ศาลต้าหลี่้าจะตรวจสอบคดียักยอกเงินช่วยผู้ประสบภัยพิบัติแล้ว!
เยี่ยอ๋องซื่อจื่อรักษาคำพูด ยังไม่ถึงสามเดือนก็ทำให้คดีมีโอกาสพลิกกลับมาแล้ว
เมื่อเทียบกันแล้ว ไม่อาจไปสถานศึกษาได้ชั่วคราวแล้วอย่างไร ผู้ที่ยินดีจะศึกษา อยู่ที่ใดก็สามารถศึกษาได้ ผู้ที่ไม่ยินดีจะศึกษา แม้จะนั่งอยู่ภายในห้องเรียนก็ล้วนเหม่อลอยได้
นายอำเภอหลี่สงสารเฉิงชิง ตัวเฉิงชิงเองกลับไม่ใส่ใจ
“ขอบคุณความห่วงใยของใต้เท้าทั้งสองท่าน ศิษย์จะทำตามคำสั่งของใต้เท้าอย่างระมัดระวัง จากวันนี้ไปจะอยู่ที่ตรอกหยางหลิ่วไม่ก้าวออกจากบ้าน รอการตรวจสอบของศาลต้าหลี่!”
เ้าเมืองอวี๋พอเห็นสีหน้าของนางไม่มีความขัดขืนแม้แต่น้อยก็พยักหน้าไม่หยุด “เ้ารู้จักแยกแยะหนักเบา รอหลังจากบิดาเ้าชำระมลทินแล้ว เ้าก็ค่อยไปเข้าร่วมการสอบระดับอำเภอเป็ดีที่สุด”
ทั้งหมดต้องดูผลลัพธ์จากการตรวจสอบของศาลต้าหลี่แล้ว
หากเฉิงจือหย่วนไร้ความผิด เขาจะเป็แมลงตัวน้อยที่น่าสงสารที่ถูกลากมาพัวพันคดีนี้จนเสียชีวิตทั้งที่บริสุทธิ์ ราชสำนักย่อมต้องปลอบประโลมสมาชิกครอบครัวของเขา ตัวเฉิงชิงเองก็มีความสามารถด้านการเล่าเรียน หนทางในอนาคตย่อมมีหวัง
หากเฉิงจือหย่วนมีความผิดที่มิอาจอภัยได้ เช่นนั้นเฉิงชิงก็จะหมดคุณสมบัติในการสอบเข้ารับราชการ
ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็ในการมาโต้เถียงเื่ความสั้นยาวของระยะเวลา ให้ทั้งครอบครัวเฉิงชิงเก็บตัวรอผลลัพธ์จากการตรวจสอบของศาลต้าหลี่เป็การจัดการที่ดีที่สุด
ส่วนเ้าเมืองอวี๋จะมีความเห็นแก่ตัวหรือไม่… เฉิงชิงคิดว่าเื่นี้ไม่สำคัญ
เ้าเมืองอวี๋เองก็เป็เพียงผู้รับราชโองการให้ช่วยเหลือศาลต้าหลี่เท่านั้น ราชสำนักส่งคนมาสืบคดีถึงพื้นที่ ขุนนางประจำพื้นที่ช่วยเหลือการตรวจสอบ นี่ถือเป็กระบวนการที่ปกติมาก
ครอบครัวเฉิงชิงถูกเ้าหน้าที่ส่งกลับไปยังตรอกหยางหลิ่ว เมื่อครอบครัวพวกนางจากไปแล้ว บ้านโลงศพก็ถูกปิดตาย ผู้ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้โลงศพของเฉิงจือหย่วน ตลอดทางเฉิงชิงปลอบโยนนางหลิ่วไม่ให้กังวลจนเกินไป ในขณะที่บุตรสาวคนโตนิ่งเงียบราวกับกำลังครุ่นคิด
“น้องชาย ดูเหมือนเ้าจะไม่ใเลย เ้ารู้มานานแล้วใช่หรือไม่?”
เฉิงชิงพยักหน้าอย่างสงบ “ข้าไม่แปลกใจ ช้าเร็วราชสำนักก็ต้องตัดสินคดียักยอกเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอยู่ดี มาช้าไม่สู้มาเร็ว ข้าหวังมาตลอดให้วันนี้มาถึงเร็วหน่อย”
ราชสำนักคิดจะปิดคดีอย่างส่งๆ เยี่ยอ๋องซื่อจื่อกลับไม่อนุญาต ดังนั้นคดีนี้จึงถูกนำมากางบนโต๊ะอีกครั้ง
ไม่เหมือนกับความคลุมเครือของใต้เท้าข้าหลวงใหญ่จาง ครั้งนี้้าจะตรวจสอบจนความจริงปรากฏออกมาอย่างแท้จริง
ตรวจสอบเร็วดีกว่าตรวจสอบช้า หากยิ่งเวลาล่าช้าไปนาน หลักฐานก็จะยิ่งหายาก!
นางหลิ่วไม่รู้ถึง ‘การแลกเปลี่ยน’ ระหว่างเฉิงชิงและเยี่ยอ๋องซื่อจื่อ ไม่รู้ว่าคดีนี้พัวพันไปกว้างใหญ่เพียงใด นางเพียงเชื่อมั่นในคุณธรรมของเฉิงจือหย่วนอย่างบริสุทธิ์ใจ ยืนกรานที่จะเชื่อว่าเฉิงจือหย่วนไม่มีทางยักยอกเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ
ในเมื่อไม่ได้ทำ เช่นนั้นก็ไม่กลัวการตรวจสอบ
ถูกกักบริเวณไว้ที่ตรอกหยางหลิ่ว ด้านนอกประตูมีเ้าหน้าที่คุ้มกันอยู่ก็ไม่เป็ปัญหา เมื่อคิดไปถึงว่าสามีจะสามารถชำระมลทินได้ นางหลิ่วก็รู้สึกว่าวันคืนเหล่านี้นางสามารถอดทนไปได้
พี่สาวทั้งสามของเฉิงชิงก็มีความคิดไม่ต่างกันนัก เดิมทั้งครอบครัวก็ไม่ได้หวาดกลัว กลับคาดหวังให้ผู้ตรวจการพิเศษของศาลต้าหลี่มาถึงหนานอี๋เร็วหน่อย!
เื่เกิดขึ้นกะทันหัน เ้าเมืองอวี๋กลัวข่าวจะเล็ดลอดออกไป หลังจากได้รับราชโองการแล้วจึงรีบมายังหนานอี๋ทันที กลัวว่านายอำเภอหลี่จะลอบแจ้งข่าวให้ตระกูลเฉิงแห่งหนานอี๋ จึงจับตามองนายอำเภอหลี่ไว้ภายใต้สายตาตนเอง ดังนั้นหลังจากครอบครัวเฉิงชิงถูกกักบริเวณที่ตรอกหยางหลิ่วแล้ว ตระกูลเฉิงแห่งหนานอี๋จึงเพิ่งได้รับข่าว
“เหตุใดเ้าเมืองอวี๋จึงนำคนไปจับทั้งครอบครัวชิงเกออย่างกะทันหันเช่นนี้?”
นางหลี่ได้ยินข่าวจากคนรับใช้แล้วก็ร้อนรนดั่งไฟ
่นี้ภายในบ้านเกิดเื่ติดต่อกันครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่สงบสุขเอาเสียเลย
ก่อนหน้านี้ก็เป็ตระกูลฉีที่วิ่งมาถอนหมั้น แม้จะถูกเฉิงชิงพลิกกลับมาเป็ฝ่ายได้เปรียบ แต่สุดท้ายก็ทำให้เื่การแต่งงานของเฉิงฮุ่ยตกเป็หัวข้อสนทนาของคนในอำเภอ
ผลกระทบของเื่นี้ยังไม่ทันจาง ที่ทำให้นางหลี่หงุดหงิดยิ่งกว่าคือทางตระกูลเมิ่งไม่ตอบรับโอกาสเสียที ทั้งสองตระกูลไม่มีข้อตกลงกันแล้ว ก่อนที่เมิ่งไหวจิ่นจะไปเมืองหลวง ได้มาที่บ้านห้าครั้งหนึ่ง ไม่รู้ว่าพูดคุยอะไรกับนายท่านห้า พอตัวคนจากไป นายท่านห้าก็กล่าวว่าทั้งสองตระกูลไม่ต้องหารือเื่การแต่งงานแล้ว จากนั้นให้นางหลี่เร่งหาสามีคนอื่นให้เฉิงหรง!
นางหลี่โกรธจนเป็ลมล้มพับไป
‘ไม่หารือเื่แต่งงาน’ ประโยคนี้กล่าวออกมานั้นง่าย เมื่อสองปีก่อนเฉิงหรงก็รู้แล้วว่าตนเองจะต้องแต่งกับเมิ่งไหวจิ่น จู่ๆ ก็ไม่แต่งแล้ว ภายใน่สั้นๆ นี้จะให้นางยอมรับได้อย่างไร?
นางหลี่ยุ่งกับการปลอบประโลมบุตรสาว สาบานว่าจะเลือกสามีที่ไม่ด้อยไปกว่าเมิ่งไหวจิ่นให้เฉิงหรง
อย่าว่าแต่หนานอี๋เลย แม้จะกวาดตามองหาทั้งเมืองเซวียนตู เมิ่งไหวจิ่นก็ถือว่าเป็บุรุษที่โดดเด่นหาตัวจับได้ยากแล้ว ใน่ระยะเวลาเร่งรีบคิดหาบุคคลที่เหมือนเมิ่งไหวจิ่นคนที่สอง ทั้งยังไม่ได้แต่งงาน ยังไม่ได้หมั้น ไหนเลยจะง่ายดายปานนั้น!
เื่ภายในบ้านยังจัดการไม่เรียบร้อย ก็พลันได้ข่าวว่าทั้งครอบครัวเฉิงชิงถูกเ้าหน้าที่จับกุมแล้ว นางหลี่ไปหานายท่านห้าให้ช่วยตัดสินใจอย่างตาลาย
“วันนี้เป็วันครบรอบของจือหย่วนสินะ ข้ายังคิดเลยว่ารอเย็นหน่อยจะไปจุดธูป เหตุใดจึงเกิดเื่เช่นนี้ขึ้นมา?”
นายท่านห้าเฉิงส่ายศีรษะ “ไม่ต้องไปจุดธูปแล้ว เ้าเมืองอวี๋พาเ้าหน้าที่มาปิดตายบ้านโลงศพ ไม่อนุญาตให้คนเข้าออกด้วยตนเอง บัดนี้ไม่อาจเอ่ย เ้าพนักงานจะคอยดูแลไม่ให้ครอบครัวเฉิงชิงออกไปจากตรอกหยางหลิ่ว แต่ก็ไม่จับกุมส่งเข้าคุกรอการไต่สวนในทันที จากที่ข้าคาดเดา สถานการณ์ยังไม่ถึงกับเลวร้ายที่สุด”
จิตใจที่ร้อนรนของนางหลี่ผ่อนคลายลงเล็กน้อย
ใช่สิ เพียงกักคนไว้ที่ตรอกหยางหลิ่วเท่านั้น ไม่ได้จับตัวไปเข้าคุก ยังไม่ใช่สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด
หากจับตัวไปขังคุกจริงๆ ร่างกายที่บอบบางเช่นนั้นของเฉิงชิงย่อมทนไม่ไหวแน่ ยังมีนางหลิ่วและบุตรสาวเล็กๆ ทั้งสามที่ยังไม่ได้แต่งงาน หากขังไว้ในคุกใหญ่ ไม่รู้ว่าคนนอกจะกล่าวไร้สาระอะไรอีก
นางหลี่ให้นายท่านห้าเร่งส่งคนไปสอบถามข่าวคราว ที่อำนวยความสะดวกให้ได้ก็ต้องติดสินบน นายท่านห้ากลับปฏิเสธ
“เลอะเลือน เวลาเช่นนี้พวกเรายิ่งไม่อาจสอดมือเข้าไป!”
เขาไม่ได้รับข่าว แสดงให้เห็นว่านายท่านหกที่อยู่เมืองหลวงไม่รู้เื่นี้
จู่ๆ ราชสำนักก็ดำเนินการอย่างรวดเร็วและเฉียบขาด หากไม่ใช่ตระกูลเฉิงแห่งหนานอี๋ที่ใช้อำนาจจากภายใน ก็คงเป็จวนเยี่ยอ๋อง… เมิ่งไหวจิ่นและเฉิงชิงต่างไปเกี่ยวข้องกับจวนเยี่ยอ๋อง ขึ้นเรือนั้นง่ายแต่ลงยาก นายท่านห้าเฉิงไม่กล้าลากตระกูลเฉิงแห่งหนานอี๋เข้าไปเสี่ยงด้วย
ยามนี้สถานการณ์ยังไม่แน่ชัด ตระกูลเฉิงแห่งหนานอี๋จึงได้แต่มองดูจากบนฝั่ง
นางหลี่ค่อยๆ นั่งลงบนเก้าอี้
“เื่ราวนอกจวนก็เป็พวกท่านเหล่าบุรุษที่พยายามอย่างหนักต่อสู้ฟันฝ่า ยิ่งเื่ราวของราชสำนัก สตรีเรือนหลังยิ่งไม่เข้าใจ ข้าไม่ได้ถามถึงว่าเหตุใดจู่ๆ จึงไม่ให้หรงเหนียงแต่งกับเมิ่งไหวจิ่น ถึงอย่างไรท่านก็มีความคิดของตัวท่านเอง ข้าชื่นชอบเฉิงชิงเด็กคนนั้นมาก ท่านมีความคิดของท่าน ข้าก็จะไม่ไปก้าวก่าย ท่านก็อย่ามาก้าวก่ายที่ข้าจะส่งเสื้อผ้าและอาหารให้ครอบครัวพวกเขาแล้วกัน”
“ส่งสิ่งของนั้นได้ แต่อย่าส่งข่าวอะไรไป เวลาเช่นนี้อยู่อย่างสงบดีกว่าเคลื่อนไหว”
ตัวนายท่านห้าเองก็กระวนกระวาย สองสามีภรรยาไม่ได้กล่าวอะไรกันอีก
บ้านห้าไม่ได้ข่าวสารที่ครบถ้วน คนอื่นก็ยิ่งส่งต่อกันอย่างสับสน
บ้างก็มีคนกล่าวว่าใต้เท้าท่านเ้าเมืองลากโลงศพของเฉิงจือหย่วนไปแล้ว และจับครอบครัวเฉิงชิงเข้าคุกแล้ว
บ้างก็กล่าวว่าใต้เท้าท่านเ้าเมือง้าจะพลิกคดีให้เฉิงจือหย่วน
ประชาชนคนธรรมดาไหนเลยจะเข้าใจเื่พวกนี้ คดีของเฉิงจือหย่วนมาไม่ถึงให้เมืองเซวียนตูตรวจสอบ เดิมเ้าเมืองอวี๋ก็ไม่มีอำนาจนั้นอยู่แล้ว
วันนี้บ้านรองตระกูลเฉิงฉลองกันทั่วทั้งจวน เมื่อวานฮูหยินผู้เฒ่าจูได้รับจดหมาย เฉิงจือซวี่ได้เลื่อนขั้นสองขั้น จากผู้ว่าการเขตพิเศษเป็เ้าเมือง จะเข้ารับตำแหน่งในอีกสองปีข้างหน้า
ภายใน่ระยะเวลาสั้นๆ เฉิงจือซวี่ก็จะเทียบเท่ากับเ้าเมืองอวี๋แล้ว!
แม้การรับตำแหน่งในราชวงศ์เว่ยจะต้องหลีกเลี่ยงบ้านเกิด ถึงจะย้ายตำแหน่งอีกอย่างไรก็กลับมายังเมืองเซวียนตูไม่ได้ แต่อย่างไรก็ได้เป็เ้าเมืองขั้นสี่
เมื่อหลายวันก่อน ฮูหยินผู้เฒ่าจูอยู่ต่อหน้าฮูหยินาุโอวี๋ยังต้องย่อตัวลงอยู่สามส่วน พริบตาเดียวบุตรชายของนางก็ได้เลื่อนขั้นเป็เ้าเมืองแล้ว เช่นนั้นนางแตกต่างกับฮูหยินาุโอวี๋ที่ใดกัน?
ความยินดีของฮูหยินผู้เฒ่าจูยากที่จะเอ่ยเป็คำพูดได้ ข้ารับใช้ที่ปรนนิบัติทั้งจวนต้องได้รับเบี้ยหวัดรายเดือน ดังนั้นแม้แต่ข้ารับใช้ก็ยินดีที่เฉิงจือซวี่ได้เลื่อนขั้นอย่างจริงใจ
