จื่อโตวออกไปแล้ว
ก่อนที่จะออกไปเขาเห็นใบหน้าของฉู่สือเกร็งอยู่ตลอดเวลา สีพระพักตร์ของาาเองก็แปลกไปเช่นกัน เขาอยากที่จะซักไซ้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ทว่า เซียวเจวี๋ยโบกมือราวกับว่าไม่้าที่จะคุยไปมากกว่านี้ เขาจึงไม่กล้าถามอะไรออกไป แล้วถอยออกมา หลังจากนั้นเขาก็รีบกลับไปที่ยมโลก เพื่อบอกเหล่าพี่น้องถึงเื่การระลึกชาติได้ของาา
ภายในห้อง
เซียวเจวี๋ยขมวดคิ้ว พลางพ่นลมหายใจออกมายาวๆ
ฉู่สือกัดฟันแน่น เพื่อไม่ให้ตนเองหลุดหัวเราะ
เื่การอภิเษก ราชินีชิงอีทรงทำตามที่พูดจริงๆ!
เซียวเจวี๋ยเหลือบมองเขา พร้อมรอยยิ้มที่ยากจะคาดเดา “ตลกมากหรือ?”
“ไม่ตลก ไม่ตลกสักนิดพ่ะย่ะค่ะ!” ฉู่สือส่ายหน้ารัวๆ เขาไม่อยากเป็คนแรกที่ถูกกำจัด หลังจากาาระลึกชาติได้หรอกนะ
หากชิงอีเป็หญิงสาวปกติในโลกมนุษย์ บางทีาากับนางอาจจะตกหลุมรักกันได้ แต่ในเมื่อนางเป็น้องสาวของเย่เหยียนผู้ทรยศ จึงไม่มีทางเป็ไปได้อย่างแน่นอน!
สิ่งที่าาทรงชิงชังที่สุดคือการทรยศ! สิ่งที่เย่เหยียนทำลงไปในครานั้น ยากจะบรรยายได้ทั้งหมด สรุปง่ายๆ คือการทรยศ!
“ในเมื่อเ้าอยู่บนโลกมนุษย์ ก็จงปฏิบัติตามกฎของโลกมนุษย์ อย่าปล่อยให้คนอื่นเห็นความผิดปกติ” เซียวเจวี๋ยพูดสียงทุ้มลึก “ส่วนสาวน้อยผู้นั้น ตอนนี้ก็อยู่ห่างจากนางหน่อยแล้วกัน”
“พ่ะย่ะค่ะ”
เซียวเจวี๋ยสะบัดมือเป็สัญญาณให้ฉู่สืออกไป
เขานั่งอยู่คนเดียวในห้องพลางเล่นแหวนจื่อจินในมือ ดวงตาของเขาแลดูอ่านยาก
คิดไม่ถึงว่า นางคือสาวน้อยในตอนนั้น...
เขาจับหว่างคิ้ว ด้วยแววตาที่ค่อยๆ เ็ามากขึ้น
เช่นนั้นก็คงต้องโทษที่นางโชคร้ายเป็น้องสาวของเย่เหยียนแล้วล่ะ
เพราะเขาไม่เคยยอมอ่อนข้อให้คนทรยศ
ยิ่งผู้นั้นคือเย่เหยียนแล้วด้วย!
...
หลังจากอาบน้ำเสร็จ ชิงอีก็ปีนขึ้นไปบนเตียงและผล็อยหลับไป โดยที่ไม่ว่าเ้าแมวอ้วนจะเรียกกี่ครั้งก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่น
จนกระทั่งบ่ายสามของอีกวัน ชิงอีถึงตื่นขึ้นมา
พอตื่นขึ้นมา นางก็มีสีหน้าเคร่งเครียด
ไอ้บ้าเอ๊ย!
นางมองฝ่ามือของตัวเอง แล้วความรู้สึกไม่ดีก็โถมเข้าใส่ เ้าแมวอ้วนที่มองสีหน้าท่าทางของนางอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกไม่ต่างกัน
“ไม่นะ! พลังข้าหายไปอีกแล้วเหรอ?”
มุมปากของชิงอีกระตุก อย่างไม่อยากจะยอมรับ
“จะว่าไม่มีพลังก็ไม่ใช่? หลังจากจูบกับหนุ่มน้อยผู้นั้น ไม่ใช่ว่าท่านเอาพลังทั้งหมดคืนมาแล้วหรอกหรือ?” เ้าแมวอ้วนขนพองฟู ในคุกใต้ดินวันก่อน ยังจัดการเ้าขยะพวกนั้นอยู่เลย เหตุใดตื่นขึ้นมาถึงได้กลายเป็ขยะเสียเองเล่า?
“หุบปาก เสียงดังน่ารำคาญ” ชิงอีดึงผมด้วยความหงุดหงิด
นางอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่! บ้าจริง พลังของนางใช้ได้เพียงครั้งเดียวได้เมื่อไรล่ะ? มันดูเหมือนนางยืมพลังจากชายหนุ่มผู้นั้นมาเสียอย่างนั้น?!
“ไม่ได้ ข้าต้องลองอีกครั้ง!” นางสวมเสื้อผ้า แล้วรีบออกไป เ้าแมวอ้วนที่เห็นเช่นนั้นก็รีบตามไป
ชิวอวี่ที่เฝ้าอยู่ด้านนอกประตูมาตลอด พอเห็นว่านางตื่นแล้ว จึงเตรียมก้าวเท้ามาด้านหน้า แต่กลับถูกชิงอีผลักเสียก่อน
เมื่อเห็นสีหน้าที่จริงจังของนาง ชิวอวี่ก็รู้สึกร้อนรน จึงรีบตามนางไป
“องค์หญิง เกิดอะไรขึ้นพ่ะย่ะค่ะ?”
“เซียวเจวี๋ยอยู่ไหน?!”
หรือนางกังวลเื่ความปลอดภัยของเซ่อเจิ้งอ๋องงั้นหรือ? ชิวอวี่จึงรีบตอบ “อยู่ที่ลานทางฝั่งใต้พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องทรงแข็งแร...”
ชิงอีที่ไม่สนใจเื่นี้ จึงหันตัวกลับแล้ววิ่งจากไป
ชิวอวี่เกาหัวแกรกๆ พลางงึมงำ หรือว่าจะเป็เพื่อนแท้ในยามยาก? องค์หญิงกังวลเื่เซ่อเจิ้งอ๋องขนาดนั้นเลยหรือ?
ชิงอีกังวลเื่เขากะผีน่ะสิ นางกังวลเื่พลังของตนเองต่างหาก
ณ ลานฝั่งทางใต้ เซียวเจวี๋ยกำลังฟังหลิงเฟิงรายงานสถานการณ์ปัจจุบันของวัดตงหวา ยามเขาเบนสายตาก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งวิ่งมาแต่ไกล
แววตาของเขาไหววูบ แล้วเปลี่ยนเป็เ็าขึ้น ก่อนจะเบือนหน้าหนี
“เซียวเจวี๋ย!” ชิงอีเข้ามาหยุดเซียวเจวี๋ยที่เตรียมจะเดินหนี
“ท่านอ๋องทรงจัดการเื่สำคัญอยู่ องค์หญิงโปรดหลีกทางด้วยพ่ะย่ะค่ะ” ฉู่สือยืนขว้างด้วยสีหน้าเ็า
“หลีกไป!” ชิงอีขมวดคิ้ว แล้วผลักฉู่สือให้พ้นทาง
ถึงนางจะไม่มีพลัง แต่ความแข็งแกร่งยังมีอยู่ การผลักฉู่สือก็น่าจะไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่อีกฝ่ายกลับยังคงนิ่งสนิท
ชิงอีเลิกคิ้ว เขาแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?
“ให้นางเข้ามา” เซียวเจวี๋ยสั่งเสียงเบา
ฉู่สือจำใจปล่อยให้นางเข้าไปอย่างไม่เต็มใจ
“องค์หญิงมาหาข้า มีเื่อันใดงั้นหรือ?” เซียวเจวี๋ยรินชาแล้วยกขึ้นจิบ โดยไม่แม้แต่จะมองนาง ท่าทีที่แสดงชัดว่ามีการรักษาระยะห่างราวกับมีกำแพงที่มองไม่เห็นแยกเขาออกจากชิงอี
ชิงอีขมวดคิ้วให้กับท่าทีที่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนของเขา
ทว่า ยามนี้นางเกียจคร้านเกินกว่าจะสนใจการเปลี่ยนแปลงนี้ จึงเอ่ยว่า “ไปคุยกันในที่ที่มีคนน้อยเถอะ”
นางทนไม่ไหว ้าจะตรวจสอบสิ่งที่นางคาดเดาไว้ในใจ
แต่ปฏิกิริยาของเซียวเจวี๋ย ทำให้นางหน้าเคร่งขึ้น
“เื่อันใดกันถึงพูดกันตรงนี้ไม่ได้ องค์หญิงมีอะไรก็พูดมาตรงๆ เถิด”
ชิงอีกัดฟันพร้อมกำหมัดแน่น
การโกรธจนหายใจไม่ออกเป็เช่นนี้เอง พลันนางก็นึกถึงสิ่งที่เ้าแมวอ้วนพูดเมื่อวันก่อน ที่บอกว่าเป็ไปได้ไหมว่าหนุ่มน้อยผู้นี้จะเป็ตัวซวยของนางจริงๆ? หลายปีที่ผ่านมานางทำเื่แย่ๆ ไปมากมาย เ้าพวกคนบนฟ้าเลยจงใจส่งเขาลงมาช่วยสินะ?
“หากองค์หญิงไม่ยอมพูด เช่นนั้นก็กลับไปเสียเถอะ”
เมื่อฉู่สือได้ยินเช่นนั้น ก็เข้ามาพานางออกไป
ชิงอีคับแค้นใจก็เดินอาดๆ ไปคว้าถ้วยชาในมือของเซียวเจวี๋ยมาดื่มรวดเดียว แล้วก็ไปคว้ากาน้ำชามาดื่มอึกๆ ไปจนหมด ข้าดื่มชาจนหมดแล้ว ดูสิว่าท่านจะดื่มอะไรได้อีก!
การกระทำที่ดุดันราวกับเสือ ไม่ต้องพูดถึงฉู่สือที่มองด้วยความตกตะลึง กระทั่งเซียวเจวี๋ยเองก็ตะลึงไปครู่หนึ่งเช่นกัน มุมปากของเขากระตุกขึ้นเล็กน้อย ราวกับว่าอยากจะหัวเราะ แต่ก็กลั้นเอาไว้
ท่าดื่มชาที่หาญกล้าเช่นนี้คล้ายกับเงาของสาวน้อยร่างอ้วนจะกละในตอนนั้นมากทีเดียว
นั่นเป็เพียงความคิดแค่ชั่ววูบเท่านั้น สีหน้าของเซียวเจวี๋ยกลับมาเ็าอีกครั้ง
“ดูเหมือนว่าองค์หญิงจะกระหายน้ำ หลิงเฟิง ไปต้มน้ำมาเติมให้องค์หญิงหน่อย”
เติม? ท่านเห็นข้าเป็วัวหรือไร?
ชิงอีที่เพิ่งกระดกชาจนหมดกา ได้ยินเช่นนั้น ถึงกับสำลักชาที่อยู่ในลำคอ
“แคก แคกแคกแคก...”
นางไอโครกๆ จนใบหน้าแดงก่ำ
บางทีภาพความโอหังของนางคงหยั่งรากลึกในจิตใจผู้คน พอเห็นว่านางกำลังจะแพ้ ทุกคนต่างดูจะมีความสุข
เซียวเจวี๋ยลอบถอนหายใจ แล้วลุกขึ้นมาตบหลังนาง เมื่อเห็นว่านางหยุดไอก็รีบหดมือกลับ พลางขมวดคิ้วราวกับว่าแตะต้องอะไรบางอย่างที่ไม่สะอาด
ชิงอีที่สังเกตเห็นอาการนั้น ก็ยิ่งทวีความโกรธภายในใจ
นางไม่ได้เกลียดชังหนุ่มน้อยผู้นี้
แล้วหนุ่มน้อยผู้นี้จะกลายเป็เกลียดนางหรือเปล่า?
โดยไม่เปิดโอกาสให้ชิงอีสร้างเื่ เซียวเจวี๋ยทำการปิดปากนางด้วยประโยคเดียว “หากเ้าไม่พูดก็ดื่มต่อไป แต่ถ้าจะพูดอะไรก็รีบพูดมา”
เส้นเืบนหน้าผากของชิงอีถึงกับปูดขึ้น จนแทบจะแตกออก
เ้าแมวอ้วนที่ซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ ถึงกับตัวสั่นระริกด้วยความปีติ พระเ้า! วันนี้หนุ่มน้อยได้ร้องเพลงทาสเป็ไทขับร้องลํานํา[1] เพราะโค่นนางมารร้ายลงได้!
ทำอย่างไร เกรงว่านางมารร้ายจะขาดสติ แล้วห้าวหาญไปทำร้ายเขา!
เป็เื่ยากที่จะได้เห็นนางพ่ายแพ้เช่นนี้ ช่างน่าตื่นเต้นจริงๆ อยากรู้เหลือเกินว่าจะเป็อย่างไรต่อ?
ชิงอีกัดฟัน พร้อมตัดสินใจอย่างแน่วแน่ จากนั้นจึงหย่อนก้นลงนั่งตรงข้ามเขา
นางตบโต๊ะด้วยท่าทางหยิ่งยโสและะโลั่น “ก็แค่ดื่มชาเติมมาอีก!”
**********************
[1] ทาสเป็ไทขับร้องลํานํา คือ เป็เพลงที่มีเนื้อความเกี่ยวกับการได้รับอิสระจากการถูกกดขี่ข่มเหง และการเปลี่ยนแปลงการปฏิวัติ