เห็นใบหน้าชั่วร้ายของเวินหว่านแล้ว เ่ิูก็หนาวสั่น
“เ้าไปถามมันเองเถอะ” เ่ิูชี้ไป
เวินหว่านชำเลืองมอง ลูกัเงินจ้องเขาอย่างมาดร้าย เขารู้ทันทีว่าเ้าตัวเล็กนี่ไม่ค่อยอยากฟังคำของเขาเท่าไรนัก ชายหนุ่มทำาประสาท เขาโบกมือให้เ้าัแล้วหัวเราะฮ่าๆ “เ้าดูสิ ข้าแค่ล้อเล่นน่า...ไปแล้วนะ”
ว่าพลางหันหลังเดินจากไป
เ้าคนนี้ทั้งเดินไปและเตือนอีกรอบว่าเื่ที่เขาถูกเ้าลูกัพ่นน้ำลายใส่ต้องห้ามแพร่งพรายออกไปเป็อันขาด
เมื่อส่งเวินหว่านเสร็จแล้ว เ่ิูก็อารมณ์ดีขึ้นมากโข
ได้นั่งคุยกันกับสหาย ไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบ เป็เื่อันน่ายินดีของชีวิตโดยแท้
“ไอ้เวรนี่ ดีที่วิ่งเร็ว ไม่งั้นข้าเขมือบเ้าแน่” มีเพียงเสียวจิ่วเท่านั้นนี่โกรธไม่หาย
มันรู้สึกว่าหลังมีลูกัแล้วตัวมันก็ถูกมองข้าม โดยเฉพาะท่าทีของเวินหว่าน เป็ความหมายของคำว่าได้ใหม่ลืมเก่าอย่างแน่แท้
เ่ิูเองก็ไม่สนใจเ้าขี้น้อยใจ
สักพักหนึ่งไป๋หย่วนสิงจึงเดินเข้ามา
เ่ิูให้เขาเก็บกวาดเศษผงโต๊ะหินที่แหลกละเอียดภายในห้อง
เด็กหนุ่มยืนอยู่หน้าบานหน้าต่างอย่างสงบ เ่ิูมองลงไปเบื้องล่าง เห็นด่านโยวเยี่ยนอันกว้างใหญ่ท่ามกลางหมอกยามสายัณห์ ในใจครุ่นคิดไปต่างๆ นานา
หลังวันเวลาแห่งความวุ่นวาย เหมือนว่าในด่านอันเงียบสงบจะแอบซ่อนคลื่นั์ถาโถมเอาไว้
เวินหว่านมาคราวนี้เหมือนมาก่อเื่ไว้กองหนึ่งแล้วก็ไป แต่ความจริงแล้วเขาได้ส่งข่าวให้มากมายทีเดียว
“เห็นทีข้าควรไปสำรวจค่ายทัพหน้าเสียหน่อยแล้ว มาด่านโยวเยี่ยนนานถึงเพียงนี้แต่ยังไม่เคยเข้ากอง รู้สึกเหมือนขาดอะไรไปสักอย่างมาตลอดเลยนะ ค่ายศึกทั้งสี่ ในเมื่อข้าเลือกได้ ข้าก็ย่อมเลือกทัพหน้าอยู่แล้ว เวินหว่านกับหลิวจงหยวนล้วนเป็คนของทัพหน้า ถึงเวลายังพอช่วยเหลือกันได้ มีแม่ทัพกองโจรผู้เลื่องชื่อสองคนคอยช่วยเหลือ ถึงเวลาคงเข้าไปกลมกลืนในค่ายทหารได้ง่าย เมื่อาปะทุขึ้น ทัพหน้าต้องเป็แนวหน้าประชิดข้าศึกอย่างแน่นอน ฝึกฝนตัวข้าให้เก่งกาจขึ้นอีก”
เ่ิูมีเป้าหมายอยู่ในใจแล้ว
...
...
หลายวันต่อมา ด่านโยวเยี่ยนกลับสงบอย่างตรงกันข้าม
เื่ข่าวที่กองทัพใหญ่้าบุกกลับทุ่งน้ำแข็งทลายหิมะนั้นได้แพร่ออกมาจากหลายสำนัก คนส่วนมากรู้สึกถึงบรรยากาศอันตึงเครียดขึ้นทุกวันๆ มีเพียงแม่ทัพชั้นสูงเท่านั้นที่รู้ถึงการระดมกองทหารว่าหนาแน่นและบ่อยครั้งขนาดไหน กองทัพโยวเยี่ยนเป็เหมือนศาสตราวุธอันฉกาจและขนาดมโหฬาร กำลังเริ่มติดเครื่องอย่างมีระบบระเบียบ กำลังสั่งสมพลังทุกเม็ดทุกหน่วย รอการะเิในสักวัน
ลำแสงหยกอินทรีดำ ปรากฏเหนือน่านฟ้าด่านโยวเยี่ยนไม่หยุดหย่อน
จำนวนแผนการกรำศึกที่ออกมาจากสำนักเ้าด่านก็มากขึ้นทุกทีๆ
เอกสารม้วนแล้วม้วนเล่าถูกขนถ่ายออกมาจากสำนักเ้าด่าน จากนั้นจะมีม้วนใหม่เข้ามาแทนที่
โคมไฟทองในหอบัญชาการไม่เคยดับ เหล่าฝ่ายวางแผนของสำนักเ้าด่านยากจะหาเวลากลับไปนอนบ้านตัวเอง
บนถนนหนทาง จำนวนทหารลาดตระเวนตรวจตรามากขึ้นๆ
เมื่อเริ่มดึกก็ทำการห้ามไม่ให้ออกนอกเคหสถานแล้ว
ข่าวว่ามีพวกปีศาจเข้ามาสอดแนมในด่านโยวเยี่ยน เกิดการปะทะกันไม่เล็กไม่ใหญ่อยู่หลายครั้ง
ายังไม่ทันเริ่ม สายลับของแต่ละฟากกลับเริ่มประลองฝีมือกันอยู่ในมุมมืดอย่างไร้สุ้มเสียง
เ่ิูเห็นกับตาตัวเอง มีวานรหิมะชั้นแม่ทัพปีศาจตนหนึ่งถูกยอดฝีมือในหมู่ทหารจับตัวได้ วานรหิมะตนนี้เป็สายพันธุ์ที่เชี่ยวชาญการแปลงกายที่สุดในหมู่เผ่าปีศาจ ฝึกฝนจนถึงขั้นแม่ทัพปีศาจ สามารถจำแลงตนเป็คนได้อย่างง่ายดาย คนธรรมดาแยกไม่ออก อีกทั้งยังชำนาญการปีนป่ายและซุ่มโจมตี แม้จะเป็ผาน้ำแข็งสูงหมื่นจ้างที่ชันเป็ที่สุดอย่างด่านโยวเยี่ยน มันยังใช้พลังกล้ามเนื้อล้วนๆ แอบแฝงขึ้นมาได้โดยไม่ต้องกระตุ้นไอปีศาจหรือพลังปีศาจเข้าช่วย ในบรรดาเผ่าปีศาจทั้งหมด วานรหิมะคือสายลับสอดแนมศัตรูแต่กำเนิดโดยแท้
วานรหิมะตัวนี้ถูกขังไว้ในคุกโลหิตของสำนักเ้าด่าน
รอเวลามันถูกทรมานเพื่อรีดเอาข่าว ทารุณชนิดที่นึกไม่ถึง
ภายใต้การตรวจจับและติดตามเพื่อจับกุมอย่างรัดกุมและละเอียดยิบของกองทัพ เผ่าปีศาจที่ลอบเข้ามาสอดแนมจึงถูกจับได้อยู่ไม่ขาด
วันนี้นั้น ภายนอกหอคอยอาชาขาว มีเสียงต่อสู้ดังแว่วมา
เ่ิูรีบไปดู เป็ทหารปีศาจถูกสำนักเ้าด่านจับกุมตัว คราวนี้เป็ปีศาจหมู
กระทั่งเ่ิูยังมองไม่ออกเลยว่า เถ้าแก่ร่างอ้วนเทอะทะที่ขายซาลาเปา ชอบหัวเราะเหอะและอัธยาศัยดีบนถนนตรงกันข้ามกับหอคอยอาชาขาวจะเป็ปีศาจหมูแปลงกายมา ถูกยอดฝีมือจับกุมและตรวจตราของสำนักเ้าด่านทำลายการเคลื่อนไหว ตอนที่จับกุมตัวนั้น เหมือนปีศาจหมูจะรู้ดีอยู่แล้วว่าหากถูกจับกุม มันจะทรมานยิ่งกว่าตาย จึงต่อต้านอย่างสุดชีวิต สุดท้ายจึงถูกฆ่าคาแผงซาลาเปานั่นเอง
กระทั่งภรรยาชาวมนุษย์ของปีศาจหมูและยังลูกชายฝาแฝดอายุไม่ถึงสิบขวบก็ยังถูกฆ่าตายตกตามกัน
“ไม่นึกเลยจริงๆ ว่าเ้าอ้วนจางจะเป็ปีศาจหมู”
“ใช่ เถ้าแก่จางเปิดแผงขายซาลาเปามามานาน อย่างต่ำก็สิบปีแล้วมั้ง ข้าไม่เคยเห็นเขาทำเื่เลวร้ายเลยสักครั้ง!”
“ชู่ว เบาเสียงหน่อย พูดแบบนี้หากคนตรวจจับปีศาจได้ยินเข้า เ้าจะเดือดร้อนเอาได้นะ เ้าเห็นใจเผ่าปีศาจเรอะ!”
“แต่เมียเ้าจางเป็มนุษย์แท้เลยนี่ แล้วยังลูกชายสองคนนั่นอีก ไม่มีลักษณะของปีศาจเลยสักนิด...เฮ่อ ตายอนาถเหลือเกิน!”
“ขอให้เป็เผ่าปีศาจ อย่างไรก็ปล่อยไปไม่ได้!”
คนมองวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา
เ่ิูส่ายหน้าแ่เบา
แผงขายซาลาเปานี้เขาเห็นมาก็หลายหน ชายร่างอ้วนแซ่จางทำซาลาเปาอร่อยมาก เป็หนึ่งในสุดยอดของจัตุรัสซึ่งมีถนนหลายสายนี้เลยก็ว่าได้ ทว่าลำพังพึ่งพลังเ่ิูยังไม่อาจมองออก ว่าชายอ้วนจางจะเป็เผ่าปีศาจแปลงกายมา วินาทีที่เขาดิ้นรนจะเป็จะตายนั้น วินาทีที่สิ้นหวังและขุ่นเคืองทำให้ร่างปีศาจปรากฏออกมา ร่างเทียบเคียงหมูป่าั์สีดำสูงหลายสิบจ้าง ไอปีศาจกลอกกลิ้ง ทำให้คนหายใจไม่ออก เป็มหาปีศาจชั้นแม่ทัพปีศาจอย่างแน่นอน
มองเห็นเืสดสีแดงฉานและแววตาหลุดลอยของปีศาจหมูในตอนนั้นแล้ว เ่ิูรู้ดีว่าการสังหารคราวนี้เป็เพียงแค่การเริ่มต้น อีกเนิ่นนานก็ยังไม่ถึงจุดจบ
ตอนนี้เ่ิูนึกไปถึงว่า ในเขตแดนของปีศาจจะมีชาวมนุษย์หลบซ่อนอยู่ด้วยหรือเปล่า?
แล้วมนุษย์เ่าั้จะถูกหน่วยตรวจตราของปีศาจพบตัวจริง แล้วตายอนาถหลังสู้อย่างสิ้นหวังเช่นตอนนี้หรือเปล่า?
เพียงแต่เ่ิูในตอนนี้นึกไม่ถึง ว่าเปลวเพลิงแห่งความบาดหมางและถอนรากถอนโคนของการจับกุมเผ่าปีศาจ จะแผดเผาตัวเขาเองในอีกไม่ถึงครึ่งเดือนต่อจากนี้
ท่ามกลางเสียงพูดคุยจอแจ เ่ิูหมุนกายเดินกลับหอคอยอาชาขาวไป
...
...
เช้าวันที่สอง
หอคอยอาชาขาวมีแขกมาเยี่ยมเยือน
หัวหน้าจางซานแห่งฝ่ายพลาธิการ พาจ้าวหรูอวิ๋นแม่ทัพจัดสรรที่เคยติดหนี้เคืองเ่ิูไว้อยู่มาเยี่ยมเยียน
ทหารสี่นายอารักขาอยู่นอกหอคอยอาชาขาว
ทั้งสองมาพบเ่ิูที่ห้องรับแขกของหอคอยอาชาขาว
“เย่โหวเหย่ ข้ามาเพื่อสะสางความเคืองโกรธที่หอคอยอาชาขาวมีต่อฝ่ายพลาธิการ หวังว่าเย่โหวเหย่จะไม่กล่าวว่าข้าบุ่มบ่าม” จางซานนั่งบนเก้าอี้อย่างาา เขาเอนหลังพิงพนัก สองเท้าวางพาดอยู่บนโต๊ะหน้าเ่ิู ทำเหล่ตา มองเ้าบ้านอย่างจะยิ้มก็ไม่ใช่จะไม่ยิ้มก็ไม่เชิง “เย่โหวเหย่อยากให้ฝ่ายพลาธิการข้าชดใช้ ข้าจางซานมาด้วยความประสงค์นั้น”
หัวหน้าจางซานแห่งฝ่ายพลาธิการเป็หนึ่งในบุคคลเลื่องชื่อของด่านโยวเยี่ยน
เสียงข่าวว่าเขาเคยเป็องครักษ์คู่กายของเทพาโยวเยี่ยนลู่เฉาเกอ ทำความชอบในศึกไม่น้อย เพราะมีไหวพริบในด้านเสบียงกรังและเงินทอง เชี่ยวชาญการคำนวณและแบ่งสันปันส่วน ถึงได้รับมอบอำนาจเป็หัวหน้าฝ่ายพลาธิการของด่านโยวเยี่ยน หลายปีมานี้เขาทำความดีความชอบหลายอย่าง วงจรปากท้องของคนหลายแสนคนในกองทัพโยวเยี่ยน ล้วนไม่อาจหนีจางซานพ้น จากประวัติที่เล่ามา นับได้ว่าเขาเป็ผู้อุทิศตนเพื่อกองทัพโยวเยี่ยนคนหนึ่ง
ทว่าจางซานคนนี้นั้น นิสัยดื้อรั้น ใจร้อนและรับผิดชอบเองทั้งหมด และยังเข้าข้างพวกพ้องตัวเองอย่างมาก ขอแค่คนอื่นทำร้ายลูกน้องตัวเองเท่านั้น ไม่ว่าจะมีเหตุผลหรือไม่ เขาก็จะเอาเื่อย่างถึงที่สุด ทำเช่นนี้เป็ประจำ ไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น เขาทำผิดต่อคนมาหมายในกองทัพ แต่ว่าก็อาศัยฐานะตัวเอง รวมทั้งเทพาโยวเยี่ยนลู่เฉาเกอ แค่นี้ก็แทบไม่มีใครกล้าตอแยเข้าแล้ว
สามปีก่อน จางซานเคยถูกแม่ทัพกองโจรของค่ายทัพฝ่ายขวาทำร้ายเพราะองครักษ์คนสนิทของเขาอาละวาดในค่ายทัพฝ่ายขวา บังคับให้ผู้บัญชาการทัพฝ่ายขวาเผิงอี้เจินมาขอโทษด้วยตัวเอง นำมาซึ่งชื่อเสียงอันฉาวโฉ่
จางซานจึงได้รับสมญาว่า ผีกลุ้ม
ความหมายแฝงก็คือ ผีตัวไหนได้เห็นเขาล้วนต้องกลุ้มไปตามๆ กัน
ฉายานี้ไม่ได้น่าฟังอะไรเลย
แต่ทว่าเมื่อจางซานรู้เข้ากลับพึงพอใจยิ่งนัก เขาประกาศชื่นชมด้วยตัวเองหลายครั้งว่าตนชอบฉายานี้มาก
สามปีมานี้ คนที่กล้ากระตุกหนวดเสืออย่างผีกลุ้มจางซานผู้นี้ แทบจะไม่มี
และทั้งฝ่ายพลาธิการนั้น เพราะนิสัยเช่นนี้ของจางซานทำให้พวกเขาเกือบทั้งหมดได้ใจนัก ฝ่ายพลาธิการเป็ฝ่ายที่รับผิดชอบการจัดสรรปันส่วนจำพวกอาวุธ เสบียงกรังของกองทัพ เรียกได้ว่าเป็เทพทรัพย์สินของเหล่าทหาร ทุกคน้าพวกเขา หากไม่ใช่เพราะโกรธจัดจริงๆ จะไม่มีทางจงใจยั่วยุฝ่ายพลาธิการเด็ดขาด
สองเดือนก่อนหน้านี้ เ่ิูเกิดปะทะกับจ้าวหรูอวิ๋น เ่ิูนำจ้าวหรูอวิ๋นแขวนไว้บนเสาลงทัณฑ์ประจาน เป็การซัดหน้าฝ่ายพลาธิการอย่างรุนแรง
และแน่นอน เท่ากับซัดหน้าผีกลุ้มจางซานด้วย
ทั้งด่านโยวเยี่ยน ไม่รู้ว่ามีกี่คนที่ตั้งหน้าตั้งตารอผีกลุ้มจางซานสั่งสอนเ่ิูที่เป็เหมือนลูกวัวเกิดใหม่ไม่กลัวเสือ
แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องเบิกตาค้างก็คือ จางซานไม่มีทีท่าแสดงออกว่าจะไปหาเื่เ่ิูเลยแม้แต่น้อย
ทว่าสองวันก่อนหน้า เ่ิูต่อยหน้าทหารฝ่ายพลาธิการอีกครั้ง แล้วยังบอกให้คนของฝ่ายพลาธิการมาแลกกันด้วย คราวนี้ ที่จางซานผีกลุ้มพาจ้าวหรูอวิ๋นฝ่าประตูมา ‘อธิบาย’ ตอนที่จางซานผีกลุ้มพาจ้าวหรูอวิ๋นออกมา ก็มีคนมองออกแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น รีบพากันส่งข่าวไปทุกสำนัก ตอนที่จางซานยังไม่ทันถึงหอคอยอาชาขาว ก็มีคนมากมายแอบสังเกตการณ์และเฝ้ารออยู่ที่หอคอยอาชาขาวเรียบร้อยแล้ว
บัดนี้ หอคอยอาชาขาวนอกจากจะมีทหารเกราะองครักษ์เฝ้าอยู่สี่นายแล้ว ก็มีคนล้อมอยู่ไม่น้อย
ผีกลุ้มกำลังจะคลั่งแล้วใช่ไหม?
ลูกวัวเกิดใหม่อย่างเ่ิู จะรับมือจอมเหี้ยมที่กระทืบเท้าทีเดียวทำด่านโยวเยี่ยนสั่นะเืได้หรือไม่?
“คราวนี้ข้าจะลองดูสักที ว่าไอ้สารเลวแซ่เย่จะทำอย่างไรต่อไป” หลินหลางหัวเราะเย็นอย่างเปี่ยมสุขที่ได้เห็นศัตรูตกที่นั่งลำบาก
พวกเขานั่งอยู่บนที่นั่งติดหน้าต่างในโรงน้ำชาห่างไปสองร้อยเมตร เฝ้ามองทุกอย่างที่หอคอยอาชาขาวอย่างใจเย็น นอกจากแม่ทัพกองโจรหลินหลางแล้ว ยังมีอีซานเช่อและคนอื่นในกลุ่มชิงเฟิงชาน พวกเขารู้ข่าวแล้วจึงรีบแจ้นมาทันที
นอกจากนี้ยังมีเซียนภาพหลิวอวี่หลางและเด็กหนังสือซิ่งเอ๋อร์นั่งอยู่บนโรงน้ำชาชั้นสอง ดื่มชาอย่างเงียบงัน
ปากประตูโรงน้ำชา หลิวจงหยวนและยอดฝีมือคู่ใจใต้บังคับบัญชา ชักดาบลับอาวุธพร้อมลงมือ
และบนถนนห่างจากหอคอยอาชาขาวห้าลี้ เวินหว่านสีหน้ามืดมนเหมือนสายน้ำ กำลังดิ่งมาหอคอยอาชาขาวด้วยความเร็วสูงสุด