หวังฮู่และคนอื่นๆ ถูกพาเข้ามาทีละคน พวกเขาก้มหัวลงอย่างหมดอาลัย ราวกับไว้อาลัยบิดามารดาที่เสียชีวิตไปอย่างไรอย่างนั้น เมื่อมองออกไป มือซ้ายของพวกเขาถูกพันไว้ราวกับกีบหมู เห็นได้ชัดว่าพวกเขาถูกทรมาน
ไทเฮาผู้ไม่ได้สนใจความเป็ความตายของลูกน้องเหล่านี้อยู่แล้ว นางถามด้วยน้ำเสียงที่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกกดดันว่า “หวังฮู่ ความจริงมันคืออะไร เ้ารีบสารภาพมาสิ!”
หวังฮู่ที่คุกเข่าลงบนพื้น เงยศีรษะขึ้นมา และเห็นได้ถึงความคาดหวังอย่างกระตือรือร้นในดวงตาของฉู่จุนหนิง เขาเหลือบไปมองยังคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างหลังเขาอีกครั้ง ทุกคนล้วนแล้วแต่มีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความมึนงง
“หวังฮู่!” ฉู่จุนหนิงเดินไปหาเขาด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว “เ้าสุนัขรับใช้ เ้าพูดออกมาสิ!”
เส้นเืบนหน้าผากของหวังฮู่ถึงกับปูดขึ้นมา ใช่สิ ในสายตาของนางพวกเขามันก็แค่สุนัขรับใช้ที่สามารถถูกทอดทิ้งได้ทุกเมื่อ!
“กระหม่อม...” หวังฮู่เปิดปากอย่างช้าๆ ฉู่จุนหนิงกลั้นหายใจ สีหน้าก็แปรเปลี่ยนกลายเป็ความมีชัย ทว่า เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูดต่อไป “กระหม่อมเองก็ไม่เห็นอะไรเลยพ่ะย่ะค่ะ”
ใบหน้าของฉู่จุนหนิงราวกับโดนตบ เพียงพริบตานางกลายเป็คนโหดร้ายขึ้นมา “เ้าสุนัขรับใช้ กล้าดียังไงมาพูดเื่ไร้สาระ!” นางยกเท้าขึ้นและเตะออกไป จากนั้นก็มีมือขาวที่อยู่ข้างๆ ยื่นออกมา และผลักนางจนเซ
“ท่านอายุเท่าไรกัน ถึงได้มาสั่งสอนทาสรับใช้ของข้า?” ชิงอีพูดด้วยส่งเสียงเ็า
“ฉู่ชิงอี เ้าบังอาจนัก!” ไทเฮาะโอย่างโกรธเคือง “ในสายตาของเ้ายังมีกฎเกณฑ์อยู่อีกบ้างไหม! อย่างไรเสียจุนหนิงก็เป็ผู้าุโของเ้า เหตุใดเ้าถึงได้ไร้มารยาทกับนางเช่นนี้?!”
ชิงอีเหล่มองนางและพูดอย่างเย้ยหยันว่า “ต้องเป็คนที่มีคุณธรรมสิถึงคู่ควรกับการเป็ผู้าุโ ไม่ใช่แค่เกิดก่อนไม่กี่ปี หรือกินข้าวมามากกว่ากี่ชาม แล้วการที่มีผู้าุโคนหนึ่งใส่ร้ายเด็กน้อยว่าวางยาพิษตัวเองในที่สาธารณะเช่นนี้ ข้ายังต้องให้ความเคารพนางอีกงั้นหรือ?
ไทเฮาเองก็ทรงเคยผ่านประสบการณ์มาก่อน สิ่งที่ตรัสมาเมื่อครู่ ท่านว่ามันเชื่อถือได้หรือไม่?”
ริมฝีปากของไทเฮาสั่นด้วยความโกรธ แม้แต่พูดก็พูดไม่ออก แม่นมฉู่ที่อยู่ข้างๆ ก็รีบะโออกมา “บังอาจนัก!”
“หุบปาก!” ดวงตาสวยชิงอีจ้องเขม็ง “นางกำนัลต่ำๆ ควรพูดกับข้าด้วยงั้นหรือ? ไม่รู้กฎเกณฑ์ ไม่จำคำสั่งสอน เถาเซียงลากนางไปตี!”
“เพคะ!”
สีหน้าของแม่นมฉู่เปลี่ยนไปทันที เถาเซียงและต้านเสวี่ยตรงไปยังข้างหลังไทเฮาและมัดแม่นมฉู่เอาไว้
“ฉู่ชิงอี เ้ามันหยาบคาย ช่างบังอาจเสียเหลือเกิน...” แม่นมฉู่ยังคงะโออกมา
ชิงอียิ้มดูถูก “ครั้งก่อนก็เคยโดนทุบตีในตำหนักเชียนชิวไปแล้ว แม่นมเฒ่าอย่างเ้าความจำไม่ดีเอาเสียเลย ต้านเสวี่ย เ้าตบปากนางไปเรื่อยๆ เมื่อไรที่แม่นมเฒ่าคนนี้จำคำที่เคยสั่งสอนไปได้ เ้าค่อยหยุดเมื่อนั้น”
“เ้า เ้า เ้า” ไทเฮาทรงชี้มาที่นาง พระหัตถ์สั่นเทา พร้อมพระพักตร์ที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว จากนั้น นางจึงหันไปข้าหลวงและองครักษ์ แล้วตรัสว่า “พวกเ้ายังยืนรออะไรอยู่อีก ยังไม่รีบจับนางมารร้ายผู้นี้ให้ข้าอีกหรือไร!”
เหล่าข้าหลวงและองครักษ์ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว พวกเขาทั้งหมดต่างมองไปยังแผ่นหลังของชิงอีด้วยความกลัว
เซียวเจวี๋ยที่ไม่ได้พูดขัดจังหวะอะไรมาั้แ่ต้นจนจบ ทว่า สีหน้าท่าทางของเขากลับชัดเจนเป็อย่างมาก
มีเขาอยู่ ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่สามารถแตะต้องชิงอีได้!
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฉู่จื่ออวี้ องครักษ์ข้างกายของเขาต่างวางมือไว้บนกระบี่ที่เหน็บไว้ที่เอวไว้เป็ที่เรียบร้อยแล้ว
สีพระพักตร์ของไทเฮาเปลี่ยนไปอย่างมาก พระวรกายสั่นเทา จนเกือบจะล้มลงไปประทับนั่ง ทว่า ฉู่จุนหนิงก็จับนางไว้ได้ทันเวลา สายตาพลันจ้องมองที่พวกเขาด้วยความขุ่นเคืองอย่างหาเปรียบมิได้
“องค์รัชทายาท เซ่อเจิ้งอ๋อง! พวกท่านกำลังบังคับข้างั้นหรือ?!”
ฉู่จื่ออวี้ยิ้มเยาะเย้ยออกมา “องค์หญิงเริ่มพูดจาไร้สาระอีกแล้ว หมอหลวง พวกท่านแน่ใจใช่หรือไม่ว่า นางมีแค่อาการร้อนในตับ ไม่ได้มีอะไรผิดปกติตรงนี้?” ฉู่จื่ออวี้จิ้มไปที่หน้าผากฉู่จุนหนิง
บนใบหน้าของฉู่จุนหนิงฉายถึงความอับอายอย่างเห็นได้ชัด
“หนิงเอ๋อร์ ถอยออกมา” ไทเฮาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับสีหน้าที่ดูร่าเริงขึ้น
ลูกสาวที่ออกมาจากท้องของตัวเอง นางรู้ดีที่สุด และต่อให้จะมีสิบปาก ฉู่จุนหนิงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหล่าคนที่อยู่ข้างหน้านางอยู่ดี
“วันนี้ข้าได้เข้าใจแล้ว ในสายตาขององค์รัชทายาทและเซ่อเจิ้งอ๋อง ไทเฮาอย่างข้าเป็เพียงแค่หัวหลักหัวตอเท่านั้น!” ไทเฮาแสดงท่าทีเศร้าโศก “องค์รัชทายาท ฝ่าาทรงพระประชวรอยู่บนพระแท่นบรรทม ไม่ช้าก็เร็วราชวงศ์เหยียนก็จะถูกส่งต่อมาอยู่ในมือท่าน แม้ว่าท่านจะไม่มีความจำเป็ที่จะต้องสนใจข้าอีกต่อไป ทว่า เหตุใดเวลาเช่นนี้จึงได้รีบร้อนกันนักเล่า?”
สีหน้าของฉู่จื่ออวี้เปลี่ยนไปเล็กน้อย คำพูดของแม่มดเฒ่าผู้นี้อยากจะฆ่าเขาด้วยการพูดอะไรที่เกินความเป็จริง!
เขาที่กำลังจะอ้าปากจะอธิบาย ทว่า เซียวเจวี๋ยที่อยู่ข้างๆ ก็พูดตัดขึ้นมาว่า “ฝ่าามีทรงพระชนมพรรษายืนยาว เพียงแค่ทรงพระประชวรเพราะลมหนาว ยังเร็วเกินไปที่องค์รัชทายาทจะสืบราชบัลลังก์ ในฐานะที่ไทเฮาเป็นายหญิงของวังหลัง ทรงควรระมัดระวังวาจาและไม่ควรที่จะตรัสเกินจริง กระหม่อมตักเตือนอย่างหาญกล้าเช่นนี้ ไทเฮาทรงโปรดอย่าโกรธเคืองกระหม่อมเลย”
มุมปากของไทเฮายกขึ้น ในพระทัยก็ไม่อยากที่จะยอมรับ
เมื่อเห็นว่าฉู่จื่ออวี้ที่กำลังจะติดเบ็ดแล้ว ทว่า กลับถูกเซียวเจวี๋ยขัดขวางเอาไว้ ทั้งยังทำให้สถานการณ์ที่น่าอายตกมาอยู่ที่นาง
“สิ่งที่เซ่อเจิ้งอ๋องพูดมาก็มีเหตุผล ข้าจะไปโกรธเคืองเ้าได้อย่างไรกัน” ไทเฮาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
เซียวเจวี๋ยพยักหน้าและพูดต่อว่า “ในเมื่อ เมื่อครู่พูดถึงเื่วาจาที่กล่าวเกินจริงแล้ว...”
ไทเฮาที่รู้สึกปวดขมับขึ้นมาอย่างกะทันหัน และรู้สึกว่าจะเกิดเื่ร้ายๆ เกิดขึ้น
เป็ไปตามที่คาดการณ์ไว้
“ในฐานะที่องค์หญิงใหญ่จุนหนิงเป็บุตรสาวของไทเฮา เป็พระเชษฐภคินีของฝ่าา และยังเป็กูกูขององค์รัชทายาทกับองค์หญิงใหญ่ ผู้าุโก็ควรเป็แบบอย่าง ทั้งความรู้และการกระทำ นางที่โตกว่า ทว่ากลับมาใส่ร้ายผู้ที่อายุน้อยกว่าว่าวางยาพิษตนเอง หากเื่นี้แพร่ออกไปคนภายนอกจะไม่คิดว่ามันเป็เื่น่าขันหรือไร”
ไทเฮากัดฟันกรอด “เซ่อเจิ้งอ๋อง้าจะใช้เหตุนี้โต้เถียงกับข้างั้นหรือ? ย่อมได้ แม้ว่าคำพูดของหนิงเอ๋อร์จะไม่เหมาะสม ทว่า ฉู่ชิงอีมีสิทธิ์อันใด ถึงได้อยู่เหนือนกฎเกณฑ์ได้ล่ะ? แล้วหวังฮู่กับคนอื่นๆ ไม่ใช่ข้ารับใช้ของหนิงเอ๋อร์หรือไร?” สีหน้าของเซียวเจวี๋ยที่เผยให้เห็นถึงความไม่แยแส “คิดไปแล้ว ไทเฮาคงจะยังไม่ทรงทราบว่า ข้ากับองค์หญิงชิงอีได้พบกับนักฆ่าระหว่างการเดินทางกลับ ทว่า คืนนั้นบังเอิญว่าหวังฮู่และคนอื่นๆ แอบเข้าไปในห้องขององค์หญิงชิงอีและตั้งใจที่จะทำร้ายนาง ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงสารภาพ โดยอ้างว่าเขาจงใจลักพาตัวองค์หญิง เพื่อหายาแก้พิษให้เ้านายของเขา”
สีหน้าของไทเฮาเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันและมองไปยังฉู่จุนหนิง จากนั้นก็ร้อนรนขึ้นมา จึงรีบพูดออกไปว่า “พวกเขาไปเองต่างหาก ข้าไม่ได้สั่งให้พวกเขาไปเสียหน่อย!”
โง่เง่า! ไทเฮาก่นด่าในใจ นี่มันเท่ากับว่าเ้าสารภาพไปแล้วไม่ใช่หรือไง?!
นางจ้องมองฉู่จุนหนิงอย่างดุร้าย คิดว่าคนอื่นเดาไม่ออกหรือไรว่าความคิดเื่การลักพาตัวนี่มาจากใคร?
“สุนัขรับใช้เหล่านี้กล้าหาญยิ่งนัก ถึงได้กล้าลักพาตัวองค์หญิง ความผิดร้ายแรงเช่นนี้ก็ควรถูกปะาชีวิตเท่านั้น! มาลากพวกมันออกไป”
ไทเฮาที่เต็มไปด้วยความอัดอั้นหัวใจ หวังฮู่และคนอื่นๆ ที่แว้งกลับมากัดนางโดยโยนความผิดให้ จะให้นางปล่อยไปได้อย่างไร!
สีหน้าของหวังฮู่และคนอื่นๆ เปลี่ยนไปอย่างมาก
ขณะเดียวกัน ก็มีคนคนหนึ่งมายืนอยู่ข้างหน้าพวกเขา
“ผู้ที่ถูกกระทำคือข้า และชีวิตของคนเหล่านี้เป็ของข้าแล้ว! หาก้าที่จะปะาหรือตัดศีรษะ หากไม่ได้รับคำสั่งจากข้า ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น!"
“ฉู่ชิงอี!” สีหน้าของไทเฮาเปลี่ยนไปในทันใด
ชิงอีส่งเสียงฮึออกมาอย่างเ็า “หากไทเฮา้าปะาพวกเขาจริงๆ ก็ย่อมได้!” นางเล่นเล็บของตนเองพร้อมกับพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “อย่างไรก็ตามตอนที่สอบปากคำพวกเขา ข้าก็รู้สึกว่าผลลัพธ์ไม่ถูกต้อง เขาเป็แค่องครักษ์คนหนึ่งเท่านั้น จะไปเอาความกล้าหาญขนาดนี้มาจากไหนกัน? ใช่สิ ยังมีพวกนักฆ่าที่เข้ามาลอบสังหารข้ากับเซ่อเจิ้งอ๋องอีก พวกเขาจะไปรวมกลุ่มกันโดยบังเอิญอะไรขนาดนั้นได้อย่างไร?”
“เซ่อเจิ้งอ๋อง พาพวกเขากลับไปที่กรมอาญาเพื่อพิจารณาคดีใหม่ รอให้ผลออกมาเป็ที่ประจักษ์ แล้วค่อยส่งกลับไปให้ไทเฮาตัดศีรษะ”
เซียวเจวี๋ยเหลือบมองนางพร้อมกับยิ้มจางๆ และพูดว่า “ได้สิ”
สีหน้าของไทเฮาและฉู่จุนหนิงเปลี่ยนไปทันที หากคนผู้นี้เข้าสู่การพิจารณาคดีครั้งที่สองของกรมอาญา เกรงว่าผลลัพธ์มันจะต่างออกไปน่ะสิ! จะถูกหรือผิดอย่างไร มันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเซียวเจวี๋ย?
ทั้งยังมีกลุ่มนักฆ่าที่มาจากที่ไม่ไหนก็ไม่รู้อีก!
หากเซียวเจวี๋ยยืนกรานที่จะโยนให้ฉู่จุนหนิงกลายเป็แพะรับบาป...
ไทเฮาถึงกับหายใจติดขัด กัดฟันอย่างโกรธเคืองและพูดว่า “เอาเลย! ข้าไม่สนแล้ว อย่างไรข้าก็ขัดพวกท่านไม่ได้อยู่แล้ว!” ในแววตาที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายฉายชัดออกมา “เื่นี้แล้วแต่ท่านจะจัดการเลย ทว่า เื่ที่องค์หญิงใหญ่ชิงอีฝ่าฝืนต่อเจตจำนงของข้า และกลับมาโดยไม่ได้รับอนุญาต เื่นี้ต้องจัดการอย่างจริงจังเช่นกัน!”
เมื่อชิงอีได้ยินสิ่งนี้ บนใบหน้าก็ไม่ได้มีความรู้สึกตื่นตระหนกใดๆ เลยแม้แต่น้อย กลับกันรอยยิ้มของนางยิ่งเย่อหยิ่งมากขึ้นไปอีก ในแววตาเองก็เผยให้เห็นถึงการเยาะเย้ย “วัดตงหวาที่ถวายน้ำมันตะเกียงพระพุทธ เพื่อนำมาจุดตะเกียงแห่งชีวิตและอธิษฐานขอพรให้กับฝ่าา เื่นี้ ไทเฮาทรงเป็คนสั่งหรือเปล่า?”
“ถ้าใช่แล้วมันจะทำไม?!”
รอยยิ้มของชิงอีกว้างขึ้นเรื่อยๆ “เช่นนั้นไทเฮาทรงทราบใช่หรือไม่ว่า สิ่งที่วัดตงหวาถวายต่อฝ่าาไม่ใช่น้ำมันตะเกียง แต่...”
“แต่อะไร?” ไทเฮาขมวดคิ้ว
ริมฝีปากแดงพูดออกมาสามคำว่า “น้ำมันศพ”
สีหน้าของไทเฮาเปลี่ยนไปทันที “เป็ไปได้อย่างไร?!!!”
