ครั้งนี้ลู่เป๋าเหยียนคิดว่าเธอคงไม่ลืมเื่ทุกอย่างและให้อภัยเขาอย่างง่ายดายเหมือนครั้งนั้นอีกแล้ว
ูเี่อันกำลังอยู่ในห้วงความฝัน
เธอฝันว่ารอบกายมีแต่ป่าเธอกำลังหลงทางอยู่ในป่าลึก ทำยังไงก็หาทางออกไม่เจอจึงได้แค่ยืนอยู่บนยอดเขาพลางมองไปรอบกายที่มีแต่สีเขียวของต้นไม้
ตอนนั้นเองเสียงฟ้าร้องก็ดังสนั่นฝนเทกระหน่ำลงมาราวกับจะล้างโลกนี้ให้หายไปในพริบตา
ไม่มีใครออกตามหาเธอไม่มีใครช่วยเธอได้ เธอยืนตากฝนพลางคิดอย่างสิ้นหวัง...
ในความทรงจำของเธอความยากลำบากทุกอย่างเกิดขึ้นั้แ่ตอนที่แม่จากไป
การจากไปของแม่ทำให้เธอรู้ว่าโลกนี้เต็มไปด้วยสิ่งเลวร้ายมนุษย์ทุกคนล้วนมีด้านดีและด้านเลว เธอต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่เคยเจอมาก่อน
เมื่อ15ปีก่อน เธอคิดอย่างไร้เดียงสาว่าแม่จะอยู่กับเธอตลอดไปเธอนึกว่าโลกใบนี้มีแต่เื่ดีงาม และไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองชอบลู่เป๋าเหยียนเพราะตอนนั้นลู่เป๋าเหยียนอยู่ที่ต่างประเทศทำให้เธอไม่ได้รู้สึกเ็ปอะไรมากนัก
เธออยากย้อนเวลากลับไปยังวันเวลาที่มีแม่อยู่เคียงข้าง
“แม่คะ...”
ูเี่อันส่งเสียงเรียกหาแม่ก่อนน้ำตาจะไหลออกมา
“เจี่ยนอัน”
ลู่เป๋าเหยียนกุมมือเธอไว้แต่เธอไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นขึ้นมา มีเพียงหยดน้ำตาเท่านั้นที่ไหลออกมาไม่หยุด
ทั้งๆที่อยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งเมตรแต่ลู่เป๋าเหยียนกลับรู้สึกเหมือนเธอกับเขาอยู่บนโลกคู่ขนาน เขาไม่รู้ว่าเธอฝันเห็นอะไรจึงได้แต่กุมมือเธอและช่วยเช็ดน้ำตาให้สักพักเธอก็เริ่มสงบลง มือของลู่เป๋าเหยียนเผลอไปโดนผิวหน้าของเธอ
เขาจึงรีบยกมืออังหน้าผากของูเี่อันเธอเป็ไข้แล้วจริงๆด้วย ว่าแล้วจึงเรียกพยาบาลสาวให้เข้ามาวัดไข้ใหู้เี่อัน
38.5 องศา
“ดิฉันคงต้องฉีดยาลดไข้ให้กับคุณนายลู่นะคะ”
เข็มฉีดยาค่อยๆผ่านเข้าไปใต้ิัของูเี่อันน้ำเกลือที่ให้ยังคงหยดลงมาไม่ขาดสาย ก่อนทุกอย่างจะซึมเข้าไปในร่างกายของเธอ
เธอเพิ่งมีไข้ได้ไม่นานแต่แก้มและริมฝีปากกลับเป็สีแดงก่ำ
ลู่เป๋าเหยียนขมวดคิ้วมุ่นในใจคิดอยากจะให้เป็เขาแทนที่มีไข้ นางพยาบาลจึงพูดเสริม
“ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำวางบนหน้าผากเพื่อช่วยลดไข้อีกทางก็ได้นะคะ”
ลู่เป๋าเหยียนรีบเดินไปหยิบผ้าชนหนูมาชุบน้ำและวางลงบนหน้าผากของูเี่อันทันทีแต่มันก็ยังไม่ค่อยได้ผลเท่าไร ูเี่อันยังคงมีไข้ เรียวปากเธอเริ่มแห้งแตก
เขารินน้ำใส่แก้วก่อนจะใช้คอตตอนบัดจุ่มลงไปในน้ำและทาลงบนริมฝีปากของเธอเขาทำแบบนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และป้อนน้ำให้เธออีกเกือบครึ่งแก้ว
เมื่อให้น้ำเกลือจนหมดูเี่อันก็มีเหงื่อออก เธอเพ้อเพราะพิษไข้อีกครั้ง ลู่เป๋าเหยียนใช้ผ้าขนหนูซับเหงื่อให้เธอและได้ยินเสียงเธอเรียกชื่อของตน
“ลู่เป๋าเหยียน......”
เขานิ่งไปเพราะนึกว่าตัวเองหูฝาดแต่เมื่อลองฟังดูดีๆ เธอกำลังเรียกเขาอยู่จริงด้วย
“ลู่เป๋าเหยียน...ลู่เป๋าเหยียน...” เสียงของเธอสั่นเครือราวกับจะร้องไห้
“เจี่ยนอัน”ลู่เป๋าเหยียนบีบมือเธอแน่น “ฉันอยู่นี่แล้ว”
แตู่เี่อันยังคงไม่ตอบสนองเธอเรียกชื่อเขาไม่หยุดพร้อมหนดน้ำตาจะเริ่มไหลออกมาอีกครั้ง แต่เพียงไม่นานน้ำตาของเธอก็หยุดไหลและเงียบไปราวกับหมดหวังในตัวเขาแล้ว
ลู่เป๋าเหยียนวางผ้าขนหนูลงในอ่างน้ำเขามองใบหน้าของเธอพลางคิดโทษตัวเองในใจ...
เธอคงฝันเห็นตอนที่อยู่บนูเาเพียงลำพังท่ามกลางพายุและเสียงฟ้าร้องเธอต้องหวาดกลัวมากแน่ๆ ่เวลาที่เธอกลัวที่สุด เธอคงอยากมีเขาอยู่เคียงข้างแต่เขากลับไม่ได้อยู่ตรงนั้น
ูเี่อันฝันเห็นภาพที่ว่าอีกครั้งจริงอย่างที่ลู่เป๋าเหยียนคิด
ในความฝันเธออยู่กลางป่าลึกที่ดูเหมือนจะไม่มีจุดสิ้นสุดเธอคงไม่มีวันหนีออกไปจากที่นี่ได้อีกแล้ว เธอคิดถึงลู่เป๋าเหยียนจึงร้องเรียกชื่อเขาออกมาตลอดเวลา
ลู่เป๋าเหยียนลู่เป๋าเหยียน...
เธอเรียกชื่อเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนตอนเด็กๆไม่มีผิดแต่เขาก็ไม่โผล่มาเหมือนตอนนั้นที่เขาเดินจากไปโดนไม่หันหลังกลับ
จนกระทั่งฉุกคิดได้ว่าเธอกับเขากำลังจะหย่ากัน
นั่นสินะลู่เป๋าเหยียนไม่สนใจเธอแล้ว แล้วเขาจะมาช่วยเธอได้ยังไง?
ูเี่อันทรุดตัวลงที่พื้นอย่างหมดแรงความเหนื่อยล้าและสิ้นหวังเข้าจู่โจมจิตใจของเธอ ท่ามกลางป่าใหญ่ที่ไร้ทางออกความรู้สึกดังกล่าวทาโถมเข้ามาราวกับจะดึงเธอให้จมดิ่งลงไป
บางทีชีวิตของเธออาจจะต้องสิ้นสุดลงที่นี่
วันรุ่งขึ้นูเี่อันก็เริ่มได้สติฟื้นขึ้นมา
สิ่งแรกที่ััได้คือกลิ่นของยาฆ่าเชื้อเมื่อลืมตาขึ้นภาพตรงหน้าคือกำแพงสีขาวสะอาด หาใช่ภาพบนูเาอีกต่อไป
สติของเธอค่อยๆกลับคืนมาจนรู้สึกได้ถึงความเ็ปทั่วร่างกายแต่ที่ััได้ชัดเจนที่สุดคือมือของเธอกำลังถูกใครบางคนเกาะกุมอยู่
เธอเอียงศีรษะไปมองอย่างยากลำบากก่อนจะเห็นเส้นผมไหล่ และใบหน้าที่แสนคุ้นเคย
เขากำลังฟุบนอนอยู่ข้างเตียงผู้ป่วยใต้ตามีรอยเขียวคล้ำ แสดงว่าคงเพิ่งหลับไปได้ไม่นาน
ูเี่อันมองไปรอบกายและเห็นป้ายที่อยู่บนหัวเตียงเขียนไว้ว่า ‘โรงพยาบาลประจำเมืองZ’
เธอยังอยู่ที่เมืองZงั้นเหรอ แล้ว...ลู่เป๋าเหยียนมาที่นี่ได้ยังไง?
พวกเรากำลังจะหย่ากันนี่แล้วทำไมเขาถึงมานอนอยู่ข้างเตียงราวกับเฝ้าเธอมาทั้งคืนได้ล่ะ?
ไม่รอใหู้เี่อันได้คำตอบเปลือกตาของลู่เป๋าเหยียนก็เริ่มขยับ ูเี่อันจึงรีบหลับตาแกล้งทำเป็ยังไม่ฟื้น
ตอนนั้นเองซูอี้เฉิงก็เปิดประตูเข้ามาเขามองไปทางูเี่อัน ก่อนจะมองไปหาลู่เป๋าเหยียนที่กำลังนอนซบอยู่ข้างเตียงขณะที่จะหันหลังกลับออกไป ลู่เป๋าเหยียนก็ตื่นขึ้นมา
“นายตื่นพอดีเลย”ซูอี้เฉิงเดินตรงไปหา “ไปล้างหน้าล้างตาหาข้าวกินที่โรงแรมก่อนเถอะถ้าเจี่ยนอันตื่นแล้วฉันจะโทรหา”
ลู่เป๋าเหยียนััหน้าผากของูเี่อันเพื่อวัดไข้ก่อนเป็อย่างแรกเพราะไข้ของเธอลดลงแล้ว เขาถึงสบายใจและเดินออกจากห้องผู้ป่วยไป
ซูอี้เฉิงเดินมานั่งที่ข้างเตียงพลางเอ่ย
“เลิกแกล้งหลับได้แล้วล่ะ”
เขาเห็นูเี่อันั้แ่เล็กตอนเด็กเธอมักจะนอนตื่นสาย คนรับใช้ในบ้านเองก็หมดปัญญาจะปลุกเธอทำให้ทุกวันเขามีหน้าที่ดึงเธอให้ลุกจากเตียงทั้งๆที่แกล้งหลับอยู่
ดังนั้นเขาจึงมองออกทันทีว่าูเี่อันกำลังหลับจริงหรือแค่แกล้งหลับ
ูเี่อันรู้ตัวดีว่าพี่ชายเธอคงจับได้แล้วแน่ๆจึงค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างลังเลเธอไม่กล้ามองหน้าพี่ชาย ก่อนจะทักทายเสียงแ่
“พี่...”
“เป็ยังไงบ้าง”ซูอี้เฉิงถาม “หมอบอกว่าน้องขาหัก ส่วนที่อื่นแค่เป็แผลนิดหน่อยยังรู้สึกเจ็บตรงไหนอีกหรือเปล่า?”
ูเี่อันส่ายหน้า “ไม่มีแล้วค่ะ...” เธอพูดออกไปก่อนจะเงียบอีกครั้งที่จริงเธออยากจะพูดต่อแต่ก็พูดไม่ออก
ซูอี้เฉิงรู้ทันทีว่าน้องสาวอยากจะถามอะไรจึงค่อยๆประคองให้เธอลุกขึ้นนั่ง
“ลู่เป๋าเหยียนมาถึงก่อนพี่เมื่อวานเขาออกเดินทางจากเมือง A แต่เช้า”
ูเี่อันนิ่งอึ้งพลางมองหน้าพี่ชายอย่างประหลาดใจ
“ทำไมเขาถึงมาก่อนที่หนูจะเกิดเื่อีกล่ะคะเมื่อวานเครื่องบินก็คงขึ้นบินไม่ได้เพราะสภาพอากาศไม่ใช่เหรอ”
“น้องถามได้ดีมาก”ซูอี้เฉิงเงียบอยู่ชั่วอึดใจก่อนถาม “เื่ที่เกิดขึ้นทำให้น้องรู้สึกเสียใจที่พูดเื่หย่าออกไปบ้างหรือเปล่า”
ูเี่อันกัดริมฝีปากพลางหลุบตาลงก่อนจะเอ่ยเสียงเบา
“พี่คะสิ่งที่พูดออกไปแล้วมันไม่อาจเอากลับคืนมาได้ อีกอย่าง... เขาเองก็ตกลงแล้ว ไม่แน่อาจจะเตรียมเอกสารหย่าพร้อมแล้วด้วยซ้ำ”
ซูอี้เฉิงกำลังจะพูดอะไรเพิ่มแต่เสียงเคาะประตูกลับดังขึ้นก่อน นางพยาบาลเดินถือถาดเข้ามา
“คุณนายลู่คะขอดิฉันวัดไข้หน่อยนะคะ”
หลังพยาบาลวัดไข้ใหู้เี่อันเรียบร้อยเธอก็พูดขึ้นว่า
“37 องศา ตอนนี้อุณหภูมิกลับมาเป็ปกติแล้วค่ะ คงไม่ต้องฉีดยาแล้วเมื่อวานตากฝนนานขนาดนั้น พวกเรานึกว่าไข้ของคุณคงไม่ลดลงง่ายๆ สงสัยเป็เพราะเมื่อวานคุณลู่ช่วยดูแลอย่างเอาใจใส่อยู่ตลอดแน่เลยค่ะ”
ลู่เป๋าเหยียนดูแลเธออย่างเอาใจใส่?
ูเี่อันมองนางพยาบาลอย่างข้องใจพยาบาลสาวจึงพูดเสริม
“เมื่อคืนคุณนายหลับอยู่คงจะไม่รู้ตัวสินะคะคุณลู่นั่งเฝ้าคุณตลอดจนตีสามกว่าถึงจะหลับค่ะ เขาคอยเช็ดตัว เช็ดเหงื่อป้อนน้ำคุณตลอดเวลา ฉันเพิ่งเคยเห็นผู้ชายที่เอาใส่ใจภรรยาขนาดนี้เป็ครั้งแรกนะคะเนี่ย”
พยาบาลสาวพูดพลางยื่นยามาใหู้เี่อัน
“อย่าลืมทานยาหลังอาหารเช้าด้วยนะคะ”
พูดจบพยาบาลสาวสวยก็เดินออกไปูเี่อันนั่งนิ่งอยู่บนเตียงอย่างมึนงงเมื่อสบตากับซูอี้เฉิงเธอก็รู้สึกทำตัวไม่ถูก
เธอกับลู่เป๋าเหยียนตกลงกันแล้วว่าจะหย่าแล้วทำไม...
ทันใดนั้นซูอี้เฉิงก็หัวเราะขึ้นมา“พวกน้องทะเลาะกันแบบนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ดีนะ”
“พี่หมายความว่าไงคะ”ูเี่อันมองฝ้าเพดานอย่างไม่เข้าใจ “ทำไมลู่เป๋าเหยียนต้องทำแบบนี้ด้วย? เขาไม่จำเป็ต้องสนใจหนูแล้วนี่”
ซูอี้เฉิงถามย้อน“ทำไมเขาถึงทำแบบนี้ ในใจน้องก็มีคำตอบอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”
ูเี่อันนิ่งเงียบซูอี้เฉิงจึงพูดเสริม
“พี่บอกเราแบบนี้ดีกว่าถ้าน้องเป็คนที่พี่ไม่คิดจะใส่ใจพี่คงไม่ดูแลน้องจนไม่ได้หลับไม่นอนทั้งคืนแบบนั้น”
“พี่จะบอกว่า...” ูเี่อันไม่กล้าพูดคำตอบออกไป
“พี่จะบอกว่าน้องรู้คำตอบอยู่แล้วไงล่ะ”ซูอี้เฉิงลุกขึ้น “เอาล่ะ เดี๋ยวพี่จะให้เป๋าเหยียนเข้ามา พี่ไปก่อนนะ”
“พี่คะ!”ูเี่อันไม่รู้จะเผชิญหน้ากับลู่เป๋าเหยียนยังไงจึงรั้งพี่ชายไว้ขนาดเมื่อกี้เธอยังต้องแกล้งหลับเลย “พี่อยู่เป็เพื่อนหนูก่อนไม่ได้เหรออีกแค่แป๊บเดียวก็ได้”
“น้องกลายเป็คนใจเสาะขนาดนี้ั้แ่เมื่อไรเนี่ย?” ซูอี้เฉิงลูบผมน้องสาวเบาๆ “เื่นี้สักวันน้องก็ต้องเผชิญหน้าและหาทางแก้ไขไม่ต้องกลัวนะ ไม่ว่าบทสรุปจะเป็ยังไง พี่จะอยู่กับน้องเสมอ”
“....ถ้าหนูกับเขาหย่ากันจริงๆล่ะคะ?”
“ถึงจะหย่าน้องก็ยังเป็น้องสาวของพี่จริงไหม?”ถึงซูอี้เฉิงจะรู้ดีว่ามันไม่มีทางเกิดเื่แบบนั้น แต่เขาก็ยังปลอบใจ“พี่จะเลี้ยงเราไปอีกกี่ชาติก็ได้ น้องอยากจะทำอะไรพี่พร้อมสนับสนุนเต็มที่ แต่พี่ไม่อยากให้น้องตัดสินใจเลือกทางที่ผิด”
ูเี่อันเข้าใจความหมายที่พี่ชาย้าจะสื่อเธอพยักหน้าพลางมองตามแผ่นหลังของพี่ชายที่กำลังเดินออกจากห้องไป
