หลังเฟิ่งหยางไปแล้วถังชิงหรูก็สวมอาภรณ์ให้เรียบร้อย หลังจากนั้นก็หมกตัวอยู่แต่ในห้องไม่ออกไปไหนเลยเป็เวลาหลายวัน นางไม่อยากออกไป หนึ่งเพราะที่นี่เป็ฐานบัญชาการลับของเฟิ่งหยาง ในนี้มีความลับซุกซ่อนอยู่มากมาย หากนางเดินเล่นตามอำเภอใจแล้วไปเห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็นเข้า เกรงว่าชีวิตน้อยๆ ของตนเองคงเป็อันจบสิ้น สองเฟิ่งหยางยั่วโทสะนางเป็ผลสำเร็จ ตอนนี้นางไม่อยากพบหน้าเขา แทนที่จะออกไปแล้วต้องไปเจอคนหน้าเหม็นผู้นั้น มิสู้เก็บตัวอยู่ในห้องเฉยๆ ดีกว่า ่นี้นางเหนื่อยล้าทั้งกายใจ ้าการพักผ่อนอย่างแท้จริง
"แม่นาง..." หรูเยียนเดินเข้ามาจากด้านนอก นางมองถังชิงหรูก่อนยกอาหารเข้ามาวางบนโต๊ะ พลางเอ่ยอย่างนุ่มนวล "แม่นาง ท่านเป็อย่างไรบ้าง ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า ไฉนหลายวันมานี้ถึงไม่ออกจากห้องเลยเล่า อุดอู้อยู่แต่ในห้องเช่นนี้ไม่ดีนัก ควรออกไปเดินสักหน่อยถึงจะถูก อีกอย่าง พี่น้องที่ได้รับาเ็เ่าั้ถามถึงท่าน ได้ยินว่าสองสามวันนี้แม่นางไม่ออกจากห้องเลย แต่ละคนต่างรู้สึกเป็ห่วง ท่านอย่ามองแต่ภายนอก แม้พวกเขาจะสูงใหญ่บึกบึนดูหยาบกระด้างดังโคถึกบ้าระห่ำ แต่แท้จริงแล้วเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมน้ำมิตรกันทุกคน"
ถังชิงหรูอึดอัดจะแย่อยู่แล้ว นางเหลือบมองหรูเยียนปราดหนึ่ง พลางเอ่ยเสียงเรียบ "อาการาเ็ของพวกเขาดีขึ้นแล้วหรือยัง"
หรูเยียนจัดถ้วยและตะเกียบไปพลาง ถอนใจไปพลาง "ยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอกเ้าค่ะ ปรกติอาการาเ็เส้นเอ็นและกระดูกต้องใช้เวลาสมานถึงร้อยวัน ยิ่งแขนขาดขาขาดอย่างพวกเขาจึงมิต้องเอ่ยถึง ท่านประมุขโกรธมาก พาลูกน้องไปแก้แค้นให้พี่น้องเรา ถึงตอนนี้ก็ห้าวันแล้วยังไม่กลับมา ไม่รู้ว่าจะเกิดเื่หรือไม่ แม่นาง บ่าววิตกมากเลยเ้าค่ะ"
"เฟิ่งหยางออกไปข้างนอกหรือ" ถังชิงหรูย้อนถามอย่างตกตะลึง
"ใช่เ้าค่ะ แม่นางไม่ทราบเื่ที่ท่านประมุขออกไปหรือเ้าคะ พวกเขาบอกว่า... วันนั้นท่านประมุขทำให้ท่านโมโห คงไม่ใช่ว่าแม่นางยังโกรธอยู่นะเ้าคะ" หรูเยียนทอยิ้ม "ท่านอย่าเห็นว่าท่านประมุขหน้าตาหล่อเหลาเอาการ น่าจะมีสาวๆ มาพัวพันมากมาย แท้จริงแล้วเขาไม่เคยมีประสบการณ์กับสตรีหรอกเ้าค่ะ หากทำสิ่งใดให้แม่นางไม่พอใจ ก็อภัยให้เขาเถิด"
ถังชิงหรูนับว่าเข้าใจแจ่มแจ้ง หรูเยียนผู้นี้เอ่ยถึงคนที่ได้รับาเ็เ่าั้ก่อน ทำให้นางใจอ่อนลง พอเห็นนางใส่ใจคนเจ็บเ่าั้ ก็ฉวยโอกาสบอกว่าเฟิ่งหยางอยู่ที่ไหน ให้ตนเองผ่อนคลายความหวาดระแวง มิต้องตึงเครียดดังเหนี่ยวสายธนูไว้ตลอดทั้งวันเยี่ยงนี้ หลังจากนั้นก็อธิบายต่อว่าเฟิ่งหยางไปนานแล้ว ยังไม่กลับ ทั้งยังพาลูกน้องไปแก้แค้นให้คนที่ได้รับาเ็เพื่อให้นางรู้สึกเป็ห่วงเขา พอถูกเกลี้ยกล่อมแบบนี้ ต่อให้ใจของนางจะมีโทสะมากเพียงใด ก็ย่อมสลายไปจนหมดสิ้น
สตรีนามว่าหรูเยียนคนนี้ภายนอกแลดูอ่อนแอ ไม่นึกว่าจะมีความสามารถไม่เบา ข้างกายของเฟิ่งหยางมีแต่คนเปี่ยมไปด้วยพร์ทั้งนั้น
"เอาล่ะ ข้าไม่โกรธเขาแล้วก็ได้" ถังชิงหรูลุกขึ้น เดินไปที่โต๊ะ "ที่นี่มีสวนดอกไม้หรือไม่ ่นี้ข้าอึดอัดจะแย่แล้ว อยากไปเดินเล่นสักหน่อย"
"มีๆ ๆ เ้าค่ะ ที่นี่มิเพียงแต่มีสวนดอกไม้ ยังมีทะเลสาบเล็กๆ อีกด้วย แม่นางสามารถเล่นน้ำที่นั่นได้" หรูเยียนรีบเอ่ยวาจา "หรูเยียนจะไปเป็เพื่อนแม่นางเอง หน้าที่สำคัญของหรูเยียนคือดูแลแม่นางอย่างดี นี่คือคำสั่งของคุณชาย หากหรูเยียนบกพร่องต่อหน้าที่ ก็จะต้องถูกลงโทษ"
"เ้าต้องดูแลคนเจ็บเ่าั้มิใช่หรือ ข้าอยากไปเดินเล่นคนเดียว ไม่ต้องใช้เ้าหรอก" ถังชิงหรูกล่าวเสียงเรียบ "หากเ้าไม่วางใจ จะให้มือสังหารสักคนคอยติดตามข้าก็ได้ หากข้าแตะต้องของสิ่งใดของที่นี่ ก็เชิญสังหารข้าได้เลย"
"บ่าวมิกล้า แม่นางอย่าทำให้บ่าวอายุสั้นเช่นนี้สิเ้าคะ" หรูเยียนคุกเข่าลง พลางเอ่ยด้วยความตื่นตระหนก
ถังชิงหรูกินข้าวเสร็จก็ออกไปเดินเล่นคนเดียว ทางฝั่งหรูเยียน เพราะถูกนางดักคอ จึงไม่กล้าตามมาด้วย นางจึงค่อยรู้สึกผ่อนคลายไม่มีใครคอยพูดมากให้รำคาญหู
สถานที่แห่งนี้ช่างประหลาดนัก นางจำได้ว่าตอนที่ขี่ม้ากับเฟิ่งหยางใช้เวลาสองชั่วยาม หลังจากนั้นก็เดินผ่านช่องทางลับอันยาวไกล ตอนออกมาจากที่นั่นนางก็ถูกปิดตาไว้ มีเพียงยามเดินอยู่ในทางลับแห่งนั้นถึงจะมองเห็นอะไรได้ นางรู้ว่าในนั้นมีกลไกซ่อนอยู่มากมาย เส้นทางคดเคี้ยวมีทางแยกหลายสาย นั่นก็หมายความว่าลักษณะภูมิประเทศภายในต้องมีความซับซ้อนพอสมควร หากไร้คนนำทาง นางไม่มีทางผ่านทางลับที่ซับซ้อนขนาดนั้นได้ อย่าว่าแต่ผ่านด่านประตูกลเ่าั้เลย แค่หลงทางอยู่ข้างในก็ไม่รู้จะออกมาอย่างไรแล้ว
ส่วนวังใต้ดินแห่งนี้ มีความซับซ้อนยิ่งกว่า แม้กล่าวว่าอยู่ใต้ดิน แต่กลับมีทั้งทะเลสาบเล็กๆ และสวนดอกไม้ การตกแต่งวิจิตรประณีตมาก ยามสร้างที่นี่ขึ้นมา คงต้องใช้ทั้งแรงคนและกำลังทรัพย์มหาศาล ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่ยังจัดเวรยามเฝ้าระวังหนาแน่นและเข้มงวดมาก หากใครคิดจะบุกเข้ามาก็คงเป็เื่ยากลำบากยิ่งนัก
"แม่นาง..."
เหล่าชายหญิงที่เดินผ่านเมื่อเห็นนางล้วนทักทายและทำความเคารพ เพราะถังชิงหรูช่วยชีวิตคนไว้ไม่น้อยจึงเป็ที่ยอมรับของทุกคน ประกอบกับนางเป็คนที่เฟิ่งหยางพามา จึงไม่มีผู้ใดระแวงสงสัย อย่างไรเสียเฟิ่งหยางก็มีทีท่าประหลาดต่อนางยิ่ง ไม่แน่ว่าสตรีผู้นี้อาจกลายเป็ฮูหยินประมุขวันใดวันหนึ่งก็ได้ พวกเขาควรต้องเอาอกเอาใจให้ดี อย่าได้ล่วงเกินนางเป็อันขาด
"อื้ม" ถังชิงหรูผงกศีรษะยิ้มน้อยๆ ให้พวกเขา
"แม่นาง นี่คือของที่มารดาข้าให้นำมามอบให้แก่ท่าน" ดรุณีน้อยนางหนึ่งเดินเข้ามา ดวงหน้าน้อยแดงซ่านเอ่ยว่า "เพราะท่านช่วยชีวิตพี่ชายข้า มารดารู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของท่านยิ่ง"
ถังชิงหรูเอื้อมมือไปรับตะกร้า ชั่วขณะที่มือของนางกำลังจะรับของมาจากอีกฝ่าย ก็มีแสงเย็นสายหนึ่งพุ่งวาบเข้าหา นางพลิ้วกายหลบเลี่ยง พอหันไปมองอีกครา ใบหน้าอาบรอยยิ้มของสาวน้อยผู้นั้นก็แปรเปลี่ยนเป็เยียบเย็นปานอสูรร้าย มือของนางถือมีดสั้นอาบยาพิษซึ่งสามารถััได้จากกลิ่นอ่อนจางที่กำจายออกมา
"เสี่ยวอี..." ถังชิงหรูเรียก
"รับทราบ" เสี่ยวอีตอบกลับ "เปิดโหมดป้องกันตัว"
สาวน้อยผู้นั้นฝีมือร้ายกาจยิ่ง ทั้งยังอยู่ในระยะประชิด แต่ละกระบวนท่าล้วนเอาให้ถึงตาย ทั้งฉับไวและโเี้เป็พิเศษ
เมื่อครู่ชายหญิงสองสามคนเพิ่งเดินผ่านไป พอสาวน้อยผู้นี้ลงมือ กลับไม่มีใครออกมาปรากฏตัวสักคน ดวงของนางช่างดีเสียเหลือเกิน!
"เหตุใดต้องสังหารข้า" ถังชิงหรูถาม
ถึงต้องตาย ก็ต้องรู้ให้กระจ่างว่าทำไมถึงตาย หึ! ควรกล่าวว่า นางไม่อยากถูกลอบสังหารโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่มากกว่า สาเหตุคือสิ่งใดนางต้องรู้ให้ได้
"หากไม่เพราะเ้า คนในตำหนักสังหารกว่าครึ่งก็คงตายไปแล้ว พวกเขาได้รับาเ็ ถูกพิษ เห็นชัดว่าสาหัสสากรรจ์ แต่ยังรอดชีวิตมาได้ เ้าช่วยพวกเขาก็เท่ากับเป็ศัตรูของเรา เ้าว่าตนเองไม่สมควรตายกระนั้นหรือ" หญิงสาวเอ่ยปากอีกครั้งทว่าครานี้กลายเป็เสียงหญิงชรา หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ดรุณีน้อยที่เห็นมาจากการปลอมตัว
"แล้วทำไมข้าต้องไม่ช่วยพวกเขาล่ะ ข้าเป็หมอ พวกเขาได้รับาเ็ เห็นคนจะตายแล้วไม่ช่วยหาใช่วิสัยของข้า" ถังชิงหรูเข้าใจสาเหตุในบัดดล แต่ก็ยังไม่มีทีท่าร้อนใจหรือบันดาลโทสะ "พวกเ้ากับตำหนักสังหารมีบุญคุณความแค้นอันใดต่อกันก็เป็เื่ของพวกเ้าสองฝ่าย อยากแก้แค้นอยากระบายอารมณ์ก็ไปหาพวกเขาโน่น การสังหารเป็งานของเ้า แต่การช่วยชีวิตคือความสามารถของข้า ข้าเป็เพียงสตรีอ่อนแอ ไม่อยากเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับความแค้นของพวกเ้า ข้าไม่ยุ่งกับเ้า เ้าก็อย่ามายุ่งกับข้า หากมายั่วโทสะข้านัก ข้าจะช่วยพวกเขาสร้างพิษขึ้นมาจัดการกับพวกเ้าเสียเลย คงจะรู้สินะว่าผลลัพธ์จะเป็เช่นไร"
"เ้ากล้า!" หญิงชราผู้นั้นโกรธจัดตะคอกใส่ "ตอนนี้ข้ามีทางเลือกให้เ้าอีกอย่าง จะตายหรือว่าตามข้าไป"
"ขออภัย ฟังจากเสียงของเ้าฟังดูก็รู้แล้วว่าเป็คนหน้าตาอัปลักษณ์ หากข้าอยู่ตำหนักสังหาร จะดีจะชั่วอย่างไรก็ยังได้เห็นชายหนุ่มรูปงาม หากตามเ้าไป ไม่เพียงแต่มิได้เห็นบุรุษที่ชวนให้เจริญหูเจริญตา ยังต้องมาเจอหน้ายายเฒ่าอัปลักษณ์อย่างเ้า การค้านี้ไม่ว่าจะคำนวณอย่างไรก็ขาดทุน แล้วเหตุใดข้าต้องตามเ้าไปด้วยเล่า" ถังชิงหรูใบหน้าอาบรอยยิ้ม แต่ภายในใจกำลังกระอักโลหิต ผรุสวาทในใจ แน่จริงก็แก้พิษกู่ให้ข้าสิ ต่อให้เ้าเป็ผีดิบ คุณหนูเยี่ยงข้าก็จะตามไป ปัญหาก็คือ แม้แต่ข้ายังข้าถอนพิษออกไม่ได้ แล้วใครเล่าจะมีปัญญา?
"รนหาที่ตาย!" หญิงชราเต้นผางด้วยความโมโห
ถังชิงหรูหลบมีดของอีกฝ่ายได้อย่างคล่องแคล่ว ทุกคราที่คมมีดใกล้จะเข้าถึงตัว นางก็จะพลิ้วกายหลบได้ราวกับนกนางแอ่น หญิงชรารู้สึกประหลาดใจนัก นางไม่รู้สึกว่าหญิงสาวคนนี้มีวรยุทธ์ ไฉนถึงฝีมือดีขนาดนี้ หรือว่านางจะมีเคล็ดวิชาไร้เทียมทานติดกาย?
ขณะที่หญิงชรากำลังตกตะลึง ถังชิงหรูสบโอกาสก็จับตัวนางไว้ พร้อมชิงมีดสั้นเล่มนั้นมาจากมือของอีกฝ่าย คมมีดจึงเปลี่ยนทิศหันมาจ่อที่คอของหญิงชราแทน
"เพื่อรักษาชีวิตของตนเอง ข้าก็สู้คนอยู่เหมือนกัน ตอนนี้จะจัดการกับเ้าอย่างไรดี" ถังชิงหรูปาดเหงื่อบนหน้าผาก สีหน้าเผยความรู้สึกจนใจอย่างยิ่ง
"ฮึ!" แววตระหนกพาดผ่านดวงตาของหญิงชรา แต่นางก็ยังปากแข็ง แค่นเสียงเยาะใส่ถังชิงหรู พลางเชิดหน้าแสดงท่าว่าเ้าจะจัดการอย่างไรก็เชิญ
"แม่นางไม่ทราบว่าจะจัดการกับนางอย่างไรก็มอบให้พวกเราจัดการเถิด" เสียงนุ่มนวลดังมาจากด้านหลังของถังชิงหรู
นางหมุนกายหันไป เห็นเฟิ่งหยางพาคนมาสิบกว่าคนยืนอยู่ตรงนั้น ไม่รู้ว่ามายืนชมความสนุกอยู่นานเท่าไรแล้ว
นางมุ่นคิ้วขมวด มองบุรุษที่เอาแต่นิ่งไม่พูดไม่จา ก่อนหันมาหาชายที่เอ่ยวาจาสุภาพกับตนเองก่อนหน้านี้ "เ้าเป็ใคร"
"ข้าเป็กุนซือของตำหนักสังหาร" ชายคนนั้นหน้าตาธรรมดา แต่แววตากระจ่างสดใส เขามองมาที่ถังชิงหรูด้วยแววตาอบอุ่นเป็มิตร ไม่น่ารำคาญ
"ลำบากท่านกุนซือแล้ว อากาศหนาวเช่นนี้ ยังต้องรบกวนทุกท่านมาชมละครฉากพิเศษที่นี่ คงจะหนาวกันแน่ๆ " ถังชิงหรูเอ่ยวาจาเหน็บแนม
"แม่นางเข้าใจผิดแล้ว พวกเราเพิ่งมาถึง" กุนซือผู้นั้นยกยิ้มน้อยๆ "แม่นางฝีมือดีขนาดนี้ สตรีผู้นั้นหาใช่คู่ต่อสู้ของท่าน หากพวกเราสอดมือเข้าแทรก อาจทำลายสมาธิของท่าน ได้ยินบ่าวไพร่บอกว่า ่นี้แม่นางไม่ค่อยเบิกบานใจนัก คงจะเป็เพราะว่าที่นี่น่าเบื่อเกินไป ยามนี้มีหนูตัวหนึ่งส่งตัวมาให้ท่านเล่น นับว่าเป็บุญของนางแล้ว"
เฟิ่งหยางสงวนวาจา จนกระทั่งชายคนนั้นพูดจบ เขาถึงเอ่ยขึ้นมาบ้าง "คุมตัวไป อย่ามัวแต่มาเสียเวลาที่นี่ พวกเรายังมีธุระต้องจัดการอีกมาก"
ลูกน้องที่อยู่ด้านข้างมารับตัวหญิงผู้นั้นไปจากถังชิงหรู พวกเขาค้อมศีรษะให้นางเล็กน้อยก่อนพาคนไป
ั้แ่ต้นจนจบเฟิ่งหยางไม่สนทนากับถังชิงหรูสักประโยค นางเห็นเช่นนี้ไฟโทสะในใจก็ลุกโชน หมอนี่จะหยิ่งยโสไปถึงไหน นางยังโมโหอยู่เลยนะ!