มีคนเห็นนางเดินเข้ามาแล้วจึงอดไม่ได้ที่จะตื่นตะลึงเล็กน้อยสตรีที่ไม่้าเดือดร้อนด้วยเื่นี้ค่อยๆ แยกย้ายหลีกทางให้หลินชิงเวยมองเด็กน้อยที่นอนหายใจรวยรินอยู่บนพื้นแล้วหันไปมองผู้ที่กำลังด่าทอว่ากล่าวพร้อมกับทุบตีคนอย่างสะใจจังหวะที่สตรีนางนั้นตวัดไม้หวายในมือหมายจะฟาดมันลงบนร่างของเด็กน้อยอีกครั้งหลินชิงเวยจึงกวาดไม้กระบองในมือตีลงไปบนศีรษะของนางจังๆ ทันที
สตรีนางนั้นกำลังพุ่งความสนใจไปที่เด็กน้อยจึงไม่รู้สึกตัวว่าหลินชิงเวยกำลังโจมตีนางการกระทำนี้จึงทำให้นางถูกตีจนนั่งแปะลงกับพื้นด้วยความตื่นตะลึงหลินชิงเวยก้าวขึ้นไปอีกก้าวหนึ่งแล้วหวดลงไปเป็ไม้ที่สองครั้งนี้นางยังไม่ทันได้พูดจาแม้สักประโยคเดียวก็ถูกไม้ในมือหลินชิงเวยตีลงไปบริเวณต้นคอของนางอย่างไร้ปรานี
หญิงสาวนางนั้นนอนหมดสภาพอยู่บนพื้น
“เ้าจะฝ่าฝืนกฎใช่หรือไม่!”
บางคนด่าทอด้วยความแค้นเคืองหากพวกนางร่วมมือกันเพื่อสั่งสอนหลินชิงเวยเพียงคนเดียวหลินชิงเวยย่อมต้องถูกทุบตีมีสภาพเหมือนเนื้อทุบ หลังจากผ่านความพรั่นพรึงชั่วระยะเวลาสั้นๆสตรีเ่าั้จึงกรูกันเข้าหาหลินชิงเวยราวกับคนเสียสติ
สายตาของหลินชิงเวยมองกวาดครั้งหนึ่งนางกุมไม้ในมือแน่นแล้วหันไปใช้ไม้กดลงไปที่บริเวณข้างลำตัวของสตรีท่าทางดุร้ายนางหนึ่งที่อยู่ข้างหน้าสุดส่งผลให้สตรีนางนั้นจับเอวของตนแล้วล้มลงชักกระตุกบนพื้นทันที
คนอื่นๆจึงชะงักงันไม่กล้าวู่วามทำอันใดไปชั่วขณะ
หลินชิงเวยใช้ไม้กระบองนั้นจี้ไปที่เอวของหญิงสาวผู้นั้นพร้อมกับกล่าวว่า “ข้าตีลงไปเพียงครั้งเดียวก็ทำให้ไตของนางพิการได้ หากอาการไม่รุนแรงนางต้องพักรักษาตัวนานนับเดือนทว่ายากที่จะหายดีดังเดิมได้ หากสาหัสก็ต้องไตพิการจนถึงแก่ชีวิต” นางใช้ไม้กระบองชี้ไปที่บั้นเอวของหญิงสาวผู้นั้นอีก“หากข้าตีลงไปบริเวณนี้ กระดูกสันหลังของนางจะหักทันทีอาการไม่ร้ายแรงคือส่งผลให้ร่างกายท่อนล่างอัมพาตหากสาหัสก็คือไร้ทางรักษาจนถึงแก่ชีวิต หากข้าตีลงไปที่ขาจะทำให้กระดูกหัวเข่าของพวกเ้าแตกละเอียดไม่มีชิ้นดี หากตีลงไปบนมือกระดูกข้อมือก็จะแตกละเอียด หากไม่กลัวละก็ลงมือได้เลยกระดูกของคนเราอยู่ในตำแหน่งใดบ้างข้าชัดเจนกว่าพวกเ้านักข้าอยากจะดูเหมือนกันว่าเป็ไม้กระบองในมือของข้าแข็งหรือร่างกายของพวกเ้าที่แข็งกัน”หลินชิงเวยเหลือบมองเด็กน้อยที่อยู่บนพื้นและเอ่ยเสียงเย็นว่า“รังแกเด็กน้อยคนหนึ่งซึ่งไร้ทางสู้ นี่นับเป็ความสามารถของพวกเ้าหรือไร?”
“หากจะโทษก็ต้องโทษที่เด็กต่ำช้าคนนี้ไม่รู้จักกฎเกณฑ์กินบนเรือนแต่กลับถ่ายรดบนหลังคา” พวกนางกล่าวอย่างเคียดแค้นชิงชัง “ล้วนเป็เด็กที่เกิดจากสตรีไร้ยางอายทั้งสิ้นคนต่ำช้าจึงจะช่วยเหลือคนต่ำช้าด้วยกัน! เ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดมารดาของนางจึงต้องเข้ามาที่นี่มารดาของนางเป็คนมากตัณหาเช่นเดียวกับเ้า คบชู้สู่ชายจึงต้องมาอยู่ที่นี่คนต่ำช้านี้เป็เชื้อพันธุ์ของชายโฉด การมีชีวิตอยู่ของนางก็คือบาปอย่างหนึ่งไม่สู้ตีให้ตายไปเสียจะดีกว่า!”
เด็กน้อยที่ฟุบอยู่บนพื้นเป็เวลาเนิ่นนานในที่สุดก็มีปฏิกิริยาตอบโต้ นางไอเบาๆ ทว่ากลับกระอักเืออกมาสองคำ นางยืนกรานอย่างอ่อนแรงว่า“ห้ามพวกเ้าด่าทอมารดาของข้า...”
หลินชิงเวยเลิกคิ้วน้อยๆทว่าสายตาของนางเต็มไปด้วยความกดดันบีบคั้นผู้คน“เช่นนั้นพวกเ้าเล่าเข้ามาได้อย่างไร?พวกเ้าเข้ามาอย่างบริสุทธิ์ผุดผ่องไร้ซึ่งความผิดอันใด? หากไร้ซึ่งความผิดแล้วเข้ามาในตำหนักเย็นเพื่ออะไรกัน?”
อีกฝ่ายทั้งอับอายและโกรธแค้น“เ้านับเป็สิ่งของอะไรได้!มีไม้กระบองแล้วก็ถือดีใหญ่โตโอ้อวดแล้วใช่หรือไม่ ไปหยิบไม้กระบองมา!”
ดูเหมือนละครทะเลาะวิวาทฉากนี้จำต้องลงเอยเช่นนี้เสียแล้วคือไม่อาจไม่ลงมือวิวาทกันสตรีเ่าั้แทบจะทนรอไม่ไหวที่จะสั่งสอนหลินชิงเวย จึงหันกลับไปหาไม้กระบองเมื่อเป็เช่นนี้เท่ากับหลินชิงเวยเพียงคนเดียวต้องเผชิญหน้ากับคนทั้งกลุ่ม ดูเหมือนโอกาสชนะแทบจะไม่มี
นางรู้สึกกลัดกลุ้มกับการกระทำวู่วามของตนอยู่บ้างที่วู่วามมิใช่ด้วยเหตุการณ์ตรงหน้า ต่อให้นางต้องเลือกอีกครั้งนางยังคงเลือกที่จะก้าวออกมาแต่นางคงไม่สั่งสอนสตรีนางนั้นในเวลาที่ตนเองเพิ่งจะปีนขึ้นมาจากบ่อน้ำเมื่อสายวันนี้
เช่นนั้นไม่เพียงไม่ได้ช่วยเหลือเด็กน้อยคนนี้กลับเป็การทำร้ายนางเสียอีก
เวลานั้นเด็กน้อยคนนั้นหันกลับไปแล้ววิ่งหนีด้วยความหวาดกลัวราวกับรู้ว่าหลินชิงเวยคงช่วยเหลือนางได้เพียงครั้งนี้แต่มิอาจช่วยนางได้ตลอดไปนางจึงยินดีที่จะอดทนอดกลั้นต่อความเ็ปในเวลานั้น ย่อมไม่แลกมาซึ่งผลลัพธ์ในยามนี้