“อาจารย์!”
ในขณะที่นักปราชญ์ชราฮุยจู๋กำลังต่อสู้กับศัตรูอยู่นั้นแน่นอนว่าเหล่าลูกศิษย์ทั้งหลายก็กำลังมาจากด้านในตัววัดเมื่อเห็นว่าหลินลั่วหรานะโขึ้นไปยังบนหลังคา แม้ว่าการลอบโจมตีจะดูน่าอายแต่ก็ไม่คิดว่าคนที่จะหยุดดาบของหลินลั่วหรานไว้จะเป็ฮุยจู๋
เ้าสำนักเสี่ยวอันอดที่จะส่งเสียงร้องใออกมาไม่ได้
หลินลั่วหรานรู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่าลงกลางตัวส่วนหญิงสาวสวมชุดดำก็หัวเราะคิกคักขึ้นมา ก่อนที่เสียงะโเรียก “อาจารย์” ของเสี่ยวอันเพื่อดึงดูดความสนใจของเธอออกไป เธอจึงพูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม “เป็เ้าสำนักที่หน้าตาคมคายดีนี่”
ดอกบัวสีดำถูกส่งออกไปจากมือก่อนจะลอยขึ้นไปตามลม และจับครอบคลุมเข้าที่ตัวของเสี่ยวอันเขาไม่ทันจะได้ตอบโต้อะไร ก็ถูกกลีบดอกบัวคลุมตัวเอาไว้เสียแล้วเมื่อดอกบัวสีดำลอยกลับมายังมือของหญิงสาวสวมชุดดำ มันก็มีขนาดเท่ากับดอกบัวธรรมดาส่วนเสี่ยวอันนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ใครจะไปคิดว่าหญิงสาวสวมชุดดำนี้เปลี่ยนเป้าหมายขึ้นมากะทันหันดังนั้นแม้แต่คนที่กำลังขัดขวางไม่ให้หลินลั่วหรานลงมืออย่างฮุยจู๋ก็ไม่ทันได้ช่วยลูกศิษย์ของเขา
แต่ในใจของหลินลั่วหรานกลับโล่งขึ้นมา เมื่อฮุยจู๋ขัดขวางเธอสมมุติฐานมากมายก็ไหลเข้ามาในหัว เธอยังคิดว่าฮุยจู๋นั้นเป็พวกเดียวกันกับหญิงสาวชุดดำเธอนั้นมีความลับอยู่มาก ดังนั้นจึงมีความคิดที่ “ชั่วร้าย” ขึ้นเมื่อตอนนี้เห็นว่าหญิงสาวชุดดำจับตัวเ้าสำนักเสี่ยวอันไปความสงสัยที่หลินลั่วหรานมีก็ลดลงไปมาก
เพียงแต่ ทำไมนักปราชญ์ชราฮุยจู๋ถึงต้องขัดขวางเธอล่ะ?
แส้หางม้าของฮุยจู๋ปลดปล่อยดาบของเธอลงก่อนจะโจมตีไปที่หญิงสาวชุดดำ หลินลั่วหรานมองไปยังสีหน้าของเขาอย่างพิจารณาแต่ก็ไม่ได้พบความผิดปกติอะไร ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ จะต้องมีสาเหตุอะไรสักอย่างแน่แต่ก่อนที่เธอจะเข้าใจนั้น เธอก็ไม่คิดจะลงมือทำอะไรอีกแล้ว
จากการมองดูแล้วเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้จะมาแก้แค้นเธอให้กับโจวเหย้าเวยแต่ว่าทำไมถึงไม่ลงมือที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ในตอนนั้นไม่มีใครได้ทันเตรียมตัวอีกทั้งยังถูกเธอทำเอาลุ่มหลงไปหมดนั่นไม่ใช่โอกาสที่ดีในการหว่านแหจับทีเดียวเหรอ?
ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเ้าอาวาสวัดชิงเฉิงนั้นก็เหมือนว่าจะไม่ใช่ธรรมดาทั่วไป...หลินลั่วหรานคิดไปถึงพวกคนที่เธอรู้จักหลังจากก้าวเข้ามาในเส้นทางการฝึกศาสตร์ที่ผ่านมาการไม่มีจุดอ่อนนั้นเป็ไปไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้มีจุดไหนที่เด่นขึ้นมาถ้าหากว่าทั้งหมดนี่ ั้แ่ที่เ้าอาวาสวัดชิงเฉิงคอยดูแลครอบครัวของเธอมาจนถึงการต่อสู้ใต้แสงจันทร์ในค่ำคืนนี้ ต่างก็เพื่อจุดประสงค์หนึ่ง มันก็คงเป็การเปิดเื่ที่ยาวนานมากเกินไป
ไม่น่าจะใช่แบบนั้น หลินลั่วหรานจับเจาเจี้ยนในมือแน่นแต่กลับได้ยินเสียงสงบนิ่งของฮุยจู๋ดังขึ้น “หากวันนี้เ้ายังดูไม่ออก ก็ปล่อยเขาไปเถอะ”
ที่แท้ พวกเขาก็รู้จักกัน!
หญิงสาวสวมชุดดำจัดการเช็ดคราบเืที่มุมปากออกแววตาเย้ายวนของเธอเกือบจะมีหยดน้ำไหลลงมา “ปล่อยเขา? เ้านักปราชญ์นี่ฝึกได้ไม่แย่เลยนี่น่าจะเป็ยาวิเศษที่ดีเลยนะ แล้วทำไมฉันจะต้องปล่อยเขาไปด้วยล่ะ?”
ฮุยจู๋ไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่หลินลั่วหรานกลับเกือบจะอ้วกออกมา เธอนึกไปถึงตอนที่หญิงสาวสวมชุดดำพูดก่อนออกมาจากบ้านของเธอว่าจะคุยเื่ศาสตร์ยาด้วยกัน ที่แท้ศาสตร์ยาของเธอ ก็ใช้คนเป็ๆ ในการทำยาวิเศษ?!
ฮุยจู๋ถอนลมหายใจออกมากระดาษสีเหลืองแปดแผ่นถูกปล่อยออกไปจากมือของเขา ก่อนที่มันจะพุ่งตรงเข้าโจมตีที่ตัวของหญิงสาวสวมชุดดำ
หลินลั่วหรานมองไปยังสถานการณ์ที่ดูคุ้นตาก่อนที่จะนึกไปถึงตอนที่เธอต่อสู้กับเหวินกวนจิ่งครั้งแรกขึ้นมาในทันทีเขาปล่อยแผ่นกระดาษที่สามารถเรียกสายฟ้าได้ออกมา...นี่คือ อักษรเวท?
แน่นอนว่าหญิงสาวสวมชุดดำจะต้องรู้จักมันมากกว่าหลินลั่วหรานเธอขยับตัวถอยหนีด้วยความรวดเร็วแต่กระดาษทั้งแปดแผ่นนั้นกลับตามติดตัวเธอราวกับแมลงวันมันติดอยู่รอบตัวเธอในระยะราวๆ หนึ่งฟุต หญิงสาวสวมชุดดำไม่อาจจะหลบไปไหนได้เธอใช้ดอกบัวสีดำขึ้นกันที่หน้าอก ก่อนที่มันจะปรากฏแสงสีดำออกมาและทำให้กระดาษเ่าั้ถอยออกไปกว่าสามฟุต!
“ยุทธอักษร! ตาเฒ่าฮุยจู๋ หลายปีที่ผ่านมานี้ พัฒนาขึ้นนี่!”
ยุทธอักษร! ในไข่มุกความทรงจำของท่านเทพป๋ายนั้นไม่ได้มีความรู้ด้านยุทธศาสตร์และอักษรเวทนัก ดูเหมือนว่าตัวของเธอจะไม่ถนัดด้านนี้เสียเท่าไรแต่ว่าหลินลั่วหรานนั้นไม่เคยลืมแผ่นหยกที่สามารถปกป้องชีวิตได้ อย่างที่ผู้บังคับบัญชาฉินเหล่าให้ฟังเลยสักครั้งเมื่อในตอนนี้เห็นว่าทั้งสองสามารถนำมารวมกันได้ เธอก็ยิ่งไม่อยากจะละสายตาไป
แม้ว่าดอกบัวสีดำจะจัดการทำให้กระดาษเวททั้งแปดใบถอยไปได้แต่ก็ทำให้มันได้มีเวลาในการเตรียมยุทธศาสตร์กระดาษทั้งแปดใบต่างเข้าประจำที่ของตัวเอง ในขณะที่แสงสว่างประกายออกมาเสร็จสิ้นกลิ่นหอมสะกดใจคนของหญิงสาวสวมชุดดำก็ราวกับถูกบางอย่างที่มองไม่เห็นทำให้สลายหายไป
เรียวนิ้วของฮุยจู๋เคลื่อนทับสลับกันไปราวกับมีเส้นด้ายที่มองไม่เห็นเชื่อมไปยังกระดาษทั้งแปดกระดาษเวทขยับไปตามการควบคุมของเขาอย่างไม่หยุดหย่อนทำให้เขาอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบกว่ามาก
หญิงสาวสวมชุดดำไม่พอใจอย่างมากที่ถูกจำกัดเอาไว้แบบนี้เมื่อเห็นว่ายุทธศาสตร์ยังไม่ได้ดำเนินไปถึงตอนเสร็จสมบูรณ์เธอนั้นไม่ได้รู้แนวทางของมันเลยแม้แต่น้อย การที่จะหาจุดสกัดสำคัญได้คงเป็เื่เพ้อเจ้อเกินไป แต่ว่านอกเสียจากการหาจุดบอดของยุทธศาสตร์แล้วก็ยังมีทางหลุดออกไปได้อยู่ นั่นก็คือ การใช้กำลังทำลายยังไงล่ะ!
หลินลั่วหรานยืนมองอยู่ข้างๆกระดาษเวทนั้นรายล้อมอยู่รอบตัวของหญิงสาวสวมชุดดำก่อนที่เธอจะสูญเสียการควบคุมทิศทางไปไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่อาจจะไปถึงกระดาษที่ห่างจากตัวเพียงไม่กี่ฟุตได้เลยในทางกลับกัน ยิ่งเธอดิ้นรนขัดขืนมากเท่าไร รอยแผลก็จะยิ่งปรากฏขึ้นบนร่างกายของเธอมากขึ้นเท่านั้นด้วยผิวพรรณที่ขาวสะอาดของเธอ มันก็ยิ่งทำให้รอยแผลเ่าั้เด่นชัดขึ้นมา
ความจริงแล้วจากในมุมมองของหญิงสาวสวมชุดดำด้านหน้าของเธอไม่ได้มีกระดาษเวทอยู่ตั้งนานแล้วหรือแม้แต่ศัตรูที่อยู่บนหลังคานี้ ก็หายไปด้วยเช่นกัน เหลืออยู่เพียงลมแรงไร้ขอบจำกัดและ...ความ้าฆ่า
สายลมรุนแรงราวกับปลายมีดเฉือนเข้าไปยังเนื้อตัวของเธอ หญิงสาวสวมชุดดำหัวเราะเย้ยหยันออกมา นี่น่ะเหรอศาสตร์ธรรมะที่น่าอับอายสุดท้ายมันก็มีพลังยุทธศาสตร์ที่โเี้แบบนี้อยู่ดีนี่!
ดอกบัวสีดำในมือของเธอเปล่งแสงออกมาหญิงสาวสวมชุดดำพึมพำพูดบางอย่าง ก่อนที่กลีบชั้นนอกของดอกบัวจะผลิบานออกโดยไร้ลม
“ตาเฒ่าฮุยจู๋ ฉันรู้ว่าแกได้ยิน! ถ้ายังไม่ปล่อยฉันออกไป เ้านักปราชญ์นี่ ก็คงจะต้องกลายเป็ยาโลหิตจริงๆเสียแล้วล่ะ!”
ฮุยจู๋อดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้ “ปีศาจ...”
หลินลั่วหรานนั้นกลับกังวลใจขึ้นมาดูเหมือนว่าสติของผู้หญิงคนนี้จะไม่ปกติเท่าไรนะ!
ความจริงหญิงสาวสวมชุดดำก็เพียงแค่้าจะใช้เสียงของฮุยจู๋ในการระบุตำแหน่งของเขาเพียงเท่านั้น เธอี้เีจะใส่ใจอะไรกับคำว่า “ปีศาจ” ของเขา ความเ็ปที่เกิดขึ้นกับร่างกายเมื่อเทียบกับความเ็ปตอนที่กำลังเปลี่ยนร่างใหม่ มันสบายกว่ากันหลายเท่านักยุทธศาสตร์ฆ่าแบบนี้ เธอไม่ได้คิดจะใส่ใจอะไรอยู่แล้ว
เธอหลับตาลงััอยู่สักพักก่อนที่จะลืมตาขึ้นมา ความเย้ายวนที่ฟ้าสร้างสรรค์มาให้ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งหลินลั่วหรานใ เธอเพียงแค่เห็นว่ากลีบดอกไม้ที่เคยร่วงหล่นนั้น ลอยบินสูงขึ้นมาพร้อมทั้งโจมตีไปยังกระดาษเวทใบหนึ่ง การกระทบกันที่ดูไร้ซึ่งเสียงใดๆแต่กลับทำให้เกิดเสียงดังสนั่นฟ้าขึ้นมา!
“ปัง” กระดาษสีเหลืองไม่อาจจะทนรับการโจมตีต่อไปได้รอยขาดปรากฏขึ้นที่บนตัวกระดาษ ตัวยุทธอักษรก็ระเนระนาดไปหมด
เมื่อเห็นว่ายุทธศาสตร์ตรงหน้านั้นไม่มั่นคงอย่างที่ควรฮุยจู๋ก็ปล่อยกระดาษเวทใบใหม่ออกไป ในระหว่างที่กำลังจะสร้างรูปฐานที่มั่นคงขึ้นหญิงสาวสวมชุดดำก็ขยับกลีบดอกบัวกลีบหนึ่งให้ขยับสั่นไหวใครคนหนึ่งร่วงหล่นลงมาที่พื้น ดวงตาของเขาปิดสนิท ไม่รู้ถึงความเป็ความตายและนั่นก็คือเ้าสำนักเสี่ยวอันที่ถูกจับไปในตอนแรก!
มือของฮุยจู๋ชะงักไปอย่างห้ามไม่อยู่หญิงสาวสวมชุดดำเตะตัวของเสี่ยวอัน เข้าไปยังบริเวณกระดาษเวทที่ยังไม่สมบูรณ์ลมแรงที่ไร้รูปร่างพัดเข้าที่ร่างของเสี่ยวอันจนทำให้เนื้อตัวของเขาเต็มไปด้วยรอยาแ
หลินลั่วหรานไม่อาจจะอดทนต่อไปได้ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็ลูกศิษย์ในสายเืที่นักปราชญ์ชราฮุยจู๋เลี้ยงดูมาด้วยมือของเขาเอง!
ดังนั้นกระดาษเวทในมือของฮุยจู๋จึงถูกละทิ้งไปอย่างอดไม่ได้...หญิงสาวสวมชุดดำหัวเราะขึ้นอีกครั้งเธออาศัยใช้เสี่ยวอันในการเปิดทาง ก่อนที่จะทำลายยุทธศาสตร์ออกมา!
เดิมทีหลินลั่วหรานนั้นอยากจะฟันเธอสักดาบแต่ก็คิดไปถึงตอนที่ฮุยจู๋ห้ามเธอเอาไว้ เธอจึงลังเลขึ้นมา แต่ใครจะไปรู้ว่าเมื่อหญิงสาวสวมชุดดำเริ่มลงมือขึ้น จะถีบเสี่ยวอันให้เข้าไปที่ฮุยจู๋ แล้วเปลี่ยนทิศทางหันมาที่เธอแทน
หลินลั่วหรานยกมือใช้เจาเจี้ยนขึ้นกันกายมันฟันลงที่ดอกบัวสีดำอย่างไร้ซึ่งเสียง มันไม่ใช่ทองและไม่ใช่หินมันฟันลงไปแล้วก็ดูเปราะบาง มันคือดอกไม้จริงๆ!
นั่นคือความคิดสุดท้ายของหลินลั่วหราน หลังจากนั้นด้านหน้าของเธอก็กลายเป็สีดำมืดสนิทพร้อมทั้งที่ตัวของเธอก็ได้เข้าไปยังพื้นที่ที่แปลกประหลาดเข้าจนได้...