หลังจากกลุ่มของเยี่ยนเจาเจาพากันออกไปแล้ว ค่อยมีเด็กสาวไม่คุ้นหน้าคนหนึ่งวิ่งกลับเข้าไปในลาน นางค้นหาของบางอย่างทั่วลานอยู่นานแต่ก็หาของที่ตน้าไม่พบ สีหน้าพลันซีดเผือดราวกับสูญเสียบุพการี
แน่นอนว่าเยี่ยนเจาเจาไม่ทราบเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ เพราะนางกำลังรีบร้อนไปตำหนักฉางหยางของฮองเฮา จึงทิ้งเื่นี้ไว้ข้างหลัง
“ท่านป้า ใครทำท่านไม่พอใจเ้าคะ?”
เยี่ยนเจาเจาพึ่งพาท่านป้าผู้นี้ไม่ต่างจากพึ่งพามารดาของตนเอง หลังจากที่ท่านแม่และท่านพ่อจากไปในชาติก่อน ความรักความเอาใจใส่ที่เยี่ยนเจาเจาได้รับก็ล้วนมาจากท่านป้าผู้นี้ ท่านจึงย่อมห่วงใยนางจากใจจริง
เยี่ยนเจาเจารีบเข้าไปในตำหนักฉางหยาง ส่วนหนานิเหอไม่ได้เข้าไปด้วย เขาเพียงรออยู่ห่างๆ ตรงระเบียงทางเดิน เนื่องจากเขามีสถานะพิเศษและเพิ่งเข้าพบฮองเฮาเป็ครั้งแรก
ทว่าเยี่ยนเจาเจาไม่ต้องเคร่งระเบียบพิธีการเช่นนั้น หลังจากนางกำชับหนานิเหอว่าอย่าขยับ นางก็ยกกระโปรงวิ่งเข้าไปราวกับผีเสื้อ ดวงตาคลอประกายน้ำตาเล็กน้อย
ไม่รู้ว่านางย้อนกลับมาใหม่ตอนอายุน้อยเกินไปหรือไม่ จึงได้ร้องไห้ง่ายเหมือนเด็กจริงๆ เช่นนี้
เยี่ยนเจาเจาเห็นองค์ฮองเฮาหลับตาพักผ่อน เมื่อมองพระพักตร์ไร้อารมณ์ของพระองค์ก็รู้ว่าโดนโกรธเข้าจริงๆ แล้ว นางจึงรีบนึกวิธีออดอ้อนในชาติก่อน เพื่อจะงัดทุกกลเม็ดออกมา
หนานิเหอยืนบนระเบียงทางเดิน สายตาของเขาจับจ้องไปยังร่างไกลลิบของเยี่ยนเจาเจาอย่างสงบและอ่อนโยนดังที่เคยเป็มาเสมอ
แล้วเขาก็ขยับสายตาพิศมองฮองเฮาที่ไม่เคยพบมาก่อน
ฮองเฮาเหลียงฮุ่ยมีชันษากว่าองค์หญิงฉงหยางไม่มาก พระพักตร์ของพระองค์มีความคล้ายคลึงกับเหลียงฉง ทว่าเหลียงฉงจะเ็าเคร่งขรึม ส่วนฮองเฮากลับมีความนุ่มนวลและแสดงอารมณ์มากกว่า
แม้พระองค์กำลังสวมชุดคลุมัและประทับบนบัลลังก์ที่ก่อขึ้นจากซากศพนับพัน แต่ั์เนตรกลับยังคงสงบนิ่ง ไม่เหมือนรูปลักษณ์ที่เขาเคยจินตนาการไว้
ย่อมเป็ฮองเฮาที่เพียงแค่มองก็ทำให้ผู้คนหวาดกลัวได้อย่างแน่นอน
ถึงแม้ดูภายนอกพระองค์จะเป็เพียงสตรีมากความสามารถที่น่ายกย่อง แต่ทั้งเมืองเซียงเฉิงต่างทราบดีว่าพระองค์เคยกระทำอันใดมาบ้าง ทั้งยังทราบอีกว่าภายใต้พระพักตร์อันอ่อนโยนสง่างามนั้นได้ซ่อนวิธีบรรลุเป้าหมายแบบใดไว้
หนานิเหอยกยิ้มด้วยเหตุผลบางอย่าง ก่อนจะหันไปจดจ่อกับเยี่ยนเจาเจาซึ่งวนเวียนอยู่รอบๆ ฮองเฮาราวกับลิงซนตัวหนึ่ง เพียงเพื่อให้พระองค์แย้มสรวล
“ท่านป้า ท่านจะโกรธหมาแมวรอบกายพวกนั้นก็โกรธไป แต่เหตุใดต้องโมโหเจาเจาด้วยเ้าคะ เจาเจาไม่ได้ยั่วโทสะท่านป้าเสียหน่อย”
นางนั่งลงบนเบาะนั่งข้างพระบาทของฮองเฮาพลางจับเสื้อคลุมของพระองค์อย่างน่าสงสาร ั์ตาเต็มไปด้วยความน้อยอกน้อยใจเหมือนคนโดนทอดทิ้ง
เมื่อเห็นว่าท่านป้าของนางไม่ได้เอื้อนเอ่ยคำใด ั์ตากลมโตงดงามของเยี่ยนเจาเจาก็น้ำตาซึม หลังจากนางครุ่นคิดสักพัก ก็คิดว่าคงเป็เพราะตนแอบอ้างบารมีของฮองเฮามาข่มขู่พวกบ้านใหญ่จึงทำให้พระองค์กริ้วเช่นนี้ สีหน้าของนางเลยแสดงออกว่าโทษตัวเองเป็อย่างมาก
“ท่านป้า เจาเจาสำนึกผิดแล้วเ้าค่ะ”
เยี่ยนเจาเจาคอตก
ตอนที่นางได้ย้อนกลับมาเกิดใหม่อีกรอบ เดิมทีคิดว่าจะไม่ทำในสิ่งที่ทำให้คนที่ตนเองห่วงใยต้องขุ่นข้องหมองใจ ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าตอนนี้จะทำให้ท่านป้าต้องขุ่นเคืองแล้ว
ราวกับว่าความโหดร้ายและเล่ห์เหลี่ยมที่เยี่ยนเจาเจาบ่มเพาะมาใน่ไม่กี่ปีสุดท้ายของชาติที่แล้วได้หายไปเมื่ออยู่ต่อหน้าคนใกล้ชิด เยี่ยนเจาเจาในขณะนี้เป็เพียงแม่นางน้อยที่ทำอะไรไม่ถูกยามเผชิญหน้ากับผู้าุโที่กำลังโกรธเท่านั้น
“คิก”
ทันใดนั้นฮองเฮาพลันสรวลออกมา และลืมพระเนตรขึ้น
พระองค์มีดวงเนตรดั่งหงส์ที่สวยงามน่าหลงใหล เยี่ยนเจาเจามองแล้วก็ละสายตาไม่ได้
เยี่ยนเจาเจารู้สึกว่าดวงเนตรคู่นี้ของท่านป้ามีความคล้ายคลึงกับมารดาของนางเป็อย่างยิ่ง แต่สายตาของท่านแม่มักจะติดเ็าแข็งกร้าวนิดหน่อย ส่วนท่านป้ามีหางตาตกเล็กน้อยจึงดูนุ่มนวลกว่ามาก เมื่อพระองค์แย้มสรวลเช่นนี้ ความงามอันน่าทึ่งก็ยิ่งเผยออกมา
“ป้าแค่หยอกเ้าเล่นเท่านั้น เ้าเข้าวังมาไม่รอให้ข้าทำงานเสร็จก็รีบไปเดินเล่นคนเดียว ทิ้งข้าไว้ตามลำพังที่นี่ ปล่อยให้ข้าคิดถึงเ้าแทบแย่ บอกมาว่าเ้ามีเจตนาอะไร?”
พระสุรเสียงขององค์ฮองเฮาเองก็สวยไพเราะไม่ต่างจากรูปโฉมของพระองค์ เยี่ยนเจาเจารู้ดีว่าท่านป้าของนางเฉยชาต่อคนรอบข้างมากแค่ไหน แต่พระองค์ก็ยังปกป้องนางเสมอ ไม่เคยปล่อยให้นางรู้สึกอึดอัดคับข้องใจเลยสักนิด นางจึงทั้งรักและเคารพท่านป้าผู้นี้มากเช่นกัน
“ท่านป้าคนดี ข้าเพียงแค่ไม่อยากรบกวนการทำงานของท่านป้าก็เท่านั้นเองเ้าค่ะ”
เยี่ยนเจาเจาถือโอกาสนี้ในการนอนหนุนตักองค์ฮองเฮา ใบหน้าเล็กเท่ากอบมือของนางดูน่ารักน่าชังอย่างยิ่ง
ฮองเฮาลูบผมของเยี่ยนเจาเจาก่อนตรัสถาม “แล้วคุณชายิเหอมากับเ้าด้วยหรือไม่?”
เยี่ยนเจาเจาหมุนตัวกลับไปชี้ยังจุดที่หนานิเหอยืนอยู่ “พี่ชายรองของข้าอยู่นั่นเ้าค่ะ”
แม้จะโดนกล่าวถึง แต่สีหน้าของหนานิเหอก็ไม่เปลี่ยนเลยสักนิด เมื่อเห็นฮองเฮาทอดพระเนตรตามสายตาของเยี่ยนเจาเจามา เขาก็เพียงแค่หลุบตาลง แล้วคุกเข่าคารวะด้วยท่าทางเคารพเท่านั้น
ถึงเขาจะยืนอยู่บนระเบียงทางเดินที่ไกลออกไป ก็ยังเห็นได้ว่าการคุกเข่าคารวะอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนของเขาดูแตกต่างจากคนรอบข้าง คล้ายกับว่าเขาไม่เคยเสียบุคลิกเลยสัก่
ั์เนตรของฮองเฮาแฝงความลึกล้ำขึ้น พระองค์ยกหัตถ์กวักเรียกเขาเข้ามาใกล้ก่อนจะตรัสถาม “เรียนหนังสือแล้วหรือยัง?”
เมื่อเห็นหนานิเหอส่ายศีรษะ ฮองเฮาก็หรี่พระเนตรลงเล็กน้อย “พูดไม่ได้หรือ?”
พระสุรเสียงของพระองค์เจือความเ็าดุดัน เยี่ยนเจาเจาไม่รู้ว่าเหตุใดท่านป้าถึงได้กริ้วขึ้นมา แต่ก็รีบคว้าแขนเสื้อของพระองค์มาเขย่า “พี่ชายรองของข้าเป็เช่นนี้มาั้แ่เด็กแล้ว หากล่วงเกินท่านป้าตรงไหน เจาเจาขอรับผิดแทนพี่ชายเ้าค่ะ”
ฮองเฮาได้ยินนางพูดเช่นนั้นก็ทรงพระสรวลขึ้นมา พลางขยับพระหัตถ์ไปลูบดอกไม้กำมะหยี่บนศีรษะของเยี่ยนเจาเจา “แต่ก่อนไม่เคยเห็นเ้าชอบพี่ชายรองของเ้าขนาดนี้เลย”
น้ำเสียงของพระองค์ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก เยี่ยนเจาเจาจึงอ่านไม่ออกมาว่าฮองเฮาทรงดำริสิ่งใดอยู่
โชคดีที่องค์ฮองเฮาดูไม่ค่อยสนพระทัยในตัวหนานิเหอนัก หลังจากตรัสถามเรื่อยเปื่อยเพียงสองสามประโยคก็ไม่ได้ถามสิ่งใดอีก เพียงแต่สั่งให้ซวงฝูพาเขาไปรับของรางวัลล้ำค่าที่คลังด้านหลังเท่านั้น
การกระทำของฮองเฮาอาจดูเหมือนเหยียดหยาม แต่ปกติพระองค์ก็มีท่าทีต่อบุตรหลานตระกูลขุนนางแบบนี้เช่นกัน แม้ว่าเยี่ยนเจาเจาจะสงสัยเพียงใดจึงจำต้องข่มใจไว้ชั่วคราว
เมื่อหนานิเหอเดินไปแล้ว ฮองเฮาก็หันมาลูบแก้มของเยี่ยนเจาเจาต่ออย่างไม่ใส่พระทัย “เจาเจา ได้ยินว่าเ้าวิวาทกับคุณหนูใหญ่ที่จวนเยี่ยน มีเื่ใดกันแน่?”
เยี่ยนเจาเจาเงยหน้าสบั์เนตรคล้ายกึ่งยิ้มกึ่งไม่ยิ้มของพระองค์เข้าพอดี จึงลอบถอนหายใจแ่เบาเพราะรู้ว่าฮองเฮาทรงถามทั้งที่รู้อยู่แก่ใจแล้ว
เยี่ยนเจาเจาตระหนักดีว่าพระองค์เกลียดการกลั่นแกล้งที่สุด นางจึงเล่าต้นสายปลายเหตุถึงเื่ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน รวมทั้งยังบอกข้อเท็จจริงที่ตนอ้างบารมีฮองเฮามาข่มเยี่ยนหลิวซื่อเพื่อให้เยี่ยนฟางหวายอมรับผิดอีกด้วย
“พี่หญิงแสนดีของข้าใช้ข้าเป็เครื่องมือทุกวันจนข้าน้ำท่วมปาก ตอนนี้ข้าไม่ชอบพี่หญิงน้องหญิงแล้วเ้าค่ะ”
พูดจบเยี่ยนเจาเจาก็เท้าแก้มถอนหายใจ แม้ใบหน้าอ่อนวัยจะดูใสซื่อ แต่คำพูดกลับเ็า
“อืม” ภายในดวงเนตรขององค์ฮองเฮามีแววบางอย่างที่บอกไม่ถูก ทว่าพระองค์ก็ตบพระหัตถ์ลงบนหลังมือเยี่ยนเจาเจาอย่างแ่เบา “ในเมื่อเป็เช่นนี้ก็ตามใจเ้าเถิด สังคมจวนเยี่ยนเดิมเลวร้ายอันตรายอยู่แล้ว หากเ้าอยากเล่นก็เล่นเป็เพื่อนนาง”
ฮองเฮามิใช่คนพระทัยคับแคบ อีกทั้งพระองค์ยังลดเส้นที่ขีดไว้ลงหลายส่วนเมื่ออยู่ต่อหน้าเยี่ยนเจาเจาด้วยซ้ำ พอเยี่ยนเจาเจาเอ่ยตรงไปตรงมาเช่นนี้ พระองค์จึงไม่สนพระทัยอีก