“แม่ข้าไม่ได้เตรียมแก้ปัญหาอย่างไร แต่ส่งเื่นี้ให้ข้าแก้ไขปัญหาเลยต่างหาก! บ้าเอ๊ย!” เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วที่ซดน้ำชาไปอึกหนึ่ง ในที่สุดก็อดกลั้นความฉุนเฉียวที่นึกอยากก่นด่าไว้ไม่อยู่ สบถคำด่ามากมายที่เมื่อครู่ไม่กล้าพูดต่อหน้าฮูหยินเยี่ยนออกมาทั้งหมด
เยวี่ยเจาหรานได้ยินเช่นนั้น ก็เกิดความสงสัยต่อฮูหยินเยี่ยนขึ้นมาในใจเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้ ถึงอย่างไรเยี่ยนอวิ๋นหลิ่วผู้นี้ ไม่ว่าปัญหาอะไรก็ล้วนใช้กำลังแก้ปัญหา จนแทบจะไม่ใช่ผู้หญิงอยู่แล้ว
ฮูหยินเยี่ยนในฐานะที่เป็มารดาของเยี่ยนอวิ๋นหลิ่วย่อมรู้นิสัยและความประพฤติของบุตรสาวดี เหตุใดเมื่อเป็เช่นนี้แล้วยังวางใจมอบเื่ที่สำคัญขนาดนี้ให้เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วจัดการได้?!
อย่างที่คิด คนในจวนเยี่ยนของพวกเขาล้วนเป็คนอำมหิต ที่โเี้ยิ่งกว่าคนโเี้!
เยวี่ยเจาหรานที่เอาแต่ส่ายหน้านิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง กลับทำให้เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วร้อนใจยิ่ง จิ้มเยวี่ยเจาหรานที่กำลังจดจ่ออยู่กับเกาลัดคั่วน้ำตาลเม็ดหนึ่งด้วยความร้อนรน แล้วเอ่ยขึ้นอย่างดุร้าย “อย่าเอาแต่กินได้หรือไม่? เ้ามาช่วยข้าคิดว่าต่อไปจะทำอย่างไรดี
เมื่อแขนถูกจิ้มกะทันหัน เปลือกเกาลัดทั้งหมดที่เก็บไว้อย่างยากลำบากเมื่อครู่นี้ก็... ร่วงลงกลางอากาศ
แต่เยวี่ยเจาหรานเองก็ไม่กล้าเกรี้ยวกราดใส่เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วนี่นา? ถึงอย่างไรตอนนี้เขาจะสู้ก็สู้ไม่ไหว ด่าก็ด่าไม่ชนะ เมื่อก่อนการต่อสู้ด้วยเชาวน์ปัญญาที่มั่นใจมากที่สุด ก็แทบจะเสมอสูสีกันเพราะการบัฟเบิกเนตรอันแข็งแกร่งของอาจารย์อวี้ ถึงแม้จะไม่ถึงกับทัดเทียม แต่ก็นับว่าไล่เลี่ยกันแล้ว
เยวี่ยเจาหรานแอบบ่นอยู่ในใจ เช่นนั้นก็ต้องตามใจนาง ถึงจะพอสมน้ำสมเนื้อได้
เยวี่ยเจาหรานที่แอบยิ้มอยู่ในใจมองไปยังเยี่ยนอวิ๋นหลิ่วที่พองขนด้วยความโกรธเคืองแล้วแย้มยิ้มตาพริ้ม ก่อนจะเอ่ย “กลัวอะไรกัน? ถึงอย่างไรไม่ว่าปัญหาใดสำหรับเ้าก็ล้วนสามารถใช้กำลังต่อยตีแก้ไขได้นี่ หากหนึ่งครั้งไม่ได้ ก็ตีสองครั้ง ตามที่ข้าเห็นนะ เ้าจ้างคนสักสองสามคนอัดเ้าคุณชายจ้าวอะไรนั่นเสีย ให้ดีที่สุดก็อัดให้หน้าบวมปูดเป็หัวหมูไปเลย จากนั้นก็ฉวยโอกาสใช้เหตุผลที่ว่าเขาหน้าตาน่าเกลียดเกินไป ยกเลิกเื่การแต่งงานเสียเลย”
แม้ว่าคำพูดเหล่านี้ของเยวี่ยเจาหรานจะเป็คำพูดหยอกล้อ ทว่า... ทว่ามันก็นับว่าโดนใจเยี่ยนอวิ๋นหลิ่วเข้าอย่างจัง…
“เ้าพูดมีเหตุผล!” เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วตบโต๊ะอย่างแรงด้วยความดีใจ จากนั้นจึงะโสุดแรงขึ้นไปนั่งยองอยู่บนเก้าอี้ “เ้านี่ไม่เสียทีที่เป็ภรรยาของข้าจริงๆ วิธีการที่คิดออกมาช่างเหมือนกับที่ข้าคิดไม่มีผิด!”
ทว่า เมื่อพูดถึงตรงนี้เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วก็อดรู้สึกทุกข์ใจขึ้นมาไม่ได้ ถึงอย่างไรเสีย... “แต่ท่านแม่ของข้าดูเหมือนจะไม่พอใจกับวิธีแก้ปัญหานี้นัก ดังนั้นข้าจึงได้แต่มาขอให้เ้าช่วยคิดวิธีการอื่นให้ข้าอีกที...”
เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วขมวดคิ้วมุ่น พยายามแสดงออกอย่างสุดกำลังว่าอะไรคือสิ่งที่เรียกว่า ‘อับจนหนทาง’
“พรูด...” เยวี่ยเจาหรานที่กำลังดื่มชาอยู่ถูกคำพูดนั้นของเยี่ยนอวิ๋นหลิ่วทำเอาตกอกใ พลันพ่นน้ำชาร้อนในปากใส่เยี่ยนอวิ๋นหลิ่ว แม้ว่าตนเองก็มีความคิดที่จะอัดคุณชายจ้าวอยู่เหมือนกัน แต่อย่างไรตนก็ไม่กล้าพูดกับฮูหยินเยี่ยนเด็ดขาด ไม่นาน สีหน้าของฮูหยินเยี่ยนตอนที่ได้ยินความเห็นนี้ก็ได้ปรากฏขึ้นมาในหัวสมองของเยวี่ยเจาหราน…
เยวี่ยเจาหรานรีบร้อนวางถ้วยชาลง แล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าไปเช็ดน้ำชาบนร่างของเยี่ยนอวิ๋นหลิ่ว พลางอดกลั้นเอ่ยอย่างเหมือนจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม “ขอโทษทีๆ ...แต่ว่าคำพูดเมื่อครู่นี้ของเ้าน่าสนใจจริงๆ ไม่นึกว่าตอนนี้ระดับความอดทนในการถูกเ้ายั่วโมโหของแม่เ้าจะสูงขนาดนี้... ฮ่าๆ ๆ”
“ถุย! หัวเราะอะไรของเ้า!” เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วแย่งเอาผ้าเช็ดหน้าในมือของเยวี่ยเจาหรานมา แล้วก้มหน้าก้มตาเช็ดเสื้อผ้าตัวเอง ก่อนจะเอ่ย ‘คุกคาม’ ด้วยเสียงเด็ดขาด “เ้าดูถูกวิธีการที่ข้าคิดขนาดนี้ เช่นนั้นเ้าก็บอกวิธีการของเ้ามาสิ? หากไร้ประโยชน์ละก็ ข้าจะไปห้องครัวต้มน้ำร้อนให้เ้าสักกา แล้วเทเข้าไปในเสื้อผ้าของเ้าให้หมด ให้มันลวกจนเ้าะโโลดเต้นร้องหาแม่เสียเดี๋ยวนี้เลย”
เมื่อถูกเยี่ยนอวิ๋นหลิ่วยั่วยุเช่นนี้ เสียงหัวเราะของเยวี่ยเจาหรานก็ยิ่งดูสนุกสนานขึ้นอีก “ฮ่าๆ ะโโลดเต้นร้องหาแม่หรือ? หรือว่าในใจของเ้าข้าเป็เพียงกระต่ายน้อยตัวหนึ่งอย่างนั้นหรือฮ่าๆ ๆ”
“เอาล่ะ ไม่มีสินะ!”
น้ำเสียงของเยี่ยนอวิ๋นหลิ่วพลันเฉียบขาดขึ้นมา ทำเอาเยวี่ยเจาหรานรีบเก็บเสียงหัวเราะของตนไปด้วยความใ พร้อมกับโยนเกาลัดคั่วน้ำตาลที่ยังแกะเปลือกไม่เสร็จในมือนั้นทิ้งไป
“แค่ก... อะแฮ่ม...” เยวี่ยเจาหรานรู้ว่ายามนี้เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วนั้นเริ่มมีน้ำโหแล้ว รีบร้อนทำท่าทางกระแอมไอเล็กน้อย ครู่หนึ่งจึงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “ได้ๆ ไม่ล้อเล่นแล้ว เื่นี้เ้ากับท่านแม่คิดไว้หรือยังว่าจะจัดการอย่างไร...”
“ก็บอกว่า ‘ยัง’ ไงเล่า!” เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วนั้นยามปกติแม้จะดูโผงผางเหมือนบุรุษ ทว่าเมื่อเกิดเื่ขึ้นมาจริงๆ โดยเฉพาะตอนที่อยู่กับเยวี่ยเจาหราน ก็ดูเหมือนแม่นางน้อยขึ้นมาบ้างเหมือนกัน ถึงอย่างไร…
ถึงอย่างไรหากมีคนให้พึ่งพาอาศัย สภาพจิตใจของคนก็คงจะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างไม่ใช่หรือ
“หากท่านแม่ยินยอมให้ข้าจ้างคนไปอัดเ้าจ้าวอู๋ชวงนั่นสักทีละก็ ข้ายังต้องวิ่งมาถามเ้าว่าควรทำอย่างไรถึงที่นี่อีกหรือ?! เยวี่ยเจาหรานเ้าโง่หรือ!”
เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วในตอนนี้ร้อนรนใจยิ่ง ปฏิบัติต่อใครล้วนโจมตีไม่เลือกหน้า สิ่งที่พุ่งใส่เยวี่ยเจาหรานเองก็เป็ปืนใหญ่ที่ยิงถล่มอย่างยากจะเลี่ยง เยวี่ยเจาหรานรู้จักนิสัยของนางดี นอกจากคอยตามใจก็ไม่มีวิธีอื่นอีกแล้วไม่ใช่หรือ!
“อย่าร้อนใจ เ้าอย่าร้อนใจไปเลย...” เยวี่ยเจาหรานอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเฮือกใหญ่อยู่ในใจ ก่อนจะเอ่ยเยี่ยนอวิ๋นหลิ่วที่ถ้วยชาว่างเปล่า “ดื่มน้ำก่อนสักคำเถอะ ข้าจะรินให้เ้า... เ้าก็ปล่อยให้ข้าคิดว่าเื่นี้ควรจะทำเช่นไร ดีหรือไม่?”
“อย่างนั้นก็ได้... ข้าจะเชื่อเ้าอีกสักครั้งก็แล้วกัน”
เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วก้มหน้าลงอย่างน้อยอกน้อยใจ จ้องมองเยวี่ยเจาหรานรินน้ำให้นาง ในที่สุดก็ไม่ได้พองขนด้วยความโกรธเกรี้ยวเหมือนแมวดาวน้อยตัวหนึ่งอีกแล้ว
นิ้วมือของเยวี่ยเจาหรานโค้งงอเล็กน้อย แล้วเคาะลงบนโต๊ะดังกึกๆ เมื่อเห็นเยี่ยนอวิ๋นหลิ่วดื่มน้ำลงไปถ้วยหนึ่งแล้ว จึงเอ่ยขึ้น “เื่นี้ไม่อาจเป็ภาระหน้าที่ของจวนเยี่ยนได้ ทั้งจะต้องคุ้มครองจ้าวอู๋ชวงผู้นั้นด้วย ทว่าเ้าเองก็ต้องคุยกับแม่เ้าให้เรียบร้อยเสียก่อน ให้พ่อเ้าส่งเสริมเขาในหนทางการเป็ขุนนางในวันข้างหน้าเสียหน่อย...”
“เพื่ออะไร?”
เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วสีหน้าเต็มไปด้วยความงุนงง แต่กลับเห็นเยวี่ยเจาหรานเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เพราะข้าคิดว่าความคิดนี้จะชั่วร้ายเกินไป หากไม่ชดเชยให้สักหน่อย น่ากลัวว่าต่อจากนี้ทุกคนคงจะต้องมาประสบเคราะห์ชดใช้กรรมไปด้วยกัน ข้าไม่อยากรนหาที่ตายไปพร้อมกับเ้าหรอกนะ~”
ถึงแม้จะไม่ค่อยเข้าใจความคิดของเยวี่ยเจาหรานเท่าไรนัก แต่ในใจของเยี่ยนอวิ๋นหลิ่วนั้น เชื่อมั่นตั้งนานแล้วว่าเยวี่ยเจาหรานไม่มีทางทำร้ายนาง ดังนั้นนางจึงพยักหน้าให้อีกฝ่ายทันทีโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง สองมือจับตัวเยวี่ยเจาหรานเอาไว้อย่างเอาจริงเอาจัง จากนั้นจึงเอ่ยขึ้น “เช่นนั้นก็ได้ เื่นี้ข้ามอบอำนาจทั้งหมดให้เ้าแก้ไข แต่อย่าทำให้ข้าผิดหวังเด็ดขาดล่ะ!”
“วางใจเถอะ ข้าไม่ทรยศต่อความเชื่อมั่นของเ้าอย่างแน่นอน”
เยวี่ยเจาหรานสบตายิ้มให้กับเยี่ยนอวิ๋นหลิ่วอย่างรู้ใจ แต่ในใจนั้นยังสับสนอลหม่าน ถึงอย่างไรความคิดนี้ก็ออกจะชั่วร้ายไปสักหน่อยจริงๆ น่ากลัวว่าใน่เวลาอันยาวนานข้างหน้า คงจะทำให้คุณชายจ้าวผู้นี้ไม่อาจเชิดหน้าชูตาในเมืองหลวงได้เลย
ทว่า เพื่อเยี่ยนอวิ๋นหลิ่วแล้ว จะชั่วร้ายสักหน่อยก็ช่างเถอะ ถึงอย่างไรจ้าวอู๋ชวงผู้นั้นก็ไม่ได้สนิทสนมอะไรกับตน แต่กับเยี่ยนอวิ๋นหลิ่วนั้น…
นางเป็ถึงสตรีที่กุมชีวิตน้อยๆ ของเยวี่ยเจาหรานเอาไว้เชียวนะ
ยิ่งกว่านั้นยังเป็แม่นางที่ไม่ค่อยธรรมดานัก พฤติกรรมอุกอาจป่าเถื่อนอย่างยิ่งยวด...
