เซี่ยเจิงโยนโทรศัพท์ไปไว้ด้านข้าง ยื่นมือออกไปััขนตาของเขา จนทำให้ขนตาขยับสั่นขึ้นมาเล็กน้อย อีกทั้งคิ้วก็ขมวดขึ้นมาแล้วด้วยเช่นกัน แต่ชวีเสี่ยวปอก็ยังคงเม้มริมฝีปากเอาไว้ ไม่ได้มีความคิดที่เอ่ยอะไรออกมาเลยสักนิด
นี่เขา...เจ็บจนไม่อยากจะพูดเลยเหรอเนี่ย?
เซี่ยเจิงนึกย้อนกลับไปถึงการกระทำเมื่อครู่นี้ของตัวเอง ครั้งนี้ก็เป็ครั้งแรกของเขาเหมือนกัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเทคนิคเลยว่าจะดีสักแค่ไหน แต่เขาเองก็พยายามอ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างน้อยครั้งนี้ก็ไม่ได้เป็ความทรงจำที่เลวร้ายอะไรสำหรับเขาสองคน
“อยากอาบน้ำไหม? ” เซี่ยเจิงลูบหลังของชวีเสี่ยวปออย่างเบามือ แต่ทว่ามันกลับเต็มไปด้วยเหงื่อ ทั้งตัวของเขาเปียกโชกราวกับเพิ่งถูกอุ้มขึ้นมาจากน้ำ
ชวีเสี่ยวปอส่ายหน้าไปมา
เซี่ยเจิงรู้สึกลนลานขึ้นมาแล้ว
ทำไมนอนด้วยกันแล้วทำให้เขาเป็ใบ้ไปเลย
เซี่ยเจิงรีบเขย่าไหล่ของชวีเสี่ยวปอ จากนั้นก็กดจูบลงไปที่ข้างหูของเขา พร้อมทั้งพูดขึ้นเสียงแ่เบา : “เจ็บมากเลยใช่ไหม? ”
“......” ดีที่ครั้งนี้ชวีเสี่ยวปอลืมตาขึ้นมาแล้ว แต่กลับจ้องมองเซี่ยเจิงอย่างไม่พอใจเท่าไหร่นัก
เซี่ยเจิงรู้สึกไม่เข้าใจขึ้นมาทันที : “ ? ? ? ” นี่มันหมายความว่ายังไง เสียใจภายหลังแล้วเหรอ?
“กี่โมงแล้ว? ” ชวีเสี่ยวปอถามขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
“ตีสองครึ่งไง...” เซี่ยเจิงตอบ ขณะพูดก็อยากจะคลำหาโทรศัพท์ขึ้นมาเช็กให้แน่ใจอีกครั้ง
“นี่นายทำฉันตั้งหนึ่งชั่วโมงกว่าเลยนะ !” ในที่สุดชวีเสี่ยวปอะเิออกมา
ดี ดีสุดๆ ไม่ได้รู้สึกเสียใจภายหลังก็พอ
เซี่ยเจิงผงะไปชั่วขณะ อันดับแรกเขาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ในตอนนั้นเองเขาจึงรับรู้ได้ถึงความหมายแฝงจากคำบ่นประโยคนี้ แล้วจะต้องตอบยังไงดีล่ะ? หรือจะให้บอกไปว่า “ครั้งนี้ขอโทษนะ เดี๋ยวครั้งหน้าฉันจะรีบเสร็จ”? ดูเหมือนว่าจะยิ่งใช้ไม่ได้เข้าไปใหญ่
เซี่ยเจิงทำได้เพียงกลั้นขำเอาไว้ ขณะเดียวกันก็รีบขยับเข้าไปใกล้แล้วพรมจูบไปทั่วใบหน้าของชวีเสี่ยวปออีกหลายครั้ง จากนั้นชวีเสี่ยวปอก็บ่นพึมพำขึ้นมาว่า “รำคาญ น้ำลายเต็มหน้าไปหมด” แต่ก็ไม่ได้พูดอย่างอื่นออกมาอีก
“หรือว่าให้ฉันไปซื้อยาทาให้ไหม? ” เซี่ยเจิงคลานขึ้นมาจนทำให้ผ้าห่มนูนขึ้นมาตามตัวเขาด้วย
“นอนลง” ชวีเสี่ยวปอพูดด้วยน้ำเสียงออกคำสั่ง “ค่ำมืดดึกดื่นขนาดนี้แล้ว”
เซี่ยเจิงรีบนอนลงมาทันที ชวีเสี่ยวปอพลิกตัวขึ้นมา ทำให้ในตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ในท่าหันหน้าเข้าหากันเป็ที่เรียบร้อย เซี่ยเจิงยี่นมือออกไปบีบเอวของชวีเสี่ยวปอไปมาด้วยท่าทางประจบ แต่ก็นวดให้เขาอย่างเบามือไปด้วย
“พอแล้ว” ชวีเสี่ยวปอถอนหายใจ พลางดึงมือของเซี่ยเจิงขึ้นมาสอดประสานไว้ด้วยกัน แล้วจึงเอ่ยขึ้นว่า : “ที่จริงก็ไม่ได้เจ็บขนาดนั้น”
“อืม” เซี่ยเจิงรู้สึกไม่ค่อยกล้าพูดสักเท่าไหร่
“อืมบ้านนายสิ” อาจจะเป็เพราะครั้งนี้เป็ครั้งแรก ชวีเสี่ยวปอยังคงต้องใช้เวลาทำความเข้าใจอีกสักหน่อย “ทำไมพูดเหมือนกับเป็ผู้ชายเลวๆ ยังงั้นแหละ”
“ฉันไม่เลวนะ” คำพูดนี้เซี่ยเจิงต้องโต้แย้งออกไปสักหน่อย เขายิ้มขึ้นมา พร้อมทั้งดึงมือของชวีเสี่ยวปอขึ้นมาประทับจูบลงไปครั้งหนึ่ง ความรู้สึกของเขาและชวีเสี่ยวปอแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เมื่อแก่นแท้ของความสัมพันธ์พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น เขาก็มักจะรู้สึกว่าความรักกำลังเพิ่มความร้อนแรงขึ้นมาอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน อันที่จริงเซี่ยเจิงไม่กล้าพูดออกมา เขาคิดว่าชวีเสี่ยวปอคงจะรู้สึกและััได้เช่นกัน เพียงแต่ในตอนนี้ยังไม่กล้าพูดก็เท่านั้น “ทั้งบนเตียงทั้งใต้เตียงฉันก็เป็เหมือนกันนะ”
“......” ชวีเสี่ยวปอจับมือเขามาบีบอย่างแรง “หน้าไม่อาย”
“หึหึ”
เซี่ยเจิงที่โดนต่อว่าหัวเราะอย่างมีความสุข เห็นได้ชัดว่าในตอนนี้ไม่ว่าชวีเสี่ยวปอจะพูดอะไรเขาก็ล้วนยอมรับทั้งหมด เซี่ยเจิงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเช่นนั้นอยู่นานนับนาที ระหว่างนั้นชวีเสี่ยวปอก็ยื่นมือไปปิดปากเขาไว้ แต่ก็ไม่สามารถทำให้เขาหยุดลงได้
กระทั่งเซี่ยเจิงหัวเราะจนพอใจแล้ว เขาถึงพูดขึ้นมาประโยคหนึ่ง :
“ฉันรู้สึกว่านี่เป็วันเกิดที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่ฉันเคยมีมาเลย”
ชวีเสี่ยวปอดึงแขนของเซี่ยเจิงด้วยแรงทั้งหมดที่มี “อย่าบอกนะว่าเมื่อกี้นายที่นายขอพรก็คือเื่นี้น่ะ !”
“ใช่ที่ไหน” เซี่ยเจิงรีบปฏิเสธทันที ขณะที่พูดก็หัวเราะขึ้นมาด้วย “ถ้างั้นก็เป็จริงง่ายเกินไปแล้วล่ะ”
“แล้วแต่นายเลย” ชวีเสี่ยวปอหลับตาลง “นอนแล้ว”
“ฝันดีนะ” เซี่ยเจิงพูด
ส่วนคำขอในวันเกิดน่ะเหรอ?
อันที่จริงมันง่ายมากๆ
่เวลาที่เซี่ยเจิงเป่าเทียนให้ดับลง เขาแอบลืมตาขึ้นมาชำเลืองมองชวีเสี่ยวปอที่ดูเชื่อเื่แบบนี้มากกว่าเขาเองซะอีก
“ความปรารถนาของนาย ก็คือความปรารถนาของฉัน”