
“พี่ลวี้เอ๋อร์หรือข้าขอดูน้องชายได้หรือไม่?”
“ได้สิเ้าคะน้องชายน่ารักมากใช่หรือไม่เ้าคะ?” ลวี้เอ๋อร์ยิ้มรับคำก่อนจะอุ้มถวนถวนขึ้นมาจากเปล
ตอนนี้เด็กชายยังเล็กจึงยากที่จะจำผู้ใดได้
ไม่ว่าผู้ใดอุ้มก็มักจะหัวเราะกระดิ่งที่อยู่บนแขนอ้วนๆ จะส่งเสียงดังกรุ๊งกริ๊งตามแรงขยับของเขา
ตอนนี้เสี่ยวถวนถวนกลายเป็ที่รักของคนในเรือนนี้ั้แ่ฮูหยินผู้เฒ่าจนถึงเหล่าคนใช้ มีผู้ใดบ้างที่ไม่กลายเป็คนที่เอ็นดูเด็กน้อยน่ารักคนนี้
“น้องชายน่ารักมากจริงๆแต่พี่ลวี้เอ๋อร์ พี่คิดว่าเสี่ยวสีกับน้องชายใครน่ารักมากกว่ากัน?”
เด็กหญิงใช้ดวงตากลมโตจ้องไปที่ลวี้เอ๋อร์แล้วถามวินาทีนั้นลวี้เอ๋อร์ที่ถูกถามได้แต่นิ่งไป
ต่อมานางหัวเราะฮ่าๆ“เื่นี้น่ะ เสี่ยวสี เ้ากับน้องชายน่ารักมากทั้งคู่เลย”
เสี่ยวสีไม่พูดอะไรอีกแล้วมือเล็กตบเข้าที่ใบหน้ารูปไข่ของถวนถวนเบาๆเด็กน้อยคิดว่าเป็ของกินจึงเริ่มอ้าปากเพื่อกัดหัวนิ้วมือของนาง
ซึ่งนิ้วหัวแม่มือของเสี่ยวสีถูกกัดเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจแต่เด็กน้อยไม่ได้ใช้แรงมากเท่าไร จึงไม่ได้กัดนิ้วนางแรงเกินไปนัก
เมื่อถูกปากของเด็กน้อยอมเอาไว้เสี่ยวสีรู้สึกสบายมาก นางส่งรอยยิ้มที่หาได้ยากไปให้กับเสี่ยวถวนถวนก่อนจะก้มตัวลงไปใช้ใบหน้าเล็กๆ ัักับหน้าของถวนถวน “น้องชาย เ้าี้เีมากนะวันๆ เอาแต่นอนทั้งวัน ลุกขึ้นมาพี่สาวจะเล่นกับเ้าเอง”
ลวี้เอ๋อร์เห็นเด็กสองคนเล่นกันดีจึงแอบยิ้มในใจในเรือนนี้หาได้ยากมากที่จะได้เห็นภาพความรักความสนิทสนมเช่นนี้
“ลวี้เอ๋อร์ลวี้เอ๋อร์ นี่คือผ้าที่พวกเ้าต้องซัก”
ในตอนนั้นเองด้านนอกมีเสียงเรียกดังขึ้น ลวี้เอ๋อร์เห็นเด็กทั้งสองคนเล่นกันอย่างดีจึงสาวเท้าเดินออกไป
เสี่ยวสีเห็นเสี่ยวถวนถวนนอนเล่นอยู่บนเตียงอย่างสนุกสนานทันใดนั้นนิ้วมือก็ยกขึ้นไปจับที่คอของเขา ดวงตาของนางเบิกกว้างลมหายใจยิ่งถี่ขึ้น ขอแค่บีบลงไป บีบลงไป จะสามารถทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าและท่านแม่รักเพียงนางคนเดียว…
เสี่ยวถวนถวนไม่รู้เลยว่าพี่สาวตรงหน้าของตนปล่อยจิตสังหารออกมาเขาเพียงโบกแขนอ้วนๆ ไม่หยุด ทั้งยังเป่าฟองน้ำลายออกมา
“ข้าสิถึงจะเป็คนที่พวกเขารักมากที่สุดข้าต่างหากเป็คนที่พวกนางรักมากที่สุด เ้ามันลูกกำพร้า เ้ามันลูกกำพร้าเด็กกำพร้า...”
มือของเสี่ยวสีบีบแน่นเรื่อยๆแน่นขึ้นเรื่อยๆ…
***
“เฉินเนี้ยนหรานข้า้าอยู่ที่นี่จริงๆ นะ หากเ้าไม่สร้างเรือนให้ข้าหลังหนึ่งก็ให้ข้าเข้ามาร่วมทำการค้ากับเ้า ไม่เช่นนั้นข้าจะอยู่กับเ้าที่นี่ไม่ไปที่ใดแล้ว”มองก้อนเมฆปุยลอยอยู่ตรงหน้า ใจจริงหนิงเซียงไม่อยากจะออกไปจากที่นี่จริงๆ
เฉินเนี้ยนหรานที่กำลังเด็ดผักป่าตอบกลับโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้า“ไม่มีที่ให้อยู่”
“นี่ยามที่เ้าลำบาก เป็ข้าที่ช่วยเ้าออกมานะ” หนิงเซียงโวยวายออกมา
“ข้าไม่เคยขอร้องให้เ้าช่วยนี่เป็เ้าเองที่ยอมช่วยข้า อีกอย่าง หลายวันมานี้เ้ามาทานฟรีอยู่ฟรี ถือว่าเสมอกันแล้ว”เฉินเนี้ยนหรานคำนวณบัญชีด้วยใบหน้าไร้อารมณ์
ครานี้ทำหนิงเซียงโกรธสุดขีดนางกอดอก “เอ๋ๆ สิ่งใดที่เรียกว่าหมาป่าตาขาว [1]ตอนนี้ข้าได้รับการสั่งสอนแล้ว เฉินเนี้ยนหราน เ้าคือรูปแบบของหมาป่าตาขาว ข้า ข้าจะตัดความสัมพันธ์กับเ้า”
เฉินเนี้ยนหรานเงยหน้าขึ้นมองนางด้วยท่าทางยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “ได้สิ ตัดขาดเลย ทางออกอยู่ทางนั้น กลับดีๆนะไม่ส่ง”
หนิงเซียงกัดฟันกรอดยกเท้าขึ้นจะเดินไปข้างหน้าจริงๆ
เพียงแต่เดินไปได้สักพักเมื่อเห็นว่าด้านหลังไม่มีคนตามมา นางจึงหงุดหงิดมากแล้ว
กระทืบเท้าหมุนตัวเดินกลับไปตรงผักป่าอยู่ด้านหน้ามีดของเฉินเนี้ยนหราน ซึ่งพออีกฝ่ายจะตัดผักทางซ้ายนางก็ไปยืนทางซ้ายพอจะตัดทางขวานางก็ไปทางขวา
เฉินเนี้ยนหรานถอยหลังแม่นางคนนี้ก็เดินถอยหลังตาม เป็เช่นนี้อยู่หลายครั้ง เฉินเนี้ยนหรานจึงไม่เก็บผักแล้วเงยหน้าขึ้นมา“ไปเถิด ตามข้าไปดูบึงน้ำ จะสร้างเรือนน่ะ อย่างไรก็ต้องให้ข้ามีเงินเสียก่อนจึงจะได้”
เชิงอรรถ
[1] 白眼狼儿 หมาป่าตาขาวแปลว่า คนที่ลืมบุญคุณ
