“เราไม่ได้เจอกันนานเลยนะ หนูเป็ยังไงบ้าง สบายดีไหม” ปกรณ์เปิดฉากทักอีกฝ่ายทันทีหลังเดินหลบผู้คนมา เขาดีใจที่ได้เจอคนตรงหน้าซึ่งเป็คนที่เขารู้สึกผิดอยู่ในใจที่อาจมีส่วนทำให้เธอ มีาแในใจจนถึงทุกวันนี้ หญิงสาวยิ้มรับเพียงมุมปาก
“สบายดีค่ะ คุณลุงคุณป้าก็สบายดีใช่ไหมคะ” ชายสูงวัยพยักหน้ารับพร้อมกับส่งยิ้มให้หญิงสาวตรงหน้า เขาทำท่าจะพูดอะไรบางอย่าง แต่หญิงสาวรีบตัดบท
“คือ…แพรแยกกับเพื่อนมานานแล้ว เดี๋ยวเพื่อนจะรอ แพรขอตัวกลับเข้าไปในงานก่อนนะคะ สวัสดีค่ะคุณลุง” พูดจบก็รีบยกมือไหว้ลาคนตรงหน้าก่อนจะเดินหนีออกมา กระทั่งเดินสวนกับชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเธอจำเขาได้ เขาคือผู้ชายคนเมื่อวานที่จ้องมองเธออย่างไม่วางตาตอนอยู่ที่ร้านของพี่กวี ซึ่งวันนี้เธอก็เพิ่งจะรู้ว่าเขาเป็ตำรวจจากชุดที่เขาใส่มาร่วมงาน มันจึงทำให้เขาดูแปลกตาไป
แต่มีอีกหนึ่งอย่างที่เธอรู้สึกว่ามันได้เปลี่ยนไปด้วย นั่นก็คือสายตาของเขาที่มองเธอ มันเหมือนกับว่าเขาผิดหวังและคาดโทษในตัวเธอระคนปนเปกันไป ผิดกับเมื่อวานที่สายตาของเขายามมองมาที่เธอช่างแลดูเป็ประกายลุ่มลึก มีเสน่ห์ดึงดูดด้วยพลังบางอย่าง แต่ตอนนี้เธอไม่มีเวลาที่จะใส่ใจมากนัก หญิงสาวรู้แค่ว่าต้องรีบเดินหนีให้พ้นจากที่ตรงนี้ไปให้ไกลโดยเร็วที่สุด แพรรีบสาวเท้าเข้าไปหากลุ่มเพื่อนของเธอที่อยู่ในงานโดยทันที
บรรยากาศในงานสัมมนา หญิงสาวเลือกที่จะเดินเกาะกลุ่มกับเพื่อนของเธอเอาไว้ โดยไม่ยอมเดินไปไหนมาไหนคนเดียวเพราะเธอรู้สึกอึดอัด กดดันและเกรงกลัวความไม่ปลอดภัยที่อาจจะเกิดขึ้นมาได้
หลังจากที่เธอสังเกตเห็นว่า เมื่อใดก็ตามที่เธอหันไปมองทางชายหนุ่มคนเมื่อวาน เธอก็มักจะพบกับสายตาของเขาที่จ้องมองเธออยู่ก่อนแล้ว เขามองเธอแทบจะตลอดเวลาหันไปทีไรก็เจอ และสายตาของเขาที่มองมานั้น ก็ยากที่จะคาดเดาได้ว่าผู้ชายคนนี้คิดอะไรอยู่ บางครั้งเหมือนเขาโกรธ บางครั้งเหมือนเขาน้อยใจ
ทางฝั่งของวินที่ตอนนี้ยังคงเคลือบแคลงสงสัยในความสัมพันธ์ของคนทั้งสอง กลับยิ่งต้องหงุดหงิดใจเพิ่มขึ้นไปอีก เมื่อหันไปเห็นว่าเ้านายของเขาก็แอบชำเลืองมองหญิงสาวคนนั้นอยู่เช่นกัน
แพรคิดจะปลีกตัวออกจากงานสัมมนานี้ไปเงียบๆ โดยอาศัย่ที่ทุกคนกำลังเดินไปพักรับประทานอาหารกลางวันในห้องจัดเลี้ยง อีกห้องหนึ่ง หญิงสาวรีบบอกลากลุ่มเพื่อนและเดินเลี่ยงออกจากงานสัมมนามาทันที เธอรู้สึกโล่งใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ที่ไม่ต้องถูกสายตาของใครบางคนจับจ้องอยู่ตลอดเวลาแล้ว เธอเดินลงบันไดเลื่อนเพื่อตรงไปยังทางออกของโรงแรม แต่พอหญิงสาวเดินเลี้ยวไปยังโถงทางออกกลับมีใครบางคนเดินมาดักหน้าเธอเอาไว้
“คุณ…” หญิงสาวใสุดขีดจนหน้าถอดสี ที่ได้เห็นนายตำรวจหนุ่มผิวเข้มเดินมาขวางหน้าเธอเอาไว้ นี่เขาตามเธอมาหรือ แล้วตามมาทำไม
หญิงสาวรู้สึกกระวนกระวายอยู่ภายในใจ เธอหันซ้ายหันขวาเตรียมจะร้องะโให้คนช่วย แต่ชายหนุ่มตรงหน้าเหมือนจะรู้ว่าเธอกำลัง จะทำอะไร เขาจึงรีบเอ่ยปากพูดบางอย่างออกมา ก่อนที่เธอจะได้ส่งเสียง
“ผมแค่มาเตือนคุณดีๆ ว่าอย่ายุ่งกับคนมีครอบครัวแล้ว” แพรถึงกับทำหน้างงในสิ่งที่เขาพูด ชายหนุ่มจึงพูดขยายความต่อเพื่อให้หญิงสาวเข้าใจมากขึ้น
“พี่ปกรณ์น่ะ เขามีภรรยาอยู่แล้ว คุณไม่ควรเข้ามาทำลายครอบครัวของคนอื่นเขาแบบนี้ ถ้าคุณยังไม่เลิก อย่าหาว่าผมไม่เตือน” วินพูดด้วยน้ำเสียงติดจะโมโหและหงุดหงิด หญิงสาวตรงหน้าเหมือนจะเริ่มเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดและเธอเองก็เริ่มแสดงอาการไม่พอใจเช่นกัน
“ถ้าคุณไม่รู้เื่อะไร ก็อย่าพูดเลยค่ะ บางทีสิ่งที่คุณคิด มันอาจจะไม่ใช่ก็ได้ และนี่ถือเป็เื่ส่วนตัวของฉัน ทางที่ดีคุณอย่ามายุ่งจะดีกว่า” พูดจบเธอก็เดินเลี่ยงและรีบไปขึ้นรถแท็กซี่ที่จอดรออยู่หน้าโรงแรม หญิงสาวก้าวขึ้นรถจากไปโดยไม่เหลียวหลังกลับมามอง ปล่อยให้ชายหนุ่มมองตามหลังเธอไปอย่างผิดหวัง วินยืนมองรถแท็กซี่ ที่มุ่งหน้าออกถนนใหญ่ไปด้วยสายตาเศร้าสร้อย ความหวังที่เคยมีกลับสลายไปต่อหน้าต่อตา
หลังจากจบงานสัมมนาวิชาการ เตชินทร์แยกตัวไปส่งปกรณ์กลับบ้าน ส่วนวินที่ขอตามนนท์กลับมาที่ห้องด้วยก็กำลังนอนอยู่บนโซฟาและเอามือก่ายหน้าผาก พลางครุ่นคิดเื่ของวันนี้ แล้วก็ได้แต่ถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า
ส่วนนนท์ที่คอยเหลือบมองเพื่อนสนิทเป็ระยะด้วยความเป็ห่วงก็ต้องสะดุ้งใ ที่จู่ๆ เพื่อนของเขาก็ผุดลุกขึ้นนั่งและหันมาหาเขาเหมือนกับว่าเ้าตัวเพิ่งตัดสินใจอะไรบางอย่างได้
“พากูไปร้านพี่กวีหน่อยสิ” สิ้นเสียงของวิน นนท์ถึงกับมองบน
“มึงจะไปทำไม ตามไปถามความจริงจากเขาเหรอ มันไม่มีประโยชน์อะไรหรอก กูว่านะ...ตัดใจง่ายกว่าว่ะ เพราะถ้าเขาเป็เด็กของนายจริง มึงก็ไม่ควรยุ่งอย่างเด็ดขาดอยู่แล้วอ่ะ” คำตอบของนนท์ยิ่งทำให้วินแทบหมดกำลังใจ แต่ยังมิวายหาข้อโต้แย้งเพื่อน
“แต่ผู้หญิงคนนั้นทำไม่ถูกนะ เขายุ่งกับคนมีครอบครัวแล้ว พี่พิมเป็คนดีไม่ควรที่จะต้องมาเจอเื่อะไรแบบนี้ และกูก็ไม่อยากให้ครอบครัวของพี่เขาต้องแตกแยก” วินพูดอย่างหัวเสีย แม้จะอ้างว่าตัวเขาเป็ห่วงพิมมาดาซึ่งเป็ภรรยาของปกรณ์ แต่ลึกๆ แล้วภายในใจของชายหนุ่ม เขาเองก็รู้สึกแอบเสียความมั่นใจอยู่ไม่น้อย ที่หญิงสาวคนนั้นเลือกจะไปมีความสัมพันธ์กับคนแก่คราวพ่อ มากกว่าผู้ชายที่หนุ่มแน่นอย่างเขา