"สีหน้าจะไม่ดีได้อย่างไร เ้าต้องมองผิดแน่แล้วยวี่เอ๋อร์ เหตุใดเ้า...อยู่ในจวนงั้นหรือ? เมื่อคืนข้าหาเ้าไม่เจอยังคิดว่าจะเกิดเื่อะไรขึ้นกับเ้าหรือไม่? ทว่าข้าคงจะกังวลเกินไปแล้ว"เหนียนอีหลานจับมือเหนียนยวี่ ลอบสังเกตนาง ดูเหมือน้าจะมองหาจุดแตกต่างอะไรสักอย่างบนตัวนางทว่าเหนียนอีหลานต้องผิดหวังแล้ว
เหนียนยวี่ยามนี้ ดูไม่มีอะไรผิดแปลกไปจากปกติแม้สักนิด
หากสตรีผู้หนึ่งถูกทำลายความบริสุทธิ์ก็ไม่ควรมีท่าทางเช่นเหนียนยวี่ในยามนี้
เว้นแต่…
เว้นแต่ว่าจริงๆ แล้วไม่มีเื่อะไรเกิดขึ้น
เหนียนยวี่มองสีหน้าท่าทางของอีกฝ่ายเหนียนอีหลานกังวลเื่นางมากขนาดนี้เชียว?
ทว่าเหตุใดนางกลับรู้สึกว่าเหนียนอีหลานผิดหวังที่ได้พบนางในเวลานี้
หรือ...เหนียนอีหลานคิดว่า ควรต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับตัวนาง!
เหนียนยวี่นึกถึงเื่ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนางเดาว่ามันคงเกี่ยวข้องกับเหนียนอีหลาน ทว่าหลังจากฟังคำพูดของฉินอัน และเห็นภาพเหมือนภาพนั้นนางก็ปฏิเสธความคิดนี้ไป แต่ทว่าเวลานี้ เมื่อเห็นพี่สาวของตนผู้นี้แล้วคงจะตัดนางออกจากเื่นี้ไม่ได้
้าทำลายความบริสุทธิ์ของนางหรือ?
ในใจของเหนียนยวี่อัดแน่นไปด้วยความเย็นเยือกความเย้ยหยันในจิตใจก็ตามมา
เช่นนั้น...นางก็อยากจะทำให้เหนียนอีหลานต้องผิดหวังแล้วจริงๆ!
เหนียนยวี่มีความคิดมากมายในใจทว่ายังคงเล่นงิ้วกับพี่สาวที่ "ใจดี" ผู้นี้ต่อไป
“ยวี่เอ๋อร์ผิดไปแล้วยวี่เอ๋อร์เห็นแก่เที่ยวเล่น เมื่อคืนโคมไฟในเมืองชุ่นเทียนงดงามมาก ข้าเที่ยวเล่นจนลืมเวลาไปทำให้ท่านพี่เป็ห่วงแล้ว ยวี่เอ๋อร์สมควรตาย" เหนียนยวี่ทำตัวประหนึ่งเด็กไม่ดีที่กระทำความผิดความกลัวที่จะถูกตำหนิปรากฏบนใบหน้าของนางอย่างชัดเจน
สมควรตาย!
สมควรตายจริงๆ!
เหนียนอีหลานกำผ้าเช็ดหน้าแน่น ชมโคมไฟจนลืมเวลาแล้วแผนของเอ้อเปี่ยวเกอเล่า...
เหนียนอีหลานรู้แล้วว่าเื่ที่พวกเขาวางแผนกันเมื่อคืนสูญเปล่า เมื่อคืนนี้เหนียนยวี่ไม่ได้ไปหาท่านอ๋องมู่ที่ริมทะเลสาบงั้นหรือ?
คำถามนี้ผุดขึ้นในใจนาง ในใจของเหนียนอีหลานเริ่มรู้สึกไม่สบายใจอยากจะถามเหนียนยวี่ออกไป ทว่านางกลัวจะเปิดเผยอะไรออกไป จึงทำได้แค่อดกลั้นและฝืนยิ้มออกมา“หลังจากนี้อย่าเห็นแก่เล่นเช่นนี้อีก เ้าตัวคนเดียว หากเกิดเื่อะไรขึ้นมา จะทำอย่างไร”
เหนียนอีหลานเอ่ยอย่างกังวลเหนียนยวี่พยักหน้าทันที "อืม หลังจากนี้เหนียนยวี่จะฟังท่านพี่ทว่าท่านพี่..."
เหนียนยวี่มองประเมินเสื้อผ้าหรูหรางดงามของเหนียนอีหลาน อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว"เสื้อผ้าของท่านพี่..."
พี่สาวผู้ใจดีนางนี้ไม่ใช่บอกว่างานเลี้ยงในสวนวันนี้นางจะใส่ชุดที่สั่งตัดจากหลินหลางซวนคู่กับนางหรือ?
ณ เวลานี้ ทั้งร่างของนางช่างวิจิตรงดงาม...
เหนียนยวี่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะในใจรอดูว่าพี่สาวที่แสนดีจะเล่นงิ้วเื่พี่น้องผูกพันต่อไปอย่างไร
เป็ไปตามที่คิดไว้ ร่างของเหนียนอีหลานสะดุ้งไปเล็กน้อย รอยยิ้มบนใบหน้าแข็งทื่อไปครู่หนึ่งทว่าเพียงครู่เดียว คิ้วงดงามก็ขมวดเข้าหากัน "ฟางเหอซุ่มซ่ามไม่ระวังทำเสื้อผ้าชุดนั้นขาด ดังนั้นข้าจึงต้องจำใจ...ยวี่เอ๋อร์ข้าไม่ได้สวมเสื้อผ้าเหมือนเ้า เ้าจะไม่ตำหนิข้าใช่หรือไม่?"
เดิมทีก็เป็เช่นนี้!
ฟางเหอทำขาดหรือ?
“ได้อย่างไรเล่า ยวี่เอ๋อร์จะตำหนิท่านพี่ได้อย่างไรเสื้อผ้าชุดนี้ เหมาะกับท่านพี่มาก ช่างเข้าคู่เหมาะสมกับความงดงามของท่านวันนี้ท่านพี่ต้องโดดเด่นเกินผู้ใดแน่” เหนียนยวี่มองใบหน้าเสแสร้งของเหนียนอีหลานเอ่ยปากชมอย่างไม่ใจแคบ แสดงออกอย่างมีเหตุผลเป็อย่างยิ่ง
ยามที่เหนียนยวี่ปรากฏตัวมาอยู่ข้างๆหนานกงเยวี่ย สีหน้านางก็มืดมนลงทันที
เดิมทีงานเลี้ยงในสวนวันนี้สาวใช้ชั้นต่ำผู้นี้ไม่มีทางมีโอกาส ทว่า...เมื่อนึกเื่ที่ชื่อของเหนียนยวี่ได้ถูกบันทึกลงในทะเบียนของราชสำนักแล้วในใจหนานกงเยวี่ยก็ขุ่นเคืองเป็พิเศษ ปรายตามองนางอย่างเ็า "อีหลานไปเถิด คุยกับสตรีชั้นต่ำนางนี้แล้วได้อะไร รถม้ารออยู่"
พูดจบก็จูงเหนียนอีหลานออกไป ไม่สนใจเหนียนยวี่ พวกเขาเดินออกจากลานเซียนหลานไปไม่กล่าวอะไร
หากเป็ยามปกติเหนียนอีหลานจะแสดงออกต่อหน้านางว่าไม่ยินยอม ทว่าครั้งนี้แม้แต่หน้าก็ไม่หันกลับมา
เหนียนยวี่มองแผ่นหลังนั้น สีหน้าดวงตาทะมึนลงทันที
วันนี้เหนียนอีหลาน ดูเหมือนจะผิดหวังมากจริงๆ!
หึ นางอยากจะเห็นพี่สาวผู้ "ใจดี"คนนี้ของตน ว่าเมื่อไหร่จะฉีกหน้ากากของนาง เผยโฉมหน้าที่แท้จริงของตัวเอง!
ลางสังหรณ์บอกนางว่า เหนียนอีหลานอีกนิดเดียวก็จะทนไม่ไหวแล้ว
เหนียนยวี่ยิ้มเยาะที่มุมปากและหัวเราะเบาๆ เมื่อนึกถึงงานเลี้ยงในสวนวันนี้เหนียนยวี่ก็ก้าวเท้าเดินตามคนข้างหน้าไป
งานเลี้ยงในสวนจะจัดขึ้นทุกๆ สี่ปีในวังหลวง
กฎของแคว้นเป่ยฉี เหล่าขุนนางอำมาตย์และบรรดาคนในครอบครัวที่เป็สตรีทุกคนต้องเข้าทางประตูอันชิ่ง
ด้านนอกประตูอันชิ่ง บรรดาคุณหนู ฮูหยินและคุณชายทั้งหลายที่ได้รับเชิญหลายคนมาถึงก่อนเวลา วันนี้เหล่าคุณหนูจากแต่ละตระกูลล้วนแต่งกายงดงามหรูหรา
ยามที่เหนียนอีหลานลงจากรถม้าสายตามากมายจับจ้องมองมา เกือบทุกสายตาต่างตื่นตาตื่นใจ หลังตื่นตาตื่นใจก็หดหู่มีคุณหนูใหญ่จวนเหนียนผู้นี้อยู่ เกรงว่างานเลี้ยงในสวนวันนี้ พวกนางคงยากจะโดดเด่น
เหนียนอีหลานรู้สึกได้ถึงสายตาเ่าั้ ในใจรู้สึกพึงพอใจในอย่างอธิบายไม่ถูกนางจะต้องเฉิดฉาย
แต่เหนียนยวี่...
ถึงแม้ใบหน้านางจะยิ่งเติบโตยิ่งงดงามทว่าในโอกาสแบบนี้แต่งกายเช่นนั้นมา อย่างไรก็ดูซอมซ่อไปหน่อย
ทันทีที่เหนียนยวี่ลงจากรถม้าเหนียนอีหลานก็เดินมาข้างนาง จูงมือนางอย่างสนิทสนม ยิ้มแย้มอบอุ่นอ่อนโยนสง่างามเพียบพร้อมอย่างมาก เทียบกับเหนียนยวี่ที่แต่งตัวงดงามเรียบง่าย หากเข้าร่วมงานเลี้ยงอย่างไรก็ต้องใส่ชุดที่ระยิบระยับเป็ประกาย ไม่ว่าผู้ใดก็จับจ้องมองแค่เหนียนอีหลานนางพาตัวเข้าไปอยู่ข้างๆ เหนียนยวี่เพื่อทำให้ตัวเองโดดเด่น
ทว่า มีใครบางคนกลับเฝ้ามองเงาร่างนางอยู่ด้วย
บนรถม้าที่อยู่ไม่ไกล สตรีสวมผ้าบางคลุมหน้า ส่งผลให้เห็นได้ไม่ชัดเจนนักเค้าโครงที่สวยงามของใบหน้ามองเห็นได้อย่างเลือนราง ดวงตาที่มองผ่านผ้าบางนั้นท่วงท่างดงามกินใจ ความเป็ธรรมชาตินั้นราวกับเผยออกมาจากภายใน
“นั่น...คือคุณหนูเหนียนยวี่ใช่หรือไม่?"อวี่เหวินหรูเยียนค่อยๆ เอ่ยปากขึ้น ส่งเสียงดังราวนกขมิ้นร้องขันดึงความสนใจของผู้คน เคยได้ยินมาว่าเหนียนอีหลาน คุณหนูใหญ่แห่งจวนเหนียนเกิดมางดงามดูแล้วก็หน้าตาสะสวยจริงๆ แต่ทว่า...
มุมปากของสตรีใต้ผ้าคลุมยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย"เมื่อเทียบกับฉินชู่ในยามนั้น กลับดูมีคุณธรรมน้อยกว่า"
เมื่อนึกถึงฉินชู่ดวงตาของอวี่เหวินหรูเยียนก็ตกตะลึง ครั้งหนึ่งนางเคยพบกับสาวงามอันดับหนึ่งของเป่ยฉี แม้เคยเจอแค่ครั้งเดียว ทว่าความสง่างามมีเสน่ห์นั้นประหนึ่งจะหยั่งรากอยู่ในจิตใจของนางทำให้นางมิอาจลืมได้ลง
ในยามนั้นสตรีผู้นั้นมีชายหนุ่มมากมายมาหลงใหลนาง...
บางทีอาจเป็เพราะหญิงสาวคนนั้นเอ่ยถึงฉินชู่ ท่าทีของบุรุษบนรถม้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยแต่ไม่นานก็กลับมาเป็ปกติ ดวงตาหันมองมาที่เหนียนยวี่ อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว"เด็กสาวที่อยู่ข้างๆ คุณหนูใหญ่จวนเหนียน..."
อวี่เหวินหรูเยียนถือโอกาสหันไปมองเหนียนยวี่ แววตาตื่นตัวขึ้นในทันที
สตรีนางนั้นเป็ใคร?
ถึงแม้ว่านางจะดูเรียบง่ายงดงามทว่าก็ยังแอบซ่อนความสง่างามไว้ สิ่งนั้นทำให้ผู้คนอยากรู้จักนางมากขึ้น อันตรายกว่าความงามของใบหน้านั้นเสียอีก
"พี่ชาย ท่านคิดว่านาง...ดูเหมือนฉินชู่ในยามนั้นหรือไม่?"อวี่เหวินหรูเยียนจ้องสตรีผู้นั้นครู่หนึ่ง ดวงตาของนางเป็ประกาย พลางลองถามหยั่งเชิง