เซี่ยต้าจวินต่างหากคือคนที่ต้องนั่งรถเข็นอย่างแท้จริง
การทำกายภาพบำบัดของเขายังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ก็ถูกเรียกตัวกลับมาจากฮ่องกง และเขายังไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าตอนนี้คนตระกูลเซี่ยหวัง้าพึ่งพาเขา ั้แ่ฮ่องกงจนมาถึงหยางเฉิง จากหยางเฉิงมายังเผิงเฉิง เขาเดินทางอย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดพัก เพื่อใช้เวลาเดินทางรวดเร็วที่สุด
คุณชายใหญ่จ่ายเงินให้เขามากมายเสียขนาดนั้น ค่ารักษาพยาบาลที่ฮ่องกงต่อวันจำนวนไม่ใช่น้อยๆ เซี่ยต้าจวินคิดในใจว่า ในที่สุดตนก็มีโอกาสที่จะได้ตอบแทนคุณชายใหญ่เสียที
เซี่ยต้าจวินไม่ว่างมาสนใจเสียวอวี่อีกต่อไป หลังลงจากเครื่องบินเขาก็ถูกพาตัวไปหาตู้เ้าฮุยทันที
ตอนนี้ตู้เ้าฮุยรู้สึกว่าแผนการของตนอาจจะไม่ได้ผลสักเท่าไร แต่ในเมื่อเซี่ยต้าจวินมาถึงที่นี่แล้ว เขาก็ต้องไปพบเซี่ยต้าจวินสักครั้ง
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ใช่แฟนสาวของคังเหว่ย เื่นี้อยู่เหนือความคาดหมายของตู้เ้าฮุยยิ่งนัก แต่ดูจากท่าทีของเซี่ยเสี่ยวหลานที่มีต่อคังเหว่ยแล้วก็นับได้ว่าเธอให้ความสำคัญกับคังเหว่ยเป็อย่างมาก
ตู้เ้าฮุยไม่เข้าใจพฤติกรรมของเซี่ยเสี่ยวหลานแม้แต่น้อย จากที่เซี่ยต้าจวินเล่ามา ตระกูลเซี่ยเป็เพียงชาวไร่ชาวนาผู้ยากจนในชนบท แต่เซี่ยเสี่ยวหลานกลับดูสนิทสนมกับนายกทัง และมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลคัง แถมตอนนี้ยังมีแฟนหนุ่มที่เป็ทหารโผล่มาด้วยอีกคนหนึ่ง
ตู้เ้าฮุยคิดว่าเื่วุ่นวายคราวนี้ หากเขาลงมือกับเซี่ยเสี่ยวหลานก่อนอาจจะสามารถแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้ เพราะเธอเปรียบเสมือนแกนกลางที่เชื่อมโยงทุกคนที่เกี่ยวข้องเข้าด้วยกัน!
พอเห็นเซี่ยต้าจวิน ตู้เ้าฮุยก็รู้สึกลำบากใจยิ่งนัก
“ขอโทษที ฉันพาลูกสาวแกไปหาที่ฮ่องกงไม่ได้”
เซี่ยต้าจวินรีบเอ่ย “คุณชายใหญ่ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ ผมจะโทษคุณชายใหญ่ได้อย่างไรกัน คงเป็เสี่ยวหลานเองที่ไม่อยากไปหาผม... เป็ผมที่คิดน้อยไป ลืมคิดไปว่าเธอยังต้องเรียนหนังสืออยู่!”
ตู้เ้าฮุยแสยะยิ้มในใจ ต่อให้ไม่เรียนหนังสือ เซี่ยเสี่ยวหลานก็ไม่มีทางยอมไปฮ่องกงอยู่ดี
ตอนแรกเขาไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้เขากระจ่างแจ้งแล้ว เซี่ยเสี่ยวหลานใช้อาวุธที่ผู้หญิงเชี่ยวชาญมากที่สุดนั่นก็คือการจับคนที่มีอำนาจมากกว่า ดังนั้นลูกสาวของเซี่ยต้าจวินไม่ใช่คนสมองหมูเหมือนพ่ออย่างแน่นอน!
นี่คือสาเหตุที่ว่าทำไมเซี่ยเสี่ยวหลานถึงได้ปฏิเสธการไปฮ่องกงอย่างเด็ดขาด เพราะอยู่ที่แผ่นดินใหญ่มีอนาคตดีกว่านั่นเอง
ตู้เ้าฮุยถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ต้าจวิน ตอนนี้ไม่ใช่แค่แกกับลูกสาวที่มีเื่เข้าใจผิดกัน แม้แต่กับฉัน เธอก็โกรธด้วยน่ะสิ”
ตู้เ้าฮุยเล่าเื่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นให้เซี่ยต้าจวินฟัง ตู้เ้าฮุยไม่ใช่คนขับ ดังนั้นความรับผิดชอบย่อมตกเป็ของคนขับรถทั้งหมด ทว่าเขาไม่ใช่คนใจแคบ ควรจ่ายค่าชดเชยให้เท่าไรเขาย่อมยินดีจ่าย และรับรองได้ว่าจะจ่ายโดยอิงจากมาตรฐานระดับเศรษฐกิจของฮ่องกง
ทั้งสองฝ่ายมานั่งคุยกันดีๆ มิได้หรือ ตึงเครียดใส่กันแบบนี้ย่อมไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้
หลังได้ยินคำบอกเล่าของตู้เ้าฮุย เซี่ยต้าจวินก็รู้สึกใ พอได้ยินว่ารถของตู้เ้าฮุยชนเซี่ยเสี่ยวหลานจนได้รับาเ็ เขาก็กำที่พักแขนของเก้าอี้รถเข็นแน่น แต่เมื่อได้ยินว่าเซี่ยเสี่ยวหลานาเ็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เซี่ยต้าจวินจึงสงบลง
ตู้เ้าฮุยถามเขา “ต้าจวิน แกคิดว่าฉันพูดถูกไหม”
“ถูกครับ!”
ปลอดภัยก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ ทำไมต้องบีบคั้นกันถึงเพียงนั้น ตู้เ้าฮุยไม่มีทางโกหกเขาอย่างแน่นอน เพราะคุณชายใหญ่ไม่เคยขับรถเอง
พอเซี่ยต้าจวินคิดถึงนิสัยของเซี่ยเสี่ยวหลานก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที เซี่ยเสี่ยวหลานเป็พวกชอบเอาชนะมาโดยตลอด จับข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อยของใครได้ก็จะกัดไม่ปล่อย เหมือนเขากับหลิวเฟิน ความจริงแล้วพวกเขาไม่จำเป็ต้องหย่าร้างกันด้วยซ้ำ สามีภรรยาที่ไหนไม่ทะเลาะกันบ้าง แต่ทุกครอบครัวผู้ชายมักจะเป็ใหญ่อยู่เสมอ
ไม่เห็นมีครอบครัวไหนหย่าร้างกันเพียงเพราะเื่เล็กน้อยแค่นี้มาก่อน
เมื่อยามที่อยู่หมู่บ้านต้าเหอเขาอาจจะเข้าข้างจื่ออวี้ก็จริง แต่มันก็สามารถเป็เื่ที่เข้าใจกันได้มิใช่หรือ ตอนนั้นเซี่ยจื่ออวี้เป็ความภาคภูมิใจและความหวังเดียวของตระกูลเซี่ย เมื่อเสี่ยวหลานไม่พยายาม คนที่บ้านจะรักจื่ออวี้มากกว่าก็ไม่ใช่เื่แปลกอะไร... เซี่ยต้าจวินคิดว่าสิ่งที่คนตระกูลเซี่ยทำผิดพลาดมากที่สุดก็คือ การไม่ถามไถ่เื่ราวของหวังเจี้ยนหัวกับจื่ออวี้ให้ชัดเจนก่อนจะโทษเสี่ยวหลานว่าอ่อยพี่เขยของตัวเอง
และต่อให้เข้าใจผิดหรือโกรธกันก็ไม่ควรนิ่งเฉยหลังเสี่ยวหลานวิ่งเอาหัวชนเสา รวมถึงไม่ยอมพาเธอไปโรงพยาบาลเช่นนั้น
แม่เฒ่าเซี่ยบอกว่าที่บ้านไม่มีเงิน เซี่ยต้าจวินสามารถเข้าใจได้ แต่ชีวิตคนสำคัญกว่าทุกสิ่งไม่ใช่หรือ จะช่วยหยิบยืมเงินจากเพื่อนบ้านมิได้เลยหรืออย่างไร ด้วยสาเหตุเหล่านี้จึงไม่แปลกสักนิดที่เสี่ยวหลานจะรู้สึกน้อยใจ
สรุปแล้วความขัดแย้งทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะความยากจน ตอนนั้นต่อให้เซี่ยต้าจวินยังไม่ได้รับเงินเดือนเดือนละสามพันดอลลาร์ฮ่องกง แต่ถ้าเดือนหนึ่งเขาสามารถหาเงินได้สักสามร้อยหยวนก็คงไม่เกิดเื่พวกนี้ขึ้น!
ทว่าตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว เงินเดือนของเขาสามารถแก้ไขความขัดแย้งเหล่านี้ได้ และเขาก็ไม่จำเป็ต้องลำเอียงเข้าข้างใครอีกต่อไป ไม่ว่าจะส่งหลานสาวหรือเซี่ยเสี่ยวหลานเรียนมหาวิทยาลัย เงินของเขาก็มีจำนวนมากพอ
เซี่ยต้าจวินออกจากบ้านมาหนึ่งปีแล้ว เขาหาเงินได้เช่นนี้จึงคิดวางแผนไว้หมดแล้วว่าจะแบ่งเงินเดือนออกเป็กี่ส่วน แต่เขาไม่รู้เลยว่าตระกูลเซี่ยได้แยกย้ายกันไปคนละที่เสียแล้ว
ตู้เ้าฮุยเรียกเขามาจากฮ่องกงเช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน เขาจะได้เอาเงินให้เซี่ยเสี่ยวหลานเสียเลย
เซี่ยต้าจวินรู้สึกข้องใจแค่เื่เดียวก็คือ ไม่ได้เจอกันแค่ปีเดียว ทำไมคนที่อยู่รอบตัวเซี่ยเสี่ยวหลานถึงได้ซับซ้อนมากมายขนาดนี้?
เซี่ยเสี่ยวหลานถึงขนาดรู้จักกับนายกเทศมนตรีทัง
คังเหว่ยที่ถูกรถชนพร้อมกับเซี่ยเสี่ยวหลานคือใครกัน ทำไมเซี่ยเสี่ยวหลานถึงนั่งรถของสหายผู้ชายที่เผิงเฉิงได้ แล้วเพื่อนคนนั้นเธอไปรู้จักมาจากไหน ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ลงมือทำร้ายคุณชายใหญ่ นี่ลูกสาวของเขาคนนี้รู้ประวัติของคุณชายใหญ่หรือเปล่านะ?
ตู้เ้าฮุยเป็คนรักพวกพ้อง ดูแลลูกน้องเป็อย่างดี แต่ขณะเดียวกันเขาก็เป็บุคคลอันตราย
เซี่ยต้าจวินรู้ดีว่า หากคุณชายใหญ่ไม่พอใจใครก็สามารถจับตัวคนคนนั้นโยนทิ้งทะเลได้ทุกเมื่อ แล้วเซี่ยเสี่ยวหลานหาเื่ตู้เ้าฮุยเช่นนี้ เซี่ยต้าจวินรู้สึกกลัวใจเหลือเกิน
“คุณชายใหญ่ เด็กคนนั้นไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง คุณชายอย่าถือสาเธอเลยนะครับ...”
“เห็นแก่แก ฉันจะถือสาเด็กผู้หญิงคนหนึ่งไปทำไมกัน ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ควรจัดการอย่างไรดี ต้าจวิน แกช่วยฉันได้หรือเปล่า”
เซี่ยต้าจวินพยักหน้าอย่างเต็มใจ “คุณชายใหญ่ บอกมาได้เลยครับ ผมยินดีทำตามคำสั่งของคุณชายทุกอย่าง!”
—-------------------------------------------------------
เซี่ยเสี่ยวหลานเองก็นึกไม่ถึงว่าออกไปกินข้าวเพียงมื้อเดียว กลับมาก็เจอกับเซี่ยต้าจวินที่มาถึงโรงพยาบาลแล้ว
อาหารมื้อนี้ช่างเป็ทางการเหลือเกิน เ้ามือคือคังเหลียนิผู้ไม่มีอารมณ์ขันแม้แต่น้อย กอปรกับคังเหว่ยก็ยังคงนอนพักรักษาตัวอยู่ ดังนั้นสมาธิของทุกคนหาได้อยู่ที่โต๊ะอาหารไม่
อาหารมือนี้ คนแรกที่คังเหลียนิกล่าวขอบคุณคือเซี่ยเสี่ยวหลาน คังเหลียนิได้พูดคุยกับเ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลแล้ว ทันทีที่มาถึงโรงพยาบาลเซี่ยเสี่ยวหลานก็ไม่แม้แต่จะสนใจอาการาเ็ของตัวเอง อีกทั้งยังยืนกรานขอให้ผู้ก่อเหตุพาคังเหว่ยมาที่โรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด และเพราะเธอไม่ไว้ใจตู้เ้าฮุยถึงได้นั่งเฝ้าอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน แถมยังตัดสินใจโทรหาทังหงเอินอย่างเฉียบขาด
“แก้วนี้ฉันขอดื่มให้เสี่ยวหลาน ขอบคุณเธอมากที่พยายามช่วยคังเหว่ยอย่างเต็มที่ ชีวิตของเขารอดมาได้ก็เพราะมีเธอคอยดูแลเป็อย่างดี!”
“คุณอาคัง เกรงใจกันเกินไปแล้วค่ะ!”
ตอนนี้เซี่ยเสี่ยวหลานดื่มเหล้าไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงดื่มชาแทน ทว่าเธอยกถ้วยชาไม่ไหวจึงต้องขอให้โจวเฉิงช่วย
คนที่สองที่คังเหลียนิกล่าวขอบคุณคือทังหงเอิน
“นายกเทศมนตรีทัง สหายหงเอิน ผมขอดื่มให้คุณ ขอบคุณที่ใน่เวลาสำคัญเช่นนี้คุณไม่ได้ยืนอยู่ข้างนักธุรกิจฮ่องกง! ผมรู้ว่าตอนนี้การดึงตัวนักลงทุนเข้ามาเพื่อพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษเป็งานสำคัญอันดับหนึ่ง คนที่มีเงินมาลงทุนล้วนแล้วแต่เป็แขกพิเศษ และเครือเชิงหรงของนักธุรกิจฮ่องกงผู้นี้ลงทุนที่เผิงเฉิงไปจำนวนไม่น้อย นายกเทศมนตรีอย่างคุณคงรู้สึกกดดันมากสินะครับ”
“สหายเหลียนิกล่าวเกินไปแล้ว ใครผิดใครถูกไม่ได้ใช้ความร่ำรวยเป็ตัววัด หากเป็คนอื่นมาขอความช่วยเหลือ ถ้าผมสามารถช่วยได้ย่อมยินดีช่วย และหากจำเป็ต้องวัดระดับความสำคัญกันจริงๆ ผมคิดว่าทายาทวีรบุรุษของชาติสำคัญกว่าทายาทเศรษฐีมากนัก”
ทังหงเอินคิดเช่นนี้
หากทายาทของวีรบุรุษผู้สละชีพเพื่อชาติและประชาชนยังต้องยอมก้มหัวให้กับนายทุนคงเป็เื่น่าเศร้ามากทีเดียว ถ้าค่านิยมเช่นนี้แพร่หลายออกไป อีกหน่อยใครจะอยากเข้ากองทัพและเสียสละตัวเองเพื่อคนส่วนมากกัน?
แต่ถึงอย่างไรเงินก็สำคัญที่สุด เทียบกับการเป็รั้วของชาติ สู้พยายามหาเงินให้ได้จำนวนมากไม่ดีกว่าหรือ!
คำพูดของทังหงเอินทำให้เซี่ยอวิ๋นตาแดงก่ำ
ดวงตาของเธอเอ่อคลอไปด้วยหยดน้ำ สามียังไม่ทันมีโอกาสเห็นหน้าลูกชายก็จากโลกใบนี้ไปเสียแล้ว แต่โชคดีเหลือเกินที่ปัจจุบันยังมีคนจดจำ และให้ความเคารพในตัวสามีของเธออยู่