“ข้ารีบนี่นาได้ เ้ามานั่งลงก่อน จากนั้นค่อย ๆเล่าให้ข้าฟังว่าตกลงแล้วเกิดเื่อะไรขึ้นกันแน่? ”
หลินเมิ้งหยาฉีกยิ้มจนเผยให้เห็นฟันสีขาวเรียงตัวสวยก่อนจะส่งแก้วชาให้ชิงหู
“เ้าเด็กน้อยเหตุใดเ้าจึงไม่ประหลาดใจเมื่อได้รู้ว่าฝูหรงโหลวเป็ของข้ากันเล่า? ”
ชิงหูนั่งลงท่าทางตื่นเต้น จิบชาเล็กน้อย
“กลิ่นของชามี่หลัวเหมือนกันกับฮวากูนอกจากเ้าแล้ว ก็ไม่มีใครสามารถหามันได้หรอก”
เขาส่ายหน้าชิงหูฉีกยิ้มกว้าง เสมือนจิ้งจอกได้กินเนื้อไก่
“ทั้งที่บอกว่าข้าเป็จิ้งจอกเ้าเล่ห์แต่ข้าว่าเ้าต่างหากที่เป็เช่นนั้น แพ้ให้แก่เ้าเพียงคนเดียว”
คุณชายตู้ที่กลายเป็ขยะไปแล้วถูกพวกลูกน้องในร้านฝูหรงโหลวซ้อมจนพ่ายแพ่
ตอนนี้กำลังนั่งโอดครวญอยู่ที่ชั้นล่าง
คาดว่าลูกค้าคนอื่นคงเห็นบ่อยจนชินแล้ว
เมื่อได้ไตร่ตรองดูอีกรอบร้านของชิงหูจะต้องไม่มีพวกนักเลงหัวไม้มาสร้างความวุ่นวายอย่างแน่นอน
“เ้าจะจัดการพวกนั้นอย่างไร?”
หากชิงหูอยู่ไม่มีใครสามารถแตะต้องหลินเมิ้งหยาได้
นางหยักยิ้มอย่างผ่อนคลายหลินเมิ้งหยามิได้รู้สึกอารมณ์ดีเช่นนี้มานานแล้ว
“ฆ่าเลาะเนื้อออกมาทำไส้ซาลาเปา”
ชายหนุ่มหยักยิ้มมีเลศนัย ชิงหูพยายามแสดงท่าทางเสมือนฆาตกรโรคจิต
เมื่อสีหน้าเ้าเล่ห์ประดับอยู่บนใบหน้าอ่อนเยาว์หล่อเหลาท่าทางของเขาจึงเหมือนคนโรคจิตอย่างมาก
แม้แต่สาวใช้ทั้งสี่ยังอดไม่ได้ที่จะลูบแขนของตนเองแล้วขยับเท้าถอยหลัง
นางถลึงตาใส่เขาหนึ่งทีเ้าจิ้งจอกบ้า พอกลับมาก็หาเื่ทันที
“เพียะ” หญิงสาวตบกะโหลกเขาหนึ่งครั้ง ชิงหูจึงเลิกแสดงท่าทางโรคจิต
“เอาเถิด รีบบอกข้ามาได้แล้วว่าเ้าเจออะไรบ้าง มิเช่นนั้นข้าจะตัดลิ้นเ้ามาดองเหล้ากิน”
ชิงหูเบะปากแสร้งทำท่าทีประหนึ่งสาวน้อยถูกรังแก
หากเอ่ยว่าเขาโรคจิตเช่นนั้นหลินเมิ้งหยาก็มิต่างอะไรจากโจรเถื่อน
เฮ้อโชคร้ายจริง ๆ
“เป็ไปตามที่เ้าคาดคนที่ตายไปคือคุณหนูใหญ่สกุลเยว่ที่เป็มารดาแท้ ๆ ของเยว่ถิง ซ้ำข้ายังได้มาอีกข่าวหนึ่งที่อาจเกี่ยวข้องกับเื่นี้”
สกุลซูของแม่แท้ๆ เยว่ถิง แม้จะอุดมสมบูรณ์ แต่กำลังเผชิญหน้ากับความเสื่อมโทรม
ยากมากกว่าจะได้ใต้เท้าเยว่มาเป็ลูกเขยซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาไม่มีทางปล่อยไปง่าย ๆ
คุณหนูใหญ่ประจำสกุลซูคือซูเหม่ยอี้มีความรักอันลึกซึ้งกับใต้เท้าเยว่แต่น่าเสียดายที่เจ็บป่วยสาหัส
“ฉะนั้นคุณหนูรองสกุลซูจึงสวมรอยเป็พี่สาวจนกลายมาเป็ฮูหยินเยว่อย่างนั้นหรือ?”
หลินเมิ้งหยาวิเคราะห์แต่ยังมีอีกเื่ที่นางยังไม่เข้าใจ
มิใช่ว่าน้องสาวฝาแฝดของฮูหยินเยว่ตัวจริงยังมิออกเรือนหรอกหรือ?เหตุใดจึง....
“น้องสาวนามว่าซูเหม่ยหยุนเหตุผลที่ยังมิออกเรือนก็เพราะประพฤติตัวไม่เหมาะสม ดังนั้นจึงถูกถอนหมั้นข้ายังได้ยินความลับจากสกุลซูมาอีกว่าซูเหม่ยหยุนแอบมีความสัมพันธ์กับทาสในเรือนอีกทั้งยังคลอดลูกสาวออกมาหนึ่งคน แต่มิรู้ว่าลูกสาวคนนั้นเป็ตายร้ายดีอย่างไร”
ชิงหูเล่าทุกอย่างที่ได้ยินให้หลินเมิ้งหยาฟังสำหรับตระกูลของชนชั้นสูง เื่นี้เปรียบเสมือนเื่เน่าเฟะของวงศ์ตระกูล
ทว่าหลินเมิ้งหยายังคงสงสัย
หากเอ่ยว่าสกุลซูกลัวจะเสียลูกเขยัอย่างใต้เท้าเยว่ไปจึงส่งลูกสาวคนเล็กมาสวมรอยแทน ดูเหมือนจะเป็เื่ที่เหลือเชื่อเกินไปหน่อย
เหตุเพราะถึงแม้ฮูหยินเยว่จะตายไปแล้วแต่สกุลซูก็ยังสามารถส่งลูกสาวคนเล็กเพื่อแต่งงานเข้ามาคอยรับใช้ใต้เท้าเยว่ได้
เื่แบบนี้ก็มีให้เห็นอยู่ร่ำไป
ส่วนเื่ที่น่าตกตะลึงก็คือคุณหนูรองผู้สูงสง่าแห่งสกุลเยว่กลับมีความสัมพันธ์ลับกับทาสรับใช้
เหตุใดสองพี่น้องจึงต่างกันราวฟ้ากับเหวเช่นนี้?
“เ้าเด็กน้อยกำลังคิดอะไรอยู่อย่างนั้นหรือ? ”
โบกไม้โบกมือด้านหน้าหลินเมิ้งหยามองดูหญิงสาวที่ดึงสติกลับมาได้หลังจากเหม่อลอยไปพักใหญ่ ชิงหูหัวเราะก่อนจะฉีกขนมฝูหรงเกายัดเข้าปากหลินเมิ้งหยา
“อำอะไอเอี่ย...”
ส่งเสียงอู้อี้หลินเมิ้งหยาเพิ่งพบว่าปากของตนเองเต็มไปด้วยขนมฝูหรงเกา
นางใช้ฟันเคี้ยวอาหารแล้วกลืนลงไป เพิ่งรู้ว่าขนมเค้กชิ้นนี้หอมอร่อยเหลือเกิน
“ข้ากำลังคิดอะไรอย่างนั้นหรือข้าคิดว่าเื่นี้จะต้องมีเงื่อนงำอะไรบางอย่างที่พวกเรายังไม่รู้แต่เพราะเวลาผ่านไปนานแล้วฉะนั้นคนที่รู้เื่ก็เห็นจะมีแต่เ้าตัวเพียงเท่านั้น”
สมองของหลินเมิ้งหยาประมวลผลอย่างรวดเร็วนางอยากรู้ว่าเื่เ่าั้เกี่ยวข้องกันอย่างไร
ชิงหูแอบยิ้มก่อนจะป้อนขนมเปี๊ยะอบกรอบเข้าปากนาง
เวลาเ้าเด็กน้อยใช้ความคิดช่างน่าสนุกยิ่งนัก
ไม่ว่าจะป้อนอะไรนางก็กินเข้าไปจนหมดอย่างว่าง่าย
ทั้งที่ไม่ได้เจอกันเพียงไม่กี่วันแต่เ้าเด็กน้อยกลับผอมลงมาก ตอนนี้เริ่มไม่น่ารักแล้ว
“ใช่แล้วเื่นี้ผ่านไปนานมากแล้ว คนที่เกี่ยวข้องก็ล้มหายตายจากไปแต่หลังจากที่ข้าตรวจสอบศพดูจึงได้รู้ว่าซูเหม่ยอี้อาจจะไม่ได้ตายเพราะอาการป่วยแต่ถูกวางยาตาย”
หาก้าตรวจสอบให้มั่นใจว่าใช่ซูเหม่ยอี้หรือไม่เขาจะต้องเปิดฝาโลงออกดู
ชิงหูอาศัยอยู่ในเจียงหูมาอย่างเนิ่นนานเขาที่ได้เห็นซากศพมากมายจึงดูสภาพการณ์ออก
“วางยา?หากป่วยหนักและกินยามากเกินไป ศพก็อาจจะกลายสภาพเสมือนคนที่ถูกวางยาพิษ”
เมื่อพูดถึงเื่ยาหลินเมิ้งหยาเอ่ยออกมาอย่างมั่นใจ
ชิงหูพยักหน้าลงมือขวาชันแก้ม สมองกำลังคิดหาวิธีขุนหลินเมิ้งหยาให้อ้วนขึ้น
“เพราะฉะนั้นข้าถึงบอกว่าอาจจะอย่างไรเล่ายิ่งไปกว่านั้นศพถูกฝังนานมากแล้ว ดังนั้นเื่นี้คงพิสูจน์อะไรไม่ได้”
ในสมัยปัจจุบันการชันสูตรศพถือเป็เื่ที่พบเห็นได้บ่อยครั้ง
แต่ในสมัยโบราณกลับเป็เื่แปลกประหลาด
ทันทีที่สาวใช้ทั้งสี่ได้ยินชิงหูเอ่ยว่าได้เปิดฝาโลงศพออกขนบนร่างของพวกนางก็ลุกชัน
เหตุใดนายหญิงจึงมีท่าทางเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเช่นนั้นเล่า?
ทั้งสองคนแปลกประหลาดมากเหลือเกิน
“หากข่าวที่ว่าศพของคุณหนูรองแห่งสกุลซูถูกขโมยออกจากสุสานไปแพร่กระจายออกมาเ้าคิดว่าฮูหยินเยว่จะเผยคำใบ้อะไรออกมาหรือไม่?”
นางยกถ้วยชามุมปากของหลินเมิ้งหยาหยักยิ้มมีเลศั์
ชิงหูรู้สึกสนใจขึ้นมาทันทีดวงตาเปล่งประกายจ้องมองทางหลินเมิ้งหยา
“เ้าเด็กน้อยนี่เ้าคิดจะวางแผนไปกลั่นแกล้งคนอื่นอีกแล้วอย่างนั้นหรือ? ”
เขาชอบท่าทางชั่วร้ายของหลินเมิ้งหยาในขณะนี้เหลือเกินท่าทางหื่นกระหายของนาง เสมือนคนที่คิดหาวิธีแก้แค้นผู้อื่นอยู่
“ไม่นานเ้าก็จะรู้”
ทั้งสองสบตากันดวงตาเปล่งประกาย
ทุกครั้งที่แสดงท่าทางเช่นนี้จะต้องมีคนซวย
หัวใจของหลินเมิ้งหยามีลางสังหรณ์บางอย่าง
คิดวนไปวนมา แต่ยังคิดไม่ออก
ทุกคนล้วนพูดว่าคุณหนูใหญ่สกุลซูเป็เพื่อนรักของฮองเฮา
แต่ตอนนี้คนที่อยู่ใกล้กับฮองเฮาคนนั้นกลับเป็คุณหนูรองสกุลซู
หรือฮองเฮาที่ฉลาดหลักแหลมจะมองเื่นี้ไม่ออก?
เื่นี้แปลกประหลาดยิ่งนัก
หากนางสมรู้ร่วมคิดกับฮองเฮาจริงๆ แล้วล่ะก็ แม้แต่เื่ที่พี่เยว่ถิงถูกข่มขืนก็จะถูกคลี่คลาย
ส่วนพี่ชายเฮ้อ นางยังไม่รู้จะบอกเขาอย่างไรดี
ปวดหัวจังเลยหากพี่ชายรู้ความจริง เขาจะต้องเอาเื่จนถึงที่สุดอย่างแน่นอน
“เมื่อครู่เ้ายังยิ้มเหมือนจิ้งจอกเ้าเล่ห์อยู่เลยเหตุใดจึงทำหน้าตาเหมือนคนกำลังทรมานเช่นนั้นเล่า?”
ดวงตาคู่งามมองเด็กน้อยตรงหน้าด้วยความเ็ปเขาไม่อยากให้หญิงสาวตรงหน้าเสียใจแม้แต่นิดเดียว
“ข้ากำลังคิดว่าจะพูดกับท่านพี่เื่นี้อย่างไรดีได้ยินท่านลุงเยว่บอกว่าอีกหนึ่งเดือนพี่ชายก็จะกลับมาที่เมืองหลวงแล้วหากท่านพี่รู้เื่ที่เกิดขึ้นกับพี่เยว่ถิงแล้วล่ะก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรลงไปบ้าง”
เื่นี้ถูกเล่าขานไปทั่วทั้งเมืองหลวง
หากมิใช่เพราะนางกำชับทุกคนในจวนเอาไว้ว่าห้ามมิให้เข้าไปรบกวนพี่เยว่ถิงแล้วล่ะก็
เกรงว่าป่านนี้พี่เยว่ถิงคงฆ่าตัวตายไปนานแล้ว
“แต่ข้าได้ยินมาว่าพี่ชายของเ้าออกรบมานานหลายปีแล้วอุปนิสัยสุขุมรอบคอบ เ้ายังสงบนิ่งเทียบเขาไม่ได้เลยด้วยซ้ำข้าเชื่อว่าเขาจะต้องไม่ทำเื่ที่ไม่ดีอย่างแน่นอน”
การตายของหูลู่หนานเสมือนการแก้แค้นให้กับพี่เยว่ถิง
แต่หลินเมิ้งหยารู้ดีเื่นี้จะต้องเกี่ยวข้องกับไท่จื่อ ฮองเฮาและฮูหยินเยว่อย่างแน่นอน
คนกลุ่มนี้มักจะวางแผนทำร้ายนางทำร้ายหลงเทียนอวี้ ซ้ำยังทำร้ายพี่เยว่ถิง
ดังนั้นนางจะไม่มีวันปล่อยพวกเขาไป
นางจะทำให้พวกเขาต้องชดใช้
“หวังว่าจะเป็เช่นนั้นจริงสิ เ้าเป็คนออกแบบร้านฝูหรงโหลวเองอย่างนั้นหรือ?”
คิดไม่ถึงเลยว่าชิงหูจะมีความสามารถเช่นนี้นางคงประเมินเขาต่ำไปสินะ
คนที่ถูกชมรีบยืดอกชูคอ
หางของเขาแทบจะชี้ขึ้นฟ้าแสดงท่าทางประหนึ่ง้าให้นางรีบชมเขาอีก
“แน่นอนมั่วหราน ชิงหลี รีบมาคำนับเ้านายคนใหม่ของพวกเ้า นับั้แ่วันนี้เป็ต้นไป เ้าเด็กน้อยคนนี้คือเ้านายคนใหม่แห่งฝูหรงโหลว!”
ชิงหูสนใจเป็อย่างมากเอ่ยเพียงไม่กี่ประโยค ก่อนจะยกร้านฝูหรงโหลวให้กับนาง
ยังไม่ทันจะสิ้นเสียงหนึ่งชายหนึ่งหญิงเดินเข้ามาในห้อง
แม้ฝ่ายชายจะหน้าตาธรรมดาแต่กลับมีความเป็ผู้ใหญ่และสุขุม ส่วนหญิงสาวงดงามโดดเด่น ใบหน้าท่าทางฉลาดเฉลียว
“มั่วหรานชิงหลี คำนับนายหญิง”
ทั้งสองส่งเสียงพร้อมกันทว่าหลินเมิ้งหยากลับมิได้ตอบรับในทันที
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าชิงหูเป็ผู้ออกแบบตกแต่งร้านฝูหรงโหลวแห่งนี้
ทว่าพริบตาเดียวร้านนี้กลับตกเป็ของนาง
ไม่เร็วไปหน่อยหรือ
“เอ๋?มอบให้ข้า? เ้าป่วยหรือเปล่า? ”
หลินเมิ้งหยาหันหน้าหาชิงหูยกมือขึ้นทาบหน้าผากเขา มืออีกข้างทาบหน้าผากตนเอง
เหมือนจะไม่ได้มีไข้นี่นา
มือเล็กเปลี่ยนเป็ตบหน้าเขาแทนเสียงเพียะเบาๆ ดังขึ้น
ทันใดนั้นร่องรอยของความตื่นตระหนกวาดขึ้นบนดวงตาของมั่วหรานและชิงหลี
์ทรงโปรดผู้หญิงคนนี้ไม่ถูกนายท่านฆ่า ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ
“เ้าเด็กน้อยแตะอั๋งข้าอีกแล้วนะ”
แม้จะพูดเช่นนี้แต่ชิงหูกลับปล่อยให้หลินเมิ้งหยา “ทำลาย” ใบหน้าอันหล่อเหลาของตนเองอย่างอิสระ
ราวกับเพิ่งสังเกตเห็นสายตาของลูกน้องสายตาของพวกเขาแพรวพราวจนเกินไป
ชิงหูกรอกตาไปทางทั้งสองชำเลืองมองด้วยสายตาเ็า
“เอาล่ะไม่มีอะไรแล้ว พวกเ้าออกไปก่อน”
ทั้งสองรีบคำนับแล้วกลับออกไปหลินเมิ้งหยาหัวเราะคิกคักแล้วดึงมือกลับ
“ข้าไม่อยากได้ที่นี่ถูกสร้างขึ้นด้วยน้ำพักน้ำแรงของเ้า ถ้าข้าเอาไปตอนตายเ้าจะไม่มีเงินจัดงานศพนะ”
