ตอนที่ิอวี่สู้กับทาสเพลิงก่อนหน้านี้ เขาก็แค่ถอยหลังไปสามก้าวเท่านั้น แต่ตอนนี้เขากลับหมุนกลิ้งเพราะเป็ฝ่ายที่ถูกเล่นงานจนกระเด็น!
หลังจากที่ทาสเพลิงได้รับการปรับปรุงจากค่ายกลเพิ่มจิติญญา มันก็เหยียดกำปั้นขวาออกไป ขายึดติดกับพื้นเหมือนถูกตอกตะปูเอาไว้ ไม่มีการขยับอะไรเลย
“น่ากลัวขนาดนี้เลยหรือ?”
ิอวี่คลานขึ้นมาจากพื้นอย่างทุลักทุเลแล้วก็สะบัดแขนขา ก่อนจะมองไปที่ทาสเพลิงที่หน้าตาเหมือนเขาอีกครั้ง สายตาเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ตื่นเต้นดีใจ
เฮยจีส่งเสียงขึ้นมาจากในหยกโบราณอีกครั้ง “ก็แน่นอนอยู่แล้ว หลังจากได้รับการเพิ่มคุณภาพจากค่ายกลเพิ่มจิติญญาแล้ว ทาสเพลิงก็จะสามารถมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นได้ในระยะเวลาหนึ่ง ตอนนี้น่าจะมีขอบเขตอมฤตขั้นที่สองระดับสูงสุดอีกครั้ง”
ิอวี่ขมวดคิ้วแน่นมาก ตามที่เฮยจีว่ามา แสดงว่าตอนนี้ตัวเขาก็มีความสามารถในการต่อสู้เทียบเท่าขอบเขตอมฤตขั้นที่สองระดับสูงสุดแล้ว!
“ถ้าอย่างนั้นเ้าก็ร่ายอักขระค่ายกลเพิ่มจิติญญาให้มันแข็งแกร่งขึ้นอีกสิ” ิอวี่รู้สึกเหมือนได้สมบัติล้ำค่าเลย ต่อไปเขาก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว
“เ้าฝันหวานเกินไปแล้ว”
เฮยจีส่ายหัว “พลังจิติญญาไม่ว่าแบบใดก็ตาม สามารถเพิ่มจิติญญาได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น อีกอย่าง พลังงานจิติญญาก็มีขีดจำกัดในการเพิ่ม ต่อให้จะร่ายอักขระไปมากแค่ไหน เมื่อถึงขีดจำกัดสูงสุดแล้ว ก็จะมากเกินกว่านั้นไม่ได้อีก”
“เอ่อ ... ”
ิอวี่เกาหัว เขาเองก็รู้สึกว่าสิ่งที่ตนเองคิดมันไม่น่าจะเป็จริงได้เท่าไร สามารถเพิ่มขีดจำกัดพลังให้มันได้ในระยะเวลาหนึ่งมันก็ถือว่าเป็เื่ดีมากแล้ว “ถ้าอย่างนั้น ขีดจำกัดของมันในตอนนี้อยู่ในระดับไหนหรือ?”
ิอวี่เองก็รู้ มันไม่มีของอะไรได้เปล่าบนโลกแน่นอน พูดตามตรง ทาสเพลิงเพิ่มระดับมาถึงจุดนี้ได้เขาก็พอใจมากแล้ว
“อือ ... น่าจะมีช่องว่างระยะเติบโตอยู่นะ แต่ก็ต้องดูว่ามันจะพัฒนาต่อไปได้อีกแค่ไหนหลังจากนี้”
เฮยจีลูบคางแล้วอธิบายต่อว่า “อีกอย่าง ทาสเพลิงไม่เพียงสามารถเพิ่มความสามารถให้แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น สติปัญญาของมันก็เพิ่มตามไปด้วย ตอนนี้เวลาต่อสู้เ้ายังต้องควบคุมมันอยู่ แต่เมื่อมันอยู่ในร่างที่สมบูรณ์เมื่อไหร่ มันก็จะแยกแยะศัตรูได้เอง เ้าสามารถควบคุมมันเอาไว้ หรือให้มันไปสู้แทนเ้าเองได้เลย”
“ทาสเพลิงยิ่งแข็งแกร่งมากแค่ไหน พลังฟ้าดินที่มันจะดูดก็มากขึ้นตามไปเช่นกัน จากที่ประเมินดู หลังจากที่ทาสเพลิงใช้พลังงานหมดทั้งตัวแล้ว มันต้องดูดซับลมปราณเต็มๆ อีกห้าชั่วยามถึงจะสามารถออกมาต่อสู้ได้อีกครั้ง”
ิอวี่ยิ้ม “อย่างนี้นี่เอง”
พูดจบ เขาก็หันไปมองทาสเพลิงด้วยความชื่นชม และเห็นมันเป็เสมือนของรักของหวงของเขา
ในเวลานี้เอง ิอวี่สามารถััได้ถึงสายตาของทาสเพลิงว่ามันดูดุดัน อารมณ์มันเหมือนคนจริงๆ ความรู้สึกแบบนั้นมีความเชื่อมั่นคล้ายกับิอวี่มาก ยิ่งมองไปที่ทาสเพลิง มันยิ่งเหมือนเป็เขาอีกคนหนึ่งเลย
หลังจากที่มันพัฒนาเต็มที่แล้ว ท่าทางของทาสเพลิงก็จะใกล้เคียงกับิอวี่มากที่สุด มันแทบจะกลายเป็ิอวี่อีกคนอย่างเต็มตัว กลายเป็คนที่ภักดีที่สุดของิอวี่!
“ถ้าอย่างนั้นขอข้าดูหน่อยว่าเ้ามีความสามารถอะไรอีกบ้าง”
ิอวี่ยิ้มมุมปากและปล่อยพลังเปลวเพลิงออกมาทั้งตัว เขาเปิดสถานะหยางสูงสุดออกมาและพุ่งโจมตีไปที่ทาสเพลิงราวกับดาวตก
บนตัวทาสเพลิงเองก็มีเปลวเพลิงพุ่งขึ้นมาทั่วตัวเช่นกัน แต่เดิมมันก็เกิดมาจากเปลวไฟอยู่แล้ว ตอนนี้เปลวไฟยิ่งเผาผลาญร่างของมันมากขึ้นกว่าเดิม และจ้องมาที่ิอวี่ด้วยความดุดัน พุ่งตัวออกไปโดยไม่เกรงกลัวอะไร
ทั้งสองฝ่ายปะทะกันขึ้นมาในทันที สลับกันออกหมัดอย่างเมามัน พลังพลุ่งพล่านไปหมด เปลวเพลิงสองลูกปะทะเข้าหากันอย่างดุเดือด ความร้อนแผ่กระจายออกไปรอบตัว การต่อสู้ดุเดือดเืพล่านอย่างมาก
มันเหมือนิอวี่กำลังต่อสู้กับตัวเองอยู่ เขารู้ว่าตนเองจะออกหมัดอย่างไร และควบคุมการออกหมัดของทาสเพลิงได้!
ก็เหมือนการเดินหมากคนเดียว ถึงแม้เขาจะรู้วิธีการ รู้วิถี แต่ก็ยังแยกวิธีการเป็สองชุด และหาช่องโหว่ในหัวของตนเอง!
ิอวี่คิดอย่างต่อเนื่องระหว่างที่เขากับทาสเพลิงสู้กัน หลายครั้งที่เขาต่อสู้กับคนอื่นล้วนแต่ทำอย่างเด็ดขาด เลยเป็การยากที่จะพบช่องโหว่ในการออกกระบวนท่าของตัวเอง
ตอนที่ิอวี่ต่อสู้กับตัวเองถึงได้พบว่า เวลาที่เขาออกหมัดออกไป เขาจะหันไปดูการออกหมัดของทาสเพลิงเพื่อวิเคราะห์การออกหมัด และมันก็สามารถหาวิธีการหลบได้อย่างสมบูรณ์แบบ นั่นก็หมายความว่า เขาเปลี่ยนวิธีคิดและหาจุดบกพร่องในการออกหมัดของเขาได้!
ถึงแม้ความสามารถของิอวี่จะสู้ทาสเพลิงไม่ได้จนถูกซัดจนกระเด็นหลายครั้ง แต่เขาก็ยังสู้ไปคิดทบทวนไปอย่างต่อเนื่อง เขาเติบโตพัฒนาด้วยตัวของตัวเอง และเรียนรู้อะไรได้หลายต่อหลายอย่าง
หลังจากปะทะกันไปหลายครั้ง ทาสเพลิงก็ใช้เท้าขวาถีบไปที่หน้าอกของิอวี่ ทำให้เขาปลิวกระเด็นออกไปราวกับลูกะุและล้มลงกับพื้น
“เอ่อ ... ทำไมถึงใจกล้าลงมือกับเ้านายของตัวเองแบบนี้ล่ะ ... ”
ิอวี่เจ็บจนต้องกัดฟัน เขาจับหน้าอกแล้วก็ลุกขึ้นมาจากพื้น รู้สึกโกรธมาก
คนอื่นถูกศัตรูทำร้าย แต่เขากลับควบคุมทาสเพลิงที่ไม่ต่างอะไรกับตัวเองเล่นงานเขาจนกระอักเื ... มันเหมือนเขากำลังเล่นงานตัวเองอยู่เลย
ส่วนทาสเพลิงนั้นกลับยังยืนอกผายไหล่ผึ่งอยู่ที่เดิม ดวงตาของมันเป็ประกาย ใช้สติปัญญาของตัวเองควบคุมร่างกายเอาไว้ มันใช้มือขวากวักมือเรียกิอวี่ด้วยความท้าทาย เหมือนมันกำลังพูดว่า เข้ามาเลย เ้าอ่อนมาก
“ข้าว่าเ้าคิดจะฏแล้วมั้ง!”
ิอวี่ทำอะไรไม่ถูกเลย ก่อนหน้านั้นตอนที่สู้กับทาสเพลิงเขาถูกเล่นงานยับ แต่ิอวี่ก็ไม่ได้ยอมแพ้ เขายังคงต่อสู้กับมันอย่างบ้าคลั่ง!
ระหว่างที่ยังหาจุดเชื่อมโยงนั้น พลังในการควบคุมทาสเพลิงของิอวี่ก็แข็งแกร่งมากขึ้น และเขาก็เจอช่องโหว่ข้อผิดพลาดในการออกกระบวนท่าของเขาอย่างมากด้วย ยิ่งสู้เขาก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น!
ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วยาม ทาสเพลิงถึงจะผลาญพลังที่มีจนหมด เปลวเพลิงย้อนกลับเข้าสู่ดวงจิตแห่งไฟเหมือนเดิม สุดท้ายก็สลายกลายเป็หางไฟกลับเข้าไปในหว่างคิ้วของิอวี่ เข้าไปในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ของเขา
พูดแล้วก็แปลก ในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เดิมก็เป็สารเหลวในร่างกาย แต่ดวงจิตแห่งไฟนั้นกลับเพลิดเพลินกับสารอาหารในน้ำในบ่อศักดิ์สิทธิ์มาก มันลุกโชนอย่างสบายตัวในน้ำในบ่อศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นมันก็ดูดพลังงานจากภายนอกเข้ามาชดเชย เพื่อเติมพลังงานนั้นให้เต็ม
หลังผ่านการต่อสู้มา ร่างกายของิอวี่ก็เต็มไปด้วยาแ ตลอดทั้งคืนเขาเอาแต่ฝึก เพราะร่างกายมีพลังงานหยินหยาง แล้วก็ฝึกกระดูกจากเพลิงสีม่วงกลั่นกระดูก หลังจากปรับสภาพแล้ว วันต่อมาตอนที่ิอวี่ลืมตาขึ้มา เขาก็กลับมามีพละกำลังเหมือนัพยัคฆ์อีกครั้ง
“ฝึกเสร็จแล้วหรือ?”
เสียงใสๆ เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหูของิอวี่ เขาหันหน้าไปมองก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งสวมชุดกระโปรงสีแดงกำลังยืนอยู่ข้างๆ
ใน่เวลาที่ิอวี่ฝึกอยู่นั้น เิหยูเยียนก็ฟื้นพลังความสามารถกลับมาแล้ว ร่างกายที่ชาและอ่อนแรงกลับมาคล่องแคล่ว ลมปราณหมุนเวียนและหล่อเลี้ยงไปทั่วร่างกายอีกครั้ง ทำให้สีหน้ากลับมาแดงอมชมพู ดวงตาของนางกลับมาเป็ประกายอีกครั้ง
เพียงแต่ว่าแววตาที่นางมองมาที่ิอวี่นั้น มันเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
“อือ”
ิอวี่ลุกขึ้นยืนแล้วยิ้มให้กับเิหยูเยียน จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังมากว่า “ตอนนี้ข้าจะต้องไปทำอะไรบางอย่าง ทางที่ดีเ้ากลับไปก่อนจะดีกว่า”
เิหยูเยียนขมวดคิ้ว นางรู้ว่าภารกิจที่ว่าในครั้งนี้ก็คือการไปค้นหาัทะเลทราย หากเป็ไปได้ อาจจะสามารถขโมยไข่ัมาได้ด้วย
แต่เิหยูเยียนไม่ได้คิดถึงเื่นี้มาก่อนเลย นางรู้สึกว่าเื่การขโมยไข่ันั้นถึงมีก็เหมือนไม่มี การที่นางมายังสนามรบร้างโบราณในครั้งนี้ก็เพื่อค้นหาสมบัติในซากปรักหักพังเท่านั้นเอง
เพราะก่อนมาซ่งหยวนหยวนเคยกำชับเอาไว้แล้ว ในสนามรบร้างโบราณ คนของสายจั่วเหยียนกับสายหรงเหยียนนั้นแข็งแกร่งมาก ไม่ใช่คนที่พวกเขาจะไปมีเื่ด้วยได้
“ข้าไม่เข้าใจความหมายของเ้า” เิหยูเยียนพูด
“ก่อนหน้านี้เ้าเองก็เห็นแล้ว ในสนามรบร้างโบราณมีอันตรายอย่างมาก ซูอี้หรานคิดไม่ซื่อกับเ้า ต่อให้เ้าไม่ไปหาเื่กับเขา แต่เขาไม่มีทางปล่อยเ้าไปแน่นอน”
ิอวี่อธิบาย “ข้าได้วิเคราะห์เื่ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้แล้วนะ ข้าเดาว่ามันเป็แผนการของสายจั่วเหยียนกับสายหรงเหยียน พวกเขาอาจจะอยากฆ่าคนของสายเลี่ยนเหยียน เพื่อลดทอนอำนาจของสายของเรา เป็ไปได้ว่า พวกเขาก็อาจจะทำอะไรที่ไม่ดีกับสายเลี่ยนเหยียนมากกว่านี้ในอนาคตแน่”
เิหยูเยียนขมวดคิ้วหนักมาก “เ้ารู้ได้อย่างไร?”
ระหว่างที่พูด เิหยูเยียนเองก็ลองนึกย้อนกลับไป นางรู้สึกว่าที่ิอวี่พูดมาก็มีเหตุผล แต่ว่า แล้วมันเกี่ยวกับเื่นี้อย่างไร
หากเป็เมื่อก่อน เิหยูเยียนคงไม่ต้องคิด นางคงทิ้งิอวี่ไปแล้วคิดว่าเขานั้น “ปัญญาอ่อน” แต่หลังจากเจอเื่ราวมาก่อนหน้านี้ นางก็เริ่มเชื่อคำพูดของิอวี่แล้ว
“ไม่มีหลักฐาน เ้าก็คิดซะว่ามันเป็แค่ลางสังหรณ์ของข้าก็ได้นะ” ิอวี่ส่ายหน้า “สิ่งที่ข้าจะทำหลังจากนี้มันคือตาต่อตาฟันต่อฟัน หลินเฮ่าถูกข้าฆ่าตาย ซูอี้หรานกลับหนีไปได้ ดังนั้นเราจึงยังมีภัยอยู่ หากออกจากสนามรบร้างโบราณไป ซูอี้หรานจะต้องมาหาเื่พวกเราแน่”
“เทียบกับการนั่งรอความตายอยู่ที่นี่ ไม่สู้เจอใครก็ฆ่าคนนั้นในตอนที่พวกเขาไม่มีผู้าุโคุ้มครอง เพื่อลดทอนกำลังของพวกเขา ส่วนเื่ภารกิจขโมยไข่ั ข้าเองก็จะไปเข้าร่วมด้วย”
ในไข่ัมีลมปราณบริสุทธิ์ของของอสูรอยู่ เมื่อดูดซับมันเข้ามาแล้วก็จะได้ประโยชน์มากมาย อีกอย่าง ต่อให้ิอวี่จะไม่สามารถขโมยไข่ัมาได้ ก็จะต้องขัดขวางไม่ให้อีกสองสายได้ไข่ัไป เขาไม่มีทางยอมให้อีกสองสายได้หน้าไปแน่นอน
สิ่งที่เขาต้องทำไม่ใช่อดทน แต่เป็การตอบโต้!
“ ... ก็ได้ ข้าจะเชื่อสิ่งที่เ้าคาดเดาว่ามันเป็จริง”
เิหยูเยียนพูดด้วยความกังวลว่า “แต่ว่ามันอันตรายเกินไปนะ เกิดเ้าาเ็หนักขึ้นมาจะทำอย่างไร? ไม่สู้เราวางแผนระยะยาวกันดีกว่าไหม กลับไปให้อาจารย์คุ้มครองดีกว่า ในเมื่อเ้าก็ไม่มั่นใจว่าจะทำได้ แล้วจะยังดึงดันทำในเื่ที่เป็ไปไม่ได้อย่างไร?”
เมื่อได้ยินดังนั้นิอวี่ก็ขมวดคิ้วหนัก เขาลองคิดทบทวนดู เดิมอยากจะอธิบายให้มากกว่านี้หน่อย แต่เขากลับไม่รู้เลยว่าจะอธิบายอย่างไรดี หรือพูดอีกอย่างว่าตัวเขาไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร เขาทำได้แค่ยิ้มอย่างจนใจและตอบแค่คำเดียว
“เพราะ ... ข้าคือิอวี่ไงล่ะ”
เดิมเขาก็เป็คนที่หัวดื้ออยู่แล้ว แล้วจะอธิบายมากไปเพื่ออะไร?
ถึงแม้ระหว่างนั้นจะต้องเจออันตรายใดๆ ก็ตาม แต่มนุษย์หากไม่สู้กันสักตั้งแล้ว จะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองนั้นมีศักยภาพและความตั้งใจแค่ไหน!
“เ้า ... ”
เิหยูเยียนคิดอะไรไม่ออกเลย นางเดาว่าิอวี่จะอธิบายทั้งหมดทุกอย่าง แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้คำตอบแบบนี้ หลังจากที่เห็นิอวี่ยิ้มและหันเดินไปทันทีก็รู้สึกว่าเขามีท่าทางที่น่าดึงดูดใจมาก!
ถึงแม้มันจะเหมือนน้ำที่หยดลงไปในทะเลอันกว้างใหญ่ สามารถจมหายไปได้ตลอดเวลา แต่จิตสำนึกของเขานั้นเหมือนเข็มในทะเล ต่อให้มีอันตรายมากมายแค่ไหนโหมกระหน่ำมา ร่างกายของเขาก็สามารถจะต้านทานมันเอาไว้ได้!
“เรามาด้วยกันนะ เ้าจะทิ้งข้าไปแบบนี้ไม่ได้”
เิหยูเยียนกัดริมฝีปาก นางรีบขึ้นขี่เ้ากระเรียนขาวของนางแล้วบินตามิอวี่ไปในทันที
