ถังชิงหรูเห็นถังซานหู่หุนหันพลันแล่น พูดว่าจะไปก็ไป จึงรีบรั้งเขาไว้ก่อน
"ใครเป็ผู้ก่อตั้งหอจตุรทิศ สถานการณ์ของเมืองชิ่งกำลังยุ่งเหยิง ไยพวกเขาถึงกล้าออกมาเกะกะระรานตามถนน เขากับนายท่านมีความสัมพันธ์อันใดกับใต้เท้าเมิ่งผู้นั้น เื่เล่านี้เ้าตรวจสอบหรือยัง เ้าบอกว่าจะไปลุยพวกเขาให้แตกกระเจิง แต่ข้าว่าคนที่จะถูกไล่เปิงออกมาน่าจะเป็เ้ามากกว่า นายของพวกเ้าออกจะฉลาดปราดเปรื่อง ไฉนถึงเลี้ยงลูกน้องนิสัยผลีผลามมุทะลุอย่างเ้าได้" ถังชิงหรูพูดกับถังซานหู่ "ข้าให้พวกเ้าไปตรวจสอบให้ชัดเจน ไม่ใช่แค่ตรวจสอบแค่ผิวเผินภายนอก ของบางอย่างต้องลงลึกรายละเอียดให้แจ่มแจ้ง"
"ให้ข้าน้อยไปเถอะขอรับ เื่เหล่านี้เป็ความลับสุดยอด มีเพียงสายข่าวของพวกเราถึงจะตรวจสอบได้ วิธีการทำงานของเมิ่งหลิงเหี้ยมโหดยิ่ง พวกเรามิกล้าแหวกหญ้าให้งูตื่น ดังนั้นจึงไม่เคยวางหน่วยสอดแนมไว้ที่นี่ ยามนี้เกิดเื่แบบนี้ พวกเราคงได้แต่สืบถามเป็การลับเท่านั้น" จางซงพูดกับถังชิงหรู "เื่นี้ค่อนข้างยุ่งยาก คงต้องขอคำชี้แนะจากนายท่าน"
"คุณชายของพวกเ้าเก่งกล้าสามารถ เื่นี้คงไม่คณนามือเขาหรอก พวกเ้าไปขอคำชี้แนะก็ดี ข้าอยากรู้ว่าหอจตุรทิศที่ว่านี้มีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่" ถังชิงหรูเคยชินกับการซ่อมประตูหน้าต่างก่อนฝนตก[1] เมื่อมีองค์กรที่ร้ายกาจโผล่ขึ้นมา ก็ต้องตรวจสอบที่มาของพวกเขาให้แน่ชัด ครั้งหน้าหากตกไปอยู่ในมือของฝ่ายตรงข้าม จะได้ไม่ถึงกับไม่รู้อะไรสักอย่าง
"พวกเ้าสองคนอยู่คุ้มครองแม่นาง" จางซงพูดกับหวังสยงและถังซานหู่ "นายท่านเคยบอกว่าหน้าที่สำคัญที่สุดของพวกเราก็คือการคุ้มกันแม่นาง"
ถังชิงหรูนิ่งอึ้ง เฟิ่งหยางเคยพูดอะไรแบบนี้ด้วยหรือ ฟังผิวเผินชวนให้รู้สึกซาบซึ้งใจ แต่พอตรึกตรองถึงความหมายลึกลงไป ก็ไม่โสภาสักเท่าไรนัก
จางซงออกไปสืบข่าว หวังสยงกับถังซานหู่อยู่คุ้มครองถังชิงหรู ชิงอีกับลวี่สุ่ยเป็เพียงหญิงสาวธรรมดา เื่ตีรันฟันแทงเหล่านี้ไม่เหมาะสมกับพวกนาง เกิดเื่ใหญ่ขนาดนี้ ร้านค้าย่อมไม่อาจดำเนินกิจการ ดังนั้นถึงชิงหรูจึงให้หญิงปักผ้าสองคนดูแลโม่เสี่ยวเม่ยที่ได้รับาเ็ รอให้สถานการณ์เปลี่ยนไปในทิศทางที่ดี ค่อยจัดหาคนใหม่มาดูแลร้านค้า
ที่ร้านจึงเหลือเพียงถังชิงหรูกับผู้คุ้มกันอีกสองคน ถังชิงหรูมองอาภรณ์ชั้นในที่เสียหายเ่าั้ด้วยความรู้สึกปวดใจอยู่นาน
"คนที่มาก่อเื่่เช้าคือผู้ใด" ถังชิงหรูมัวแต่กังวลถึงเื่หอจตุรทิศ จนลืมถามเกี่ยวกับฮูหยินที่มาก่อเื่เมื่อเช้า
"ได้ยินว่าเป็ฮูหยินสกุลจางขอรับ สกุลจางทำกิจการค้าข้าว เมล็ดข้าวและธัญพืชของเมืองชิ่งเกือบทั้งหมดล้วนมาจากร้านของสกุลจาง" หวังสยงกล่าว
"สกุลจางหรือ..." ถังชิงหรูขบคิด สกุลจางเป็หนึ่งในตระกูลคหบดีที่มีชื่อเสียงของเมืองชิ่ง และสกุลจางก็เป็กรงขังที่นางเตรียมมอบให้แก่ฉินเหยา
หากเป็นายหญิงสกุลจางผู้นั้น นางก็อยากไปเยี่ยมเยือนสักครา สมมุติว่านางกับจางฮูหยินมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ชีวิตของฉินเหยาก็จะยิ่งยากลำบาก เมื่อคิดได้แบบนี้ อารมณ์ขุ่นมัวที่สกุลจางมาก่อเื่ก็สลายไปสิ้น
สตรีที่มาก่อความวุ่นวายด้วยเื่ของบุรุษ ก็แสดงว่าบุรุษผู้นั้นคือจุดอ่อนของนาง เมื่อสตรีผู้นั้นมาหาเื่เพราะบุรุษของตน ถังชิงหรูก็สามารถใช้บุรุษผู้นั้นมามัดตัวนางได้เช่นกัน
"เ้าเป็ผู้ดูแลที่นี่รึ" เ้าหน้าที่กองปราบคนหนึ่งเดินเข้ามา มองถังชิงหรูอย่างพินิจ
ยามนี้ถังชิงหรูสวมชุดกระโปรงสีชมพูอ่อน ใบหน้าประทินผิวเพียงเล็กน้อย ทำให้แลดูสดใสมีชีวิตชีวา ไม่เหมือนสาวใช้ แต่เป็ผู้ดูแลกิจการ
ถังชิงหรูจำเป็ต้องแสดงบทบาทหลากหลาย เพื่อให้สมกับแต่ละบทบาท นางจึงค่อยๆ ปรับปรุงรูปโฉมของตนเองทีละน้อย แท้จริงแล้วนางก็ไม่ได้เห็นหน้าตาที่แท้จริงของตัวเองมานานแล้ว ่นี้จิตพิสัยจรรยาแพทย์ค่อนข้างฝืดเคือง จึงต้องหยุดใช้โอสถเสริมความงามทั้งหลายชั่วคราว เมื่อไม่มีของเ่าั้รวมถึงโอสถเสริมสติปัญญา โอสถหุ่นเพรียว โอสถเสริมอกอิ่ม ก็ไม่รู้ว่าร่างกายจะเปลี่ยนแปลงไปเป็อย่างไรบ้าง
สาเหตุที่ถังชิงหรูไม่กล้าเผยรูปโฉมที่แท้จริงก็เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดคิด หากวันใดนางกับเฟิ่งหยางถึงจุดที่ต้องแตกหัก การแปลงโฉมด้วยใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยย่อมหลบหนีได้ง่ายกว่า ต่อให้เฟิ่งหยางมีความสามารถเทียมฟ้า ก็ต้องใช้เวลาในการค้นหานางพอสมควร แน่นอนว่ายามนี้นางกับเฟิ่งหยางยังไม่ไปถึงจุดนั้น ในทางกลับกัน ดูเหมือนว่าเขาและนางจะเข้ากันได้ดีมาก บางครั้งพอนึกถึงความน่ากลัวของเฟิ่งหยางยามพบกันคราแรก ยังรู้สึกเหมือนเป็ความฝัน แต่ก็ไม่ใช่ อย่าเห็นว่านางต่อปากต่อคำกับเขาได้ แท้จริงแล้วยามโหดขึ้นมาน่ากลัวมากทีเดียว
ถังชิงหรูได้สติคืนมา มองเ้าหน้าที่กองปราบตรงหน้า พลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม "พี่ชายผู้นี้มาได้จังหวะพอดี มีคนมาก่อกวนร้านของพวกเรา ขอพี่ชายโปรดช่วยจัดการให้ผู้น้อยด้วย"
"เฮอ! เ้ายังกล้าแว้งกัดผู้อื่นอีกรึ" เ้าหน้าที่กองปราบมองถังชิงหรูด้วยความไม่พอใจ "เมื่อครู่พวกเราได้รับร้องเรียนว่าผู้คุ้มกันร้านหัวใจสตรีสังหารคนตาย"
"ใครกันที่กล่าววาจาเหลวไหลพรรค์นั้น" ถังซานหู่สะกดกลั้นอารมณ์ไม่อยู่ พอได้ยินคำกล่าวเช่นนั้น ก็แสดงความร้อนใจออกมา "พวกเราสังหารคนั้แ่เมื่อไร วันนี้มีคนมาก่อความวุ่นวาย แต่พวกเราก็ไม่ได้สังหารผู้ใด ใครเป็คนพูด ให้เขาออกมาเลยสิ"
"พี่ใหญ่ถัง นี่ไม่ใช่ธุระของท่าน" ถังชิงหรูหันไปปรามถังซานหู่ ใบหน้าเยือกเย็นของนางเปี่ยมไปด้วยบารมีน่าเกรงขาม ดูแตกต่างเวลาที่ออกไปต้อนรับลูกค้าสตรีเ่าั้โดยสิ้นเชิง
ถังซานหู่รู้ว่าตนเองพลั้งปากไป ก็รีบถอยหลังไปไม่พูดอะไรอีก หวังสยงที่อยู่ข้างกายก็หันมามองเขาเป็เชิงตำหนิ
เ้าหน้าที่กองปราบมองถังซานหู่กับหวังสยงอย่างพินิจ ในใจคิดว่า สองคนนี้หน้าตาดุดันร้ายกาจ แค่มองก็แทบเห็นโลหิตแล้ว วันนี้หากแข็งข้อกับพวกเขา เกรงว่าจะไม่ได้ประโยชน์ ไม่ใช่เื่ฉลาดเลยหากต้องเอาชีวิตมาทิ้งเพียงเพราะเบี้ยอันน้อยนิดในแต่ละเดือน ไม่สู้มีมารยาทกับพวกเขาหน่อยจะดีกว่า
"ฮ่าๆ ข้าก็ว่าดูเป็เื่เหลวไหลทั้งเพ ภายใต้การปกครองของใต้เท้าเมิ่ง จะเกิดเหตุการณ์นองเืขนาดนั้นได้อย่างไร" เ้าหน้าที่กองปราบผู้นั้นเป็เหมือนต้นหญ้าข้างกำแพงที่ลู่ไปตามทิศทางลม
ปรกติคนประเภทนี้น่ารังเกียจยิ่ง แต่ในยามจำเป็บางครั้งก็ช่วยอำนวยความสะดวกให้พวกเขาได้ ต้องยอมรับว่าการสร้างสมดุลให้สรรพสิ่ง จะใช้ความชอบธรรมหรือความสามานย์อย่างสุดโต่งเกินไปไม่ได้ หญ้าข้างกำแพงเหล่านี้ก็เป็ส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้
"ใต้เท้าปรีชายิ่ง" ถังชิงหรูยัดเงินสิบตำลึงใส่มือของเ้าหน้าที่กองปราบผู้นั้น พลางเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม "ไม่ทราบว่าผู้ใดกันที่มาฟ้องร้องพวกเรา คิดว่าคงเป็การเข้าใจผิดเป็แน่ ใต้เท้าช่วยพูดแทนผู้น้อยได้หรือไม่ หากเป็ความเข้าใจผิดกัน จะได้เจรจาตกลงกันได้เร็วหน่อย คนทำมาค้าขายอย่างพวกเรา กลัวที่สุดคือการไปล่วงเกินผู้อื่น และชอบผูกมิตรกับผู้คนมากกว่า มีสหายเพิ่มมาหนึ่งคนย่อมมีลู่ทางเพิ่มมาอีกสายมิใช่หรือ"
นี่คือบอกเป็นัยกับเ้าหน้าที่กองปราบให้ช่วยเหลือพวกตน หากเป็แค่คดีธรรมดา สามารถปิดให้เงียบได้ก็ปิดให้เงียบ เพียงแค่ช่วยให้พวกเขาพ้นจากปัญหานี้ ต่อไปยังมีผลประโยชน์อีกมากมายมอบให้ เป็แค่เ้าหน้าที่เล็กๆ ค่าน้ำร้อนน้ำชามีไม่มาก ปรกติหาก้าเลี้ยงครอบครัวให้อิ่มท้อง ก็ต้อง 'คบหา' มิตรสหายเช่นพวกเขา
หวังสยงกับถังซานหู่ถลึงตาใส่เ้าหน้าที่ผู้นั้นอย่างข่มขู่ ยามทำงานให้คุณชาย พวกเขาไม่เคยต้องอดทนขนาดนี้ เมื่อก่อนคนที่พบเจอพวกเขาล้วนต้องกลายเป็ศพ หากคนผู้นี้ไม่รู้จักดีชั่ว พวกเขาก็ไม่ถือสาที่จะเปิดศึกอีกครั้ง อย่างไรเสียฆ่าคนมาก็ไม่น้อย เพิ่มอีกสักคนคงไม่มากเกินไป
เ้าหน้าที่กองปราบรู้สึกหนาวสะท้านไปทั้งตัว คล้ายมีของอัปมงคลจะเข้ามาสิงสู่ร่างอย่างไรอย่างนั้น เขามองไปรอบด้านอย่างพรั่นพรึง ที่นี่คงไม่มีของพรรค์นั้นหรอกกระมัง?
"พวกเ้าเพิ่งบอกว่ามีคนมาก่อกวนมิใช่หรือ คนที่มาฟ้องพวกเ้าก็คือคนเ่าั้แหละ มีคนจากหอจตุรทิศสองสามคนเสียชีวิตหลังจากมาหาเื่พวกเ้าที่นี่" เ้าหน้าที่ผู้นั้นบอกเล่า
"หอจตุรทิศ... ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน" ถังชิงหรูเข้าไปดึงแขนเสื้อของอีกฝ่ายลากไปด้านข้าง ก่อนกระซิบถาม "ไม่ทราบว่ามีที่มาอย่างไร"
กล่าวจบก็ส่งเงินให้อีกสิบตำลึง
เบี้ยรายเดือนของเ้าหน้าที่กองปราบเพียงแค่ห้าตำลึงเท่านั้น ถึงชิงหรูจ่ายให้ถึงยี่สิบตำลึง เท่ากับเบี้ยรายเดือนถึงสี่เดือน ั์ตาของเขาย่อมจะลุกวาว
ร้านหัวใจสตรีทำมาค้าคล่อง คงจะหาเงินได้ไม่น้อย หากตนเองคบหาสมาคมกับพวกเขาดีๆ ผลประโยชน์ในภายหน้ายังมีอีกมากนัก อีกอย่าง ฟังจากความหมายของใต้เท้า ร้านหัวใจสตรีเสมือนต้นไม้เขย่าออกมาเป็เงินเป็ทอง พวกเขาอยากจะเหยียบเื่นี้ให้มิด ก็ต้องยอมส่งเงินมาให้แต่โดยดี การสร้างสถานการณ์ครานี้เพื่อมาจัดการกับพวกเขาโดยเฉพาะ
"บอกเ้าก็ได้ ผู้อยู่หลังม่านของหอจตุรทิศก็คือใต้เท้าเมิ่งของพวกเรา" เ้าหน้าที่กองปราบทำท่ามีลับลมคมใน "ใต้เท้าเมิ่งรักและห่วงใยประชาชน ก็เลยก่อตั้งหน่วยงานนี้ขึ้นมาเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของชาวบ้าน หลายเื่ที่ทางการไม่สะดวกออกหน้า แต่สำหรับองค์กรในท้องถิ่นย่อมสะดวกกว่ามาก"
ถังชิงหรูคาดเดาไว้นานแล้ว เพียงแต่ยังไม่มีหลักฐาน ยามนี้ได้ข่าวจากปากของเ้าหน้าที่กองปราบ ก็รู้แล้วว่าควรทำอย่างไร
พูดตามตรง ก็คือเมิ่งอวี่้ารีดไถร้านหัวใจสตรี ตราบใดที่มอบเงินให้แต่โดยดี ปัญหาทั้งหมดก็จะกลายเป็ไร้ปัญหา
แต่สำหรับจุดนี้ นางไม่อาจตัดสินใจเอง อย่างไรเสียนี่ก็เป็กิจการของเฟิ่งหยาง เขารั้งอยู่ที่นี่ ย่อมมีธุระส่วนตัวที่ต้องทำ หากนางตัดสินใจโดยพลการแล้วทำให้เขาเสียแผน เกรงว่าชีวิตของนางเขาคงไม่คิดจะเอาไว้
"ที่แท้ก็เป็ของใต้เท้าเมิ่ง..." ถังชิงหรูทำท่าปิดปาก "ใช่ๆ ข้าไม่พูด เช่นนั้นข้าจะไปแจ้งให้เ้านายทราบสถานการณ์ก่อน ให้เขาส่งของขวัญไปให้ใต้เท้าเมิ่งแทนคำขอขมา พี่ชายจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ได้หรือไม่ ให้พวกเราไปศาลาว่าการช้าอีกหน่อย ท่านวางใจเถอะ อีกไม่ช้าพวกเราจะกลับมาแน่นอน"
"ก็ได้ เช่นนั้นก็อย่าชักช้า พวกเ้าคงรู้ว่าใต้เท้าของพวกเราอารมณ์ไม่ได้ดีขนาดนั้น" เ้าหน้าที่กองปราบรับเงินถังชิงหรูมา ย่อมจะใจกว้างให้ผลประโยชน์แก่นางด้วย
หลังคนไปแล้ว ถังซานหู่ก็สะกดกลั้นอารมณ์ไม่ไหว เอ่ยวาจาอย่างเดือดดาล "แม่นาง ท่านคุณชายของพวกเรายอมประนีประนอม จ่ายเงินให้กับใต้เท้าเมิ่งผู้นั้นหรือขอรับ"
"เอาเถอะ ที่นี่เกิดเื่ พวกเ้าก็ควรให้คุณชายทราบกระมัง ส่วนจะตัดสินใจอย่างไร ก็สุดแล้วแต่เขา" ถังชิงหรูมุ่นคิ้วขมวดเอ่ยวาจา
"ข้าจะไปพบคุณชายเดี๋ยวนี้ แจ้งเื่ทั้งหมดที่นี่ให้คุณชายรับทราบเอง" หวังสยงกล่าว
"ไปเถอะ" ถังชิงหรูท่าทางอ่อนเพลีย "นึกว่าข้าอยากคุยเจรจากับผู้อื่นนักหรือ เอี้ยนอ๋องพูดอะไรก็ง่ายแต่ผีน้อยอย่างพวกเราเนี่ยสิลำบาก หลักการเหตุผลนี้พวกเ้าไม่เข้าใจกันหรือไง"
ที่นี่ไม่ใช่สังคมภายใต้หลักนิติธรรม ผู้อื่นอยากจะเล่นลูกไม้เป็เื่ที่ง่ายดายนัก ทุกสิ่งที่นางทำล้วนใคร่ครวญถึงเฟิ่งหยางแล้ว เฟิ่งหยางมาปรากฏตัวที่นี่ย่อมมีเป้าหมายบางอย่าง หากนางล่วงเกินคนของเมิ่งหลิง แล้วเขายังจะอยู่ที่นี่ได้หรือ
หวังสยงสุขุมกว่าถังซานหู่ ให้เขารับหน้าที่ไปรายงานสถานการณ์ให้เฟิ่งหยางรับรู้ ส่วนถังซานหู่รั้งอยู่อารักขานาง ที่จริงนางดูออกว่าถังซานหู่ไม่เต็มใจนัก นางอยากบอกเหลือเกิน ว่าตนเองก็ไม่ได้้าการคุ้มครองจากเขาเลย หากเกิดอันตรายขึ้นมาจริงๆ ใครจะคุ้มครองใครยังไม่แน่
--------------------------------------------------------------------------------
[1] ซ่อมประตูหน้าต่างก่อนฝนตก หมายถึงการเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้า ก่อนจะเกิดปัญหา