บทที่ 154 ซุนหงอคงจะกำจัดปีศาจ
หลินซีเยว่ที่เป็ตำรวจมาหนึ่งปี ได้มาเจอกับคดีที่ทั้งชีวิตนี้ยากที่จะลืม
ผู้ชายกล้ามโตใส่เสื้อกล้ามสีดำคนหนึ่ง ในมือถือกระบองอันหนึ่ง และเอาแต่ทำท่าดุร้ายใส่หญิงสาวอายุประมาณยี่สิบห้าปี
ในระหว่างที่สอบสวน ทั้งสองฝ่ายไม่ได้สาดอารมณ์ใส่กัน เหมือนตอนเจอหน้ากันครั้งแรก
แต่ผู้ชายกล้ามโตกลับเอาแต่ะโว่าจะกำจัดปีศาจ แล้วยังจะเอาไม้กระบองของเขาตีผู้หญิงคนนั้นอีก...
จู่ๆ ภาพนี้ก็ทำให้เธอนึกขึ้นมาได้ ว่ามันเป็ฉากที่ซุนหงอคงไล่ตีปีศาจกระดูกขาวในเื่ไซอิ๋ว
แน่นอนว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือชายกล้ามโตคนนี้ยังยืนยันว่าเขาคือซุนหงอคงที่เอาชนะพระพุทธเ้ามาได้อีกด้วย
"หรือว่าคนคนนี้จะมีประวัติอาการป่วยทางจิต?"
หลินซีเยว่จับปากกาเอาไว้ พร้อมกับสางผมยาวของตัวเองไม่หยุด
ตรงกันข้ามกับเธอ ผู้ชายที่เป็ผู้ร้ายคนนั้นกำลังนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ และมองสำรวจห้องสอบสวนอยู่ด้วยสีหน้าอยากรู้อย่างเห็น
"ซุนหงอคง คุณมีญาติไหม?"
"ข้ามีลูกลิง หลานลิงเป็หมื่นๆ ตัว..."
"หยุด!"
หลินซีเยว่จะเป็บ้าเพราะเขาแล้ว เดี๋ยวก็แทนตัวเองว่าข้า เดี๋ยวก็จะกำจัดปีศาจ
แถมเขายังคิดว่าตัวเองเป็ซุนหงอคงจริงๆ อีก
เขามีแต่เล่นการพนันจนเข้าเส้น เล่นหุ้นจนเป็บ้า นี่เป็ครั้งแรกเลยที่เธอเห็นคนที่ดูไซอิ๋วจนเป็บ้า
"คุณตอบฉันมา สิ่งจูงใจที่ต้องทำร้ายผู้หญิงคนนั้นคืออะไร?"
"ข้าบอกเ้าเป็หมื่นครั้งแล้ว ว่าข้าจะกำจัดปีศาจ!"
...
หน้าตาบึ้งตึงอีกครั้งทันที
หลินซีเยว่ถอนหายใจยาว แล้วฟาดสมุดบันทึกลงกับโต๊ะ
ดูท่าทาง คงตัดสินใจได้แล้วว่าผู้ชายตรงหน้าคนนี้เป็ผู้ป่วยทางจิต ควรส่งตัวให้โรงพยาบาลประสาท
ส่วนทางผู้เสียหายคนนั้น เดี๋ยวเธอจะปลอบใจเอง
"เ้าหนูน้อย เ้าจะทำอะไร? มาช่วยถอดเ้าสิ่งที่อยู่บนข้อมือของข้าออกไป!"
ซุนหงอคงชำเลืองมองหลินซีเยว่ที่กำลังจะเดินออกไปจากห้อง แล้วจึงแกว่งกุญแจมือบนข้อมือให้ดู
"ซุนหงอคง ท่านนั่งรอที่นี่สักครู่นะคะ ฉันไปแป๊บเดียวเดี๋ยวก็กลับมา"
หลินซีเยว่ตบไหล่ซุนหงอคง ก่อนจะเปิดประตูห้องสอบสวนออกไป
เพิ่งจะออกมา เธอก็เห็นเย่จื่อเฉินที่พาจินซานพ่างวิ่งเข้ามาอย่างกับพายุ
"เย่จื่อเฉิน นายมาที่นี่ได้ยังไง?"
ความรู้สึกที่หลินซีเยว่มีต่อเย่จื่อเฉินนั้นประหลาดมาก ถ้าบอกว่าทั้งคู่เป็เพื่อน เวลาเธอเห็นเย่จื่อเฉินเธอก็ยังรำคาญ
แต่ถ้าบอกว่าเป็คนแปลกหน้าต่อกัน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่มันก็ซับซ้อนเสียยิ่งกว่าคนแปลกหน้า
เปิดปากพูดขึ้นเบาๆ เย่จื่อเฉินเลียริมฝีปากเล็กน้อย แล้วมองเข้าไปข้างในห้องสอบสวน
"ผมมาหาผู้ร้ายที่อยู่ข้างในห้อง"
ชี้ไปทางซุนหงอคงที่อยู่ในห้องสอบสวน ซุนหงอคงที่ได้ยินเสียงเย่จื่อเฉินก็หันขวับมาทันที ก่อนจะพูดขึ้น
"สหาย!"
"นายกับเขารู้จักกัน?" หลินซีเยว่เลิกคิ้วถามด้วยความประหลาดใจ "เขา...มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับประสาทหรือเปล่า"
"เขาพูดอะไรไร้สาระกับคุณเหรอ?"
"ก็ใช่น่ะสิ เขาเอาแต่แทนตัวเองกับฉันว่าข้า แล้วยังบอกว่าจะกำจัดปีศาจอะไรอีกก็ไม่รู้!"
...
ว่าแล้วว่าถ้าซุนหงอคงมาที่นี่ มันต้องวุ่นวายแน่นอน
เย่จื่อเฉินแบมือ แล้วพยักรับอย่างไม่ได้ปฏิเสธ
"ใช่ เขาเป็โรคจิตอ่อนๆ บางครั้งเขาก็ชอบแต่งตัวเป็ซุนหงอคง"
"ใช่ๆ ฉันถามเขาว่าชื่ออะไร เขาก็เอาแต่พูดว่าเขาชื่อซุนหงอคง"
"อืม เขาอาจจะอาการกำเริบอีกแล้ว"
เย่จื่อเฉินถอนหายใจเบาๆ ในสถานการณ์แบบนี้ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะเอามาอธิบายได้สมเหตุสมผลไปมากกว่านี้
"จริงสิ คุณรีบปล่อยเพื่อนผมเถอะ ผมไปเจอผู้เสียหายมาแล้ว พร้อมกับขอต่อรองกับเธอเป็การส่วนตัว อีกเดี๋ยวเธอก็น่าจะมาแล้วล่ะ"
"ไม่มีปัญหา"
หลินซีเยว่พยักหน้า แล้วจึงเดินเข้าไปในห้องสอบสวน ก่อนจะถอดกุญแจมือออกจากข้อมือของซุนหงอคง
พอซุนหงอคงโดนปล่อยตัวแล้ว ก็รีบวิ่งไปอยู่ข้างกายเย่จื่อเฉิน แล้วขมวดคิ้วมุ่นพูดขึ้น
"สหาย เ้ามาช้าเกินไปนะ แล้วแม่นางคนนี้ก็ขัดขวางไม่ให้ข้ากำจัดปีศาจด้วย มันน่าโมโหจริงๆ เชียว"
เย่จื่อเฉินหันไปพยักหน้าให้หลินซีเยว่ แล้วก็กระชากซุนหงอคงออกไปข้างนอก
แต่ทันใดนั้น ผู้เสียหายคนนั้นกลับเดินเข้าพร้อมตำรวจอีกสองนายพอดี
"ปีศาจ! จัดการเลย"
ซุนหงอคงโวยวายว่าจะเข้าไปกำจัดปีศาจ เย่จื่อเฉินรีบกอดเอวเขาเอาไว้ พร้อมกับส่งสายตาให้จินซานพ่าง แล้วพูดขึ้น
"มัวอึ้งอะไรอยู่ ยังไม่รีบมาช่วยอีก"
"ได้เลย"
"ไว้มีเวลาจะเลี้ยงข้าวคุณนะ"
พอหันไปะโบอกหลินซีเยว่แล้ว จินซานพ่างกับเย่จื่อเฉินก็พากันจับตัวซุนหงอคง โดยคนหนึ่งจับแขน อีกคนกอดเอว ทั้งสองคนถึงได้ลากซุนหงอคงออกมาจากห้องสอบสวนได้
"สหาย เ้าจะลากข้าออกมาทำไม ข้าจะจัดการเ้าปีศาจนั่น"
พอขึ้นรถมาได้ ซุนหงอคงก็เอาแต่โวยวายว่าจะจัดการปีศาจอยู่อย่างนั้น
เย่จื่อเฉินหันไปกลอกตาใส่เขาอย่างหมดคำพูด
"เขาเป็คนตัวเป็ๆ นะ ทำไมท่านถึงไปว่าเขาเป็ปีศาจล่ะ?"
"นางจะไม่ใช่ปีศาจได้ยังไง" ซุนหงอคงเถียงคอเป็เอ็น "เนตรอัคคีของข้าไม่ใช่ของธรรมดานะ ตัวจริงของนางไม่เหมือนกับใบหน้านั้นเลยสักนิด แบบนั้นถ้าไม่ใช่ปีศาจสิงร่าง แล้วจะเป็อะไรไปได้"
พรูดดด!
หลิวฉิงที่นั่งอยู่ข้างซุนหงอคงหลุดขำออกมาทันที ซุนหงอคงมองเธอตาโต แล้วพูดขึ้น
"หัวเราะอะไร"
เย่จื่อเฉินเองก็พลอยหายโมโหไปด้วย
เขาเข้าใจความหมายของซุนหงอคงแล้ว ซุนหงอพูดถึงใบหน้าที่ผ่านการศัลยกรรมมาแล้วของผู้หญิงคนนั้น
แต่ในยุคสมัยนี้ การศัลยกรรมมันก็เป็เื่ที่ปกติมาก
"ซุนหงอคง ท่านไม่เข้าใจ ทั้งหมดนี้คือคนธรรมดา ไม่สามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์หน้าตาได้ตามอำเภอใจเหมือนเทพเซียน การเปลี่ยนแปลงใบหน้าแบบนั้นคือเทคโนโลยีหนึ่งที่ดินแดนลึกลับแห่งนี้คิดค้นขึ้นมา โดยสามารถเปลี่ยนให้เป็ในแบบที่ตนชอบได้ แต่โดยส่วนใหญ่คนที่เปลี่ยนแปลงใบหน้าก็เพราะว่าไม่มีความมั่นใจในรูปร่างหน้าตาของตัวเอง"
"แบบนี้นี่เอง" ซุนหงอคงพยักหน้าทำเหมือนว่าเข้าใจ แล้วก็พูดขึ้น "มิน่าล่ะ เมื่อครู่นี้ข้าถึงััไอปีศาจของนางไม่ได้"
จินซานพ่างที่ขับรถอยู่ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ
เขามั่นใจว่าคนที่นั่งอยู่ข้างหลังเขาคือซุนหงอคงที่ไปก่อเื่ที่วิหารในตอนนั้นแน่นอน นั่นคือคนที่อยู่ในระดับเดียวกับท่านอาจารย์
คิดไม่ถึงเลยว่าคนอย่างเย่จื่อเฉินจะรู้จักกับคนระดับนี้ ดูท่าว่าการที่ท่านอาจารย์ให้ตนเองมาอยู่กับเขา มันจะต้องมีเหตุผลแน่นอน
ส่วนด้านเย่จื่อเฉินที่นั่งอยู่ข้างหลังนั้น เขากำลังคิดอยู่ในใจว่าควรจะซื้อคอนโดดีไหม
มันช่วยไม่ได้ ซุนหงอคงต้องก่อเื่วุ่นวายแน่นอน
ถ้าไม่เอาเขามาไว้ข้างกาย ก็ไม่รู้ว่าจะไปก่อเื่อะไรอีก
เมื่อเปิดวีแชท หัวคิ้วของเย่จื่อเฉินก็ขมวดมุ่นทันที
พวกผู้เฒ่าจันทราหรือว่านาจานั้นน่าจะเคลียร์ง่ายหน่อย พวกเขาก็แค่ทักมาเอาสินค้ากับเขาเท่านั้น เดี๋ยวพอกลับไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแล้วค่อยส่งให้พวกเขาก็ได้
สิ่งที่ทำให้เขาค่อนข้างรำคาญคือรายชื่อขอเพิ่มเพื่อนในแถบรายชื่อเพื่อนใหม่มากกว่า
นอกจากหานเซียงจื่อกับเถียไกว่หลี่แล้ว ในรายชื่อเพื่อนของเย่จื่อเฉินก็ยังมีเพิ่มขึ้นมาอีกสี่คน
หลู่ตงปิน, หลันไฉ่เหอ, จางกัวเหล่า และเฉากั๋วจิ่ว
โอเค กลุ่มเทพโป๊ยเซียน นอกจากเทพธิดาเหอเซียนกู่ก็พากันทักมาหาเขาจนจะครบทุกคนแล้ว
กลุ่มเทพโป๊ยเซียนนี่มีความเพียรพยายามดีจริงๆ
เย่จื่อเฉินขมวดคิ้วมุ่นมองดูคำขอเป็เพื่อนบนหน้าจอ ทันใดนั้น พี่ลิงที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ชะโงกหน้าเข้ามาเหลือบมองดู
"นี่มันกลุ่มเทพโป๊ยเซียนนี่... เ้าอยากได้รากบัววิเศษเก้ารูของเทพโป๊ยเซียนอยู่ไม่ใช่เหรอ"
มันก็ใช่แหละ
เย่จื่อเฉินเลียริมฝีปากเล็กน้อย เขาก็รู้ว่าตัวเอง้ารากบัววิเศษเก้ารูจากเทพโป๊ยเซียน
แต่ที่เทพกลุ่มนี้มาขอเพิ่มเพื่อนเขานั้น...
เพราะว่าจะมารุมทึ้งเขาต่างหากเล่า!
ก่อนหน้านี้เขาก็ทะเลาะกับหานเซียงจื่อไปแล้ว มารอบนี้ยังจะมีเพิ่มมาอีกตั้งหลายคน
ดูเหมือนว่าเขาจะต้องจัดการกับกลุ่มเทพโป๊ยเซียนด้วยตัวเองเสียแล้ว ถึงจะสามารถสงบศึกในครั้งนี้ได้