บทที่ 8 ของว่าง กร๊อบอร่อย
เสียงหนังไก่ที่กรอบจนแทบจะบาดลิ้นดังขึ้น ตามมาด้วยเนื้อไก่ที่นุ่มชุ่มฉ่ำและรสชาติเข้มข้นของเครื่องเทศที่ซึมลึกเข้าไปถึงเนื้อใน!
"อร่อย!!! อร่อยกว่าไก่ย่างในวังหลวงที่ข้าเคยแอบชิมเสียอีก!!!" อาซื่อะโออกมาอย่างลืมตัว
ไป๋ฟางซินมองปฏิกิริยาของทุกคนด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก "พรุ่งนี้ เราจะเปิดตัวของว่างสองอย่างนี้ควบคู่ไปกับชาไข่มุก"
นางหันไปหาผู้จัดการซุน "แต่เราจะยังไม่ขาย"
"หา? ไม่ขายหรือขอรับ?" ทุกคนงงเป็ไก่ตาแตก
"ใช่" นางกล่าวอย่างมีเลศนัย "สำหรับลูกค้าที่ซื้อชาไข่มุกหนึ่งร้อยคนแรกในวันพรุ่งนี้เราจะ แถม ของว่างสองอย่างนี้ให้พวกเขาชิม ฟรี! คนละหนึ่งชุดเล็กๆ!"
กลยุทธ์ "การตลาดแบบให้ทดลองชิม" ได้ถูกนำมาใช้อย่างชาญฉลาด!
"ข้า้าให้คนทั้งเมืองหลวงต้องคลั่งตายเพราะความอยากกิน! ข้า้าให้พวกเขาฝันถึงรสชาติอาหารของเรา! และเมื่อถึงเวลา เราจะค่อยๆ ปล่อยมันออกมาขายทีละน้อยในราคาที่สูงลิบลิ่ว!"
ดวงตาของนางทอประกายคมกล้าดุจนักล่าที่กำลังวางกับดักอันสมบูรณ์แบบ
ในคืนเดียวกันนั้น ที่หอวิหคเหิน พ่อครัวเทวดาของผู้จัดการเกากำลังปวดหัวแทบะเิอยู่หน้าหม้อชาที่เขาพยายามต้มเลียนแบบเป็ครั้งที่สิบ
"ไม่ได้! มันไม่ได้เลยขอรับท่านผู้จัดการ!" เขารายงานอย่างสิ้นหวัง "รสชาติของชากับนมพอจะใกล้เคียง แต่เ้าเม็ดกลมๆ หนึบๆ นั่น! ข้าใช้แป้งสาลี แป้งข้าวเ้า แป้งข้าวเหนียวลองทำหมดแล้ว แต่มันก็ไม่ออกมานุ่มหนึบแบบนั้นเลย! มันทั้งแข็งกระด้างและรสชาติจืดชืด!"
ผู้จัดการเกาได้แต่ยืนกัดฟันกรอด เขาไม่รู้เลยว่าาที่เขาเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นนั้น คู่ต่อสู้ของเขาได้ก้าวนำหน้าไปอีกหลายขุมแล้ว
รุ่งอรุณของวันที่สาม...เมืองหลวงยังคงหลับใหลอยู่ใต้ผ้าห่มแห่งรัตติกาล แต่ถนนหน้าโรงน้ำชาสดับวสันต์กลับถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยคลื่นมหาชนที่บ้าคลั่งยิ่งกว่าเมื่อวาน!
หากภาพของเมื่อวานเปรียบได้กับัหลับใหล วันนี้...ัตัวนั้นคงจะตื่นขึ้นมาแล้วกินยาบ้าเข้าไปสามชั่ง!
ผู้คนไม่ได้แค่มาต่อแถว พวกเขามาพร้อมกับยุทธปัจจัยครบครัน! บางคนกางร่มกระดาษน้ำมันจองที่ราวกับเป็โฉนดที่ดิน บางคนก่อกองไฟเล็กๆ เพื่อต้มน้ำชากินกันเองระหว่างรอ! บรรยากาศไม่เหมือนการมารอซื้อของอีกต่อไป แต่มันเหมือนการรวมตัวกันของเหล่าจอมยุทธ์เพื่อรอแย่งชิงของวิเศษในตำนาน!
"ตาเฒ่าหลี่! เ้าก็มาด้วยรึ! ไม่ใช่ว่าเมื่อวานเ้ายังด่าว่าพวกเขาเป็พวกต้มตุ๋นอยู่เลย?" ชายวัยกลางคนทักบัณฑิตเฒ่าที่เคยดูแคลนร้านนี้
บัณฑิตเฒ่ากระแอมไอแก้เก้อ หน้าแดงก่ำ "ข้า...ข้าไม่ได้จะมาซื้อ! ข้าแค่จะมาพิสูจน์ให้เห็นกับตาว่ามันเป็กลอุบายหลอกลวงอย่างไร! ใช่...มาเพื่อเปิดโปงพวกมัน!" เขาพูดพลางเขยิบเข้าไปในแถวอีกเล็กน้อย กลัวว่าจะเสียตำแหน่งดีๆ ไป
ข่าวลือเกี่ยวกับของแถมปริศนา ที่จะมอบให้แก่ลูกค้าร้อยคนแรกในวันนี้ ได้กลายเป็หัวข้อสนทนาที่ร้อนแรงที่สุดยิ่งกว่าเื่ที่องค์รัชทายาททรงรับพระสนมองค์ใหม่เสียอีก
"พวกเ้าว่าของแถมจะเป็อะไร? หรือจะเป็พู่หยกชั้นดี?"
"ข้าว่าอาจจะเป็ตำาาสูตรลับ! หากได้มา ข้าจะกลับไปเปิดร้านแข่งกับมันเลย!"
"พวกเ้าช่างไร้จินตนาการสิ้นดี! ข้าได้ยินจากคนในว่า...ของแถมนั้นอร่อยยิ่งกว่าชาไข่มุกเสียอีก! มันคืออาหารทิพย์ที่ท่านเง็กเซียนฮ่องเต้ทรงโปรดปราน!"
ณ ชั้นสองของหอวิหคเหิน...
"เพล้ง!"
ถ้วยชาชั้นดีราคาห้าตำลึงเงินถูกปาใส่ผนังจนแตกกระจาย ผู้จัดการเกาหอบหายใจอย่างรุนแรง เส้นเืบนหน้าผากปูดโปนราวกับไส้เดือนคลั่ง "พวกมัน...พวกมันกำลังเล่นตลกอะไรอีก! ของแถมรึ! กลยุทธ์ชั้นต่ำ! คิดจะใช้ของไร้ค่ามาหลอกล่อพวกชาวบ้านโง่ๆ น่ะสิ! อาเปียว! วันนี้ต่อให้เ้าต้องคลานกลับมา เ้าก็ต้องได้ชาไข่มุกและของแถมบ้าบอของมันกลับมาให้ข้า!"
เมื่อถึงยามเฉิน ประตูของโรงน้ำชาสดับวสันต์ก็เปิดออก
ครั้งนี้ ผู้ที่ก้าวออกมายืนอยู่หน้าประตูคือผู้จัดการซุน บัดนี้เขาไม่ได้มีท่าทีประหม่าอีกต่อไปแล้ว เขายืดอกอย่างสง่างาม ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจราวกับแม่ทัพที่กำลังจะประกาศชัยชนะ
"พระเ้าช่วย...ดูข้าสิ! ข้าไม่เคยรู้สึกมีพลังขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต! นี่สินะความรู้สึกของการได้ทำงานกับอัจฉริยะ! เถ้าแก่เนี้ย...ท่านคือดวงดาวนำโชคของข้าโดยแท้!" เขาสูดหายใจลึก ก่อนจะประกาศด้วยเสียงดังฟังชัด
"เรียนลูกค้าผู้มีเกียรติทุกท่าน! วันนี้ นอกจากชาไข่มุกหนึ่งร้อยถ้วยแล้ว เพื่อเป็การขอบคุณการสนับสนุนของทุกท่าน เถ้าแก่เนี้ยของเราได้มีบัญชาให้มอบของว่างสูตร์สองชนิดให้แก่ลูกค้าร้อยท่านแรก ได้ลิ้มลองเป็ขวัญตาโดยไม่คิดเงินแม้แต่อีแปะเดียว!"
สิ้นเสียงประกาศ ฝูงชนก็ะเิเสียงเฮลั่นราวกับแผ่นดินจะถล่ม!
"ฟรี! ของกินฟรีจริงๆ ด้วย!"
"แม่นางไป๋ช่างใจกว้างราวกับพระโพธิสัตว์!"
การควบคุมฝูงชนเป็ไปอย่างทุลักทุเลกว่าเมื่อวานเล็กน้อย แต่ด้วยประสบการณ์ของอาซื่อและทีมงาน ในที่สุดลูกค้าหนึ่งร้อยคนแรกที่ได้ป้ายไม้ไผ่ก็สามารถเข้ามาในร้านได้สำเร็จ หนึ่งในนั้นคืออาเปียว ลูกน้องของผู้จัดการเกาที่วันนี้ทุ่มสุดตัวจนได้ป้ายมาครองสมใจ
เมื่อลูกค้านั่งประจำที่ ชาไข่มุกก็ถูกนำมาเสิร์ฟก่อน และตามมาด้วยจานกระเบื้องเคลือบใบเล็กๆ ที่มีของว่างสองชนิดวางอยู่ แท่งสีเหลืองทองอร่ามที่ดูเหมือนกิ่งไม้ กับชิ้นเนื้อสีทองกรอบที่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งจนแทบจะทำให้ิญญาหลุดออกจากร่าง!
สวี่จิ้ง คุณชายใจร้อนที่แน่นอนว่าต้องได้เป็หนึ่งในร้อยคนแรก มองของว่างตรงหน้าด้วยความตะลึงงัน
'นี่มันอะไรกันอีก! หน้าตาประหลาด แต่กลิ่น โอ้์ กลิ่นของมันทำให้ท้องของข้าคำรามราวกับอสูรา!'
เขาไม่รอช้า ใช้ตะเกียบคีบ "แท่งไม้สีทอง" ขึ้นมาหนึ่งชิ้นอย่างบรรจง ก่อนจะส่งมันเข้าปาก
"กร๊อบ!"
วินาทีนั้น โลกทั้งใบของสวี่จิ้งก็พลันสว่างวาบขึ้นมา!
ััแรกคือความกรอบ! กรอบนอกอย่างน่าอัศจรรย์! ตามมาด้วยเนื้อััที่นุ่มละมุนราวกับปุยเมฆที่อยู่ข้างใน! และรสชาติเค็มนิดๆ มันหน่อยๆ ที่ปลายลิ้น มันช่างเรียบง่ายแต่กลับสมบูรณ์แบบอย่างไม่น่าเชื่อ! เขาหลับตาพริ้ม เคี้ยวช้าๆ ซึมซับรสชาติที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนในชีวิต!
"นี่...นี่มัน สุดยอด!" เขารำพึงออกมาเบาๆ
จากนั้นเขาก็หันไปหาเป้าหมายต่อไป ชิ้นเนื้อสีทองกรอบ! เขากัดเข้าไปเต็มคำ!
"กร๊อบบบบบ!!!"
เสียงหนังที่กรอบสะท้านนั้นดังยิ่งกว่าเสียงประทัดในวันตรุษจีน! มันแตกกระจายในปาก ปลดปล่อยรสชาติเค็มๆ มันๆ ออกมาอย่างบ้าคลั่ง! แต่สิ่งที่ตามมานั้นยิ่งกว่า! เนื้อไก่ที่อยู่ข้างในนั้น ทั้งนุ่ม! ทั้งชุ่มฉ่ำ! น้ำแกงร้อนๆ ที่ถูกกักเก็บไว้พวยพุ่งออกมา ัักับลิ้นของเขา! รสชาติของเครื่องเทศนานาชนิดที่หมักจนเข้าเนื้อะเิขึ้นในโพรงปาก!
มันคือการโจมตีทางรสชาติที่รุนแรงและงดงามที่สุดเท่าที่เขาเคยประสบมาในชีวิต!
สวี่จิ้งน้ำตาคลอหน่วย! นี่ไม่ใช่แค่อาหาร! นี่มันคืองานศิลปะ!
"พี่น้อง!!!" เขาะโขึ้นสุดเสียง จนทุกคนในร้านหันมามอง "ถ้าข้าไม่ได้กินของสิ่งนี้อีก ชาตินี้ข้าเกิดมาเสียชาติเกิดโดยแท้!"
คำประกาศกร้าวที่เต็มไปด้วยอารมณ์อันพลุ่งพล่านนั้น เปรียบเสมือนสัญญาณเปิดศึก! ลูกค้าคนอื่นๆ ที่กำลังลังเลอยู่ต่างรีบลงมือชิมของว่างในจานของตนเองทันที!
และแล้ว ปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์โรงน้ำชาแห่งเมืองหลวงก็ได้อุบัติขึ้น!
เสียงร้องแห่งความสุดยอดดังขึ้นระงมจากทุกโต๊ะ!
"โอ้์! มันฝรั่งแท่งนี่มันอะไรกัน! ข้ากินเข้าไปแล้วรู้สึกเหมือนกำลังลอยอยู่บนเมฆ!"
"ไก่ทอด! ไก่ทอดนี่...หนังมันกรอบจนข้าอยากจะเอาไปทำเป็เกราะสวมเลย! ส่วนเนื้อข้างในก็นุ่มจนแทบไม่ต้องเคี้ยว! พ่อครัววังหลวงมาเห็นเข้าคงต้องคุกเข่าคำนับ!"
"ข้า...ข้าอยากจะร้องไห้! ทำไมของอร่อยเช่นนี้เพิ่งจะมาปรากฏบนโลกใบนี้! ชีวิตที่ผ่านมาของข้ามันช่างว่างเปล่าเสียจริง!"
บางคนกินไปหัวเราะไปราวกับคนเสียสติ บางคนหลับตาพริ้มน้ำตาไหลพรากด้วยความซาบซึ้งในรสชาติ! โรงน้ำชาสดับวสันต์บัดนี้ไม่ต่างอะไรกับลัทธิประหลาดที่กำลังประกอบพิธีกรรมทางอาหาร!
อาเปียว ลูกน้องของผู้จัดการเกาที่แฝงตัวเข้ามานั่งตัวสั่นงันงกอยู่ในมุมหนึ่ง
'นี่...นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น! มันก็แค่ของทอดธรรมดาๆ ไม่ใช่รึ? เหตุใดทุกคนถึงได้มีปฏิกิริยาเหมือนโดนภูตผีเข้าสิงเช่นนี้! ข้าต้องตั้งสติไว้ ข้าต้องไม่หลงกล'
เขาพยายามสะกดใจตัวเอง ก่อนจะคีบมันฝรั่งแท่งหนึ่งเข้าปากอย่างระแวดระวัง
...!!!
ดวงตาของเขาเบิกกว้าง! สมองว่างเปล่าไปชั่วขณะ! รสชาติที่เรียบง่ายแต่กลับล้ำลึกเกินบรรยายแล่นปราดไปทั่วทุกอณูของร่างกาย! เขาลองกินไก่ทอดตามเข้าไปอีกชิ้น
"กร๊อบ!"
'ไม่ ไม่จริง เป็ไปไม่ได้' เข่าของเขาอ่อนยวบลงจนแทบจะหล่นจากเก้าอี้! น้ำลายไหลออกมาจากมุมปากโดยไม่รู้ตัว! สติสัมปชัญญะที่พยายามยึดเหนี่ยวไว้ขาดผึงลงในบัดดล!
"อร่อย!!! อร่อยโว้ยยยย!!!" เขาลืมสิ้นซึ่งภารกิจ ลืมสิ้นซึ่งนายจ้าง เขากลายเป็สาวกผู้คลั่งไคล้ไปอีกคนหนึ่ง! เขากิน กิน และกินอย่างไม่คิดชีวิต!
เมื่อของว่างในจานหมดลง ความโกลาหลระลอกใหม่ก็บังเกิด!
"เถ้าแก่เนี้ย! ข้าขอซื้อเพิ่ม! เท่าไหร่ข้าก็ยอมจ่าย!"
"ใช่ๆๆ! ข้าขอไก่ทอดสิบชิ้น! มันฝรั่งอีกสิบจาน! เอาเงินข้าไปเลย!"
ผู้จัดการซุนเดินออกมากลางร้านพร้อมกับรอยยิ้มที่มีเลศนัย (ซึ่งเขาฝึกมาจากไป๋ฟางซิน) "ต้องขออภัยทุกท่านด้วยขอรับ" เขากล่าว "ของว่างสองชนิดนี้เป็เพียง ของขวัญสำหรับวันนี้เท่านั้น ยังไม่มีวางจำหน่ายอย่างเป็ทางการขอรับ"
"หาาาาาาาาา!!!"
เสียงร้องโหยหวนด้วยความผิดหวังดังสนั่นไปทั่วร้าน! มันคือเสียงของคนที่เพิ่งจะได้ขึ้น์แล้วถูกถีบกลับลงนรกอย่างไม่ทันตั้งตัว!
"ทำไมล่ะ! ทำไมถึงไม่ขาย! พวกท่านจะทรมานพวกข้าไปถึงไหน!" สวี่จิ้งทุบโต๊ะปังๆ อย่างหัวเสีย
ผู้จัดการซุนยิ้มอย่างใจเย็น "เถ้าแก่เนี้ยของเรากล่าวว่า ของดีต้องใช้เวลาในการเตรียมการขอรับ หากท่านอยากจะลิ้มลองอีกครั้ง โปรดติดตามประกาศจากทางร้านของเราต่อไปนะขอรับ"
นี่คือกลยุทธ์ "สร้างความ้าให้ถึงขีดสุดแล้วตัดจบ" ของไป๋ฟางซิน! มันโหดร้ายแต่มันก็ได้ผลชะงัด!
ลูกค้าร้อยคนแรกเดินออกจากร้านไปด้วยสภาพกึ่งสุขกึ่งทุกข์ ในมือถือชาไข่มุกที่แสนอร่อย แต่ในใจกลับคร่ำครวญถึงของว่างที่ไม่ได้กินอีก พวกเขากลายเป็หน่วยประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ที่ทรงพลังที่สุด บอกเล่ารสชาติ์ของมันฝรั่งแท่งทองคำและไก่ทอดหอมหมื่นลี้ให้กับทุกคนที่เดินผ่าน!
