“คิดทบทวนกันแล้วเป็อย่างไรบ้าง?”
โอวหยางเต้าอวี่กวาดสายตาไปรอบๆ คิดว่าตนเองเป็คนวางแผนในเื่นี้ เป็วีรบุรุษในภารกิจครั้งนี้ ดังนั้น สีหน้าของเขาถึงได้ดูน่าเกรงขาม ทำให้คนรู้สึกว่าขัดเขาไม่ได้
แต่ว่าทุกคนก็ไม่ได้อยากขัดจริงๆ นั่นแหละ
เพราะนอกจากวิธีการของโอวหยางเต้าอวี่แล้ว มันแทบไม่มีวิธีการอื่นที่จะหาตำแหน่งของัทะเลทรายได้เลย
ถ้าพวกเขาเจออสูรที่แข็งแกร่งมากระหว่างทางก็บีบหยกออกไปก่อนก็ได้
ลองดูสักตั้ง พวกเขาอาจจะได้เจอัทะเลทรายจริงๆ ก็ได้ แต่หากไม่ลองเลย ก็จะไม่มีแม้แต่โอกาส
ดังนั้น ทุกคนก็เลยไม่มีใครคัดค้าน
“ดี”
โอวหยางเต้าอวี่มองไปที่ทุกคน จากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ในเมื่อพวกเราทั้งยี่สิบเอ็ดคนต่างยินดีร่วมแผนการในครั้งนี้ ถ้าอย่างนั้น เราก็ต้องมาแบ่งงานกัน”
“อย่างแรกเลย เราต้องปล่อยพลังการโจมตีต่างๆ ไปในทะเลทรายดูดเพื่อทำให้เหล่าอสูรใ แต่เื่นี้มันมีความเสี่ยง นั่นก็คือจะต้องเสียพลังลมปราณประมาณหนึ่ง หากเราปล่อยพลังสังหารไปอย่างต่อเนื่องมันก็จะผลาญพลังลมปราณไปเรื่อยๆ หากพบัทะเลทราย เราก็จะไม่สามารถอยู่ในสถานะที่สมบูรณ์และจะไม่สามารถทำภารกิจให้สำเร็จได้ หากเจอสถานการณ์แบบนี้ เราจะต้องหยุดพักทุกๆ ครึ่งชั่วยาม เมื่อลมปราณเราฟื้นกลับมาแล้วค่อยทำการสำรวจต่อ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะัทะเลทราย”
ศิษย์ของสายหรงเหยียนกับสายจั่วเหยียนตั้งใจฟังอย่างมาก ระหว่างที่ฟังก็พยักหน้าตามทำความเข้าใจ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความคิดของโอวหยางเต้าอวี่นั้นละเอียดรอบคอบมาก สามารถคาดเดาผลที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้า และหาวิธีการรับมือแก้ไขเอาไว้แล้วด้วย
โอวหยางเต้าอวี่พูดต่อว่า “อย่างที่สอง หากพบัทะเลทรายจริง พวกเ้าก็อย่าไปเผชิญหน้าสู้กับมัน อสูราาขั้นที่สี่ระดับสูงสุดน่ากลัวแค่ไหนข้าไม่รู้ แต่สามารถเอาชีวิตพวกเ้าได้อย่างแน่นอน”
“ถึงแม้ข้าจะมีขอบเขตอมฤตขั้นที่สามระดับสูงสุด แต่ก็ยังมีระดับที่ต่างกับัทะเลทรายอยู่มาก แต่ข้าก็เชื่อว่าข้าสามารถต้านการโจมตีของมันได้ห้าถึงสิบวินาที สิ่งที่พวกเ้าต้องทำก็คือ ตอนที่ข้าต้านเ้าัทะเลทราย จงลอบเข้าไปในทะเลทรายดูด แล้วขโมยไข่ัออกมา”
“เราสามารถช่วยเ้าต้านเ้าัทะเลทรายได้นะ เราเองก็สามารถ ... ”
ซูอี้หรานยังพูดไม่ทันจบ โอวหยางเต้าอวี่ก็ยกมือขึ้นแทรก
โอวหยางเต้าอวี่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “เมื่ออยู่ต่อหน้าพลังที่แข็งแกร่ง คนจำนวนมากมันไม่ได้มีประโยชน์ ข้าแข็งแกร่งกว่าพวกเ้ามาก หากพวกเ้าอยู่ข้างกายข้า มันไม่ใช่แค่ช่วยข้าไม่ได้ แต่มันจะเป็การทำร้ายข้าไปด้วย”
ล้อเล่นหรือเปล่า โอวหยางเต้าอวี่อยากจะเผชิญหน้ากับัทะเลทรายคนเดียว แล้วจะให้คนอื่นมาได้หน้าด้วยได้อย่างไรกัน? หากเื่นี้แพร่ออกไปว่า โอวหยางเต้าอวี่ ซูอี้หราน และพวกของลั่วอิงร่วมมือกันต้านทานัทะเลทราย โอวหยางเต้าอวี่ก็จะได้หน้าน้อยลง
ต้องให้เขารับมือกับัทะเลทรายคนเดียว มันถึงจะทำให้เขาดูเป็คนที่แข็งแกร่งที่สุด
พูดให้ตรงก็คือ โอวหยางเต้าอวี่ไม่เพียงแค่้าได้หน้าเื่ความสามารถ แต่ยังอยากมีชื่อเสียงด้วย เขา้าเป็คนที่ใครต่อใครนั้นนับถือบูชา
เื่ภารกิจขโมยไข่ั ใครจะไปทำก็ไม่มีผลอะไร
เพราะสายหรงเหยียนกับสายจั่วเหยียนดูเหมือนจะเป็สองสายแยกกัน แต่ในความเป็จริงแล้วช่วยเหลือหลอมรวมกันไปนานแล้ว การขโมยไข่ัต้องเป็ฝีมือของทั้งสองสายนี้เท่านั้น ถ้าอย่างนั้น รางวัลที่ผู้บริหารระดับสูงของสำนักเทพอัคคีให้มาก็แบ่งกันอย่างเท่าเทียมอยู่ดี
และหากอาจารย์ของโอวหยางเต้าอวี่รู้ว่าเขาสร้างผลงานใหญ่ในภารกิจครั้งนี้ เขายังจะได้รับรางวัลใหญ่ต่างหากอีก!
เมื่อมีผลประโยชน์จำนวนมากอยู่รวมกัน ในใจของโอวหยางเต้าอวี่นั้นจะไม่ตื่นเต้นและกระตือรือร้นได้อย่างไร?
“สิ่งที่พวกเ้าต้องทำตอนนี้ก็คือทำตามที่ข้าสั่ง ลอบเข้าไปในทะเลทรายดูด หาไข่ัให้เจอ เมื่อเจอไข่ัแล้วก็บีบหยกหนีไป เข้าใจไหม?”
“เข้าใจ!”
ท่าทีของทุกคนที่มองไปที่โอวหยางเต้าอวี่กลับรู้สึกนับถือ สู้กับัทะเลทรายคนเดียว มันต้องใช้ความกล้าหาญมากขนาดไหนกันนะ
หลังจากนั้น ทุกคนก็ไม่ได้มีความลังเลใจอีก ทั้งหมดเริ่มบังคับขี่อสูรสัตว์ปีกต่ำลงมา และรวบรวมพลังลมปราณไปไว้ที่กำปั้นซัดลงไปในทะเลทรายดูด
โอวหยางเต้าอวี่ยืนอยู่ด้านหลังของอสูรสัตว์ปีก เขาเอามือไขว้หลังแล้วคอยมองดูทุกอย่างแบบเงียบๆ โดยไม่ได้ลงมือ
เขาคือวีรบุรุษคนสุดท้ายที่จะสู้กับัทะเลทราย ลมปราณเพียงน้อยนิดก็มีค่า แล้วจะเอามาเสียเปล่าตรงนี้ได้อย่างไร?
“ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! … ”
และในเวลานี้เอง ศิษย์ของสายหรงเหยียนกับสายจั่วเหยียนก็เริ่มการปล่อยกระบวนท่าสังหารอย่างบ้าคลั่ง! ลมปราณที่แข็งแกร่งจำนวนมากะเิใส่ทะเลทรายดูด พลังทำให้ทรายพุ่งขึ้นมากว่าสิบเมตร ทรายเ่าั้ลอยอยู่กลางอากาศครู่หนึ่ง จากนั้นก็สลายหล่นกลับไปในทะเลทรายดูดเหมือนเดิม
ในคลื่นทะเลทรายดูดเกิดการเคลื่อนไหวที่รุนแรงมาก ลมปราณมันก่อให้เกิดคลื่นกระจายออกไปทั่ว ...
“อือ ... ”
ผ่านไปไม่ถึงนาที ก็เกิดเสียงดังขึ้นมาจากในทะเลทรายดูดลึก จนเริ่มเห็นเงาสีเทาลางๆ จนในท้ายที่สุด ก็เห็นเงาขนาดใหญ่พุ่งออกมาจากทะเลทรายดูด สีหน้าของมันดูดุดัน มีเขี้ยวแหลมคม ร่างกายเป็สีเทาเหลือง มีครีบปลา และเต็มไปด้วยเกล็ด!
“นั่นแมวน้ำ!”
มีคนร้องะโด้วยความใขึ้นมา เพราะจำลักษณะของอสูรตัวนั้นได้ เพียงแต่มันเหมือนจะกลายพันธุ์ไปเพราะแช่อยู่ในทะเลทรายดูดเป็เวลานาน เกล็ดและพลังชีวิตของมันดูแข็งแกร่ง และหนาพอๆ กับเหล็ก
มันเพิ่งจะพุ่งออกมาจากทะเลทรายดูด และตรงเข้ากัดศิษย์ชั้นยอดขอบเขตอมฤตขั้นที่สองคนหนึ่ง
แต่ศิษย์ชั้นยอดคนนั้นปฏิกิริยาไวมาก เขารีบหลบทันที จากนั้นเ้าแมวน้ำก็กลับลงทะเลไปใหม่เพราะน้ำหนักตัวของมัน แล้วก็พุ่งกลับขึ้นมาใหม่และเริ่มกัดอีกครั้ง ทำแบบนี้อย่างต่อเนื่อง!
ไม่ใช่แค่ทางด้านนี้เท่านั้นที่เกิดการเปลี่ยนแปลง ในจุดอื่นก็เริ่มมีการเคลื่อนไหวดังมาก
อสูรที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายดูดทั้งหมดค่อยๆ ปรากฏตัวขึ้นบนผิวทราย เกล็ดของพวกมันเป็สีเหลืองและดูหนามาก ร่างกายขนาดใหญ่แทบทั้งหมดพุ่งโจมตีใส่เหล่าศิษย์ที่บินต่ำอยู่กลางอากาศ
“แยกกันตั้งค่ายกล แล้วทำให้การเคลื่อนไหวมันกระจายตัวออกไปไกลกว่านี้”
โอวหยางเต้าอวี่ยืนอยู่ด้านหลังอสูรสัตว์ปีก สำรวจสถานการณ์อย่างเงียบๆ แล้วก็ออกคำสั่ง
จากมุมมองในระดับนี้ โอวหยางเต้าอวี่สามารถมองเห็นสถานการณ์โดยรวมทั้งหมดได้ ทุกอย่างจะไม่มีทางรอดพ้นสายตาของเขาไปได้เลย เขารู้สึกเหมือนผู้วางแผนการ ส่วนศิษย์คนอื่นก็เหมือนหมากที่ทำให้การเดินหมากของเขานั้นสมบูรณ์แบบมากขึ้น!
อสูรในทะเลทรายดูดปรากฏตัวขึ้นมามากขึ้น เป็อยู่แบบนี้จนกระทั่งผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยาม ทะเลผืนนี้ก็ยิ่งเคลื่อนไหวแปรปรวนมากขึ้นกว่าเดิม อสูราาขั้นที่หนึ่งและสองจำนวนมากรวมตัวกันอยู่ในพื้นที่บริเวณนี้ พวกมันค่อยๆ เคลื่อนไหวรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และเริ่มกัดกันเอง
ผ่านมาประมาณสิบนาที โอวหยางเต้าอวี่เห็นลมปราณของทุกคนเริ่มฟื้นตัวก็ออกคำสั่งว่า “เอาล่ะ ตอนนี้เราจะเอาตัวเองเข้าไปเป็เหยื่อ ล่อพวกมันให้เคลื่อนที่ไปทางเหนือ เพื่อให้อสูรอีกจำนวนมากปรากฏตัวขึ้น!”
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าวิธีการของโอวหยางเต้าอวี่นั้นมันวิเศษมาก พวกเขาสามารถล่ออสูรทั้งหมดให้ปรากฏตัวออกมาได้ ทำให้อสูรสนใจ เหมือนกำลังปั้นลูกบอลหิมะ ที่ยิ่งก่อยิ่งกลิ้งหิมะมันก็ยิ่งก่อตัวใหญ่ขึ้น สร้างความเคลื่อนไหวได้มากขึ้น ซึ่งก็ได้ผลเกินคาด
ฉลามปากสีเืที่มีลำตัวเหมือนกระสวยยาวยี่สิบเมตรตัวหนึ่ง เป็อสูราาขั้นที่สามโผล่ขึ้นมาจากทะเลทราย และพุ่งตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อจะกัดและกลืนศิษย์ชั้นยอดคนหนึ่งเข้าไป
ศิษย์คนนั้นร้องขึ้นมาด้วยความใ ่วินาทีอันตรายนั้นพวกอสูรสัตว์ปีกบินหนี แต่ฉลามปากสีเืมันมีความเร็วมาก เขายังไม่ทันได้เปลี่ยนทิศ ฉลามก็พุ่งขึ้นมากัดปีกข้างหนึ่งของอสูรสัตว์ปีกแล้ว
เขารีบะโลอยตัวขึ้นจากด้านหลังของอสูรสัตว์ปีก จากนั้นก็บีบหยกก่อนที่จะหล่นลงไปใต้ทะเลทราย ทันใดนั้นก็เกิดแสงสว่างจ้าและเขาก็หายไป
ส่วนอสูรสัตว์ปีกที่ถูกกัดปีกขาดก็ตกลงไปในทะเลทรายดูด ถูกอสูรกัดแทะจนร่างแหลก เหลือแค่กะโหลกอย่างรวดเร็ว
ฉลามปากสีเืยังไม่หยุดแค่นี้ มันยังกลืนกินอสูรตัวอื่นที่แอบซ่อนตัวล่าเหยื่ออยู่ เืพุ่งกระเซ็นออกมาเต็มพื้นที่ทะเลทราย กลิ่นคาวเืคลุ้งไปทั่ว
ไม่นานนัก ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ก็มีเต่าทะเลที่มีน้ำหนักกว่าหมื่นกรัมที่ััได้ถึงกลิ่นคาวเืนี้ มันเคลื่อนที่มาเพื่อหาอาหาร
เต่าทะเลเป็อสูราาขั้นที่สามเหมือนกัน มันเคลื่อนไหวไม่ได้รวดเร็วมาก แต่ใช้วิธีสร้างแรงสั่นะเืออกมาจากร่างกาย ทำให้อสูรตัวเล็กที่มีความสามารถอ่อนถูกะเืจนเวียนหัว จากนั้น มันก็จะโผล่ออกมาแล้วกลืนกินเข้าไป
ผ่านไปอีกประมาณครึ่งชั่วยาม ใต้ทะเลทรายก็มีร่างขนาดใหญ่เคลื่อนไหวอีก มันยื่นมืออันหนาและกำยำออกมา แล้วก็รวบเอาอสูรตัวอื่นๆ ไปไว้ในมือ จากนั้นก็ยื่นมือข้างที่สองออกมาอีก ข้างที่สาม ... ข้างที่สี่ ...
แขนทั้งแปดกวาดเอาอสูราาขั้นที่หนึ่งที่มีความสามารถอ่อนแอเอาไว้หมด จากนั้นก็ดึงพวกมันเข้าสู่ทะเลทราย
จนสุดท้าย เ้าร่างขนาดใหญ่ที่ว่านี่มันถึงปรากฏตัวออกมาจากทะเลทราย มันเป็หมึกั์ที่มีเกล็ดสีเหลืองใส!
มันก็เป็อสูราาขั้นที่สามตัวหนึ่ง!
อสูรทั้งหมดรวมตัวกันอยู่ในทะเลทราย เข่นฆ่ากันเองไม่หยุด ส่วนศิษย์ชั้นยอดที่ล่อพวกมันออกมาก็เหมือนแค่ดูเื่สนุกกัน ในเวลานี้พวกเขาไม่จำเป็ต้องล่อ เหล่าอสูรก็กัดแทะกันเองจนเละเป็โจ๊กแล้ว!
อสูรพวกนี้มีความไม่กินเส้นกันโดยธรรมชาติอยู่แล้ว พวกมันซ่อนตัวกันอย่างดี แต่เมื่อมีสิ่งรบกวนมาจากภายนอกก็อดไม่ได้ที่จะออกมาดู เมื่อเจอว่าเื่มันบานปลาย อสูรจำนวนมากก็จะเริ่มฆ่ากันเอง
ภาพสถานการณ์มันโหดร้ายมาก เพราะการเคลื่อนไหวและการเข่นฆ่านั้นมีเืกระจายตัวออกไปไกล อสูรที่ค่อนข้างอ่อนไหวในระยะร้อยลี้ล้วนแต่ได้กลิ่นคาวเืที่ว่านี้ทั้งหมด ...
ดังนั้น เลยมีอสูรอีกจำนวนมากมารวมตัวกันที่นี่ แล้วก็ทำให้เกิดการฆ่าฟันกันอย่างดุเดือด
“โฮก!”
“ ... โฮก! โฮก! โฮก!!”
“ตู้ม! ตู้ม! ... ตู้ม! ตู้ม! ... ”
คลื่นทะเลทรายซัดรุนแรงมาก อสูรเข่นฆ่ากันเองมากขึ้น ทั้งหมดเริ่มควบคุมไม่ได้แล้ว!
ตามหลักแล้ว การเข่นฆ่าของเหล่าอสูรจะยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ แต่ทันใดนั้นเอง ในขณะที่ไม่ได้ทันได้สังเกต เสียงเคลื่อนไหวก็ค่อยๆ นิ่งลง แล้วเหล่าอสูรก็หยุดฆ่าฟันกันเองทันที
ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีความเคลื่อนไหวอะไรเลย แต่พวกมันกลับหยุดลงอย่างน่าประหลาดใจ สายตาที่ฆ่าฟันกันอย่างดุเดือดก่อนหน้านี้มันแปรเปลี่ยนเป็สายตาที่หวาดกลัว!
มีอสูรกลุ่มใหญ่จำนวนหนึ่งเริ่มที่จะดำดิ่งกลับลงไปในใต้ท้องทะเลทราย ไม่ได้มีใจอยากจะสู้ต่ออีกแล้ว ฉลามปากสีเืที่กัดกินทุกอย่างด้วยความว่องไวก็แหวกว่ายหนีไปอย่างรวดเร็ว เต่าทะเลน้ำหนักมากที่มีพลังป้องกันที่น่าทึ่ง ก็หดหัวและหางเข้ากระดองไปอย่างรวดเร็วจนเหลือแค่กระดองอย่างเดียว แล้วปล่อยตัวให้จมลงใต้ทะเลทราย
ส่วนเ้าหมึกั์เองก็รีบเก็บหนวดที่แข็งแกร่งดั่งเหล็กทั้งแปดเส้นของตัวเองกลับ ก่อนจะปล่อยหมึกสีดำจำนวนมากออกมา แล้วรีบตะเกียกตะกายหนีไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน ...
