บทที่ 5 ยาชามนี้ยิ่งดื่มยิ่งตายเร็ว
กู้ชิงอวิ๋นหรี่ตาลง...
จวนแม่ทัพแห่งนี้...ไม่ได้แค่เน่าเฟะจากภายใน...แต่ดูเหมือนว่ามันกำลังจะ...ล่มสลายเพราะความยากจนด้วยงั้นรึ? เื่ราว...ดูเหมือนจะซับซ้อนกว่าที่ข้าคิดไว้
ความคิดของนางหยุดชะงักลงเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นสำรับอาหารสองชุดที่จัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว นางชี้ไปยังสำรับที่ดูดีกว่า ซึ่งมีผัดผักและเนื้อหมูชิ้นเล็กๆ
"นี่ของผู้ใด?"
ป้าจางรีบตอบอย่างนอบน้อม "เป็ของฮูหยินรองและคุณหนูรองเ้าค่ะ"
จากนั้นกู้ชิงอวิ๋นก็ชี้ไปยังชามเล็กๆ ที่มีเพียงน้ำแกงผักกาดขาวจืดชืดสีซีดเซียว
"แล้วนี่เล่า?"
"เอ่อ...นั่นเป็ของฮูหยินผู้เฒ่าเ้าค่ะ" ป้าจางตอบเสียงอ่อย
"ฮูหยินรองบอกว่าท่านผู้เฒ่าชราแล้ว ไม่สบายอยู่บ่อยๆ ไม่ต้องใส่เนื้อสัตว์หรือของมันๆ ลงในอาหารมากนักเ้าค่ะ"
ฮูหยินผู้เฒ่า...ท่านย่าแท้ๆ ของนาง มารดาของแม่ทัพกู้เจิ้นเทียน!
คิ้วของกู้ชิงอวิ๋นขมวดเข้าหากันทันที ในฐานะแพทย์ นางรู้ดีที่สุดว่าผู้สูงอายุที่เจ็บป่วยนั้น้าสารอาหารและโปรตีนเพื่อฟื้นฟูร่างกายมากกว่าคนปกติเสียอีก การให้กินแค่น้ำแกงจืดชืดเช่นนี้ มันไม่ใช่การดูแล...แต่มันคือการทำให้ร่างกายทรุดโทรมลงอย่างช้าๆ!
"สำรับของฮูหยินผู้เฒ่า" กู้ชิงอวิ๋นเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเ็า
"ข้าจะนำไปส่งด้วยตัวเอง"
คำพูดของนางทำให้ทุกคนในครัวใอีกครั้งคุณหนูใหญ่ที่ไม่เคยย่างกรายออกจากเรือนโทรมๆ ของตนเอง บัดนี้ไม่เพียงแต่บุกมาถึงครัวหลวง แต่ยังจะไปที่เรือนของฮูหยินผู้เฒ่าอีก!
ระหว่างทางไปยังเรือน เมฆาสงบอันเป็ที่พักของฮูหยินผู้เฒ่า กู้ชิงอวิ๋นก็เอ่ยถามอาหนิงที่เดินตามมาด้วยถาดอาหาร
"ท่านย่าป่วยเป็อะไร?"
อาหนิงถอนหายใจ
"บ่าวก็ไม่แน่ใจเ้าค่ะคุณหนูใหญ่ ได้ยินแต่ว่าท่านผู้เฒ่าเบื่ออาหารมานานหลายเดือนแล้ว ร่างกายอ่อนเพลียลงทุกวัน แถมยังไอเรื้อรังไม่หาย ฮูหยินรองเป็ผู้ดูแลเื่ยาและการรักษาทั้งหมด นางอ้างว่าหมอหลวงบอกให้ท่านผู้เฒ่าพักผ่อนให้มากๆ และกินแต่อาหารอ่อนๆ ทั้งยังสั่งห้ามไม่ให้ใครเข้าไปรบกวนบ่อยๆ ด้วยเ้าค่ะ"
ฟังดูเหมือนการดูแลที่เอาใจใส่...แต่ในหูของกู้ชิงอวิ๋น มันคือการ "กักบริเวณ" และ "ควบคุม" อย่างชัดเจน!
เมื่อมาถึงเรือนเมฆาสงบ บรรยากาศที่นี่เงียบสงัดและวังเวงผิดปกติ แม้จะดูดีกว่าเรือนของนาง แต่ก็ขาดการดูแลเอาใจใส่เช่นกัน สาวใช้สองคนที่เฝ้าอยู่หน้าประตูก็มีท่าทีอิดโรยและไม่ใส่ใจนักกลิ่นยาต้มที่เหม็นอับและกลิ่นอายของความเจ็บป่วยลอยคละคลุ้งไปทั่วห้อง บนเตียงไม้สักตัวใหญ่ มีร่างของหญิงชราผมขาวโพลนนอนหายใจรวยรินอยู่ นางคือฮูหยินผู้เฒ่าแห่งจวนแม่ทัพกู้
ทันทีที่กู้ชิงอวิ๋นและอาหนิงก้าวเข้าไปในห้องนอนหลัก สิ่งแรกที่ได้ยินคือเสียงไอที่แหบแห้งและดังอย่างต่อเนื่องจนน่าทรมานข้างเตียงไม้สักตัวใหญ่ มีร่างของหญิงชราผมขาวอีกคนหนึ่งกำลังนั่งก้มหน้าก้มตาบดยาสมุนไพรในถ้วยอย่างเชื่องช้า นางคือ ป้าหลิน บ่าวรับใช้เก่าแก่ที่อยู่กับฮูหยินผู้เฒ่ามาั้แ่ยังสาว ทุกครั้งที่นางบดยาเสร็จ ก็จะไอโขลกออกมาหลายครั้งจนตัวโยน มือที่เหี่ยวย่นของนางสั่นเทาเล็กน้อย
เมื่อเห็นผู้มาใหม่ ป้าหลินก็รีบพยุงร่างลุกขึ้นอย่างยากลำบากเพื่อจะทำความเคารพ
"คุณหนูใหญ่...ท่านมาที่นี่ได้อย่างไรเ้าคะ? ฮูหยินรองสั่งห้าม..." นางเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ เพราะว่าคุณหนูใหญ่นั้นถูกฮูหยินรองสั่งห้ามออกนอกเรือนมานานแล้วมิใช่หรือ เหตุใดวันนี้นางถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้ กู้ชิงอวิ๋นมองไปที่ป้าหลินก่อนจะเอ่ยขึ้นมาว่า
"อาการไอของท่านก็ดูไม่ดีเลยนะป้าหลิน" กู้ชิงอวิ๋นเอ่ยขึ้นแทรกโดยไม่สนใจคำทักท้วง สายตาของนางมองทะลุไปถึงสภาพร่างกายของบ่าวชราผู้นี้
"ฟังจากเสียงแล้ว เสมหะติดค้างในปอดท่านมานานหลายปีแล้วใช่หรือไม่?"
ป้าหลินใที่ถูกทักเช่นนั้น นางไอออกมาอีกสองสามครั้งก่อนจะตอบเสียงแ่
"ก็แค่โรคของคนแก่เ้าค่ะ...เทียบกับอาการของฮูหยินผู้เฒ่าแล้ว บ่าวยังทนได้"
แววตาของนางเต็มไปด้วยความภักดีและความเหนื่อยล้าอย่างปิดไม่มิด
"ท่านพักก่อนเถอะป้าหลิน" กู้ชิงอวิ๋นกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงเล็กน้อย
"ให้ข้าดูอาการท่านย่าเอง"
“แต่…” ป้าหลินนั้นไม่รู้ว่าคุณหนูใหญ่้าทำอะไร และวันนี้ท่าทางของนางก็ดูแปลกประหลาดกว่าที่เคยด้วย นางพยายามจะห้ามแต่ว่ากู้ชิงอวิ๋นนั้นพยักหน้าให้อาหนิงพาป้าหลินออกไปก่อน อาหนิงวางถาดอาหารลงและพาป้าหลินออกไปตามคำสั่งคุณหนู เมื่อทั้งสองออกจากห้องไป กู้ชิงอวิ๋นก็เดินตรงไปที่เตียง นั่งลงข้างๆ ก่อนจะยื่นมือไปจับชีพจรของท่านย่าที่กำลังนอนหายใจรวยรินอย่างนุ่มนวล และเพื่อความแน่ใจ นางหยิบอุปกรณ์การแพทย์สมัยใหม่มาตรวจด้วยเลยทันที นางใช้สมาธิทั้งหมดเพื่อวินิจฉัย...และยิ่งนางตรวจสอบลึกเท่าไหร่...แววตาของนางก็ยิ่งเย็นเยียบและฉายแววอำมหิตมากขึ้นเท่านั้น เมื่อตรวจเรียบร้อยกู้ชิงอวิ๋นก็ส่งอุปกรณ์อาการแพทย์ของนางเข้ามิติและเอ่ยเรียกฮูหยินผู้เฒ่าเบาๆ
"ท่านย่า"
เสียงเรียกของนางทำให้หญิงชราค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า ดวงตาที่เคยเปี่ยมด้วยอำนาจ บัดนี้กลับฝ้าฟางและอ่อนล้า แต่เมื่อนางเห็นใบหน้าของกู้ชิงอวิ๋นชัดๆ แววตาคู่นั้นก็ปรากฏความประหลาดใจเจือปนอยู่
ผลการตรวจนั้นบ่งบอกว่า...ท่านย่าของนางมีอาการของ โรคปอดชื้น จากความชรา ทำให้ระบบทางเดินหายใจอ่อนแอและมีเสมหะสะสมอยู่มาก นอกจากนี้หัวใจของท่านก็เริ่มทำงานหนักเกินไปจากการที่ต้องสูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงปอดที่อ่อนแอ...นี่คือโรคชราที่สามารถพบได้ทั่วไป แต่หากได้รับการบำรุงรักษาและยาที่ถูกต้อง ก็จะสามารถประคองอาการและยืดอายุขัยไปได้อีกหลายปี
แต่สิ่งที่ท่านย่าได้รับกลับตรงกันข้าม อาหารจืดชืดไร้สารอาหารทำให้ร่างกายของท่านไม่มีพลังงานที่จะต่อสู้กับโรคภัย และที่เลวร้ายที่สุด...คือยาที่ท่านดื่มอยู่ทุกวัน!
กู้ชิงอวิ๋นลืมตาขึ้นอีกครั้ง สบตากับท่านย่าที่มองมาอย่างอ่อนแรง นางหยิบถ้วยยาที่วางอยู่ข้างเตียงขึ้นมาดม...กลิ่นของมันคือสมุนไพรบำรุง แต่เป็สมุนไพรที่มีฤทธิ์ เย็นทั้งสิ้น
สำหรับคนป่วยโรคปอดชื้นเช่นท่านย่า การดื่มยาที่มีฤทธิ์เย็นเข้าไปก็ไม่ต่างอะไรกับการราดน้ำมันเข้ากองไฟ มันจะยิ่งไปกดพลังหยางในร่างกาย ทำให้ความชื้นในปอดสะสมมากขึ้น และเร่งให้โรคเติบโตเร็วขึ้น!
นี่ไม่ใช่การรักษา...แต่มันคือการฆาตกรรมอย่างเืเย็นโดยอาศัยความรู้ทางการแพทย์!…นี่เป็การจงใจหรือว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์กันนะ…แต่เท่าที่ดูพฤติกรรมของฮูหยินรองของท่านพ่อแล้วนางเอนเอียงความสนใจไปทางข้อสองมากกว่า แต่เื่นั้นเอาไว้ก่อน บัญชีของฮูหยินรองนั้นยาวเหยียดที่ให้นางเรียกเก็บตอนนี้ต้องแก้ไขสถานการณ์ให้ท่านย่าด่วน
"ท่านย่า" นางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นและชัดเจน
"อาการของท่านทรุดหนักลง ไม่ใช่เพราะความชราแต่เพียงอย่างเดียว...แต่เป็เพราะท่านได้รับการรักษาที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรง!"
นางสาดถ้วยยาทิ้งออกไปนอกหน้าต่างทันที!
"ยาถ้วยนี้...มันไม่ใช่ยาบำรุง แต่มันคือยาพิษในคราบของยาบำรุง ยิ่งดื่มก็ยิ่งตายเร็วขึ้น!"
ฮูหยินผู้เฒ่า...ดวงตาที่เคยฝ้าฟางของนางกลับเบิกกว้างขึ้น พร้อมกับประกายแห่งความโกรธแค้นที่ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง!อะไรนะยาพิษเช่นนั้นรึ…แล้วอวิ๋นเออร์รู้ได้อย่างไรกัน…นางค่อนข้างงวยงง แต่เพราะสภาพร่างกายที่อ่อนแอทำให้ไม่สามารถที่จะประคองสติให้คิดต่อไปได้ นางค่อยๆ หลับตาพลางคิดว่า…เอาเถอะคนเราเมื่อถึงเวลาที่จะต้องตายผู้ใดจะฝืนได้ตอนนี้นางได้แต่ยอมรับชะตากรรมของตัวเอง …
กู้ชิงอวิ๋นมองดูหญิงชราที่ดูเหมือนนางจะยอมจำนนต่อโชคชะตาของตัวเอง แม้ว่านางจะบอกว่ายาที่กินเป็พิษนางก็ยังมีปฎิกิริยาน้อยมาก…
"ท่านย่าโปรดวางใจ" กู้ชิงอวิ๋นกุมมือที่เหี่ยวย่นของท่านย่าไว้แน่น ในฝ่ามืออีกข้างปรากฏยาเม็ดสีทองอร่ามขึ้นมาหนึ่งเม็ด
"นี่คือ ยาเม็ดปรับสมดุลธาตุ มันจะช่วยขับพิษเย็นและฟื้นฟูพลังหยางในร่างของท่าน...หลานคนนี้กลับมาแล้ว ต่อจากนี้ไป จะไม่มีใครรังแกท่านได้อีก!"
ยาเม็ดปรับสมดุลธาตุที่กู้ชิงอวิ๋นป้อนให้ท่านย่าเริ่มทำงานทันที มันช่วยขับพิษเย็นและประคองพลังชีวิตที่อ่อนแอของนางไว้ แต่กู้ชิงอวิ๋นรู้ดีว่านี่เป็เพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ร่างกายของท่านย่าที่ขาดสารอาหารมานานนั้นอ่อนแอเกินกว่าจะดูดซึมยาหรืออาหารทางปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบย่อยอาหารล้มเหลว...การให้ยาทางปากได้ผลเพียงหนึ่งในสิบส่วน...ทางเดียวที่จะช่วยชีวิตท่านย่าได้อย่างรวดเร็วที่สุด คือการส่งยาและสารอาหารเข้าสู่กระแสเืโดยตรง
กู้ชิงอวิ๋นเดินไปที่ประตูและเรียกหาอาหนิงด้วยแววตาจริงจัง
"อาหนิง ข้ากำลังจะเริ่มทำการรักษาท่านย่า เ้าจงไปเฝ้าอยู่หน้าประตู ห้ามใครเข้ามาเป็อันขาด ไม่ว่าจะเป็ใครก็ตาม...เข้าใจหรือไม่?"
อาหนิงที่บัดนี้มองคุณหนูใหญ่ของตนราวกับเทพธิดาโดยสมบูรณ์แล้วรีบพยักหน้ารับคำอย่างแข็งขัน
"เ้าค่ะคุณหนูใหญ่ ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิต บ่าวก็จะไม่ให้ใครก้าวเข้ามาในห้องนี้แม้แต่ครึ่งก้าว!"
เมื่ออาหนิงออกไปเฝ้าที่หน้าประตูแล้ว กู้ชิงอวิ๋นก็เดินไปปิดหน้าต่างทุกบานจนห้องทั้งห้องตกอยู่ในความสลัว นางเดินกลับมาที่ข้างเตียง ยกมือขวาขึ้นมา ในใจนึกถึงสิ่งที่้า...
วูบ!
ในฝ่ามือของนางพลันปรากฏของที่ไม่ควรจะมีอยู่ในยุคนี้ มันคือถุงพลาสติกใสที่บรรจุของเหลวสีเหลืองอ่อน พร้อมสายยางที่เชื่อมต่อกับเข็มโลหะเล็กๆ และยังมีหลอดฉีดยาที่บรรจุของเหลวใสเตรียมพร้อมไว้อีกหนึ่งหลอด!
นี่คือชุดให้น้ำเกลือสารอาหารทางหลอดเืดำสูตรเข้มข้น และยาปฏิชีวนะรุ่นล่าสุดจากมิติหีบโอสถของนาง!
นางมองไปที่ท่านย่าซึ่งกำลังนอนหายใจรวยรินอย่างกึ่งหลับกึ่งตื่น แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลที่สุด
"ท่านย่า ไม่ต้องกลัวนะเ้าคะ นี่คือวิชาลับของตระกูลท่านแม่ของข้า อาจจะเจ็บเล็กน้อยเหมือนมดกัด แต่จะช่วยให้ท่านฟื้นตัวได้เร็วขึ้นมาก"
นางใช้สำลีที่ชุบแอลกอฮอล์ ซึ่งนางหยิบออกมาจากหีบโอสถเช่นกันเช็ดทำความสะอาดบริเวณข้อพับแขนที่เหี่ยวย่นของท่านย่าอย่างแ่เบา ดวงตาพิเศษของนางมองเห็นเส้นเืดำที่ซ่อนอยู่ใต้ิัได้อย่างชัดเจน
"เจ็บนิดเดียวนะเ้าคะ"
นางใช้นิ้วดีดเบาๆ ที่หลอดฉีดยาเพื่อไล่ฟองอากาศ ก่อนจะปักเข็มลงไปในเส้นเืของท่านย่าด้วยความชำนาญและรวดเร็วจนแทบมองไม่ทัน!
ฮูหยินผู้เฒ่าสะดุ้งเล็กน้อย แต่ความเจ็บนั้นน้อยกว่าที่คิดจริงๆ จากนั้นนางก็รู้สึกถึงของเหลวเย็นๆ ที่ค่อยๆ ไหลเข้าสู่ร่างกาย เป็ความรู้สึกที่แปลกประหลาดอย่างยิ่ง
กู้ชิงอวิ๋นฉีดยาปฏิชีวนะเข้าไปจนหมดหลอด ก่อนจะเปลี่ยนไปต่อสายน้ำเกลือสารอาหารเข้ากับเข็มคาหลอดเืที่นางเสียบคาไว้ นางแขวนถุงน้ำเกลือไว้กับเสาเตียง ปรับอัตราการหยดของของเหลวอย่างแม่นยำ
บัดนี้...เทคโนโลยีการแพทย์แห่งศตวรรษที่ 21 กำลังทำงานอย่างเต็มรูปแบบในร่างของฮูหยินผู้เฒ่าแห่งจวนแม่ทัพในยุคโบราณ!และผลลัพธ์ของมันปรากฏให้เห็นเร็วกว่าที่คิด!
ยาปฏิชีวนะที่เข้าสู่กระแสเืโดยตรงเริ่มเข้าจัดการกับเชื้อโรคในปอด เสียงไอที่เคยดังเป็ระยะๆ ของท่านผู้เฒ่าเริ่มเงียบลง ลมหายใจของนางดูติดขัดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด และสารอาหารสูตรเข้มข้นก็เริ่มฟื้นฟูร่างกายที่ขาดแคลนมานาน ใบหน้าที่เคยซีดเผือดเริ่มมีสีเืฝาดปรากฏขึ้นจางๆ!
กู้ชิงอวิ๋นนั่งลงข้างเตียง กุมมือของท่านย่าไว้พลางจับชีพจรเพื่อสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด นางรู้ดีว่าค่ำคืนนี้คือ่เวลาที่สำคัญที่สุด
ภายนอกห้องนั้น อาหนิงยืนเฝ้าประตูอย่างแข็งขัน แม้ว่าป้าหลินอยากจะเข้ามาก็ไม่สามารถทำได้นางจึงได้แต่ยืนอยู่หน้าห้องกับอาหนิงนั้นเอง และแล้วก็ตามคาด...สาวใช้คนสนิทของฮูหยินรองก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับถาดน้ำชา
"ฮูหยินรองเป็ห่วงท่านผู้เฒ่า จึงให้ข้านำชาบำรุงมาให้ เปิดประตูให้ข้าเข้าไป"
"ไม่ได้เ้าค่ะ!" อาหนิงกางแขนขวาง
"คุณหนูใหญ่กำลังทำการรักษาให้ท่านผู้เฒ่าอยู่ข้างใน และสั่งห้ามไม่ให้ใครรบกวน!"
"คุณหนูใหญ่งั้นรึ? นางจะไปรู้อะไรเื่การรักษา หลีกไป!"
"ข้าไม่หลีก ต่อให้ท่านจะฆ่าข้า ข้าก็ไม่ให้ท่านเข้าไป!" อาหนิงยืนกรานอย่างเด็ดเดี่ยว
ในขณะที่ข้างนอกกำลังเกิดความวุ่นวายเล็กๆ ข้างในห้อง กู้ชิงอวิ๋นกลับไม่สนใจสิ่งใด นางจดจ่ออยู่กับสัญญาณชีพของท่านย่าที่กำลังดีขึ้นทีละน้อย...
****อย่าลืมกดหัวใจ คอมเมนต์ เพิ่มเข้าชั้นเป็กำลังใจให้ไรท์ปั่นๆ ด้วยนะเ้าค่ะ อยากอ่านคอมเมนต์อยากได้หัวใจมากเลย****
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้