โดยปกติขุนเขากระบี่เทียนหยวนจักส่งศิษย์ยอดฝีมือเข้าไปบำเพ็ญเพียรในเกาะหลัวโหว ในเวลาเดียวกันก็จะมีศิษย์สามัญทั่วไปเข้าไปหาของล้ำค่าเพื่อเอาไปแลกกับรางวัลน่าสมเพชของสำนัก
อัตราการตายของศิษย์สามัญนั้นสูงกว่าศิษย์ยอดฝีมือมากโข ทุกครั้งที่เข้าไปในเกาะหลัวโหว คนที่ตายส่วนใหญ่ก็คือศิษย์สามัญ อัตราการตายสูงถึงเจ็ดในสิบ!
จินขวางเห็นจูชิงเป็ศิษย์ประเภทนั้น มิได้เห็นจูชิงอยู่ในสายตาแม้เพียงนิด
ยามนี้จูชิงหอบหายใจหนักหน่วง เศษกระดูกทิ่มแทงเข้าไปในปอดทำให้เขาหายใจได้ยากลำบาก!
ยังดีที่ซั่งกวานจือหนิงหยิบโอสถสองเม็ดใส่เข้าไปในปากจูชิง โอสถหลอมละลายกลายเป็ของเหลวเข้าซ่อมแซมร่างกายของชายหนุ่ม!
“แคร่ก!” ซั่งกวานจือหนิงทุบหลังจูชิงหนึ่งครั้ง เพียงได้ยินเสียง จูชิงก็รู้ได้ทันทีว่ากระดูกที่อยู่ผิดตำแหน่งได้กลับเข้าสู่ตำแหน่งเดิมแล้ว!
“ฟู่ว!” จูชิงถอนหายใจยาว เขาคิดไม่ถึงว่าซั่งกวานจือหนิงจักช่วยจัดกระดูกให้กับเขาโดยมิทันให้เขาได้ตั้งตัวก่อน ความเจ็บนั้นสาหัสเสียจนเขาอยากกัดลิ้นตัวเองให้ตายเสีย
“เ้าตั้งใจใช่หรือไม่!” จูชิงมองค้อนซั่งกวานจือหนิง
“ทำดีไม่ได้ดี รู้แบบนี้ข้าน่าจะปล่อยให้ศิษย์พี่จินขวางฆ่าเ้าซะ” ซั่งกวานจือหนิงแค่นเสียงหึ
จูชิงได้ยินเช่นนั้นก็ตะลึงเล็กน้อย “ขอบใจมาก ข้าเป็หนี้เ้าแล้ว”
ซั่งกวานจือหนิงยิ้มออกมา “เท่านี้ก็ถือว่าหายกันแล้ว แต่ทางที่ดีข้าแนะนำให้เ้าหุบปากจะดีกว่า ถ้าข้าได้ยินเ้าพูดซุบซิบนินทา ข้าจะฆ่าเ้าทิ้งด้วยมือข้าเอง!”
จูชิงพยักหน้าขันแข็ง สาบานว่าจะไม่เล่าเื่ที่เกิดขึ้นเมื่อสองวันก่อนออกไปเด็ดขาด!
“พวกนี้ข้าขอแล้วกัน!” ซั่งกวานจือหนิงเก็บหนวดัใส่ลงไปในถุงเอกภพ มันสามารถพันธนาการนางได้ กระทั่งศัสตราวุธิญญาก็ยังตัดไม่ขาด นี่จักต้องเป็ของล้ำค่าอย่างแน่นอน
จูชิงไม่ได้สนใจอะไร อย่างไรเสียเขาก็ยังมีซากปลาัทองอยู่อีกสามศพ
“ศิษย์พี่จินขวาง ท่านเป็คนฆ่าราชันหมาป่าวายุคลั่งอย่างนั้นรึ!” ครั้นซั่งกวานจือหนิงเหลือบไปเห็นซากหมาป่าวายุคลั่ง นางก็อุทานออกมาด้วยความใ
แม้ว่าซั่งกวานจือหนิงจักร่วมมือกับศิษย์ขุนเขากระบี่เทียนหยวนสังหารราชสีห์วินาศโลกันตร์ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าราชันหมาป่าวายุคลั่งหลายเท่าลงได้ หากแต่ก็ใช้พลังของของล้ำค่า มิใช่พลังของนางเอง
อีกทั้งหมาป่าวายุคลั่งยังเป็สัตว์ที่อยู่เป็ฝูง ภายใต้การบังคับบัญชาของราชันหมาป่าวายุคลั่ง หมาป่าวายุคลั่งเป็พันตัวย่อมสำแดงพลานุภาพด้อยกว่าราชสีห์วินาศโลกันตร์ไม่มาก แต่จินขวางกลับสังหารหมาป่าวายุคลั่งนับพันตัว ทั้งยังสังหารราชันหมาป่าวายุคลั่งลงได้เพียงลำพัง ความแข็งแกร่งระดับนี้พบเจอได้ยากยิ่งในอนุชนของขุนเขากระบี่เทียนหยวน
“เื่เล็กน้อย!” จินขวางยิ้มราวกับมิได้สนใจความสำเร็จนี้ ทว่าความหยิ่งผยองในแววตานั้นประจักษ์ให้เห็นอย่างชัดเจน
ลมโหมพายุคลั่งทั่วเกาะหลัวโหว อสูรดึกดำบรรพ์ออกอาละวาด มีศิษย์ขุนเขากระบี่เทียนหยวนจำนวนไม่น้อยที่กลายเป็อาหารของอสูรั์
เหลือเวลาอีกยี่สิบกว่าวันก่อนที่อาคมบริเวณรอบเกาะหลัวโหวจะอ่อนกำลัง พวกเขาจักเอาชีวิตรอดบนเกาะหลัวโหวได้อย่างไรนั้น นั่นคือสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็อย่างแรก
“พวกศิษย์ที่รอดชีวิตจับกลุ่มกันแล้ว ศิษย์พี่ฉวีกับศิษย์น้องหวังก็อยู่ด้วย” จินขวางพูดคุยกับซั่งกวานจือหนิง ทำเหมือนกับจูชิงเป็อากาศธาตุ
“ศิษย์พี่ฉวี!” ได้ยินชื่อนี้แล้วดวงตาคู่สวยของซั่งกวานจือหนิงก็ทอประกายแสง
“มีศิษย์อยู่ที่นั่นประมาณร้อยคน ถ้าพวกเรารวมพลังกันแล้ว ถึงเป็อสูรดึกดำบรรพ์ก็พอจักต่อกรไหว” จินขวางกล่าว
“มีศิษย์พี่ฉวี ข้าก็วางใจ!” ซั่งกวานจือหนิงถอนหายใจ
“พวกเรารีบไปรวมตัวกับศิษย์พี่ฉวีกันเถอะ” ซั่งกวานจือหนิงพูด
จินขวางเหลือบมองจูชิงด้วยหางตา “ปล่อยไอ้สวะนั่นไว้ที่นี่ เอามันไปด้วยก็มีแต่จะถ่วงแข้งถ่วงขาพวกเราเปล่าๆ!”
“ศิษย์พี่จินขวาง ข้าบอกท่านแล้วว่าเขาเป็สหายข้า!” ซั่งกวานจือหนิงได้ยินศิษย์พี่เรียกจูชิงเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
จูชิงสะพายกระเป๋าหนังอสูร ไม่รอช้าเป็ฝ่ายเอ่ยปากบอกลาซั่งกวานจือหนิงก่อน หลังจากแยกกับนางเขาก็เดินเข้าไปในป่า จูชิงมิได้คิดจะเดินทางกับพวกจินขวางั้แ่แรกแล้ว หากต้องฝากชีวิตไว้กับคนอื่น สู้ตายด้วยชะตากรรมของตัวเองเสียยังดีกว่า
“ศิษย์น้อง รีบไปเถอะ เ้าอย่าเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงกับสวะไร้ค่าเลย” จินขวางพูด
“อื้อ!” ซั่งกวานจือหนิงพยักหน้าแล้วออกเดินทางไปกับจินขวาง
“ในที่สุดก็เป็อิสระสักที!” จูชิงยิ้มสืบเท้าเดินต่อ
“ฟ่อ!” งูเหลือมั์สีเทาดำเลื้อยอยู่บนต้นไม้โบราณ มันแลบลิ้นจับจ้องเขม็งมองจูชิง!
“ฟึ่บ” ทันใดนั้น งูเหลือมั์ก็พุ่งตัวออกมา อ้าปากกว้างมาดหมายเขมือบร่างของจูชิงในคราวเดียว
“วายุ!” จูชิงคำราม ขับเคลื่อนอักขระิญญาแห่งลม หลบหลีกการโจมตีของงูเหลือมั์
งูเหลือมั์ผงะเล็กน้อย ไม่คาดคิดว่าจักโจมตีวืดกลางอากาศ!
“ซวบ!” กระบี่คมโลหิตเสียบทะลวงหัวของงูเหลือมั์ ลมปราณอันกล้าแกร่งทะลักทลายเข้าในร่างของมัน ทำลายบ่อกำเนิดพลังชีวิตแหลกไม่เป็ชิ้นดี
“อสูรดึกดำบรรพ์ขั้นเคลื่อนย้ายลมปราณไม่เห็นจะเท่าไหร่” จูชิงเบะปากอย่างไม่แยแส ต่อหน้าสองอักขระาหลัวโหว แม้ว่าจะเป็อสูรดึกดำบรรพ์ขั้นเคลื่อนย้ายลมปราณเขาก็สามารถรับมือได้อย่างง่ายดาย
“จริงดังคาด อสูรดึกดำบรรพ์ที่อยู่ในขั้นเคลื่อนย้ายลมปราณจักมีลูกแก้วฝังอยู่ในหัว” จูชิงพบลูกแก้วทมิฬเม็ดหนึ่งในหัวงูเหลือมั์
“มันเรียกว่าเน่ยตัน ปฐมมูลแห่งชีวิต” เฒ่าปีศาจอธิบาย
“ฟิ้ว!” เงาร่างทองคำพุ่งออกมาจากอ้อมแขนของจูชิง กระโจนเข้าใส่กระเน่ยตัน
เงาร่างทองคำนั้นก็คืองูน้อยที่กำลังกัดกินเน่ยตันของงูเหลือมั์อย่างมีความสุข
“เ้านี่มาจากไหน?” จูชิงเกิดคำถามในใจ
“ฮ่าๆ เ้านั่นช่วยชีวิตเ้าไว้สองครั้งแล้ว!” เฒ่าปีศาจเห็นเช่นนั้นก็หัวเราะ
“ไข่ทองคำ!” จูชิงตะลึงลาน
จูชิงคิดไม่ถึงว่าสิ่งมีชีวิตในไข่ทองคำจะเป็ไข่งู ทั้งยังไม่คิดด้วยว่ามันจักฝักตัวเร็วขนาดนี้!
“งู? มีตาหามีแววไม่ มันมิใช่งู หากเป็ัคะนองน้ำ!” เฒ่าปีศาจกลอกตาอย่างอดมิได้
“ัคะนองน้ำ?” จูชิงตะลึงงันจับจ้องสายตามองหงอนเล็กๆ ที่อยู่บนหัวของมัน
ัคะนองน้ำนั้นมิใช่ั หากทว่าก็มีสายเืของัอยู่ เป็สัตว์อสูรที่ใกล้เคียงกับัมากที่สุด สามารถโจนทะยานเหินฟ้า รวดเร็วว่องไว้ดั่งขี่เมฆหมอก
จูชิงนึกย้อนถึงทัณฑ์์ในครั้งนั้น ปลาัทองตัวสุดท้ายโยนไข่ทองคำไว้ในถ้ำ แท้จริงแล้วปลาัทองมิได้คิดจะฆ่าเขา แต่หวังว่าเขาจักดูแลอนุชนของมันได้
เพียงแค่จูชิงไม่เข้าใจว่าเหตุใดลูกของปลาัทองถึงได้เป็ัคะนองน้ำ มันไม่ประหลาดเกินไปหน่อยหรือ
“น้อยเห็นน้อยจึงเห็นเื่ธรรมดาเป็เื่ประหลาด หากปลาัทองข้ามผ่านทัณฑ์์ก็จักวิวัฒน์กลายเป็ัคะนองน้ำ ถึงจักมิใช่ัแท้จริง แต่ก็นับว่ามีเืเนื้อเชื้อไขของั ปลาัทองตัวนั้นกลั่นหลอมพลังชีวิตสุดท้ายก่อนตายลงไปในไข่ ได้รับพลังัเปี่ยมล้นเฉกเช่นนี้ เห็นทีคงเริ่มจักเข้าใกล้กับัอีกขั้นหนึ่งแล้ว” เฒ่าปีศาจแค่นเสียง
ครั้นเห็นัคะนองน้ำกัดกินเน่ยตันของงูหลามั์เหมือนกับแทะผลไม้ จูชิงถึงกับหลุดหัวเราะออกมา เลี้ยงัคะนองน้ำใช่เื่ง่ายเสียเมื่อไหร่
“เ้าหนู ดีใจเอาไว้เถอะ ัคะนองน้ำน้อยยอมรับเ้าเป็เ้านายแล้ว รู้หรือไม่ว่ามันเป็ความฝันที่ใครต่างก็ปรารถนา” เฒ่าปีศาจพูด
จูชิงแกล้งหยอกล้อัคะนองน้ำน้อยเล่น และเขาก็พบว่ามันชอบเขาเป็อย่างมาก มันงับนิ้วของเขาเบาๆ แล้วเลื้อยเข้าไปในแขนเสื้อ โอบรัดรอบแขนเขาไว้
“เลี้ยงดูมันให้ดีล่ะ!” เฒ่าปีศาจยิ้ม
จูชิงกลอกตา คนยืนพูดย่อมไม่ปวดเอว[1] เห็นได้ชัดว่าเ้าัคะนองน้ำอยากกินเน่ยตัน เขาจักไปเอาเน่ยตันจากไหนมาเลี้ยงมันเล่า
“คลื่นพลังน่าสะพรึงยิ่งนัก!” สองวันต่อมา จูชิงซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ สายตาจับจ้องมองไข่จระเข้ที่อยู่ในรังห่างออกไปหนึ่งร้อยจั้ง
“กี้ๆ!” ัคะนองน้ำน้อยเขย่าตัวเขาด้วยความตื่นเต้น น้ำลายไหลย้อยหยดติ๋งๆ จากมุมปาก มันรับรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าไข่จระเข้มีประโยชน์กับมันอย่างมหาศาล
จูชิงซุ่มอยู่ที่นี่มาสองวันแล้ว จระเข้ั์ดึกดำบรรพ์สองตัวอาศัยอยู่ในหนองน้ำ ลำพังแค่ขนาดตัวที่ยาวเป็ร้อยจั้งก็ทำให้คนที่พบเห็นอกสั่นขวัญแขวนแล้ว
เดาว่าจระเข้ั์ดึกดำบรรพ์น่าจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าราชสีห์วินาศโลกันตร์เท่าหนึ่ง ด้วยพลังของจูชิงในเพลานี้ เขายังมิกล้าเผชิญหน้ากับพวกมันโดยตรง
ทว่าจระเข้ั์ดึกดำบรรพ์มีนิสัยอย่างหนึ่ง พวกมันชอบลงไปหาอาหารในหนองน้ำ่เที่ยง อย่างน้อยๆ ก็ใช้เวลาหนึ่งถ้วยน้ำชา ซึ่งเพียงพอให้จูชิงขโมยไข่แล้วหนีออกไปได้
หากแต่เพื่อความปลอดภัย จูชิงมิได้รีบร้อนลงมือทำในทันที เขาเลือกซุ่มดูสถานการณ์หนึ่งวัน เมื่อมั่นใจ่เวลาที่พวกมันออกหาอาหารแล้วค่อยลงมือ
ตอนนี้ใกล้เที่ยงแล้ว จระเข้ั์ดึกดำบรรพ์เตรียมตัวลงไปหาอาหารในหนองน้ำ โลหิตในกายาของจูชิงพลุ่งพล่านพร้อมลงมือทุกเวลา!
การกระทำเช่นนี้มิต่างอันใดกับล้วงคองูเห่า หากเกิดข้อผิดพลาดเพียงนิดเดียวได้ตายศพไม่สวยอย่างแน่นอน จูชิงต้องสำเร็จภารกิจให้เร็วที่สุด
“ซึ่ม!”
“ซึ่ม!”
จระเข้ั์ดึกดำบรรพ์ทั้งสองว่ายน้ำลงไปในหนองน้ำ น้ำสาดกระเซ็นทั่วทุกหนแห่ง!
จูชิงคิดคำนวนเวลาอยู่ในใจ เขายังมิได้รีบร้อนพุ่งตัวไปในทันที หากยังคงรอ รอให้จระเข้ั์ดึกดำบรรพ์ทั้งสองออกล่าเหยื่อ แล้วค่อยทะยานออกไปขโมยไข่รวดเร็วดุจดั่งสายฟ้า
“กี้ๆๆ!” ัคะนองน้ำน้อยเริ่มรอต่อไปไม่ไหวแล้ว มันเอาหัวถูไถแขนของจูชิงไม่หยุด
จูชิงลูบหัวัคะนองน้ำน้อยแล้วพูดว่า “อดทนหน่อย อีกไม่นานแล้ว!”
ทันใดนั้น จูชิงก็เคลื่อนไหว โจนทะยานตรงเข้าไปยังรังของจระเข้ั์ดึกดำบรรพ์!
[1] คำเปรียบเปรยหมายถึง หากไม่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันย่อมไม่เข้าใจ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้