“รายงานฮูหยินผู้เฒ่า หลังจากคุณหนูเชวียนเชวียนได้รับการตรวจจากท่านหมอ อาการก็ดีขึ้นมาก เพียงแค่อารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าใด วางใจเถิด ทั้งหมดล้วนดีขึ้นหมดแล้วเ้าค่ะ”
ฮูหยินผู้เฒ่าพยักหน้า มองการแต่งกายของตนเองในกระจกอย่างพอใจ แล้วลูบผมสีขาวทั้งศีรษะก่อนจะถอนหายใจ
“เฮ้อ แก่แล้ว ก็ยิ่งคิดถึงเหล่าอู่ตอนเป็เด็ก เขาในตอนนั้นดื้อมาก ออกไปเที่ยวเล่นด้านนอก กลับมาไม่บอกข้าสักคำ จนกระทั่งบรรดาแม่นมแอบมารายงานหลังจากนั้น ข้ายังแสร้งทำเป็ไม่รู้เื่ เขาในตอนนั้นชอบทำให้คนแก่อย่างข้าดีใจ”
“เหอะๆ ตอนเป็เด็กมีผู้ใดบ้างไม่ดื้อกันเ้าคะอย่างการกระทำของคุณชายห้าถือว่าหาได้น้อยแล้ว ได้ยินมาว่าคุณชายใหญ่ คุณชายรองในเรือน ตอนเด็กๆ ดื้อยิ่งกว่านี้อีกนะเ้าคะ”
“อืมใช่ แน่นอนสิ เสียดาย พวกนั้นล้วนแต่เป็คนที่ถูกสุราเมรีมอมเมา จวนโจวของพวกเราจึงยิ่งตกต่ำลงทุกวัน งานรวมตัวประจำปีที่สกุลหลักในเมืองหลวงคราวนี้ ไม่รู้ว่าจะเลือกใครไปก่อน”
หงเอ๋อร์เงียบไป ไม่ได้พูดอีก
มีเื่เกี่ยวกับในเรือน นางไม่สามารถพูดได้ถึงได้ก็ไม่พูด
กลับเป็ชุนเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้างรับคำนี้
“จริงสิฮูหยินผู้เฒ่าเ้าคะ ได้ยินคนในเรือนของฮูหยินใหญ่พูดว่า หลายวันมานี้ ฮูหยินใหญ่กำลังโวยวายว่าปวดท้องเ้าค่ะ ก่อนหน้านี้เพราะว่าต่อปากกับคุณชายใหญ่ไป วันต่อมาจึงเอาแต่นอนปวดท้องอยู่บนเตียง เหล่าป้าแม่บ้านได้ให้ทาสมาโน้มน้าวว่าควรเชิญท่านหมอมา ให้ตรวจดูว่าฮูหยินใหญ่จะคลอดก่อนกำหนดหรือไม่เ้าค่ะ”
พอพูดถึงสะใภ้ของหลานคนโตจะคลอดลูกก่อนกำหนด ฮูหยินผู้เฒ่าจึงใส่ใจกับเื่นี้
“อืม เช่นนั้นก็ไปดูเถิด หากสามารถคลอดลูกชายออกมาได้ ย่อมถือว่าเป็เื่น่ายินดีของจวนโจว จวนของพวกเราในตอนนี้ยิ่งตกต่ำลงเรื่อยๆ หากเป็เช่นนี้ต่อไป คนที่จะเป็ผู้สืบทอดน้อยลงแล้วจะอยู่ได้อย่างไร?”
เื่ที่เกี่ยวข้องกับหลาน เดิมทีฮูหยินผู้เฒ่าที่จะไปหาเชวียนเชวียน ตอนนี้เปลี่ยนความคิดเดินไปทางเรือนของฮูหยินใหญ่
หงเอ๋อร์กวาดตามองชุนเอ๋อร์ที่เดินนำทางด้วยรอยยิ้มแล้ว ก็ถอนหายใจในใจเบาๆ
เมื่อวาน นางเห็นชุนเอ๋อร์ถูกคนในเรือนของฮูหยินใหญ่ลากตัวไปดื่มสุรา
เกรงว่าคำพูดในวันนี้ของนาง เป็คนในเรือนของฮูหยินใหญ่สั่งมา
หากฮูหยินใหญ่คลอดลูกชายออกมา เกรงว่าเชวียนเชวียน...
เมื่อคิดถึงเชวียนเชวียน หงเอ๋อร์ได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ
ตอนนี้เด็กคนนั้นได้รับความรักมากที่สุด แต่หากฮูหยินใหญ่คลอดลูกชายออกมา ตำแหน่งของเชวียนเชวียนย่อมจะค่อยๆ อันตรายแล้ว
หากคุณชายห้าอยู่ที่เรือน บางทีความรักทั้งหมดนี้อาจอยู่นานอีกสักหน่อย แต่ปัญหาในตอนนี้คือคุณชายห้าไม่ได้อยู่ในเรือน เด็กคนนี้...
แววตาของหงเอ๋อร์หม่นลง มีความคิดที่ไม่้าจะสนใจเื่นี้
แต่พอคิดถึงร่างของคุณชายห้า ในใจของนางพลันอ่อนยวบลง
ในจวนนี้ บุรุษคนเดียวที่นางต้องใจ มีแค่คุณชายห้าเพียงคนเดียว ทั้งหมดของเขา นางมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบปกป้องให้ดี
หลังจากแอบสาบานในใจแล้ว หงเอ๋อร์จึงหลุบตาลง เดินตามไปยังเรือนใหญ่ด้วยท่าทางที่เหมือนจะนิ่งสงบ
ฮูหยินใหญ่ที่ยังแทะเมล็ดทานตะวันอยู่บนตั่ง ครั้นได้ยินว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะมาหาตนจึงรีบยกจานเมล็ดทานตะวันออกไป ส่วนนางก็นั่งกุมท้องร้องโอดโอยไม่หยุด
เหล่าป้าแม่บ้านที่คอยดูแล และพวกสาวใช้เข้ามาพัดวีทันที
ตอนที่ฮูหยินผู้เฒ่าเข้าห้องมา จึงเห็นภาพความวุ่นวายนี้
“นายหญิง ท่านจะต้องอดทนนะเ้าคะ ท่านหมอบอกแล้วว่า ท่านครรภ์สองแล้ว จะต้องสงบใจสักหน่อย อย่าให้หงุดหงิดจนกระทบเด็กในท้องนะเ้าคะ”
“ฮือ ข้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว เด็กคนนี้ไม่อยากจะคลอดแล้ว ท่านนักพรตบอกแล้วว่า ในห้องนี้มีคนที่มีกลิ่นอายหยินรุนแรง หากยังทรมานเช่นนี้ต่อไป ลูกของข้าคงจะคลอดออกมาไม่ได้ ฮือ...ชีวิตข้าช่างอาภัพ แม้จะเป็ฮูหยินใหญ่ของที่นี่ แต่มีกี่คนที่เห็นข้าเป็ฮูหยินใหญ่กัน”
คำพูดนี้ทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าที่ได้ยินถึงกับเลิกคิ้วสูง
“สะใภ้ใหญ่ เ้าพูดจาเช่นนี้ทำไมกัน? เ้าคือฮูหยินใหญ่ของจวนนี้ หรือคนอื่นยังสามารถคิดว่าเ้าเป็แมลงตัวหนึ่ง? เหอะ วันๆ เอาแต่ต่อสู้กับคนอื่นเขา ไม่รู้จักหากินให้อิ่มจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน”
นางตะคอกออกมาเช่นนี้ ฮูหยินใหญ่จึงมองไปทางนางด้วยดวงตาที่มีน้ำตาเอ่อคลอ ท่าทางเหมือนจะร้องไห้
มองนางที่หอบหายใจ ท้องโตๆ นั่นกลมเหมือนลูกหนัง ในที่สุดใจของฮูหยินผู้เฒ่าก็อ่อนยวบ จึงพูดเสียงอ่อนออกมา
“อย่างไรเสียก็ใกล้จะเป็มารดาของลูกทั้งสองแล้ว แม้คนโตจะไม่ได้รับการสั่งสอนที่ดี แต่เ้าก็อย่าได้ทำผิดพลาดเลย กำจัดความคิดด้านลบพวกนั้นออกไป แล้วเลี้ยงดูลูกให้ดี อย่าทำร้ายหลานของสกุลข้าอีกเลย”
ฮูหยินใหญ่ถึงได้สงบใจลงมาได้ แต่กลับกัดริมฝีปากไม่พูดอะไรออกมา
ป้าแม่บ้านที่อยู่ด้านข้าง จู่ๆ กลับคุกเข่าลงแล้วเอาศีรษะโขกพื้น
“ฮูหยินผู้เฒ่า ฮูหยินผู้เฒ่าเ้าคะ ขอร้องท่านเถิด ขอให้ท่านช่วยชีวิตฮูหยินใหญ่ของพวกเราด้วยเถิด”
ป้าแม่บ้านสองคนนั้น ทำสีหน้าหวาดกลัว ร้อนใจราวกับเห็นผี แต่ฮูหยินใหญ่กลับร้องไห้ไม่หยุด
จิตใจถูกเสียงร้องไห้จนเริ่มหวั่นวิตก ฮูหยินผู้เฒ่าโมโหแล้ว
“ร้องไห้หรือ ร้องไห้ มีเื่อะไรเหตุใดไม่พูดดีๆ ไม่ต้องมาร้องไห้กับข้าที่นี่ ข้ายังไม่ตาย พวกเ้าแย่งเป็ลูกกตัญญูที่ไหน? เ้าพูดกับข้ามาให้ดี บ่าวของจวนสกุลโจวของข้ายืนตรงนี้ดีๆ เหตุใดจึงจะตายจะเป็ได้?”
ป้าแม่บ้านที่ถูกชี้ขดตัวมองเหล่าสาวใช้ที่อยู่ด้านหลังของฮูหยินผู้เฒ่า ด้วยท่าทางที่อยากพูดแต่ก็ไม่พูด หงเอ๋อร์ขมวดคิ้ว ในใจยิ้มเย็น
ดูเหมือนว่า คนกลุ่มนี้จะหาเื่ไปวันๆ นะ
การที่เชวียนเชวียนอยู่ที่นี่เป็ประเด็นหลักของพวกนางอยู่มาก คงไม่ได้เอาโคลนมาสาดใส่ตัวของเสี่ยวเชวียนเชวียนใช่หรือไม่?
เมื่อคิดเช่นนี้ คิ้วของหงเอ๋อร์ขมวดเป็ปม นางกวาดตามองป้าแม่บ้านที่คุกเข่าอยู่คนนั้นอย่างนิ่งสงบ
ป้าแม่บ้านมองไปทางฮูหยินผู้เฒ่า “ฮูหยินผู้เฒ่า ข้าเพียงคุกเข่าทำความเคารพเท่านั้นเ้าค่ะ!”
มีหรือที่ฮูหยินผู้เฒ่าจะปล่อยเื่นี้ไป นางร้องเหอะเสียงเย็น
“ป้าๆ เช่นพวกเ้า ่นี้ถูกเลี้ยงดูอย่างดีเกินไปหรือ พอไม่ได้ถลกหนังของพวกเ้า ตอนนี้กลับเริ่มแสดงกิริยาแล้ว? อา แสดงสิ แสดงสิ มีคำพูดใดที่ไม่สามารถพูดกับข้าและบรรดาสาวใช้อย่างนั้นหรือ ตอนนี้เ้าพูดออกมาตามจริง หากไม่พูดมันออกมา วันนี้ข้าจะไม่ปล่อยคนแก่เช่นพวกเ้าไป แต่ละคนไม่มีศีลธรรมเอาเสียเลย เห็นผู้อื่นดีกว่าไม่ได้เลยใช่หรือไม่ เฮ้อ ไม่มีเหตุผล วันนี้ข้าจะเอาพวกเข้าออกไปขาย”
คำขู่นี้ ทำให้สองป้าแม่บ้านที่ยังลังเลอยู่ใ มองไปทางฮูหยินใหญ่ด้วยความหวาดกลัว
แม้ฮูหยินใหญ่จะกำลังเช็ดน้ำตาให้ตนเองอยู่ แต่รังเกียจสองคนนี้ที่ไม่ได้ช่วยสิ่งใด ดึงไม่ขึ้น นางถลึงตามองสองคนแก่ก่อนจะสะอึกสะอื้นร้องไห้ ท่าทางอ่อนนุ่น
ยามนี้ภายในเรือนล้วนได้ยินเสียงร้องไห้ด้วยความน้อยใจของนาง
“พูด รีบบอกข้ามา ข้าทนฟังเสียงร้องเหมือนแมวร้องอยู่ข้างหูไม่ได้”ฮูหยินผู้เฒ่าโกรธจนอยากตะคอกด่าออกมา แต่เห็นท้องของฮูหยินใหญ่ จะอย่างไรก็ด่าไม่ออก ดังนั้นจึงทำได้แค่ถลึงตาใส่ป้าแม่บ้านพวกนั้น
ยังมีพวกสาวใช้ตะคอกด่าด้วยความโกรธ ป้าแม่บ้านรับไม่ไหว คุกเข่าแล้วไม่ลังเลอีกต่อไป ตัดสินใจพูดออกมา
“เื่นั้น ฮูหยินผู้เฒ่าอย่าโมโหเลยนะเ้าคะ เื่นี้ เื่นี้ เมื่อหลายวันก่อน ท้องของฮูหยินใหญ่ไม่ค่อยสบายเท่าไร เรียกท่านหมอมาตรวจแล้วบอกว่าไม่เป็อะไร แต่ตอนกลางคืนฮูหยินใหญ่นอนไม่หลับดี ฝันน่ากลัว ทั้งยังฝันถึงพวกเด็กหัวโต เพราะเหตุนี้ เฉียนฮูหยินจึงไปหาคนมาทำนายให้กับฮูหยินใหญ่ พอทำนายดูก็น่ากลัวมากนักเ้าค่ะ! บอก บอกว่าในเื่นี้ของพวกเรามีดาราหยินเป็ปรปักษ์กับฮูหยินใหญ่ของพวกเรา หากไม่กำจัดดาราหยินไป เกรงว่า เด็กในท้องของฮูหยินใหญ่ จะ...จะรักษาเอาไว้ไม่ได้...”
หงเอ๋อร์ได้ยินก็กำผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น ริมฝีปากค่อยๆ แย้มยิ้มออกมาเบาๆ
ฮูหยินใหญ่คนนี้ เป็คนที่ว่างมากจริงๆ
ตั้งครรภ์จนอีกสองเดือนจะคลอดออกมาแล้ว ตอนนี้กลับมาโวยวายเื่ภูติผีปีศาจเช่นนี้
เกรงว่า ต่อไปคงเชิญเถี่ยวเสิน [1] มา อีกทั้งดาราหยินที่พูดถึงนี้คือเชวียนเชวียน...
หงเอ๋อร์หลับตาลง ในใจได้ตัดสินใจแล้ว
นางยิ้มสดใสมองไปทางฮูหยินผู้เฒ่า “ฮูหยินผู้เฒ่าเ้าคะ ท่านผ่อนคลายความโกรธลงเถิดเ้าค่ะ อย่าเอาเื่ไร้สาระพวกนี้มาใส่ใจมากนักเลย หากโกรธจนส่งผลกระทบต่อร่างกายไป มันไม่คุ้มหรอกเ้าค่ะ”
ฮูหยินผู้เฒ่าถอนหายใจออกมาหลายครั้ง จากการปลอบใจของหงเอ๋อร์นางถึงได้หายใจสงบลงแล้ว
“ได้ ได้...”
นางชี้ไปทางป้าแม่บ้านตรงหน้า และฮูหยินใหญ่ด้วยสายตาไม่ชัดเจนก่อนจะหมุนตัว “ข้ารู้แล้วว่าเป็อย่างไรแล้ว แค่เชิญเทพมาระบำกำจัดดาราหยินไป ส่วนดาราหยินนี่ก็ไปหามันออกมาก็แค่นั้น”
ในจวนมีดาราหยินเกิดขึ้นมา เื่นี้พูดออกไปแล้วไม่ค่อยจะดีเท่าใดนัก
แม้ฮูหยินผู้เฒ่าจะมีอำนาจมากที่สุด ทว่านางไม่สามารถกดเื่นี้ลงได้เื่ในวันนี้ ไม่ต้องให้นางปกปิดเื่ เกรงว่าพอถึงกลางคืน คนทั้งเมืองต่างรู้กันทั่วแล้ว
ดังนั้น ถึงนางจะว่าด้านในนี้มีความผิดปกติอยู่ แต่ไม่สามารถห้ามไม่ให้เื่มันพัฒนาไปได้
“ฮูหยินผู้เฒ่า ขอบคุณท่านเหลือเกิน ครั้งนี้จะต้องหาดาราหยินในจวนให้เจอจงได้ หากหาออกมาได้แล้วจะต้องจัดการให้ดี ไม่เช่นนั้น หากลูกของข้าไม่สามารถคลอดออกมาได้และจากไป ฮือ ข้าจะขอโทษกับบรรพบุรุษได้อย่างไร”
ฮูหยินใหญ่ที่เป็เครื่องร้องไห้ก็ร้องออกมาอีกรอบ การร้องนี้ทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าหน้ามืด มือของนางวางไว้บนมือของหงเอ๋อร์ “หงเอ๋อร์ กลับ กลับ”
“เ้าค่ะ ฮูหยินผู้เฒ่า”
หงเอ๋อร์จูงมือนางค่อยๆ เดินออกไปนอกเรือนอย่างระมัดระวัง ที่หางตาได้เห็นรอยยิ้มได้ใจของฮูหยินใหญ่ที่อยู่ในเรือนอย่างไม่ตั้งใจ
ใจของนางยิ่งหนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆ
สถานการณ์เช่นนี้ เหมือนจะแปลกมาก หากเกิดเื่กับเชวียนเชวียน นางจะเผชิญหน้ากับคุณชายห้าได้อย่างไร?
พอคิดถึงเื่นี้ ใจของหงเอ๋อร์ก็บีบแน่น
ตลอดทางกลับเรือน ฮูหยินผู้เฒ่าไม่ได้พูดสิ่งใดออกมา ใบหน้าทะมึนจนทำให้ผู้คนหวาดกลัว
ตอนใกล้จะถึงจวน ฮูหยินรองตามเข้ามาทำความเคารพ พอเห็นฮูหยินผู้เฒ่าจึงรีบคุกเข่าลงด้วยความหวาดกลัว
“ฮู...ฮูหยินผู้เฒ่าเ้าคะ ในจวนของพวกเรามีกลิ่นอายของหยินรุนแรงมาก เมื่อวาน อ้าวเฉวียน...อ้าวเฉวียน...ถูกิญญาร้ายโจมตี จนถึงยามนี้ก็ยังนอนอยู่ในห้องลุกไม่ขึ้นเลยเ้าค่ะ!”
เชิงอรรถ
[1] เถี่ยวเสิน เป็กิจกรรมพื้นเมืองโบราณตามความเชื่อว่าจะสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยได้ โดยที่มีคนคนหนึ่งทำท่าทางคล้ายมีเทพมาประทับร่างและลุกขึ้นมาเต้น
