งานประลองของแคว้นที่ได้ถูกจัดขึ้นในเเต่ละครั้ง ล้วนไม่มีกำหนด่ระยะวันเวลาที่ตายตัวของงานประลองเวทย์ดังกล่าวว่าท้ายที่สุดแล้วนั้นจะเริ่มต้นการประลองและสิ้นสุดลงภายในกี่วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกฎกติกาที่ถูกตั้งกำหนดเอาไว้เพื่อเป็ข้อจำกัดในการประลอง การสร้างความท้าทายของขีดจำกัดของพลังเวทย์ ระดับพลังิญญารวมไปถึงการสรรหาผู้ฝึกตนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยฝีมือทั้งวิทยายุทธการต่อสู้รวมไปถึงการใช้บทเวทย์ต่าง ๆ เพื่อเป็การจัดอันดับของผู้ฝึกตนในโลกยุทธภพเพื่อเเสดงถึงความเเข็งแกร่ง
ผู้ฝึกตนที่เป็ผู้ชนะในห้าอันดับเเรกจะถูกเรียกว่ากลุ่มเสาหลักเเห่งยุทธภพจะสังกัดโดยตรงกับวิหารเทพยุทธ์ มีหน้าที่คอยดูเเลช่วยเหลือปกป้องผู้คนในโลกฝึกตน รูปแบบของงานประลองของแคว้นล้วนแตกต่างกันไปในเเต่ละครั้ง นับว่าสร้างความตื่นเต้นให้ทั้งกับตัวของผู้ฝึกตนที่ได้ลงสนามเเข่งขันประลองเอง หรือแม้กระทั่งผู้รับชมจากแคว้นต่าง ๆ ที่อยู่ในสนามประลองเวทย์ ทางแคว้นที่ได้รับเป็เ้าภาพของจัดการประลองจะเป็ผู้กำหนดรูปแบบการเเข่งขันประลองให้มีความแตกต่างกันไป
งานประลองระหว่างแคว้นครั้งที่แปดสิบแปด (88) นี้ ทางแคว้นเต่าดำได้รับเป็เ้าภาพในการจัดประลองได้มีการร่วมมือกันระหว่างราชสำนักราชวงศ์ของแคว้นเต่าดำร่วมกับสี่ตระกูลใหญ่ของแคว้น เรียกได้ว่าการประลองของแคว้นในครั้งนี้ได้มีการเตรียมความพร้อมจากทุกฝ่ายเกี่ยวกับการกำหนดรูปแบบของการประลองให้มีเหมาะสม โดยการเเบ่งผู้เข้าร่วมการแข่งขันออกเป็สองกลุ่มโดยไม่จำกัด่อายุเเต่จะเเบ่งประลองตามระดับพลังิญญาเพื่อที่จะหาตัวเเทนเข้ารอบของทั้งสองกลุ่มมาประลองกันเพื่อแย่งชิงตำเเหน่งสิบอันดับของผู้ฝึกตนที่เข้าร่วมในการประลองครั้งนี้
กลุ่มเเรกที่ถูกเเบ่งให้มีการประลองก่อนนั้นจะเป็กลุ่มผู้ฝึกตนราชทินนามขุนนางิญญาทั้งสามระดับ ผู้ฝึกตนส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมการประลองในครั้งนี้จะถูกสุ่มชื่อเเข่งขันให้ลงสนามประลองเพื่อหาผู้ชนะโดยเรียกให้มีการลงประลองทีละห้าคู่จนท้ายที่สุดเมื่อได้ตัวเเทนจากกลุ่มนี้เพียงเเค่ห้าคนก็จะเป็ตัวเเทนในการประลองรอบถัดไป
การเเข่งขันในรอบเเรกของผู้ฝึกตนราชทินนามขุนนางิญญาได้ตัวเเทนมาเเล้วห้าคนได้แก่
คุณชายลู่ซีจากแคว้นเต่าดำ
คนที่สองคุณหนูไป๋หนิงจากตระกูลไป๋เเห่งแคว้นัเขียว
คนที่สามคุณชายอู๋ไห่จากตระกูลอู๋เเห่งแคว้นเสือขาว
คนที่สี่คุณชายจิ่งหรวนจากตระกูลจิ่ง และคุณชายหานตงจากตระกูลหานเเห่งแคว้นหงส์เเดงนั่นเอง
"การประลองในรอบที่สองของผู้ฝึกตนราชทินนามจักรพรรดิิญญาได้เริ่มต้น ณ ตอนนี้!!!"
ผู้คนที่อยู่โดยรอบสนามประลองเวทย์ต่างพากันส่งเสียงดังกระหึ่มและต่างพากันพูดคุยถึงคู่ประลองที่พึ่งจบไปเมื่อครู่นี้ คาดหวังว่าพวกเขาจะได้รับชมความสนุกตื่นตาตื่นใจกับการประลองรอบถัดไปของผู้ฝึกตนราชทินนามจักรพรรดิิญญา และในครั้งนี้มีผู้ที่มีรายชื่อเพียงสิบคนเท่านั้น เนื่องจากว่าน้อยนักที่จะมีผู้ฝึกตนระดับพลังที่อยู่ในขั้นนี้ได้
อาจมีจำนวนค่อนข้างน้อยเเต่ต้องบอกก่อนว่าในโลกของผู้ฝึกตน หากไม่ได้เกิดจากตระกูลใหญ่หรือไม่ได้เป็เชื้อพระวงศ์เชื้อสายชั้นปกครองหรือหากไม่มีพร์ในการฝึกตนจริง ๆ น้อยคนนักที่จะสามารถเพิ่มระดับฝึกตนมาถึงขั้นนี้ได้ เนื่องจากผู้คนทั่วไปนั้นมักหยุดการเพิ่มพลังิญญาในระดับขุนนางิญญาเสียเป็ส่วนใหญ่ ด้วยเพราะว่าการหาสิ่งที่สามารถนำมาเลื่อนระดับนอกจากจะหาได้ยากยิ่งเเล้วยังมีราคาสูงและต้องอาศัยพร์อย่างยิ่งยวดเลยทีเดียว
"ในรอบนี้กฎของการประลองของผู้ฝึกตนราชทินนามจักรพรรดิิญญายังคงเป็ไปเช่นเดิม ผู้ประลองสามารถใช้ได้ทั้งทักษะเชิงยุทธ์และบทเวทย์ รวมไปถึงการเรียกใช้อสูรในพันธะ ระยะเวลาในการแข่งขันไม่จำกัดจนกว่าจะหาผู้ชนะได้ในที่สุด" ผู้าุโท่านเดิมกล่าวเน้นย้ำอีกครั้ง เสียงตอบรับจากผู้รับชมทั่วทั้งสนามประลองส่งเสียงดังโห่ร้อง เพราะนี่ถือได้ว่าเป็่เวลาที่ต่างรอคอย
"การประลองในรอบที่สองของผู้ฝึกตนราชทินนามจักรพรรดิิญญาคู่เเรก ได้แก่คุณชายจงเสวียนคุณจากตระกูลจงเเห่งแคว้นัเขียว ประลองกับคุณชายหลานซ่งิจากตระกูลหลานเเห่งแคว้นสิงโตเพลิง" สิ้นเสียงประกาศออกมาให้ได้ยินทั่วไปสนามประลองเเล้วนั้นคุณชายทั้งสองที่มีรายชื่อต่างพากันมุ่งตรงไปยังกลางสนามประลองในทันที คุณชายทั้งสองคนต่างขึ้นชื่อในเื่ความโดดเด่นในความสามารถเป็อย่างมาก
"คุณชายทั้งสองดูโดดเด่นไม่น้อยเลยนะขอรับ และน่าจะอายุห่างจากข้าไม่กี่ปีเพียงเท่านั้น..." หนิงอ้ายพูดคุยกับลู่ซี
"คุณชายทั้งสองคนล้วนมาจากตระกูลที่ขึ้นชื่อในแคว้นของตน อีกทั้งมีพลังิญญาระดับจักรพรรดิิญญาขั้นต้น่ปลายของทั้งคู่ ต่อไปในทางข้างหน้าหากได้รับการสนับสนุนจากตระกูลของตน และไม่หยุดพัฒนาตนเองแล้วคงสามารถที่จะทะลวงไปถึงระดับจักรพรรดิิญญาขั้นกลางในอีกไม่ช้าอย่างแน่นอน..." ลู่ซีเอ่ยตอบกลับไป
"ก่อนหน้านี้ข้ายังไม่เห็นจางเหยากวงลงประลอง เเสดงว่าตอนนี้คงอยู่ในระดับจักรพรรดิิญญาเเล้วใช่หรือไม่ขอรับ??"
"คุณชายรองจางเหยากวงพึ่งเลื่อนระดับพลังิญญาเป็ระดับจักรพรรดิิญญาขั้นต้นใน่ปีที่ผ่านมา จึงทำให้ในการประลองครั้งนี้จึงได้เข้าร่วมประลองในรอบนี้ได้ขอรับ..." ลู่ซีได้ตอบกลับหนิงอ้ายไป
การประลองของคุณชายจงเสวียนคุณกับคุณชายหลานซ่งิมีความรุนเเรงเป็อย่างมาก ทั้งวิชายุทธ์เคล็ดวิชาประจำตระกูลต่างถูกนำออกมาใช้แทบทั้งสิ้น อีกทั้งบทเวทย์ที่นำออกมาใช้ในการประลองต่างเป็ปราณธาตุดินเหมือนกัน ดังนั้นจึงไม่อาจคาดเดาได้ว่าผู้ใดกันจะเป็ผู้ที่ได้เปรียบมากกว่า จนทั้งคู่ได้เรียกสัตว์อสูรออกมาต่อสู้ แม้จะไม่ใช่อสูรมายาเเต่ก็เป็สัตว์อสูรระดับสูงที่หายากสมกับฐานะคุณชายจากตระกูลใหญ่ของแคว้น
เสียงของผู้คนโห่ร้องเชียร์ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณสนามประลองซึ่งตัวของหนิงอ้ายเองก็ตั้งใจดูการประลองของทั้งคู่และนำมาปรับใช้ให้เข้ากับตน
'คุณชายทั้งสองค่อนข้างมีสมาธิและมีความเเข่งแกร่งเป็อย่างมาก ไม่ว่าใครที่ได้ผ่านการประลองรอบนี้ไปก็นับได้ว่าน่ากลัวอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว...' หนิงอ้ายคิดอยู่ในใจ
การประลองคู่เเรกได้ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วยามจึงจะได้ผลแพ้ชนะ คู่ประลองทั้งสองที่อยู่ในกลางสนามประลองตอนนี้ต่างมีสภาพสะบักสะบอมได้รับาเ็ทั้งคู่
'"ผู้ชนะในรอบนี้ได้แก่คุณชายจงเสวียนคุณจากตระกูลจงเเห่งแคว้นัเขียว!!! " ผู้ดำเนินการประลองประกาศออกมาเสียงดังให้ได้รับรู้ซึ่งผู้คนโดยรอบสนามประลองเวทย์ต่างพากันส่งเสียงเชียร์ดังกระหึ่มบ้างก็ผิดหวัง บ้างก็ดีใจ
"ต่อไปจะเป็การประลองของคู่ที่สองคุณชายเหมากวานตุงจากตระกูลเหมาเเห่งแคว้นัเขียวประลองกับคุณชายหนิงจากแคว้นเต่าดำ!!!" ผู้าุโท่านเดิมประกาศคู่ประลองถัดไปในทันทีเพื่อไม่ให้เป็การเสียเวลา
ตระกูลหวัง
ทางฝั่งของตระกูลหวังที่รับรู้ถึงตัวตนที่แท้จริง ว่าคุณชายหนิงผู้นี้ คือคุณชายหวังหนิงอ้าย บุตรชายของท่านหญิงเยว่ซินที่ได้หวนกลับคืนแคว้นเต่าดำเมื่อไม่กี่วันก่อน ฟังว่าคุณชายเพิ่งเริ่มต้นเข้าสู่วิถีของผู้ฝึกตนได้เพียงหนึ่งถึงสองปีเท่านั้น ทว่ากลับพร้อมไปด้วยคุณสมบัติของราชทินนามจักรพรรดิิญญาได้เช่นนี้ นับว่าคุณชายเป็ดั่งอัจฉริยะเหนือผู้คนทั่วไปอย่างแท้จริง
หวังจิ่งหลงและเหมยฮวารวมไปถึงผู้าุโในตระกูลรวมไปถึงคนอื่น ๆ ในตระกูลหวังต่างพสกันส่งเสียงให้กำลังใจหนิงอ้ายอย่างคึกคัก พวกเขาต่างเชื่อว่าคุณชายนั้นต้องชนะการประลองครั้งนี้อย่างแน่นอน
"ข้าจักวางเดิมพันฝั่งหนิงอ้ายหลานของข้า เ้าช่วยนำเหรียญทองหนึ่งล้านตำลึงทองไปวางเดิมพันให้ข้าด้วยเล่า..." หวังจิ่งหลงเอ่ยกับหวังฮุ่ยที่ยืนอยู่ด้านข้างตน
"ขอรับท่านประมุข!!"
"ผู้าุโฮุ่ย ข้ารบกวนฝากเดิมพันฝั่งของหนิงเอ๋อร์หนึ่งแสนตำลึงทองด้วยเ้าค่ะ" เยว่ซินเอ่ยขึ้นพร้อมกับหยิบตั๋วตำลึงทองออกมา
"ทั้งท่านประมุขและท่านหญิงเยว่ซินถึงกับเดิมพันหนักเช่นนี้ เห็นทีพวกข้าคงต้องร่วมลงเดิมพันด้วยเลียแล้ว..." เสียงของผู้าุโเอ่ยขึ้น ก่อนที่จะสั่งการบ่าวรับใช้ของตนไปทางฝั่งโตะพนันที่อยู่ไม่ห่างไปนัก
ภาพเหตุการณ์ที่ผู้นำตระกูลหวัง ผู้าุโในตระกูล รวมไปถึงคนอื่น ๆ ในตระกูลหวังต่างพากันเข้าออกจุดรับพนัน นับว่าเป็สิ่งที่หน้าแปลกใจไม่น้อย ยิ่งได้รู้ว่าทางฝั่งตระกูลหวังทั้งหมดต่างทุ่มเดิมพันทางฝั่งของคุณชายหนิงที่กำลังจะลงประลองในอีกไม่ถึงเค่อเช่นนี้ ช่างเป็สิ่งที่ชวนให้สงสัยว่าคุณชายหนิงผู้นี้มีความสัมพันธ์อันใดกับตระกูลหวังกัน...
"ตื่นเต้นหรือไม่??" ลู่ซีถามเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านข้าง เพราะนี่ถือได้ว่าเป็ครั้งแรกที่อีกฝ่ายได้ลงสนามประลองหาใช่เป็การฝึกฝนดังเช่นที่ผ่านมา
"รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยขอรับ..."
"เกอเชื่อว่าเ้าย่อมสามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอนอยู่แล้ว อย่างไรเ้าอย่าลืมเล่าความปลอดภัยสำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด..." ลู่ซีเอ่ยย้ำขึ้นเมื่อเห็นว่าถึงคราวที่หนิงอ้ายได้ลงสนามประลองเเล้ว
"ข้าจะปลอดภัยไร้รอยขีดข่วนอย่างแน่นอนขอรับ!!" หนิงอ้ายเอ่ยตอบกลับลู่ซีไปให้ไม่ต้องกังวลพร้อมกับที่ตัวเขาเองได้มุ่งตรงไปยังใจกลางสนามประลองในทันที
คุณชายเหมากวานตุงและหนิงอ้ายต่างเผชิญหน้ากันตรงกลางสนามประลองเวทย์ โดยมีสายตาของผู้คนมากมายทั่วทั้งสนามประลองคอยจับจ้องส่งเสียงเชียร์อย่างคึกคัก
"คู่ประลองที่สอง ท่านแรกคุณชายเหมากวานตุง ราชทินนามจักรพรรดิิญญาขั้นต้น ระดับพลังิญญา33ิญญายุทธ์สายโจมตี ตัวแทนจากแคว้นัเขียว!!"
เฮ!!!!
"และคู่ประลองได้แก่คุณชายหนิงผู้ลึกลับ ราชทินนามจักรพรรดิิญญาขั้นต้น ระดับพลังิญญาที่32 ิญญายุทธ์สายโจมตี ตัวแทนจากแคว้นเต่าดำ!!!"
เฮ!!!!
"การประลองเริ่มได้!!"
"อย่าหาว่าข้าดูถูกท่าน หากไม่อยากเจ็บตัวจงสละสิทธิ์ไปเสียเถิด ตัวข้าไม่อยากทำร้ายคุณชายรูปร่างบอบบางเยี่ยงกับสตรีเช่นนี้..." เหมากวานตุงเมื่อเห็นคู่ประลองของตนตรงหน้าก็อดที่จะเอ่ยออกไปไม่ได้ คู่ประลองตรงหน้าแม้จะสวมผ้าคลุมปกปิดไปทั้งตัวเเต่ก็ดูบอบบางไม่ต่างไปกับสตรี อีกทั้งในตอนนี้เองตัวเขานั้นได้มีพลังิญญาระดับจักรพรรดิิญญาขั้นต้น่ปลายแล้วจึงมั่นใจในฝีมือของตนไม่น้อย
"คุณชายเหมาอย่าเอ่ยสิ่งใดให้เสียเวลา ข้าว่าเรารีบมาจบการประลองครั้งนี้กันเถิด..." หนิงอ้ายตอบกลับไปในทันที แม้ว่าเหมากวานตุงที่อยู่ด้านหน้าจะมีรูปร่างสูงใหญ่ เเต่หนิงอ้ายก็เชื่อมั่นในฝีมือของตนไม่น้อยว่าคงเอาชนะได้ไม่ยากนัก
"หากเป็เช่นนั้นข้าคงไม่ต้องเกรงใจคุณชายหนิงเสียแล้วกระมัง!!" เอ่ยจบเหมากวานตุงจึงทำการเรียกใช้พลังิญญาของตนในทันที
พรึบ!
ด้านหลังของคุณชายเหมากวานตุงพลันปรากฏเป็วงเเหวนเวทย์หนึ่งชั้นสีเหลืองเข้มเเสดงให้เห็นถึงราชทินนามจักรพรรดิิญญาขั้นต้นที่แผ่กลิ่นอายความกดดันออกมาโดยรอบ พร้อมกับร่ายบทเวทย์โจมตีหนิงอ้ายในทันที
อัญเชิญบทเวทย์โจมตีพสุธาทะลายฟ้า!
ครึน!
ทางฝั่งของหนิงอ้ายตวัดกระบี่ข้างเอวของตนขึ้นมาตั้งรับการโจมตีบทเวทย์ของเหมากวานตุง อีกทั้งพุ่งเข้าโจมตีกลับอย่างคล่องแคล่ว พริ้วไหวสวยงามเเต่แฝงไปด้วยพลังที่เเข็งแกร่งของเพลงกระบี่ในมือตน
"ไม่น่าเชื่อว่าคุณชายหนิงจะมากไปด้วยฝีมือเช่นนี้ ตัวข้าเองนั้นก็ชื่นชอบในเคล็ดวิชากระบี่ไม่น้อย หวังว่าท่านคงไม่รังเกียจที่จะเเลกเปลี่ยนวิชากับข้า!!!" เหมากวานตุงใไม่น้อยที่ร่างบางสามารถตั้งรับ พร้อมโจมตีกลับด้วยเพลงกระบี่ที่พริ้วไหวเเต่แฝงไปด้วยความเเข็งแกร่งรุนแรง เมื่อคิดได้เช่นนั้นเขาจึงนึกสนุกไม่น้อยที่จะได้เเลกเปลี่ยนฝีมือกับร่างบางที่อยู่ตรงหน้าของตน
เพล้ง! เพล้ง! เพล้ง!
การประลองกระบี่ของหนิงอ้ายและเหมากวานตุงเป็ไปอย่างดุเดือด อย่าได้เห็นว่าฝ่ายคุณชายหนิงที่สวมผ้าคลุมปกปิดจะมีรูปร่างเล็กกว่าอาจจะทำให้เสียเปรียบเเต่ความจริงหาเป็เช่นนั้นไม่ หนิงอ้ายยังคงออกท่าท่างคล่องแคล่วพริ้วไหวเพลงกระบี่นั้นล้วนงดงามเเปลกตา ทุกครั้งที่ได้ตวัดกระบี่ออกไปมักจะฝากรอยแผลที่ตัวของเหมากวานตุงเสียทุกครั้ง ขณะที่ตัวของหนิงอ้ายไร้ซึ่งรอยขีดข่วนคล้ายกับเพียงว่าลงมาวิ่งเล่นที่ในสนามประลองเพียงเท่านั้น
'ดุเดือดยิ่งนัก!! คราเเรกข้าคิดว่าเพียงชั่วก้านธูปคุณชายเหมากวานตุงคงจะเอาชนะคุณชายหนิงที่ตัวเล็กกว่าได้ไม่ยาก...'
'นี่เเหละเขาถึงบอกว่ารูปร่างไม่สำคัญเท่ากับฝีมือ เ้าว่าหรือไม่??'
'ตั้งเเต่คุณชายทั้งสองได้ลงสนามประลองข้ายังไม่เห็นคุณชายหนิงใช้พลังิญญาเลยสักครั้งเเต่ว่าเพลงกระบี่นั้นช่างงดงามพริ้วไหวและร้ายกาจยิ่งนัก...'
เสียงของผู้คนมากมายที่อยู่รอบ ๆ สนามประลองเวทย์ต่างพากันพูดคุยเเลกเปลี่ยนความคิดเห็น พร้อมกับจับจ้องไปยังตรงกลางสนามประลองที่กำลังเป็ไปอย่างดุเดือด ภาพที่พวกเขาเห็นคือร่างกายคุณชายเหมากวานตุงเต็มไปด้วยรอยแผลน้อยใหญ่ เเต่กับคุณชายหนิงทั่วทั้งร่ายกายไร้ซึ่งรอยขีดข่วนมีเพียงรอยเปื้อนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ผู้คนที่รับชมการประลองต่างพาสงสัยว่าคุณชายหนิงที่กำลังประลองอยู่นั้น หนิงเป็เพียงชื่อหรือเป็แซ่สกุลกันแน่เหตุใดจึงมากไปด้วยฝีมือเเต่พวกตนนั้นกลับไม่คุ้นชื่อเช่นนี้ เมื่อไม่สามารถหาคำตอบในตอนนี้ได้จึงพากันลุ้นว่าผู้ใดกันจะเป็ผู้ชนะเพื่อประลองในรอบนี้แม้ว่าจะเห็นผลที่ชัดเจนเเล้วก็ตาม
ฟิ้ว! ฟิ้ว!
เพล้ง! เพล้ง!
หนิงอ้ายยังคงพุ่งโจมตีเหมากวานตุงด้วยความรวดเร็วรุนแรง แม้ว่าอีกฝั่งนั้นจะใช้ทั้งเคล็ดวิชากระบี่รวมไปถึงบทเวทย์ระดับสูงหลายบท เเต่หนิงอ้ายยังคงสามารถตั้งรับการโจมตีได้ทุกครั้งด้วยเป็เพราะเคล็ดวิชากระบี่สักกะดาราราย เป็สุดยอดเคล็ดวิชากระบี่ของตระกูลหวังที่หนิงอ้ายพลิกแพลงจนมีความแตกต่างเฉพาะและสามารถรับมือการโจมตีต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย
เคล็ดวิชากระบี่สักกะดารารายดังกล่าวนั้น หัวใจหลักนั้นคือการตั้งรับและพลิกเเพลงท่วงท่าโจมตีกลับด้วยความพริ้วไหวที่แม่นยำเฉียบขาด กลิ่นอายพลังลมปราณระดับจักรพรรดิิญญาของคุณชายเหมากวานตุงที่ปลดปล่อยออกมากลางสนามประลอง แม้ว่าจะมีเกราะเวทย์ป้องกันหลายชั้นเเต่ผู้รับชมที่เป็เพียงชาวบ้านธรรมดารวมไปถึงผู้ฝึกตนที่มีระดับพลังิญญาต่ำกว่าขั้นจักรพรรดิิญญาต่างััได้ถึงความรู้สึกอึดอัดกันทั้งสิ้น
ผู้ชมหลายคนอดที่จะเเปลกใจไม่น้อยที่ทางฝั่งของคุณชายหนิงนั้นไม่แม้กระทั่งเรียกใช้พลังิญญาของตนเเต่ก็ยังสามารถ่ชิงความได้เปรียบในการประลองครั้งนี้มาได้ หนิงอ้ายเองเห็นว่าในตอนนี้นั้นทางฝั่งของเหมากวานตุงพุ่งเข้าโจมตีเเบบไร้เเบบเเผนไปเรื่อย ๆ ปล่อยให้อารมณ์โกรธเข้ามาอยู่เหนือสติจนทำให้เผยช่องโหว่ที่ตนนั้นสามารถจัดการได้ เมื่อเป็เช่นนั้นหนิงอ้ายจึงไม่ลังเลที่จะโจมตีครั้งสุดท้ายนี้ให้การประลองจบลงเสียที
ฝ่ามือของหนิงอ้ายนั้นอัดเเน่นไปด้วยพลังิญญาระดับจักรพรรดิิญญาเข้าซัดไปที่กลางอกของคุณชายเหมากวานตุงอย่างเต็มแรงจนทำให้อีกฝ่ายนั้นถึงกับลอยละลิ่วไปชนกับเกราะป้องกันที่ถูกร่ายไว้ตรงอีกฝั่งของสนามประลองในทันที
''อั้กกกกก!!!!'' คุณชายเหมากวานตุงกระอักเืออกมาคำโตและนอนแน่นิ่งสลบไปในที่สุด
"เอ่อ...ผู้ชนะการประลองในรอบนี้ได้แก่คุณชายหนิงจากแคว้นเต่าดำ!!!" ทันทีที่ผู้าุโที่ทำหน้าที่ดำเนินการประลองได้กล่าวจบลงหนิงอ้ายก้มตัวคำนับเล็กน้อยไปทางฝั่งคุณชายเหมากวานตุงเพื่อเป็การให้เกียรติคู่ประลองตามมารยาท ก่อนที่จะมุ่งตรงออกไปนอกสนามประลองที่ตอนนี้ลู่ซียังคงนั่งรอตนอยู่ที่เดิม
ตลอดสองข้างทางจากสนามประลองไปยังที่นั่งรับชมที่หนิงอ้ายเดินผ่านไปนั้นตัวของหนิงอ้ายเองไม่สนใจสายตาที่จ้องมองตนอย่างเปิดเผยและคำพูดมากมายที่เอ่ยถึงเขาขณะที่เดินผ่านไปนั่นเอง
'ข้ามิอยากเชื่อเลย การประลองจบไปเเล้วงั้นรึ??'
'เเข็งแกร่งเกินไปเเล้ว ข้ายังไม่เห็นคุณชายหนิงเรียกใช้บทเวทย์ออกมาต่อสู้เลยด้วยซ้ำ...'
'คุณชายหนิงผู้นี้เป็ใครกันเหตุใดจึงมากไปด้วยฝีมือเช่นนี้ หากเป็คนของตระกูลใหญ่เหตุใดจึงไม่คุ้นชื่อแซ่กัน'
'คุณชายหนิงสวมผ้าคลุมปกปิดใบหน้าเช่นนี้ ทำเอาข้าอยากจะรู้เเล้วว่าเป็ใครกันแน่...'
ผู้คนที่อยู่โดยรอบสนามประลองต่างพากันพูดถึงชื่อของหนิงอ้ายกันไม่หยุด ต่างพากันคาดเดากันไปว่าคุณชายหนิงผู้นี้เป็ใครกัน เหตุใดจึงมากไปด้วยความสามารถอีกทั้งยังมีฝีมือที่โดดเด่นสามารถจบการประลองกับผู้ฝึกตนที่มีพลังิญญาระดับจักรพรรดิิญญาเพียงเเค่เวลาไม่กี่ก้านธูปได้
อีกทั้งยังใช้เพียงเเค่ทักษะเชิงยุทธต่อสู้และเคล็ดวิชาเพลงกระบี่เท่านั้นเเต่ก็สามารถเอาชนะได้โดยไร้ซึ่งรอยขีดข่วน มีเพียงรอยเปื้อนตรงชายผ้าคลุมเพียงเท่านั้น ทุกคนต่างพากันคาดเดาและเเลกเปลี่ยนความคิดกันไปว่าคุณชายหนิงผู้นี้ยังมีความสามารถอะไรซ่อนไว้อีกหรือไม่ และรอคอยที่จะได้เห็นการประลองในครั้งถัดไปของคุณชายหนิงผู้ลึกลับคนนี้ไปเสียเเล้ว...
"เหมือนว่าน้องพี่จงใจเล่นสนุกสินะ..." ลู่ซีเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่าหนิงอ้ายนั้นกลับขึ้นมายังที่นั่งข้างตนโดยไร้ซึ่งรอยขีดข่วน
"ข้าคาดหวังจะได้เเลกเปลี่ยนวิชากับผู้ฝึกตนพลังิญญาระดับจักรพรรดิิญญา และคิดว่าหากได้ลงประลองคงต้องสนุกมากเป็แน่ เเต่กลับกลายเป็ว่าการประลองของพวกเกอในรอบเเรกของผู้ฝึกตนราชทินนามขุนนางิญญาที่ผ่านมาต่างหากที่ทำเอาข้าตื่นเต้นมากกว่าขอรับ..."
"แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็ผู้ฝึกตนราชทินนามจักรพรรดิิญญา เเต่ความจริงนั้นย่อมขึ้นอยู่กับการฝึกฝนอยู่ไม่น้อยรวมถึงต้องมีประสบการณ์ในการต่อสู้ในชีวิตจริง เ้านั้นใช้เวลาเพียงไม่ถึงสองปีตั้งเเต่ทำการปลุกพลังิญญาและตอนนี้พลังิญญาเป็ระดับจักรพรรดิขั้นต้น หากมองไปในยุทธภพความสามารถเช่นนี้นั้นหาได้พบเจอโดยง่ายย่อมหมายความว่าเ้านั้นเป็อัจฉริยะในการฝึกตนยิ่งนัก..." ลู่ซีเอ่ยขึ้นด้วยความภาคภูมิใจ
หนิงอ้ายที่ใช้เวลาในการเข้าสู่วิถีของผู้ฝึกตนไม่ถึงสองปี เเต่กลับมีความสามารถที่โดดเด่น มีระดับพลังิญญาในระดับสูงกว่าผู้ฝึกตนที่ทำการปลุกพลังิญญาตั้งเเต่อายุครบเจ็ดขวบปีเสียด้วยซ้ำ…
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้