หลินเหยาซื่อตรวจดูของในกระเป๋าแล้วก้าวออกจากบ้าน เธอสำรวจเส้นทางจนคุ้นชินไม่จำเป็ต้องเรียกแท็กซี่แล้ว การใช้รถโดยสารก็ไม่ได้ลำบากอะไร การแต่งตัวที่โดดเด่นสะดุดตากลายเป็เป้าสายตาอยู่บ้าง แต่เธอก็เลือกที่จะเชิดใบหน้าขึ้น หญิงสาวมาถึงค๊อฟฟี่ช็อฟก่อนเวลาเล็กน้อย เธอเลือกโต๊ะที่นั่งสบายและมองเห็นประตูทางเข้า สั่งกาแฟร้อนให้ตัวเองแล้วนั่งกวาดตามองไปรอบๆ ก่อนรับงานเป็ตัวประกอบ เธอก็เคยทำงานเป็เด็กเสิร์ฟในร้านกาแฟ
ขณะคิดอะไรเพลินๆ ร่างของหวังเข่อซิงก็เดินเข้ามา หลินเหยาซื่อลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้ม หวังเข่อซิงเดินเข้ามาใกล้แล้วจับไหล่ของหญิงสาวไว้ กวาดสายตามองพร้อมรอยยิ้ม
“สวยมากจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าแค่เปลี่ยนลวดลายก็ดูสวยแปลกตาขึ้น”
“ขอบคุณค่ะ”
“มาๆ นั่งก่อน” หวังเข่อซิงนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามแล้วเรียกพนักงานมาสั่งเครื่องดื่ม “เค้กร้านนี้อร่อยนะคะ ซื้อไปฝากเด็กๆที่บ้านก็ได้นะ”
หลินเหยาซื่อใจชื้นขึ้น ดูท่าทางหวังเข่อซิงจะเป็คนคุยง่ายอยู่เหมือนกัน
“วันนี้ฉันเอาแบบร่างเสื้อผ้ามาให้ดูค่ะ เผื่อว่ามาดามจะชอบ”
หวังเข่อซิงดูแบบร่างในสมุดภาพ ดวงตาเบิกกว้างเงยหน้ามองหญิงสาวท่าทางอายุน้อยแล้วก้มมองที่ภาพอีกครั้ง
“ชุดพวกนี้...คุณออกแบบเองทั้งหมดเลยเหรอ” หวังเข่อซิงพูดแล้วก็นึกได้
“อ๊ะ! ฉันไม่ได้ดูแคลนคุณนะคะ แต่มันสวยและมีเอกลักษณ์มาก สามีฉันทำธุรกิจด้านนี้ เรามีโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า ปกติรับตัดเครื่องแบบพนักงาน แต่ตอนนี้อยากขยายงานมาเป็เสื้อผ้าสำเร็จรูป แต่เื่ออกแบบเราจ้างดีไซเนอร์มาออกแบบเสื้อผ้าให้แบรนด์ของเรา แต่ยังไม่ตรงใจตลาด วันก่อนที่เห็นภาพเสื้อผ้าชุดครอบครัวก็เลยได้ไอเดียอยากลองทำเสื้อผ้าเช็ตครอบครัวดูค่ะ”
หลินเหยาซื่อตั้งใจฟังแล้วก็พยักหน้ารับ
“คุณหลินอยากลองร่วมงานกับเราไหมคะ ฉันเป็คนพูดตรงไปตรงมาอย่างนี้ คุณอย่าถือสาฉันเลยนะ”
“ไม่หรอกค่ะ แบบนี้ดีแล้ว” เธอยิ้มกว้าง “ฉันดีใจที่มาดามชอบ แล้วตอนนี้ฉันเองก็กำลังหารายได้จากความสามารถของตัวเองอยู่ แต่ฉันไม่ได้ร่ำเรียนทางนี้มา มีแต่ความชอบล้วนๆ แต่ถ้ามาดามให้โอกาส ฉันจะทำงานเต็มที่แน่นอนค่ะ”
“ได้ยินแบบนี้ฉันดีใจจริงๆค่ะ ขอบคุณมากนะคะ”
“เป็ฉันที่ต้องขอบคุณมาดามมากกว่าค่ะ”
“ฉันยังมีโปรเจคที่อยากทำอีกเยอะแยะ ฉันหวังว่าจะได้ร่วมงานกับคุณจริงๆ” หวังเข่อซิงเปิดกระเป๋าสตางค์ “ถือว่าเป็ค่าต้นแบบก็แล้วกันค่ะ คุณหลินตัดออกมาสักชุด เป็เซ็ตแม่ลูก ฉันจะเอาไปเสนอที่บริษัทค่ะ”
“ได้ค่ะ” เธอไม่ปฏิเสธที่จะรับเงิน “มาดามเรียกฉันว่าเหยาซื่อก็ได้ค่ะ”
“น้องเหยาซื่อ” หวังเข่อซิงรู้สึกถูกชะตากับผู้คนนี้มากจริงๆ “ฉันเองก็มีลูกสาว น้องเหยาซื่อก็มีลูกฝาแฝด ถ้ามีเื่อะไรก็พูดคุยปรึกษากันได้”
“ค่ะ ถ้าอย่างนั้น ฉันขอถามรายละเอียดงามเพิ่มเติมนะคะ”
“ได้เลยค่ะ ยังไงฉันก็ต้องนั่งรอลูกเรียนบัลเลย์จนจบชั่วโมง ไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว”
หญิงสาวยิ้ม หยิบปากกาจดรายละเอียดของเสื้อผ้าในรูปแบบที่หวังเข่อซิง้า ระหว่างนั้น เธอเผลอมองไปนอกร้าน เห็นชายคนหนึ่งสวมหมวกแก๊ปสีดำดึงปีกหมวกลงเกือบปิดใบหน้า เขายืนอยู่หน้าตู้โชว์ขนมอยู่นานแล้ว หลินเหยาซื่อนอกจากคุยเื่งานแล้วก็ยังคุยเล่นเป็เพื่อนหวังเข่อซิงที่รอเวลาลูกสาวเลิกเรียน ผ่านไปครู่ใหญ่หวังเข่อซิงชวนเธอไปเลือกขนมเค้กเพื่อซื้อกลับบ้าน
“เลือกหลายๆ ชิ้นสิ เอาไปฝากลูกๆ เธอด้วย”
“ขอบคุณมากค่ะ”
หลินเหยาซื่อเกรงใจ แต่ขนมน่ากินจริงๆ เธอเลือกหลายชิ้นตั้งใจว่าจะออกเงินเองแต่สุดท้ายหวังเข่อซิงโบกมือห้ามไว้
“ฉันจ่ายเงินให้เอง ถือว่าเป็ของฝากจากฉันก็ได้”
พูดขนาดนี้แล้ว เธอปฏิเสธไม่ลง แต่ก็เลือกกล่องเล็กอีกสองกล่อง
“อันนี้ขอจ่ายเองนะคะ จะเอาไปฝากแม่บ้านค่ะ”
หวังเข่อซิงตามใจ เธอชอบหลินเหยาซื่อมาก แต่เพิ่งพบกันอย่างเป็ทางการ จะถามเื่ครอบครัวก็ดูจะไม่เหมาะนัก จึงไม่ได้เอ่ยถามสิ่งที่สงสัย หลังจากจ่ายเงินเรียบร้อย หวังเข่อซิงก็หยิบโทรศัพท์ติดตามตัวขึ้นโทรตามคนขับรถมารอรับ หลินเหยาซื่อเห็นแล้วก็ได้แต่อุทานในใจ คนในยุคนี้ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีเงินซื้อโทรศัพท์มือถือ
“ฉันไปก่อนนะอีกสองอาทิตย์เจอกัน แล้วจะให้รถไปรับก็โทรมาบอกได้นะ”
“ขอบคุณมากค่ะมาดาม”
หลินเหยาซื่อรอส่งหวังเข่อซิงเดินไปขึ้นรถเก๋งหรูหราที่มาจอดรออยู่ เธอถอนหายใจเบาๆ แล้วหันไปมองที่หน้าตู้โชว์ขนม ผู้ชายคนนั้นยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เธอก้าวเท้าเข้าไปใกล้แล้วยื่นถุงกระดาษใส่ขนมเค้กก้อนเล็กให้เขา
“เอาไปสิ”
“....”
“ไม่ต้องเกรงใจ เห็นคุณยืนดูอยู่ตั้งนาน” เธอยิ้มให้ แม้จะไม่เห็นใบหน้าของอีกฝ่าย แต่เขายังยืนนิ่งอยู่ เธอเดาว่าเขาคงเขินอายจึงยัดใส่มือของเขา
“อร่อยมากเลยค่ะ แล้วในถุงนี้มีน้ำดื่มด้วย คุณไม่ต้องกลัวว่าจะติดคอ”
เห็นเขารับถุงใส่ขนมแล้ว หลินเหยาซื่อก็หมุนตัวเดินจากไป ในหัวเธอคิดแต่เื่งานที่เพิ่งได้รับ คำนวนเื่ผ้าที่ต้องใช้ แต่ก่อนกลับบ้านเธอต้องแวะซื้อแป้งสาลี่กับสีผสมอาหาร เธอสัญญากับลูกๆ ว่าจะทำแป้งโดว์ให้เด็กๆ ได้ปั้นเล่นเป็การฝึกกล้ามเนื้อของมือน้อยๆ ทั้งสองข้าง ที่จริง เธอซื้อดินน้ำมันก็ได้ แต่ดินน้ำมันก็มีหลายยี่ห้อ เธอกลัวเื่สารเคมีตกค้างในดินน้ำมัน จึงตั้งใจจะทำแป้งปั้นให้เด็กๆ ไว้ใช้เอง
ชายหนุ่มมองถุงกระดาษที่มีขนมเค้กอยู่ข้าใน เขาขยับปีกหมวกขึ้นมองแผ่นหลังของหญิงสาวที่เดินจากไปแล้ว ดวงตายังฉาบแววฉงนสงสัย ทำไมเธอทำเหมือนไม่รู้จักเขา ทั้งที่เขาคือคนที่เธอควรจะเกลียดที่สุดก็ตาม.
***ฉีเผา(旗袍) = กี่เพ้า
