“บินมั่วหอกทิ่ม เปรียบเทียบได้ดี” เฒ่าปีศาจหัวเราะ
จูชิงกลอกตา ปักษาอัสนีเก้า์ช่างน่าสงสารเสียจริง บำเพ็ญเพียรนานเป็พันหมื่นปี หากสุดท้ายกลับถูกหอกทิ่มตายเสียอย่างนั้น
“ง้าวปีศาจิญญาอำมหิตเป็สมบัติธาตุปีศาจ แม้ว่าสภาพจักไม่สมบูรณ์ หากยังคงแข็งแกร่งยิ่งกว่าศัสตราวุธิญญาหลายร้อยเท่านัก ถ้าเ้าหาวัสดุนำมาใช้ซ่อมแซมมันได้ ศัสตราวุธิญญาดึกดำบรรพ์อาจประจักษ์อีกครั้งในโลกบำเพ็ญเพียร” เฒ่าปีศาจพูด
“ง้าวหักมีความเป็มาเช่นนี้ด้วยรึ แล้วกระบี่ปราณห้าสีที่จู่โจมปักษาอัสนีเก้า์กับปักษาเพลิงก่อนหน้านี้มีความเป็มาอย่างไร?” จูชิงถามต่อ
แม้ว่าพลานุภาพของกระบี่ปราณห้าสีจักด้อยกว่าง้าวหัก แต่จูชิงกลับััได้ถึงความลึกลับเกินหยั่งถึงจากกระบี่ปราณห้าสี
“กระบี่ปราณห้าสี?” เฒ่าปีศาจขมวดคิ้ว เขาไม่รู้ว่าจูชิงกำลังพูดถึงเื่อะไร
“ท่านไม่เห็นรึ?” จูชิงตะลึงงัน ด้วยพลังของเฒ่าปีศาจไม่มีทางที่จักไม่สังเกตเห็นกระบี่ปราณห้าสี เหตุใดเขาถึงแสดงท่าทีเช่นนี้?
ทว่ายามนี้เฒ่าปีศาจมิได้สนใจเื่นั้น พลังมหาศาลล้นทะลักออกมาจากศิลาผนึกิญญาพิชิต์ ค่อยๆ หลั่งไหลเข้าไปในสมองของจูชิง
“นี่มัน...” จูชิงหน้าเปลี่ยนสี
เคล็ดวิชาหนึ่งปรากฏในหัวสมองของจูชิง เพียงพริบตาเดียว เขารู้สึกว่าจิติญญาเสมือนจะะเิเป็เสี่ยงๆ
“ไม่ต้องคิด ไม่ต้องมอง ปล่อยจิตให้ว่าง รับพลังของข้า ให้ข้านำพาร่างกายของเ้า” เสียงของเฒ่าปีศาจดังก้องอยู่ในหัวของจูชิง
เสียงนั้นเปี่ยมล้นไปด้วยขุมพลังอันไร้สิ้นสุด จูชิงปล่อยวางจิตของตัวเองคล้ายดังถูกมนต์สะกด ร่างของเฒ่าปีศาจลอยออกมาจากศิลาผนึกิญญาพิชิต์ เข้ามาควบคุมร่างของจูชิง
เฒ่าปีศาจแข็งแกร่งมาก ถึงเป็เพียงเศษเสี้ยวิญญาหากกลับแข็งแกร่งยิ่งกว่าจิติญญาของจูชิงไม่รู้กี่เท่า
ในโลกบำเพ็ญเพียรมีวิชาลับเหนือฟ้าที่สามารถทำลายิญญาของศัตรู นำร่างกายมาใช้เป็ของตน ถูกเรียกว่าวิชาลับยึดครอง ถ้าถูกร่าง อย่างไรก็ต้องตายอย่างมิต้องสงสัย
สิ่งที่เฒ่าปีศาจทำในตอนนี้เหมือนกับการ่ชิงิญญาไม่ผิดเพี้ยน หรือว่าเฒ่าิญญา้าร่างของจูชิง
ทันใดนั้นศิลาผนึกิญญาพิชิต์สั่นสะท้านเล็กน้อย พลังที่เฒ่าปีศาจมิอาจต่อต้านทะลักทลายออกมาไม่หยุด เฒ่าปีศาจหน้าเปลี่ยนสี พลังนั่นสามารถบดขยี้จิติญญาของเขาให้แหลกสลายได้ในพริบตา
พลังที่น่าพรั่นพรึงสำหรับเฒ่าปีศาจ ทว่ามันกลับห่อหุ้มจิติญญาของจูชิงเอาไว้อย่างอบอุ่น สร้างสนามพลังปกป้องจูชิง!
“ผู้ที่ศิลาผนึกิญญาพิชิต์ยอมรับ!” เฒ่าปีศาจถอนหายใจเล็กน้อย ถ้ามีศิลาผนึกิญญาพิชิต์ปกป้องจิติญญาของจูชิง เฒ่าปีศาจไม่คิดว่าตนจักทำอะไรจูชิงได้ เขาคิดไม่ออกว่าใต้หล้านี้จักมีใครที่สามารถทลายปราการของศิลาผนึกิญญาพิชิต์ ทั้งยังทำลายจิติญญาของจูชิงได้อีก
เฒ่าปีศาจขยับมือและเท้า เขาห่างหายจากความรู้สึกนี้ไปนานมากแล้ว มีเนื้อหนังมังสาช่างดีเสียจริง
“ง้าวปีศาจิญญาอำมหิต ลงมาซะ!” เฒ่าปีศาจแค่นเสียง ตวัดนิ้วมือทำเยี่ยงใช้น้ำหมึกวาดเคล็ดวิชา!
ทันใดนั้น ง้าวปีศาจิญญาอำมหิตสั่นไหวอย่างรุนแรง พลังอันกล้าแกร่งทะลักทลายสั่นสะท้านทั่วทั้งเกาะหลัวโหว
“เคร้ง!” มีเพียงเฒ่าปีศาจเท่านั้นที่เห็น ฝ่ามือไร้ลักษณ์ขนาดั์ร่วงลงมาจากท้องฟ้า จับง้าวปีศาจิญญาอำมหิตไว้แแ่ พลังบริสุทธิ์เหลือล้ำขัดเกลาง้าวปีศาจิญญาอำมหิต
“ผู้เป็นายของเ้าตายแล้ว กระดูกมลายสูญเป็เถ้าถ่าน หวนกลับคืนสู่ปฐี!” เฒ่าปีศาจถอนหายใจยาว สะบัดฝ่ามือหนึ่งครั้ง คลื่นพลังปราณพุ่งทะยานไปเบื้องหน้า ตัดขาดเจตจำนงทุกสรรพสิ่งที่ยึดติดกับง้าวปีศาจิญญาอำมหิต
“วิ้ง!” ทันใดนั้นง้าวั์หดตัวเล็กลงอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่กี่ลมหายใจ กระบองเหล็กหนาเท่าแขนก็หล่นลงมาอยู่ในมือของเฒ่าปีศาจ
เฒ่าปีศาจใช้มืออีกข้างลูบกระบองเหล็กทมิฬ “เ้าหนูสำเร็จวิชา《หลัวโหวยิงตะวัน》แล้ว ทว่าลำพังเพียงแค่ลมปราณพลานุภาพของลูกธนูยังแข็งแกร่งไม่พอ ใช้เ้าน่าจักดีกว่า”
เมื่อเห็นกระบองเหล็กทมิฬแปรเปลี่ยนเป็ลูกธนูแหลมคม เฒ่าปีศาจก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“น่าเสียดาย ถ้า่ชิงร่างนี้ได้คงดีไม่น้อย ร่างกายในตำนานเชียว” เฒ่าปีศาจส่ายหัวด้วยความเสียดาย
เฒ่าปีศาจสลายพลังกลับเข้าไปยังศิลาผนึกิญญาพิชิต์ จิติญญาของจูชิงถูกศิลาผนึกิญญาพิชิต์ปลดปล่อย กลับเข้ามายังร่างของตัวเองอีกครั้ง
จูชิงมองมือขวาของตัวเอง เขาไม่รู้ว่ามีกระบองเหล็กอยู่ในมือั้แ่เมื่อไหร่!
“เฒ่าปีศาจ ท่านทำอะไร?” จูชิงถาม เขาจำไม่ได้ว่าก่อนหน้านี้เกิดเื่อะไรขึ้น
“ช่วยเ้าสยบง้าวปีศาจิญญาอำมหิต” เฒ่าปีศาจพูดเสียงราบเรียบ
“จะบอกว่ากระบองเหล็กนี่คือง้าวปีศาจิญญาอำมหิตงั้นรึ โกหกกันเห็นๆ” จูชิงไม่เชื่อ
กระบองเหล็กนี่นอกจากที่มีสีดำเช่นเดียวกับง้าวปีศาจิญญาอำมหิตแล้ว เขาก็ไม่เห็นสิ่งใดที่เหมือนกันระหว่างสองสิ่ง
เฒ่าปีศาจแค่นเสียง “ถ้างั้นเ้าก็ลองรับพลังของง้าวปีศาจิญญาอำมหิตดูก็แล้วกัน!”
จูชิงตะลึงลาน เขาััได้ว่าปราณมรณะที่อยู่ในร่างกายค่อยๆ หายไปทีละเล็กทีละน้อย ทว่าปราณมรณะที่หายไปนั้น ถ้าเทียบกับปราณมรณะที่ยังเหลืออยู่ช่างน้อยนิดเสียยิ่งกระไร เหมือนกับน้ำหนึ่งหยดในมหาสมุทรใหญ่ แทบไม่เห็นความแตกต่าง
“มันไม่ช้าเกินไปหน่อยหรือ ไม่เห็นจักวิเศษเหมือนที่พูดเลย” จูชิงเม้มปาก
เฒ่าปีศาจกลอกตา แสดงทีท่าว่าไม่อยากคุยกับจูชิง ถ้าต้องเสียเวลามาพูดกับเขา สู้เอาเวลาอันน้อยนิดไปฟื้นพลังในศิลาผนึกิญญาพิชิต์ยังดีกว่า
เฒ่าปีศาจแกล้งตายอีกรอบ จูชิงทำได้แค่ชูนิ้วกลางให้เฒ่าปีศาจ
แต่พอนึกถึงพลานุภาพก่อนหน้านี้ของง้าวปีศาจิญญาอำมหิต หัวใจของจูชิงพลันเร่าร้อนขึ้นมา
“โครม!” จูชิงแกว่งกระบองเหล็กครั้งเดียว แสงทมิฬอันบางเบาพุ่งทะลวงต้นไม้พันปีอย่างง่ายดาย จูชิงััมิได้ถึงสิ่งกีดขวาดอันใดราวกับไม่มีอะไรอยู่อย่างไรอย่างนั้น!
“คมมาก!” จูชิงอุทานอย่างอดมิได้ ถึงรูปลักษณ์จะเปลี่ยนไป หากแต่พลานุภาพของง้าวปีศาจิญญาอำมหิตก็ยังคงแข็งแกร่ง
แม้ว่าจูชิงจักผสานสองอักขระาหลัวโหวก็ยังไม่สามารถทะลวงต้นไม้โบราณได้ง่ายขนาดนั้น!
“ครืนน!” ทันใดนั้น ต้นไม้พันปีก็สลายเป็ผุยผง!
จูชิงลองใช้ลมปราณของตัวเองผสานลงไปในง้าวปีศาจิญญาอำมหิต แต่ไม่ว่าจักผสานลมปราณเข้าไปเท่าไหร่ก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับจากง้าวปีศาจิญญาอำมหิตสักนิด ง้าวปีศาจิญญาอำมหิตนี่นอกจากคมแล้วก็ไม่มีข้อดีอื่นอีกเลย
จูชิงส่ายหัวด้วยความผิดหวัง ง้าวปีศาจิญญาอำมหิตอ่อนแอกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก แต่เขาไม่มีศัสตราวุธอื่นใด มีแต่ต้องใช้มันแก้ขัดไปก่อน
“ตึง!” ครึ่งเดือนให้หลัง เด็กหนุ่มไม่สวมเสื้อกำลังต่อสู้กับเสือดาวั์ขนาดสองฟุต ทุกครั้งที่กวัดแกว่งกระบองทมิฬก็สามารถโจมตีศัตรูได้อย่างแม่นยำ เสือดำขั้นเคลื่อนย้ายลมปราณแรกเริ่มถูกเขาไล่ต้อนเสียจนมุมตกอยู่ในสภาพน่าสังเวช!
จูชิงส่ายศีรษะ เสือดาวั์ขั้นเคลื่อนย้ายลมปราณไม่เห็นจะเท่าไหร่ เพียงประมือครึ่งถ้วยชา เขาก็มีโอกาสถึงร้อยครั้งที่จะสังหารมันได้แล้ว
“ัคะนองน้ำน้อย!” จูชิงสะบัดแขนเสื้อ แสงสีทองสว่างวาบ แววตาของเสือดาวั์สาดแสงตระหนก พริบตาเดียวมันก็ขยับตัวไม่ได้อีกต่อไป
จูชิงยิ้มอย่างเหนื่อยหน่าย “เ้านี่นะ”
ยามนี้กะโหลกของเสือดาวั์ถูกทะลวงเป็รูขนาดเล็ก ัคะนองน้ำน้อยปีนออกมาอย่างมีความสุข ใช่แล้ว เน่ยตันของเสือดาวอยู่ในท้องของัคะนองน้ำน้อยเรียบร้อยแล้ว
“เ้า...” จูชิงถอนหายใจกับความดื้อด้านของัคะนองน้ำน้อย
ตลอดเวลาครึ่งเดือนที่ผ่านมา จูชิงบำเพ็ญเพียรจนสำเร็จเป็ขั้นหลอมกายาเจ็ดชั้นฟ้า แต่กลับผสานอักขระาหลัวโหวเพิ่มมิได้แม้แต่อักขระเดียว
ทว่าประสบการณ์ในการต่อสู้ของจูชิงนั้นเพิ่มสูงขึ้นมากจนยามนี้สามารถประมือกับสัตว์อสูรขั้นเคลื่อนย้ายลมปราณได้โดยไม่ต้องกลัวเกรง
“อีกไม่กี่วันก็จะได้ไปจากที่นี่แล้ว!” จูชิงแหงนหน้ามองฟ้าพลางถอนหายใจยาวเหยียด
หลายวันที่ผ่านมาเขาต้องใช้ชีวิตท่ามกลางอันตราย ถ้ามิใช่เพราะัคะนองน้ำน้อยเตือนภัยล่วงหน้า เขาคงถูกสัตว์อสูรฆ่าตายไปไม่รู้กี่ครั้งแล้ว
จูชิงสะบัดมือ เปลวเพลิงโลหิตลุกพรึบ ผลาญเผาศพของเสือดาวั์ เขานำเืบริสุทธิ์ที่กลั่นออกมาเก็บเอาไว้ในขวดหยก ใส่ลงไปในถุงเอกภพที่ห้อยอยู่ที่เอว
จูชิงเป็ปีติสุดแสน ก่อนหน้านี้เขาบังเอิญเจอศพบนเกาะหลัวโหว สภาพเหวอะหวะไม่น่ามอง เห็นได้ชัดว่าตายมานานแล้ว ข้างๆ มีถุงเอกภพอยู่ใบหนึ่ง
แม้ว่าถุงเอกภพนี่จักมีเนื้อที่เพียงแค่สี่ห้าสิบลูกบาศก์ น้อยกว่าของซั่งกวานจือหนิงมาก แต่สำหรับจูชิงเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
ขณะนั้นหางตาของจูชิงก็เหลือบไปเห็นฝ่ามือหนึ่ง นิ้วมืออันสั่นเทิ้มทั้งห้าเกาะต้นไม้เอาไว้แน่น คล้ายกับกำลังพยายามใช้แรงทั้งหมดปีนขึ้นไป
“ศิษย์ขุนเขากระบี่เทียนหยวน?” จูชิงขมวดคิ้ว คนที่อยู่ที่นี่น่าจักมีแต่ศิษย์ของขุนเขากระบี่เทียนหยวน
จะว่าไปตลอดหลายวันนี้เขาเจอศพของศิษย์ขุนเขากระบี่เทียนหยวนจำนวนไม่น้อย น่าจักร้อยๆ ศพเห็นจะได้
“เย่หยาง!” พอจูชิงเข้าไปใกล้แล้วเห็นหน้าของคนๆ นั้น ใบหน้าพลันเปลี่ยนสี คนผู้นั้นก็คือเย่หยางที่แยกกับเขาไปเมื่อครึ่งเดือนก่อน
บนหลังของเย่หยางมีแผลขนาดใหญ่ถึงขั้นที่เห็นกระดูกโผล่ออกมา!
ดวงตาของจูชิงสาดประกาย แผลนี่มิใช่จากฝีมือของสัตว์อสูร หากเป็ศัสตราวุธ!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้